Categories
HEALTH SOCIAL & LIFESTYLE

น้ำมันเขียวฤทธิ์เย็น ตราประสมบุญ ช่วยนวดคลายเส้น แก้ลมวิงเวียน แก้พิษจากแมลงกัดต่อย แก้ลม ลดอาการไอ ไม่เป็นความจริง

น้ำมันเขียวฤทธิ์เย็น ตราประสมบุญ ช่วยนวดคลายเส้น แก้ลมวิงเวียน แก้พิษจากแมลงกัดต่อย แก้ลม ลดอาการไอ **ไม่เป็นความจริง**

Facebook
Twitter
Email
Print

วันที่ 23 พฤษภาคม 2566  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยข่าวปลอม อย่าแชร์! น้ำมันเขียวฤทธิ์เย็น ตราประสมบุญ ช่วยนวดคลายเส้น แก้ลมวิงเวียน แก้พิษจากแมลงกัดต่อย แก้ลม จุกเสียด ลดอาการไอ เจ็บคอ ทาแผลร้อนใน ปวดฟัน ปวดเหงือก บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่พบผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด หน่วยงานที่ตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข

ตามที่มีการโฆษณาถึงน้ำมันเขียวฤทธิ์เย็น ตราประสมบุญ ช่วยนวดคลายเส้น แก้ลมวิงเวียน แก้พิษจากแมลงกัดต่อย แก้ลม จุกเสียด ลดอาการไอ เจ็บคอ ทาแผลร้อนใน ปวดฟัน ปวดเหงือก ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากที่มีผู้โพสต์ให้ข้อมูลว่า น้ำมันเขียวฤทธิ์เย็น ตราประสมบุญ ช่วยนวดคลายเส้น แก้ลมวิงเวียน แก้พิษจากแมลงกัดต่อย แก้ลม จุกเสียด ลดอาการไอ เจ็บคอ ทาแผลร้อนใน ปวดฟัน ปวดเหงือก ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ผลิตภัณฑ์สมุนไพรประสมบุญ น้ำมันเขียวฤทธิ์เย็น เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรส่วนประกอบของสมุนไพร โดยมีการกล่าวอ้างสรรพคุณ คือ ใช้ทาถูนวดคลายเส้น แก้ลมวิงเวียน แก้พิษจากแมลงกัดต่อย แก้ลม จุกเสียด ลดอาการไอ เจ็บคอ ทาแผลร้อนใน ปวดฟัน ปวดเหงือก หยดใส่น้ำ เพียง 1 – 2 หยด แล้วดื่ม ซึ่งไม่พบผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หรือหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1556

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่พบผลิตภัณฑ์สมุนไพรดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแต่อย่างใด

Facebook
Twitter
Email
Print

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย 

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
SOCIAL & LIFESTYLE TRAVEL

15 สถานที่โชว์แสง “หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย”

15 สถานที่โชว์แสง “หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย”

Facebook
Twitter
Email
Print

จัดขึ้นในวันที่ 20-28 พฤษภาคม 2566 ณ อำเภอเมืองเชียงราย เวลา 18.00 น. – 24.00 น. นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถสร้างกระแสให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางไปเยี่ยมชม และส่งต่อประสบการณ์ผ่านสื่อ Social Media ในวงกว้าง ต่อยอดนำเสนอแนวคิดและรูปแบบการจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด งานเทศกาล แสง เสียง และความคิดสร้างสรรค์ โดยสื่อออกมาในรูปแบบของการจัดแสดง Light up / Mapping / Projection 3D / Light installation และสื่อผสมที่ทันสมัย สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ / อัตลักษณ์ของท้องถิ่น สามารถต่อยอดไปสร้างเส้นทางให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมตามจุดต่างๆ ที่จัดแสดงได้ในลักษณะ Walking Tour เล่าเรื่องเมืองเชียงรายผ่านเส้นทางแห่งกาลเวลาด้วยการ Light up / Mapping สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย ตามแนวคิด  “หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย”

งานวิจิตร ๕ ภาค @เชียงราย “หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย (Chiang Rai : Wiang of Light)” จัดแสดงผ่านสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ 15 แห่ง รวมระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร ได้แก่

1.หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ: สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 

หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ: สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ออกแบบโดย ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ จัดแสดงภายใต้แนวคิด Celebrated Time ที่สื่อถึงช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของคนเชียงราย ใช้เทคนิค Moving Head Beam กับลำแสงสีทอง เงิน นาก เคลื่อนไหวไปพร้อมจังหวะการเดินของเข็มนาฬิกา บอกเล่าถึงการเดินทางของเวลาที่เดินหน้า หรือเดินถอยหลังสู่อดีตกาล

 

2.ถนนเชื่อมหอนาฬิกา

ถนนเชื่อมหอนาฬิกา: ถนนสุขสถิตย์หนึ่งในถนนย่านค้าขายสําคัญของเมืองเชียงรายยุคใหม่ ที่เชื่อมโยงวิถีชีวิต เศรษฐกิจ และการคมนาคม ถือเป็นลมหายใจหนึ่งของการเติบโตของเมือง จัดแสดงภายใต้แนวคิด Connected ใช้เทคนิค Laser & Mirror ยิงแสงเลเซอร์ถักเป็นตาข่าย ลอยสุขสถิตย์เหนือผืนถนน สร้างคลื่นแสงเชื่อมสองเวลาและสองสถานที่เข้าหากัน

 

3.หอนาฬิกา (เก่า)

หอนาฬิกา (เก่า): หอนาฬิกาเก่าของจังหวัดเชียงราย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2510 ได้ย้ายจากถนนบรรพปราการ หรือที่ตั้งหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ ในปัจุบัน ไปตั้งไว้ที่ตลาดสดเทศบาล บริเวณสามแยกโรงรับจำนำ ซึ่งอยู่ห่างจากหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ ประมาณ 350 เมตร จัดแสดงภายใต้แนวคิด Classical Time หนึ่งในตัวแทนความคลาสสิคของยุคสมัย ใช้เทคนิคแสง Luminous Light แสงสีขาววางล้อมหอนาฬิกา อวดโฉมเวลาหนึ่งช่วงในอดีตที่เคยเป็นตัวแทนความเจริญของเมืองยุคใหม่

 

4. มูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์

มูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์เชียงราย ตั้งอยู่ที่ถนนบรรพปราการ ภารกิจหลักของมูลนิธิฯ เกี่ยวข้องกับงานด้านสาธารณะกุศลโดยจะมีกิจกรรม ต่างๆ ในช่วงเย็น เช่น รำไทเก๊ก รำมวยจีน รำกระบี่ เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย อาคารแห่งนี้มีการตกแต่งอย่างสวยงามตามสไตล์จีน ด้านในมีจุดไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ตามความเชื่อของชาวไทยเชื้อสายจีนในเมืองเชียงราย จัดแสดงภายใต้แนวคิด Power of Gods การไหว้บูชาเหล่าเทพเจ้าขอพร ใช้เทคนิค Red & Gold Lights แสงสีแดงและสีทอง ตัวแทนความมั่งคั่งและโชคดี

 

5. วัดมิ่งเมือง

วัดมิ่งเมือง ชาวเชียงรายเรียก วัดจ๊างมูบ (ช้างหมอบ) หรือ วัดตะละแม่ศรีตามชื่อผู้สร้าง เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงรายมีสถาปัตยกรรมผสมระหว่างพม่าและล้านนาวิจิตรงดงามทั้งภายในและภายนอก จัดแสดงภายใต้แนวคิด Multi Culture Multi-Colors หนึ่งศรัทธา มากศิลป์ ใช้เทคนิคแสง Led Par Light เลือกใช้คู่สีแสงที่มีความต่อเนื่องและขัดแย้งกันเพื่อขับเน้นศิลปกรรมที่ผสมผสานแปลกตา

 

6. ตึกสามเหลี่ยม

ตึก 3 ชั้นทรงแปลกตา ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอาคารแนวโมเดิร์นของธนาคารแห่งหนึ่งของเมืองเชียงรายในยุค 80s จัดแสดงภายใต้แนวคิด Neon Era ใช้เทคนิคแสง Led Neo Light ไฟนีออนที่ไม่ใช่สิ่งส่องสว่าง แต่ได้รับการใช้งานและจัดวางเป็นงานศิลปะและเป็นเอกลักษณ์ที่สําคัญหนึ่งของยุคสมัย

 

7. แมงสี่หูห้าตา

แมงสี่หูห้าตา เป็นชื่อสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งในตํานานว่าด้วยวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว มีลักษณะเหมือนหมีสีดําตัวอ้วน มีหูสองคู่และตาห้าดวง รับประทานถ่านไฟร้อนเป็นอาหารและถ่ายมูลเป็นทองคํา แมงสี่หูห้าตา ยังเคยได้รับการคัดเลือกให้เป็นมาสคอต กีฬาแห่งชาติครั้งที่ 36 “เจียงฮายเกมส์” อีกด้วย จัดแสดงภายใต้แนวคิด Fire Monster ใช้เทคนิคแสง Lantern Installation หุ่นโคมไฟแมงสี่หูห้าตา ขนาดใหญ่ ในท่ากําลังปีนต้นก้ามปูยักษ์หน้าอาคารเทิดพระเกียรติ ที่มาพร้อมกับเสียงแมลงกลางคืน + เสียงสะล้อ

 

8. วัดพระแก้ว

วัดพระแก้ว: ตั้งอยู่บนถนนไตรรัตน์ ใจกลางเมืองเชียงราย เป็นสถานที่แรกที่ได้ค้นพบพระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัย พระเจ้าสามฝั่งแกน เป็นเจ้าครองเมืองเชียงใหม่ ฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้ พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ ต่อมาจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวที่สร้างด้วยหยก ซึ่งก็คือพระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบันวัดพระแก้วเชียงราย ได้สร้างและประดิษฐานพระหยก ซึ่งสร้างขึ้นมาใหม่ จัดแสดงภายใต้แนวคิด Jade Begins กำเนิดแสงมรกต ใช้เทคนิคแสง Green Light & Laser ติดตั้งเครื่องยิงเลเซอร์วาดภาพพระแก้วมรกตประกอบไฟแสงสีเขียวย้อนรําลึกถึงการค้นพบพระแก้วมรกตเป็นแห่งแรก

 

9. ศาลากลางจังหวัด (เก่า)

9. ศาลากลางจังหวัด (เก่า): ศาลากลางจังหวัดเชียงรายแห่งนี้ เป็นสถาปัตยกรรมที่มีอายุกว่า 120 ปี เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ช่วยอธิบายความเป็นมาเป็นไปของสังคมเชียงรายสมัยนั้นได้ดียิ่ง เปิดดำเนินการเมื่อ ปี พ.ศ. 2443 ในสมัยของพระพลอาษาเป็นข้าหลวงเมืองเชียงราย ดำเนินการออกแบบและก่อสร้างโดยนาย แพทย์วิลเลี่ยม เอ.บริกส์ (Dr.William A. Briggs) แพทย์ชาว อเมริกัน ปัจจุบันอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่า ได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานของกรมศิลปากรตามประกาศราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2520 ยุติบทบาทในการเป็นอาคารศูนย์กลางการปกครองหัวเมืองเชียงรายมานานกว่า 1 ศตวรรษ จัดแสดงภายใต้แนวคิด Wiang of Light Wiang of Life อาคารที่สัมพันธ์กับชาวเชียงราย ดูแล พัฒนา และเฝ้ามองการเติบโตและเปลี่ยนแปลงของเมืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน ใช้เทคนิคแสง Projection 3D Mapping ใน 2 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1: Concept Motion Chiang Rai, Wiang of Light เล่าถึงที่มาของแนวคิดของการจัดงาน นําเสนอเส้นทางการชมทั้ง 15 จุดแสงในเมือง และเรื่องที่ 2 : Content Motion Chiang Rai, Wiang of Life นําเสนอของดีของเด่น ของจังหวัดเชียงราย อาทิอาหาร วัดธรรมชาติศิลปะ กลุ่มชาติพันธ์ุชา-กาแฟ ผลไม้ ด้วยกราฟฟิกสนุกชวนดู

 

10. บ้านสิงหไคล

บ้านสิงหไคล เป็นอาคารโบราณอายุ 103 ปี ออกแบบโดยนายแพทย์วิลเลียม เอ.บริกส์ปัจจุบันบ้านสิงหไคลฯ ได้รับการบูรณะ และปรับเปลี่ยนเป็นที่ทำการมูลนิธิมดชนะภัย โดยมีเป้าหมายในการเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านสถาปัตยกรรมและเรื่องราวของภัยพิบัติในจังหวัดเชียงราย รวมทั้งเป็นจุดเชื่อมต่อไปสู่เรื่องราวทางศิลปะและเป็นพื้นที่ในการจัดกิจกรรมทางด้านสังคมและศิลปวัฒนธรรมให้กับประชาชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเชียงรายเมืองศิลปะ โดยบริเวณชั้น 2 ได้เปิดเป็นแกลเลอรี่แสดงผลงานศิลปะ และบริเวณชั้นล่างเป็นร้านกาแฟ จัดแสดงภายใต้แนวคิด Shape of House ถ่ายทอดความงดงามของบ้านด้วยแสง ใช้เทคนิคแสง Tiny Light Bulbs Par Light ใช้แสงอาบฉาบผิวบ้านด้านนอก และใช้แสงส่องออกมาจากภายในตัวบ้าน ผ่านช่องหน้าต่าง เพื่ออวดสัดส่วนการออกแบบบ้านอันสวยงาม และตกแต่งรอบบ้านด้วยไฟเม็ดถั่ว

 

11. หอประวัติเมืองเชียงราย

หอประวัติเมืองเชียงราย เป็นส่วนหนึ่งภายในศูนย์วัฒนธรรมนิทัศน์และพิพิธภัณฑ์เมืองเชียงราย 750 ปี โดยปรับปรุงอาคารหอประชุมเม็งรายอนุสรณ์เดิม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านภูมิหลังของท้องถิ่น พัฒนาการทางสังคม ประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี ในส่วนของการจัดแสดงนิทรรศการ ภายใน ได้จัดแสดงเนื้อหานับตั้งแต่ยุคสมัยก่อน ประวัติศาสตร์ ยุคของการสร้างบ้านเมือง การเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งเป็นเมืองเชียงรายในปัจจุบัน นอกจากนั้นยังจัดแสดงเรื่องราว วิถีชีวิต ภูมิปัญญา การเมืองการปกครองและ เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันน่าภูมิใจของคนเชียงราย จัดแสดงภายใต้แนวคิด Night Museum ขยายเวลาเปิดดําเนินการภาคกลางคืนสําหรับนักท่องเที่ยวในช่วงงาน ใช้เทคนิคแสง Colorful of Par Light ตกแต่งแสงอาคารด้านนอกด้วยไฟหลากสีเพื่อเชื้อเชิญให้เข้าชมนิทรรศการภายในอาคาร

 

12. ตู้โทรศัพท์

ตู้โทรศัพท์สาธารณะหยอดเหรียญ คืออีกหนึ่งของประวัติศาสตร์การสื่อสารของคนเชียงรายที่เปลี่ยนผ่านไปอย่างไม่มีวันหวนคืน จัดวางไว้ยังหน้าบ้านพักข้าราชการคลัง ริมถนนอันเงียบเหงา จัดแสดงภายใต้แนวคิด Silent Call ใช้เทคนิคแสง Light Inside Box-Phone ติดตั้งแสงภายในตู้โทรศัพท์คืนชีวิตด้วยสีสันตื่นเต้นชวนมอง พร้อมเสียงโทรศัพท์ประกอบดนตรี

 

13. ต้นไม้ใหญ่

อุโมงค์ต้นจามจุรี หรือต้นฉำฉาหรือต้นก้ามปูขนาดใหญ่ บริเวณถนนสิงหไคล นับสิบต้นที่อยู่สองฝั่งถนน แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุม สร้างความร่มรื่นไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้ที่ทางเทศบาลนครเชียงรายอนุรักษ์ไว้เพราะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่คาดว่ามีอายุนับร้อยปี เป็นสัญลักษณ์ของการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว ควบคู่กับประวัติศาสตร์เมืองเชียงราย จัดแสดงภายใต้แนวคิด Eco Friendly เลือกใช้กลุ่มต้นไม้ใหญ่บริเวณริมถนนสิงหไคล เป็นตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า การรักษาระบบนิเวศ และความยั่งยืนร่วมกันของคนเชียงรายกับป่าไม้ ใช้เทคนิคแสง Light Down From Tree ติดตั้ง Mirror Ball บนยอดไม้แล้วยิงแสงกระทบใส่สร้างซีนแสงแปลกตา

 

14. สวนตุงและโคม

สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ 75 พรรษา เดิมคือพื้นที่เรือนจําโบราณ ต้ังอยู่ใจกลางย่านการค้าเทศบาลนครเชียงราย มีอายุเก่าแก่มากว่า 100 ปี ต่อมามีโครงการย้ายเรือนจําออกไป และปรับพื้นที่จนกลายเป็นลานสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางนครเชียงราย โดยสวนบางส่วนถูกปรับให้เป็นสวนหย่อม นอกจากนี้ด้านในยังมีเรือนจําหญิงที่ถูกปรับให้เป็นอาคารแสดงศิลปะการแต่งกายชนเผ่า 30 ชนเผ่า ด้านข้างอาคารมีตุงเฉลิมพระเกียรติ ความสูง 36 เมตร กรอบตุงมีลวดลายสัญลักษณ์ปีนักษัตร โดยช่างฝีมือของท้องถิ่น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองล้านนาร่วมสมัย จัดแสดงภายใต้แนวคิด Wiang Flower ดอกพวงแสด ดอกไม้ประจําจังหวัดเชียงราย ใช้เทคนิคแสง Light Installation ประติมากรรมดอกพวงแสดส่องแสงประกอบฉากแสงสีส้ม

 

15. คริสตจักรที่ 1 เวียงเชียงราย

โบสถ์คริสตจักรที่ 1 เวียงเชียงราย ได้รับสถาปนาเป็นคริสตจักร เมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ.1890 โดยยังไม่มีอาคารพระวิหาร ต่อมาในปี ค.ศ. 1910 – 1911 นายแพทย์วิลเลี่ยม เอ บริกส์ จึงรวบรวมเงินจากผู้ศรัทธา เพื่อซื้อที่ดินสร้างอาคารพระวิหาร โดยต้ังอยู่บริเวณประตูเมืองเชียงราย ที่เรียกว่า “ประตูสลี” ซึ่งเป็นที่ตั้งคริสตจักรในปัจจุบัน โบสถ์หลังนี้ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อสิ้นสุดมหาสงครามเอเชียบูรพา (สงครามโลกครั้งที่ 2) ราวปี ค.ศ. 1946 หลังชำรุดทรุดโทรมเนื่องจากถูกยึดใช้เป็นส่วนหนึ่งของเขตทหารที่มาตั้งมั่นอยู่ในเมืองเชียงราย เมื่อเสร็จสงครามเหล่าคริสเตียนจึงยินดีที่ได้กลับมาใช้โบสถ์นี้เป็นที่นมัสการอีกครั้ง จัดแสดงภายใต้แนวคิด In Light of Faith ด้วยแสงแห่งศรัทธาของคริสตศาสนิกชนเวียงเชียงราย ใช้เทคนิคแสง Light VS Shadow การต่อสู้กันระหว่างแสงและเงา

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม Highlight ซึ่งจะมีการจัดแสดงทุกวันศุกร์-อาทิตย์ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย (หลังเก่า) อาทิ การจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น การแสดงดนตรี การออกร้าน            จากผู้ประกอบการในพื้นที่ รวมทั้งการมอบสิทธิพิเศษส่วนลดจากร้านค้ามากมาย อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่      ที่เข้าร่วมในโครงการฯ รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท ผ่านช่องทาง Facebook Fanpage: GoNorthThailand  โดยผู้ที่สนใจสมารถเดินชมงานในลักษณะ Walking Tour หรือจะ ใช้บริการรถรางนำเที่ยวที่ให้บริการฟรีตลอดงาน หรือพาหนะท้องถิ่นอย่างสามล้อเชียงรายโดยคิดค่าบริการตามระยะทาง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
HEALTH SOCIAL & LIFESTYLE

เกลือทะเล ไม่ทำให้ไตวาย **ไม่เป็นความจริง**

เกลือทะเล ไม่ทำให้ไตวาย **ไม่เป็นความจริง**

Facebook
Twitter
Email
Print

วันที่ 20 พฤษภาคม 2566  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยข่าวปลอม อย่าแชร์! เเกลือทะเล ไม่ทำให้ไตวาย  กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

ตามที่มีการกล่าวถึงข้อมูลเรื่องเกลือทะเล ไม่ทำให้ไตวาย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากประเด็นที่มีการเผยแพร่ว่าเกลือทะเล ไม่ทำให้ไตวาย ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ข้อมูลตามข้อความไม่มีเหตุผลที่เป็นไปได้ตามทฤษฎีทางการแพทย์ เนื่องจากเกลือแกงที่ใช้รับประทานคือโซเดียมคลอไรด์ สำหรับโซเดียมซัลเฟตมักใช้ในอุตสาหกรรมมากกว่า

อีกทั้งไตจะทำหน้าที่กรองสารต่าง ๆ รวมทั้งโซเดียม ฉะนั้นการกินเกลือทะเลมากเกินไปเป็นระยะเวลานานก็มีโซเดียมที่ทำให้ไตต้องทำงานเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ข้อมูลตามข้อความข้างต้นไม่มีเหตุผลที่เป็นไปได้ตามทฤษฎีทางการแพทย์ ซึ่งการกินเกลือทะเลมากเกินไปเป็นระยะเวลานานก็มีโซเดียมที่ทำให้ไตต้องทำงานเพิ่มขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย 

 
Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
FOOD SOCIAL & LIFESTYLE VIDEO

แอ่วล้ำแอ่วเหลือ : ร้านพันดาว (1000 Stars)

แอ่วล้ำแอ่วเหลือ : ร้านพันดาว (1000 Stars)

Facebook
Twitter
Email
Print
แอ่วล้ำแอ่วเหลือ : ร้านพันดาว (1000 Stars)

พันดาว เป็นคาเฟ่ริมน้ำที่มาพร้อมกับบรรยากาศดี ๆ ในจังหวัดเชียงราย ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่เพิ่งเปิดตัวได้ในช่วงต้นปี และได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามเลยทีเดียว

 

“โดยคุณแมค กฤษณพล ชะฟู เจ้าของร้านพันดาว ได้เปิดใจกับทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ว่า เราเพิ่งเปิดร้านเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 แล้วลูกค้าก็สนับสนุนเรา และให้กำลังใจเรามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด จะด้วยสถานการณ์หรืออะไรก็แล้วแต่ คือมันทำให้เกิดประกายไฟตรงปลั๊ก แล้วก็เกิดไฟไหม้ มันเกิดขึ้นเร็วมาก อันนี้เราต้องยอมรับตรง ๆ ว่าเราไม่ทันได้ตั้งตัว แต่เราโชคดีตรงที่วันนั้นคือไม่มีลูกค้าอยู่ในร้าน สิ่งที่เสียหายทั้งหมดจะเป็นในส่วนของสถานที่เท่านั้น คนทุกคนปลอดภัย แล้วก็การเกิดประกายไฟนี่คือมันก็เกิดการสูญเสีย คือไฟไหม้พันดาวทั้งหลังเลยเหลือแต่เสากับพื้น”.

“ก็คือวันที่เกิดเหตุกับเรา มันเหมือนแบบเข่าทรุดกันเลยครับ มันหมดแรง แบบลงกองไปกับพื้นเลยนะครับ แต่เราก็ขอขอบคุณหลาย ๆ อย่าง เช่น ขอบคุณพนักงาน ขอบคุณทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเรา ขอบคุณที่ทุกคนมีสติ ช่วยเหลือกัน แล้วก็ให้ความร่วมมือกัน ทุกอย่างเลยราบรื่น คือในส่วนที่มันสูญเสียอย่างมากคือจิตใจ ที่เราแบบสร้างมากับมือ แล้วก็พังทลายไปแทบไม่ถึงหนึ่งวัน ก็ค่อนข้างแย่เหมือนกัน”

ซึ่งทางพันดาว ได้ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 7 วันเท่านั้นในการสร้างและตกแต่งขึ้นมาใหม่

“คือมันไหม้ไปแล้ว แต่ทีนี้เหมือนเรามีพลัง มีกำลังใจ วันแรกที่เกิดไฟไหม้ก็คือเราได้กำลังใจจากทุกคนที่ส่งเข้ามาเยอะมาก คือถ้าเราจมอยู่ตรงนี้นาน มันจะไม่มีอะไรดีขึ้น มันเคยเหนื่อยหนักกว่านี้มาแล้วก็เคยเจอ”

ในการทำใหม่ครั้งนี้คือ คุณแมคและทีมก็มีเป้าหมายที่ชัดเจนมากกว่าเดิม ของเก่าแม้จะถูกไฟไหม้ไปก็เหลือแค่ความทรงจำ ก็เก็บความทรงจำที่ดีเหล่านั้นไว้ที่เดิม ที่เหลือก็มาเริ่มต้นกันใหม่

“เราก็เลยเกิดเป็นกิมมิคขึ้นมาใหม่ เป็นเหมือนนกฟินิกซ์ ก็คือว่าพันดาวฟื้นขึ้นมาจากกองเถ้าถ่าน ขึ้นมาเปล่งแสงอีกครั้งนึง ธีมสีใหม่ของร้านก็จะเป็นโทนส้ม ส้มอิฐ ส้มขาว ส้มทอง แสดงถึงความรุ่นเรือง ความรุ่งโรจน์ แล้วก็ความเปล่งประกายของแสงดาว”

ซึ่งทางพันดาว ก็ยังวางคาแรคเตอร์เอาไว้ว่าพันดาวไม่ใช่ร้านกาแฟที่คนมาซื้อแค่กาแฟแล้วก็กลับ ทุกคนมาที่นี่จะได้รับการดูแลเหมือนเวลาได้กลับบ้าน จะนั่งมุมไหนก็ได้ ทุกอย่างเหมือนเป็นบ้านของเรา และพนักงานทุกคนที่นี่ก็จะคอยดูแล ส่วนในขั้นต่อ ๆ ไปทางพันดาวก็จะต่อยอดในเรื่องของชาวบ้าน เพื่อช่วยสนับสนุนชาวบ้านต่อไป

“เพราะว่าถ้าเราไม่มีชาวบ้านเราก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน พันดาวคือใช้ในเรื่องของดอกไม้ในการตกแต่ง แล้วก็ไปส่งเสริมชาวบ้านว่าให้ปลูกดอกไม้ชนิดนี้หน่อย เดี๋ยวผมจะมาช่วยนะ เพราะดอกไม้ต้องใช้ในเรื่องการตกแต่งเค้ก ตกแต่งอาหาร ชาวบ้านเขาก็โอเค เพราะทุกทีเขาก็ปลูกดอกไม้อยู่แล้วแหล่ะ เราแค่แปลให้เขาว่าสิ่งที่เขาทำตอนนี้เขาเริ่มเห็นมูลค่าของมันแล้ว เราก็ไปให้ความรู้และส่งเสริมเขา แล้วก็เราอยากพัฒนาต่อในเรื่องของการทำ Box set แล้วก็เรื่องของ Break แล้วก็การทำเป็นเซ็ตต่าง ๆ กิมมิคต่าง ๆ แล้วก็เรื่องของการจัดสถานที่เรื่องงานแต่ง”

และแน่นอนว่าทางพันดาว ก็มีโครงการที่จะทำอะไรต่อไปอีกในทุก ๆ เทศกาล

“อย่างที่ใกล้ ๆ จะถึงนี้ก็คือลอยกระทง เราก็คุยกับน้อง ๆ พนักงานว่าลอยกระทงนี้อยากทำอะไร พนักงานที่ร้านก็บอกว่าอยากทำกระทง เพราะฉะนั้นเราก็จะจัดบูธทำกระทงและสอนลูกค้าทำกระทงไว้ โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ใบไม้ใบหญ้า เอามาตกแต่งทำกระทง แต่ในส่วนของปีใหม่คริสมาสต์ก็จะมีการจัดธีม อย่างปีนี้ก็จะเป็นต้นคริสมาสต์จากต้นข้าวโพดสีทอง ข้าวโพดนี่เป็นข้าวโพดที่เอามาจากชาวบ้านที่อำเภอพญาเม็งราย และจะสามารถเปลี่ยนมูลค่าจากวัตถุดิบเหล่านี้ได้ แล้วชาวบ้านเขาก็ดีใจด้วยที่เราไปช่วยเหลือเขา”

และสำหรับใครที่อยากติดตามข่าวสารจากพันดาว ก็สามารถไปติดตามกันได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊กพันดาว(1000stars) โดยพันดาวตั้งอยู่ที่อ่างเก็บน้ำห้วยสัก จ.เชียงราย อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาน 20 กม. เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เก้าโมงเช้าจนถึงหกโมงเย็น

“และนอกจากในส่วนของคาเฟ่แล้ว เราก็ยังมีที่พักแบบวิลล่าด้วย ซึ่งหลังจากหกโมงเย็นเป็นต้นไป เราก็อยากให้พื้นที่แบบส่วนตัวกับลูกค้าที่พักวิลล่า ลูกค้าที่พักวิลล่าก็จะมีพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น คนไม่พลุกพล่าน จัดเป็นส่วน ๆ ให้เขา”

“สุดท้ายนี้ทางพันดาวก็อยากจะขอขอบคุณลูกค้าทุกคนที่สนับสนุนพันดาว ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่อยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ที่ทุกคนตั้งใจมาเที่ยวที่พันดาว คือพันดาวไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่ทุกคนมาง่ายมากนัก ค่อนข้างไกลเหมือนกัน บางทีขับรถเข้ามาอยู่ในป่าในเขา ก็ขอบคุณมาก ๆ เลยครับที่ตั้งใจมา แล้วก็มาให้กำลังใจพันดาว อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่มีแผนอยากจะมาเที่ยวที่เชียงรายก็อยากจะให้ตั้งใจให้มาเที่ยวที่พันดาวกันได้เลย ขอให้พันดาวเป็นตัวเลือกแรกในใจเลยนะครับ หรือใครที่มีแผนหรือมีเพื่อนอยากจะแนะนำให้มาเที่ยวที่พันดาว พันดาวก็ยังเป็นสถานที่ที่จะส่งต่อในเรื่องของพลังบวก แล้วก็ส่งต่อในเรื่องของความรู้สึกดี ๆ ให้กับทุกคน แล้วก็อยากจะให้ทุกคนมาเที่ยวที่พันดาวได้รับความสุข และความประทับใจกลับไปครับ”

และในขณะนี้ร้านพันดาวก็ได้กลับมาเปิดบริการตามปกติแล้ว

พิกัดร้าน : https://goo.gl/maps/pgguWWLaYBAZ4mqL7

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : พันดาว 1000 Stars

 
Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS NEWS UPDATE TRAVEL

เชียงรายชวนเที่ยวฟินกินผลไม้ งานสับปะรดลิ้นจี่และของดี นครเชียงราย

เชียงรายชวนเที่ยวฟินกินผลไม้ งานสับปะรดลิ้นจี่และของดี นครเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2566 เทศบาลนครเชียงราย โดยนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงรายร่วมกับจังหวัดเชียงราย จัดงานสับปะรดลิ้นจี่ และของดีนครเซียงรายประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 19-26 พฤษภาคม 2566 ณ ลานรำวงย้อนยุค สวนตุงและโคมเทศบาลนครเชียงราย โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตรกรชุมชนโดยเฉพาะลิ้นจี่และสับปะรด ผลิตภัณฑ์เกษตรปลอดภัย ผักผลไม้ ผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสินค้าโอทอป โดยเปิดโอกาสให้ชาวสวนนำผลผลิตทางการเกษตรสับปะรดนางแลภูแลลิ้นจี่ฤดูกาลแรก ของสวนในเขตอำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่จันมาจัดจำหน่ายโดยตรง 

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าเกษตรผลไม้และสินค้าประจำจังหวัดเชียงรายให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย สามารถกระตุ้นการบริโภคและการขยายธุรกิจอันจะนำไปสู่การสร้างรายได้เพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับเกษตรกร ชุมชนและผู้ประกอบการอย่างแท้จริง ส่งเสริมการจำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาลและสินค้าพื้นเมืองประจำจังหวัดเชียงราย ไห้เป็นที่รู้จักและดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว กระตุ้นสภาพเศรษฐกิจของภาคการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดเชียงรายให้เติบโตสูงขึ้น เพื่อสร้างพื้นที่ให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายมา

พบกันอย่างเป็นธรรมชาติตามแนวทางตลาดประชารัฐและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงรายตามแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19
 
ขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดเชียงราย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดเชียงราย ได้มาร่วมชม ชิม ชอป งานลิ้นจี่ สับปะรดและของดีนครเชียงราย พร้อมสินค้าโอทอป 5 ดาว”โครงการร่วมค้าเพื่อพัฒนาเศรษกิจชุมชน” มาจำหน่าย นอกจากนี้ยังได้ชมการแสดงแสง สี เสียงสุดยิ่งใหญ่กับงาน “วิจิตร 5 ภาค @เชียงราย หลงแสงเวียง ที่เจียงฮาย” ที่จะพาทุกท่านหลงใหลไปกับเส้นทางแห่งกาลเวลาบนท้องถนนที่สว่างไสวด้วยแสงแห่งประวัติศาสตร์ ของเมืองเชียงราย ถ่ายทอดผ่านสถาปัตยกรรมของเมืองอันทรงคุณค่า
ณ ลานรำวงย้อนยุค สวนตุงและโคมเทศบาลนครเชียงราย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
HEALTH SOCIAL & LIFESTYLE

ข่าวปลอม ! เถารางจืด รากต้นแก้วและเปลือกแตงโมแห้ง นำมาต้มน้ำช่วยโรคไตอักเสบได้

เถารางจืด รากต้นแก้วและเปลือกแตงโมแห้ง นำมาต้มน้ำช่วยโรคไตอักเสบได้ **ไม่เป็นความจริง**

Facebook
Twitter
Email
Print

วันที่ 18 พฤษภาคม 2566  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยข่าวปลอม อย่าแชร์! เถารางจืด รากต้นแก้วและเปลือกแตงโมแห้ง นำมาต้มน้ำช่วยโรคไตอักเสบได้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข

ตามที่มีคำแนะนำด้านสุขภาพเกี่ยวกับเรื่องเถารางจืด รากต้นแก้วและเปลือกแตงโมแห้ง นำมาต้มน้ำช่วยโรคไตอักเสบได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่มีผู้โพสต์ข้อมูลแนะนำว่า เถารางจืด รากต้นแก้วและเปลือกแตงโมแห้ง นำมาต้มน้ำช่วยโรคไตอักเสบได้ ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า พืชทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวไม่พบในงานวิจัยที่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า สามารถรักษาไตอักเสบให้หายขาดได้ ทั้งนี้ กรณีผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว คือ โรคไต ไม่ควรไปซื้อหาสมุนไพรมารับประทานเอง เพราะอาจเกิดผลเสียทำให้ไตมีการทำงานเลวลงกว่าเดิม และการใช้สมุนไพรจะต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ผู้รักษา หรือปรึกษาแพทย์แผนไทยและเภสัชกรก่อนใช้

นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคไตอาจได้รับคำแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร ซึ่งช่วยในการควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ งดอาหารรสเค็ม หรืองดเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของโพแทสเซียมจำนวนมาก

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือประชาชนให้งดแชร์หรือส่งต่อข้อมูลที่เป็นเท็จไปในช่องทางสื่อโซเชียลต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th หรือโทร. 02 5917007

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : พืชทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวไม่พบในงานวิจัยที่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า สามารถรักษาไตอักสบให้หายขาดได้ ทั้งนี้ กรณีผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว คือ โรคไต ไม่ควรไปซื้อหาสมุนไพรมารับประทานเอง เพราะอาจเกิดผลเสียทำให้ไตมีการทำงานเลวลงกว่าเดิม

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย 

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AUTOMOTIVE CULTURE ECONOMY EDITORIAL ENTERTAINMENT FEATURED NEWS FOOD HEALTH LIFESTYLE NEWS NEWS UPDATE SOCIAL & LIFESTYLE SOCIETY & POLITICS SPORT TOP STORIES TRAVEL VIDEO WORLD PULSE

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

Facebook
Twitter
Email
Print

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย"
MOST POPULAR
RELATED STORIES
NEWS UPDATE
Categories
AUTOMOTIVE CULTURE ECONOMY EDITORIAL ENTERTAINMENT FEATURED NEWS FOOD HEALTH LIFESTYLE NEWS NEWS UPDATE SOCIAL & LIFESTYLE SOCIETY & POLITICS SPORT TOP STORIES TRAVEL VIDEO WORLD PULSE

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

Facebook
Twitter
Email
Print

นครเชียงรายนิวส์ ”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย”

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
”สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อคุณภาพของคนเชียงราย"
MOST POPULAR
RELATED STORIES

NEWS UPDATE