Categories
TOP STORIES

น้ำป่าท่วมศูนย์บริบาลช้างแม่แตง เชียงใหม่ เร่งช่วยเหลือสัตว์กว่า 3,000 ชีวิต

 

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 เวลา 18.20 น. พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือเร่งด่วนผ่านสื่อโซเชียล ขออาสาสมัครและกำลังสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือสัตว์หลายพันชีวิตในศูนย์บริบาลช้างแม่เล็กแสงเดือน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมพื้นที่อย่างหนัก ทำให้การขนย้ายสัตว์ต่าง ๆ ในศูนย์ประสบความยากลำบาก โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่ฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำยังคงสูงและการทำงานของทีมช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ศูนย์บริบาลช้างแม่เล็กแสงเดือน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณคลองศูนย์ในอำเภอแม่แตง ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากในครั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำที่ท่วมสูงอย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นที่ภายในศูนย์ซึ่งมีช้างประมาณ 100 เชือกได้รับความเสียหาย โดยส่วนใหญ่เป็นช้างเพศเมีย ช้างชรา และช้างพิการที่ศูนย์รับมาดูแล

ในเบื้องต้น ทางศูนย์ได้ทำการขนย้ายช้างทั้งหมดขึ้นไปอยู่บนพื้นที่สูงเพื่อความปลอดภัยแล้ว แต่ยังมีสัตว์เล็กอื่น ๆ ที่เลี้ยงไว้ในพื้นที่เดียวกัน เช่น หมู วัว ควาย หมา และแมว กว่า 3,000 ชีวิตที่ยังต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คุณแสงเดือน ชัยเลิศ ผู้ดูแลศูนย์ ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านทาง Facebook เพื่อให้ทีมอาสาสมัครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยขนย้ายสัตว์เหล่านี้ออกจากพื้นที่โดยด่วน เนื่องจากการเดินทางในเส้นทางปกตินั้นไม่สามารถทำได้ จำเป็นต้องใช้เส้นทางผ่านบ้านแม่ตะมานและบ้านปางไม้แดงเท่านั้น

สำหรับความช่วยเหลือในขณะนี้ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริม เช่น รถสิบล้อสำหรับขนย้ายสัตว์ขนาดใหญ่ เรือเจ็ตสกี เรือกู้ภัย และเรือขนาดเล็กเพื่อการขนย้ายสัตว์เล็ก รวมถึงต้องการทีมอาสาสมัครจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการขนย้ายสัตว์และช่วยเหลือในพื้นที่ประสบภัย

ด้านพระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประสานงานทีมลูกศิษย์และทีมอาสากู้ภัยของวัดเจดีย์หลวงเข้าไปสนับสนุนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยในขณะนี้พระครูอ๊อดและทีมอาสาได้เดินทางถึงพื้นที่แล้ว และกำลังประสานงานกับทีมอาสาเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อร่วมกันช่วยเหลือสัตว์และควาญช้างในพื้นที่

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในพื้นที่ศูนย์บริบาลช้างแม่แตงยังคงน่าเป็นห่วง เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลหลากอย่างต่อเนื่องได้เริ่มกัดเซาะพื้นที่ริมฝั่งลำน้ำแม่แตง ทำให้ระเบียงชมช้างในบริเวณบ้านพักช้างหลายจุดได้รับความเสียหายและมีความเสี่ยงที่จะถูกน้ำเซาะพังทลาย พระครูอ๊อดยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “แค่ให้ช้างและควาญช้างในความดูแลปลอดภัย พระครูฯ ก็ดีใจมากแล้ว แต่ตอนนี้เราต้องช่วยกันฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้ได้”

ด้านเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ยังคงประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยกู้ภัยต่าง ๆ ในการเร่งระดมกำลังและอุปกรณ์เข้าไปช่วยเหลือเพิ่มเติม พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ประสานงานชั่วคราวในบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้สามารถเข้าถึงการขนย้ายและดูแลสัตว์ที่ได้รับผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ทางศูนย์บริบาลช้างและทีมอาสาฯ ยังได้วางแผนขนย้ายสัตว์ในช่วงกลางคืนเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ เนื่องจากหากฝนยังคงตกลงมาเพิ่มเติม จะทำให้การขนย้ายในเวลากลางวันยิ่งมีความยากลำบากมากขึ้น และเส้นทางการเดินทางอาจถูกตัดขาดโดยสมบูรณ์

สถานการณ์ล่าสุด ทางศูนย์ยังคงต้องการการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ เอกชน หรืออาสาสมัครทั่วไปที่สามารถช่วยเหลือได้ โดยสามารถติดต่อประสานงานได้ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวในพื้นที่ศูนย์บริบาลช้างแม่เล็กแสงเดือน หรือประสานงานผ่านเพจ Facebook ของศูนย์ฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว

ขอให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่แตงและใกล้เคียงติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด หากพบเห็นสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยง สามารถแจ้งทีมอาสาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทันท่วงที

ล่าสุดมีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการย้ายช้างจำนวน 117 เชือกไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัยแล้วเหลือเพียงการช่วยเหลือช้างอีกประมาณ 10 เชือกซึ่งส่วนใหญ่เป็นช้างตัวผู้ และมีบางเชือกเป็นช้างที่ตาบอดต้องใช้ควาญที่มีความคุ้นเคยในการเข้ากู้ชีพ
 
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ขณะนี้มีน้องช้าง น้องวัว น้องควายบางส่วนที่ช่วยไม่ทันได้ไหลไปตามน้ำทางอุโมงค์ ถ้าท่านใดพบเห็นสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ตามเบอร์ด้านล่างนี้
คุณเเพตตี้094 – 6352892
คุณไพลิน 088 – 9172668
คุณดาด้า 098 – 6566685
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กู้ภัยแม่โจ้/ควาญแบงค์พลายน้ำแตง / พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ขยะน้ำท่วม ‘เชียงราย-แม่สาย’ ตกค้าง 5.5 หมื่นตัน ขอเอกชนฝังกลบ

 

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 นายสุรินทร์ วรกิจธำรง รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และรองโฆษก คพ. เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการ คพ. ติดตามสำรวจขยะมูลฝอย ประสานหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งภาคเอกชน ให้ความช่วยเหลือเร่งการจัดเก็บขนขยะมูลฝอยหลังน้ำลดให้แก่ประชาชนในจังหวัดเชียงรายเร่งด่วน..

นายสุรินทร์กล่าวว่า คพ.ได้ประสานขอความร่วมมือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด (SCG ลำปาง) และสมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า พร้อมลงพื้นที่เพื่อสรุปการทำงานร่วมกันในการการคัดแยกขยะในพื้นที่ประสบอุทกภัยไปใช้ประโยชน์ โดย SCG ลำปาง ยินดีรับขยะไปเผาเป็นพลังงาน ซึ่งต้องมีการรื้อร่อนขยะเอาดินออก ขยะที่สามารถนำไปใช้ได้ ได้แก่ พลาสติก และไม้บางส่วน คาดว่าจะมีประมาณ ร้อยละ 40 ของปริมาณขยะทั้งหมด และจะเป็นผู้จัดหารถเพื่อขนขยะที่รื้อร่อนแล้วส่งไปยังโรงงาน SCG ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ในส่วนสมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่ายินดีให้การสนับสนุนเครื่องจักรในการรื้อร่อน และอยู่ระหว่างประสานกับเทศบาลนครเชียงรายเพื่อหาจุดที่ตั้งที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเป็น ณ บริเวณศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนครเชียงราย ซึ่งใกล้บ่อฝังกลบ ส่วนดินโคลนที่เหลือจากการรื้อร่อน สมาคมจะช่วยหาแนวทางในการนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

นายสุรินทร์กล่าวต่อว่า รายงานการกำจัดขยะมูลฝอยพื้นที่น้ำท่วม ณ วันที่ 25 กันยายน 2567 เทศบาลตำบลแม่สาย มีปริมาณขยะที่เกิดขึ้น 18,000 ตัน ปริมาณขยะที่เก็บขนได้ 3,721 ตัน นำไปฝังกลบ ณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลตำบลแม่สาย พื้นที่ตำบลเวียงพางคำ คงเหลือขยะตกค้าง 14,279 ตัน เทศบาลนครเชียงราย มีปริมาณขยะที่เกิดขึ้น 50,000 ตัน ปริมาณขยะที่เก็บขนได้ 9,000 ตัน นำไป ณ จุดพักขยะชั่วคราว ดอยสะเก็น และหลังเดอะมูน คงเหลือขยะตกค้าง 41,000 ตัน ปัญหาอุปสรรค ทั้งสองพื้นที่มีจุดพักขยะไม่เพียงพอทำให้มีกองขยะสูงเริ่มส่งกลิ่นเหม็น เครื่องจักรและแรงงานไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องจัดหาจุดพักขยะ เครื่องจักร และแรงงานเพิ่มเติม พร้อมจัดระเบียบการขนย้ายระหว่างจุดพักขยะและบ่อฝังกลบให้สมดุลกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมควบคุมมลพิษ (คพ.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TOP STORIES

จระเข้ลำพูน กว่า 100 ตัว ถูกเชือดหลังฝนตกอย่างหนักหวั่นกำแพงพัง

 

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 ทางคุณ “เอ็กซ์ วัวหันอินเตอร์” ตัดสินใจครั้งใหญ่ในการนำจระเข้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่เลี้ยงไว้กว่า 17 ปีออกจากบ่อทั้งหมด โดยมีสาเหตุหลักมาจากสภาพอากาศที่ปีนี้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าฝนจะตกเพิ่มขึ้นอีก จึงต้องทำการป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิดผลกระทบรุนแรง โดยคุณเอ็กซ์ได้ปรึกษาครอบครัวและคนใกล้ชิด มีมติเอกฉันในการจัดการดังกล่าว แม้ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ยากและทำให้เกิดความรู้สึกเสียดายก็ตาม เนื่องจากในปีหน้า จะไม่มีการเก็บไข่จระเข้หรือทำคลอดจระเข้เหมือนที่ทำมาทุกปี

ช่วงที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักทำให้กำแพงบ่อเลี้ยงจระเข้ที่บ้านสันคะยอม ต.มะเขือแจ้ อ.เมือง จ.ลำพูน พังลงบางส่วน ซึ่งหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ฝนที่ตกซ้ำอาจทำให้กำแพงพังทั้งหมด ส่งผลให้จระเข้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์กว่า 100 ตัวอาจหลุดออกสู่ลำน้ำสาธารณะได้ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจสร้างอันตรายให้กับชุมชน คุณเอ็กซ์จึงตัดสินใจเชือดจระเข้ทั้งหมดและนำไปเก็บในห้องเย็นเพื่อจำหน่ายต่อไป

นายณัฐพากษ์ ระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์ที่เร่งด่วน แม้จะเจ็บปวดเพราะจระเข้เหล่านี้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่เลี้ยงมาตั้งแต่เริ่มฟาร์มกว่า 17 ปี คิดเป็นมูลค่ารวมระหว่าง 1,000,000 – 1,500,000 บาท ในฟาร์มมีจระเข้ทั้งหมดประมาณ 700 ตัว แต่จระเข้ที่ต้องจัดการเร่งด่วนมี 125 ตัว ซึ่งการขนย้ายและเชือดจระเข้เหล่านี้ใช้เวลาเนื่องจากฝนตกหนักทำให้การทำงานลำบากมาก

นายณัฐพากษ์ยังเสริมว่า หากไม่ตัดสินใจครั้งนี้แล้วเกิดเหตุการณ์วิกฤติขึ้น ก็จะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ สภาพกำแพงที่พังลงอาจจะทำให้จระเข้หลุดออกสู่สาธารณะ จึงจำเป็นต้องทำการจัดการโดยเร็วที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ณัฐพากษ์ คำกาศ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

สสจ.เชียงราย เตือนระวังโรคหลังน้ำลด เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินอาหาร

 

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย (สสจ.เชียงราย) ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการรับมือและการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย โดยกล่าวว่าทีมเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขได้ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้คำแนะนำแก่ประชาชนในเรื่องของการป้องกันตนเองหลังน้ำลด โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM10 ที่มักเกิดขึ้นหลังจากน้ำลด โดยแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่โล่งแจ้งควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่น และสามารถใช้หน้ากากอนามัยธรรมดาได้

อีกหนึ่งปัญหาที่ต้องเฝ้าระวังคือขยะเน่าเหม็น ซึ่งอาจเป็นแหล่งเชื้อโรค โดยขอให้ประชาชนที่ต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีขยะใส่รองเท้าบูทหรือรองเท้ายางเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ทั้งนี้ การจัดการขยะจะต้องประสานกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อเร่งจัดเก็บ โดยมีการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงประเภทของขยะในแต่ละพื้นที่ เพราะขยะเน่าเหม็นนั้นมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินอาหาร หากมีการหยิบจับหรือสัมผัสสิ่งของที่เริ่มเน่าเสียแล้วไม่สวมถุงมือหรือไม่ล้างมือให้สะอาด

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับบาดแผลที่อาจสัมผัสน้ำเน่าเสีย นพ.วัชรพงษ์ได้กล่าวว่า บาดแผลที่สัมผัสกับน้ำเน่าเสียมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคฉี่หนู ซึ่งควรทำความสะอาดและทายาทันทีหลังจากสัมผัสน้ำ หรือไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยปฐมพยาบาลที่ลงพื้นที่ เพื่อให้แพทย์ประเมินสภาพบาดแผลและให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง โดยสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายได้พบว่า ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มมีอาการเท้าเปื่อย ระบบทางเดินหายใจ และตาแดง ส่วนโรคฉี่หนูยังไม่มีการแพร่ระบาด แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของภาวะทางจิตใจ นพ.วัชรพงษ์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า มีการส่งทีมสุขภาพจิตเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภาวะเครียดจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยร่วมกับทีมจากโรงพยาบาลสวนปรุงของกรมสุขภาพจิต ซึ่งได้คัดกรองประชาชนไปแล้วประมาณ 3,000 คน พบว่ามีผู้ที่มีความเครียดในระดับปานกลางที่ยังสามารถดูแลตัวเองได้ บางรายมีการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ แต่ยังไม่พบผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือมีแนวโน้มจะฆ่าตัวตาย

ความเครียดที่พบส่วนใหญ่เกิดจากความกังวลเรื่องบ้านเรือนที่ถูกดินโคลนถล่มและไม่สามารถเข้าไปฟื้นฟูได้ ประชาชนบางส่วนยังคงวิตกเกี่ยวกับการเกิดพายุหรืออุทกภัยซ้ำในอนาคต กรมสุขภาพจิตได้จัดทำข้อมูลเพื่อช่วยแจ้งเตือนประชาชนอยู่ตลอด และมีการเตรียมพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต นอกจากนี้ยังได้ทำคู่มือแนะนำประชาชนเกี่ยวกับการรับมือภัยพิบัติ โดยแนะนำให้ประชาชนมองสถานการณ์ในแง่บวก เชื่อมั่นในความสามารถของตนเองในการผ่านพ้นวิกฤตนี้ และอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเมื่อมีความจำเป็น

สุดท้าย นพ.วัชรพงษ์กล่าวย้ำว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ และประชาชนควรป้องกันตนเองให้ดีในช่วงหลังน้ำลด เพราะอาจมีโรคภัยต่างๆ ตามมาได้ เช่น โรคทางเดินอาหาร เท้าเปื่อย โรคฉี่หนู และโรคตาแดง ซึ่งหากมีอาการควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักข่าวชายขอบ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

สรุปน้ำท่วม 7 วัน ใน จ.เชียงราย 53,209 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ

 

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 ข้อมูลสะสมระหว่างวันที่ 9 -15 ก.ย. 2567 ทั้งสิ้น 9 อำเภอ 35 ตำบล 167 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (52 ชุมชน) ได้แก่ โดยตลาดชุมชนเศรษฐกิจ ได้รับผลกระทบ 2 แห่ง ร้านค้า/สถานประกอบการ 92 แห่ง ราษฎรได้รับผลกระทบเบื้องต้น 53,209 ครัวเรือน พื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบ 14,138 ไร่ เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 2 ราย โรงเรียน จำนวน 31 แห่ง ถนน 7 จุด และคอสะพาน 4 จุด

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งได้เตรียมการมาเป็นอย่างดีทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ พร้อมกำลังพลในการเข้าไปช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง หลายวัน ทำให้วันนี้ (15 กันยายน 2567) ได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ อ.เมืองเชียงราย, อ.เชียงแสน, อ.เชียงของ, อ.แม่จัน, อ.แม่ฟ้าหลวง, อ.แม่สาย, อ.ดอยหลวง, อ.เทิง และอ.เวียงแก่น เกิดน้ำท่วมหนักในรอบหลายปี อย่างไรก็ตาม นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ และเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน หากประชาชนต้องการขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุ แจ้งได้ตลอด 24 ช่วยโมง ที่สายด่วน 1784
 
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานสถานที่เกิดเหตุ/ความเสียหาย/การให้ความช่วยเหลือ (เหตุต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 67 และสถานการณ์ในวันนี้ (15 ก.ย. 67) ดังนี้
อ.เมืองเชียงราย ได้รับผลกระทบ 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน (ในเขตเทศบาลนครเชียงราย สถานการณ์คลี่คลาย) เขตเทศบาลนครเชียงราย พื้นที่ได้รับผลกระทบสะสม 52 ชุมชน เสียชีวิต 1 ราย สถานการณ์คลี่คลาย ระดับน้ำจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ บางชุมชนมีน้ำผุดท่อเนื่องจากท่อระบายน้ำอุดตัน เทศบาลนครเชียงรายดำเนินการ Big Cleaning Day จุดที่น้ำลดลงแล้วตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 67 เป็นต้นมา
 
– แจ้งปิดใช้สะพานเนื่องจากน้ำท่วมสูง จำนวน 5 จุด/ คลี่คลายแล้วทุกจุด รถสามารถสัญจรผ่านได้ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายโครงสร้าง จุดที่ 1 สะพานแม่ฟ้าหลวง (ศาลากลางจังหวัดเชียงราย) เปิดใช้งานทั้งสองเลนส์ ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 67 คอสะพานบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยวัยที่ 3 ชุมชนน้ำลัด ขาด ผ่านไม่ได้ จุดที่ 2 สะพานขัวพญาเม็งราย (แยกบ้านใหม่ถึงแยกสถานีตำรวจภูธรเชียงราย) คลี่คลายแล้ว ในวันที่ 14 ก.ย.67 จุดที่ 3 สะพานข้ามแม่น้ำกก (แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 ถึง 5 แยกพ่อขุนเม็งราย) คลี่คลายแล้ว ในวันที่ 14 ก.ย.67 จุดที่ 4 สะพานเฉลิมพระเกียรติ (เส้นทางสนามกีฬากลาง โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย
 
ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย) คลี่คลายแล้ว ในวันที่ 14 ก.ย.67 จุดที่ 5 สะพานใหม่บ้านหนองด่าน (ฮ่องอ้อ) จากแยกวัดห้วยปลากั้ง ไปทางโรงเรียนสามัคคี 2) คลี่คลายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 67
 
– โรงเรียนในเขตเทศบาลนครเชียงรายประกาศหยุดเรียนจนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เบื้องต้น 11 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล 1- 8/ รร.สามัคคีวิทยาคม/ รร.อนุบาลเชียงราย (สันต้นเปา)/ รร.อบจ.เชียงราย (ปัจจุบันยงคงปิดการเรียนการสอนอยู่)
 
– การประปาส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย หยุดระบบการผลิตและระบบจ่ายน้ำ (ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย. 67 เวลา 15.59 น.) อำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอเวียงชัย ได้รับผลกระทบเต็มพื้นที่/ วันที่ 15 ก.ย. 67 กปภ. สาขาเชียงราย เริ่มจ่ายน้ำในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอเวียงชัยบางส่วน ประชาชนจะได้ใช้น้ำประมาณ 48,109 ราย
 
ต.รอบเวียง หมู่ที่ 1 – 5 ลำน้ำกก ลำน้ำกรณ์ และลำน้ำลาว ระดับน้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และในพื้นที่ของหาดเชียงราย/ สถานการณ์คลี่คลาย ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ต.ดอยฮาง หมู่ที่ 2,3,4,5,6 ลำน้ำกกล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตร บางหมู่บ้าน ถูกตัดขาด ใช้การลำเลียงน้ำและอาหารโดยรถยกสูง และอากาศยาน ต.แม่ยาว หมู่ที่ 1 -20 ลำน้ำกกล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เร่งอพยพประชาชนและขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง /สะพานแขวนฮาแหล่จ่ะ (สะพานไม้) ขาด ไม่สามารถสัญจรได้/ บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร บ้านแคววัวดำ และบ้านอาดี่ (บ้านบริวารบ้านผาสุก หมู่ที่ 20) ใช้การลำเลียงน้ำและอาหาร หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยอากาศยาน
 
วันที่ 15 ก.ย. 67 ดำเนินการปรับเกลี่ยดินสไลด์เพื่อเปิดใช้เส้นทาง ต.ห้วยชมภู หมู่ที่ 1,4,5,6,10,11,16 น้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง/ บ้านจะคือ หมู่ที่ 10 ใช้การลำเลียงน้ำและอาหาร หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยอากาศยาน เนื่องจากเส้นทางถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิงต.ริมกก หมู่ที่ 1-7 วันที่ 11 ก.ย. 67 น้ำกกล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎร/ บ้านเมืองงิม ม.4 พนังกั้นน้ำถูกกัดเซาะ อบต.ริมกก ดำเนินการจัดทำแนวตลิ่งเพื่อกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎร พร้อมทั้งอพยพคนออกจากพื้นที่ที่น้ำท่วมสูง วันที่ 12 ก.ย. 67 น้ำเพิ่มระดับสูงขึ้น ไหลเชี่ยวและแรง บางจุดไม่สามารถอพยพประชาชนออกมาได้ ต้องใช้การลำเลียงน้ำและอาหาร 
 
โดยใช้โดรน และเจ๊ตสกี / วันที่ 14 ก.ย. 67 สถานการณ์คลี่คลาย ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ถนนสามารถสัญจรผ่านได้ ภาพรวมสามารถฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนได้แล้ว ยังคงท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วน ต.บ้านดู่ ม. 1,10,12,15,16,17,20 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตร สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ต.แม่ข้าวต้ม ม. 3,4 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตร สถานการณ์คลี่คลายบางส่วน ต.นางแล ม. 1,4,5,6,11,16 น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตร สถานการณ์คลี่คลาย
 
อ.เชียงแสน จำนวน 6 ตำบล 38 หมู่บ้าน โรงเรียน 1 แห่ง พื้นที่เกษตร 14,138 ไร่ ถนน 2 สาย สะพาน 1 จุด คอสะพาน 1 จุด น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่เกษตร และเกิดดินสไลด์ ในพื้นที่ ดังนี้ ต.เวียง ม.1, 2, 3 ,4 ,5 ,6 ,7 ,8 , 9 น้ำล้นตลิ่งและเกิดดินสไลด์บ้านสบรวก ร้านค้า จำนวน 16 ร้าน ต.โยนก ม.1 ,2 ,4 ,6 ,7 ต.บ้านแซว ม.7 ,8 ,10 ,14 ต.ป่าสัก ม.1 ,2, 3, 5, 6 ,7 ,11 ,12, 13
 
ต.ศรีดอนมูล ม.1, 2 ,3 ,5 ,9 ,10 ,12, 13 ต.แม่เงิน ม.1, 5, 10 ปิดเส้นทางสัญจร ปิดเส้นทางสะพานโยนกนาคนคร ม.1 และ ม.4 ต.โยนก เส้นบายพาส เนื่องจากแม่น้ำกกหนุนสูง ท่วมปิดเส้นทางไม่สามารถสัญจรได้/ วันที่ 14 ก.ย. 67/ วันที่ 14 ก.ย. 67 สถานการณ์ปกติ สามารถสัญจรผ่านได้
 
ปิดเส้นทางหมายเลข 1290 ตอนแม่สาย – กิ่วกาญจน์ ระหว่าง กม.20+000 – กม.20+500 บ้านเวียงแก้ว ม.5 ต.ศรีดอนมูล – บ้านวังลาว ม.4 ต.เวียง เนื่องจากแม่น้ำรวกล้นตลิ่งท่วมถนน รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้/ อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม
อ.เชียงของ จำนวน 2 ตำบล 1 หมู่บ้าน ต.เวียง หมู่ที่ 1 แม่น้ำโขงล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมพื้นที่บริเวณท่าเรือบั๊ค บริเวณสวนสาธารณะปลาบึก 7 สี และบ้านเรือนราษฎรติดริมฝั่งโขง / ทต.เวียง อพยพประชาชนและขนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง เรียบร้อยแล้ว และต.ศรีดอนไชย น้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ได้รับผลกระทบ
 
อ.แม่จัน แม่น้ำจัน-คำ หลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตรเป็นวงกว้าง ในพื้นที่ 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน โรงเรียนได้รับผลกระทบ 3 โรงเรียน/ สถานการณ์คลี่คลาย ยังคงค้างในพื้นที่ลุ่มต่ำของตำบลแม่คำ
 
อ.แม่ฟ้าหลวง จำนวน 4 ตำบล 12 หมู่บ้าน (เสียชีวิตจากสะสม 5 ราย เกิดจากน้ำป่าไหลหลาก 1 ราย/
ดินสไลด์ 4 ราย) ถนนเสียหาย 4 จุด คอสะพาน 3 จุด โรงเรียนได้รับผลกระทบ 8 โรงเรียน (ดินสไลด์ปิดเส้นทางเข้า-ออก)/ บ้านจะตี ต.เทอดไทย ดินปิดสไลด์เส้นทาง ใช้อากาศยานในการขนส่ง ต.แม่ฟ้าหลวง ม. 12,16,17 ต.แม่สลองนอก ม.7 ต.แม่สลองใน ม.3,4,5,15 และ ต.เทอดไทย ม.6,7,15,16
 
อ.แม่สาย น้ำท่วมพื้นที่ตลาดสายลมจอย และพื้นที่เศรษฐกิจ จำนวน 4 ตำบล 37 หมู่บ้าน (ชุมชนได้รับผลกระทบรุนแรง ได้แก่ ชุมชนแม่สาย ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน) จำนวน 4 ตำบล โรงเรียนได้รับผลกระทบ 8 โรงเรียน ต. แม่สาย ม.2,3,6,7,8,10 ต.เวียงพางคำ ม.1-10 ต.เกาะช้าง ม. 1-13 และต.ศรีเมืองชุม ม.1-8 วันที่ 15 ก.ย. 67 สถานการณ์คลี่คลาย ระดับแม่น้ำสายลดลงจากเดิมประมาณ 50 เซนติเมตร พื้นที่วิกฤติ ได้แก่ ชุมชนเกาะทราย ซ.7, ชุมชนไม้ลุงขน, ชุมชนเกาะสวรรค์ ซ.4,5,6 ระดับน้ำลดลง บางจุดยังมีน้ำท่วมขังแต่สามารถเดินเท้าผ่านได้ ยังคงค้างตะกอนดินโคลนเป็นจำนวนมาก สามารถลำเลียงน้ำ/อาหาร และเคลื่อนย้ายประชาชนโดยใช้รถทหาร(FTS) ได้แล้ว ไม่ต้องใช้เรือ/ อำเภอแม่สายดำเนินการ Big Cleaning Day จุดที่น้ำลดลงแล้วตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 67 เป็นต้นมา
 
อ.ดอยหลวง จำนวน 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ต.หนองป่าก่อ หมู่ที่ 8 น้ำกัดเซาะถนนชำรุด ไม่สามารถสัญจรได้ อยู่ระหว่างซ่อมแซม
 
อ.เทิง จำนวน 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน (สถานการณ์คลี่คลาย อยู่ระหว่างการซ่อมแซม) ต.งิ้ว ม.7,18 น้ำล้นออกจากอ่างเก็บน้ำขอนซุง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตร ต.ปล้อง ม.2 น้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตร และต.ตับเต่า ม.8 เสาค้ำสะพานสะพานเบลีย์ชำรุด/ เวลาประมาณ 14.00 น. หมวดทางหลวงเทิง แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 2 และศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 1 (พิจิตร) เข้ามาดำเนินการซ่อมแซม หากไม่มีมีฝนตกคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 วัน (วันที่ 16 ก.ย. 67)
 
อ.เวียงแก่น จำนวน 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ต.ปอ ม.2 น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย
 
การให้ความช่วยเหลือ
– กองทัพเรือสนับสนุนเรือและยุทโธปกรณ์ เครื่องมือเร่งดำเนินการติดตั้งเคลื่อนย้ายเรือผลักดันน้ำ JET จำนวน 10 ลำ ยกจากเครนวางตามแนวลำน้ำอิง ประสิทธิภาพการไหลได้ วันละ 1 ล้านลูกบาก์เมตร เริ่มดันน้ำได้วันที่11 ก.ย.67 เวลา15.00 น. ณ สะพานข้ามแม่น้ำอิง อ.เทิง จ.เชียงราย
– สภากาชาดไทย สนับสนุนครัวสนามเคลื่อนที่ 1 คัน จุดตั้งโรงครัว ณ วัดพระสิงห์ ถ.ท่าหลวง ต.เวียง
อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ประกอบเลี้ยงตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. 67 จะประกอบเลี้ยงถึงวันอังคารที่ 17 ก.ย. 67 (มื้อกลางวัน)
– มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ตั้งครัวพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และ อบจ.เชียงราย สนับสนุนรถครัวประกอบเลี้ยงอาหาร ณ จุดเดียวกัน บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ตะเคียนคู่) ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. 67 และสนับสนุนถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 3,500 ถุง ถุงยังชีพสำหรับพระภิกษุสงฆ์ 105 ถุง จะประกอบเลี้ยงถึงวันอังคารที่ 17 ก.ย. 67 (มื้อกลางวัน)
 
– กองทัพเรือ/หน่วยซีล สนับสนุน เรือ 9 ลำ รถบรรทุก 4 คัน ถุงยังชีพ 1,000 ชุด (ของ 918 150 ชุด) กำลังพล 50 นาย
– ฮ.ปภ.32 สนับสนุนภารกิจขนย้ายผู้ประสบภัย ลำเลียงน้ำและอาหารส่งมอบให้แก่ผู้ประสบภัย ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอแม่ฟ้าหลวง
– ฮ.กรมฝนหลวงและการบินเกษตร/ฮ.ทอ./ ฮ.ตชด. 327/ ฮ.ทส. ปฏิบัติภารกิจลำเลียงน้ำและอาหาร อำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอแม่ฟ้าหลวง
– ศูนย์ ปภ.เขต 15 เชียงราย /เขต 1 ปทุมธานี/ เขต 2 สุพรรณบุรี /เขต 3 ปราจีนบุรี/ เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์/ เขต 8 กำแพงเพชร /เขต 9 พิษณุโลก /เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 16 ชัยนาท สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยด้านปฏิบัติการ (อุทกภัย) และกำลังพล / วันที่ 15 ก.ย. 67 สนับสนุน Big Cleaning Day สูบน้ำท่วมขัง ลำเลียงน้ำและอาหารให้แก่ผู้ประสบภัย และศูนย์ ปภ. เขต 15 เชียงราย สนับสนุนชุดปฏิบัติการ ERT ภารกิจวาง Big Bag จุดแนวกระสอบทรายชำรุดบริเวณจุดสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 ไทย – เมียนมา
 
– เทศบาลนครเชียงราย จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทน.เชียงราย ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ ปัจจุบัน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ จุดโรงเรียนเทศบาล 8 บ้านใหม่ และจุดโรงเรียน อบจ. เชียงราย โดยมีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ เยียวยาจิตใจ แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์
– ศูนย์พักพิง อ.แม่สาย ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ ปัจจุบัน 17 แห่ง รวมทั้งสิ้น 1,343 ราย (โดยเป็นศูนย์พักพิงฯ ที่มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการ จำนวน 7 ศูนย์)
ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลแม่สาย จำนวน 53 ราย* (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.สต.เชียงแสน/ รพ.สต.ฮ่องแฮ่/ รพ.สต.บ้านด้าย)
ศูนย์พักพิงวัดพรหมวิหาร จำนวน 341 ราย* (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.แม่สาย, ทีม MCATT,
 
รพ.ดอยหลวง, รพ.ค่ายเม็งรายมหาราช)
ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลแม่สายมิตรภาพ จำนวน 16 ราย* (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.สต.แม่สาย)
 
ศูนย์พักพิงวัดน้ำจำ จำนวน 61 ราย* (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.สต.โป่งผา)
ศูนย์พักพิง รพ.สต.เกาะช้าง จำนวน 56 ราย* (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.สต.เกาะช้าง)
 
ศูนย์พักพิงวัดมงคลธรรมกายาราม จำนวน 14 ราย* (ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.สต.โป่งงาม และ รพ.สต.บ้านถ้ำ)
 
ศูนย์พักพิงวัดเจติยาราม*(ทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ในการดูแล ได้แก่ รพ.สต.ศรีเมืองชุม)
– ศูนย์พักพิงวัดป่าซางงาม จำนวน 150 ราย
– ศูนย์พักพิงวัดป่าแดง จำนวน 80 ราย
– ศูนย์พักพิงบ้านป่าแดง จำนวน 70 ราย
– ศูนย์พักพิงโบสถ์คริสต์ จำนวน 40 ราย
– ศูนย์พักพิงบ้านสันหลวงใต้ จำนวน 50 ราย
– ศูนย์พักพิงวัดสันหลวง จำนวน 48 ราย
– ศูนย์พักพิงวัดหิรัญญาวาส จำนวน 60 ราย
– ศูนย์พักพิงวัดสันธาตุ จำนวน 83 ราย
– ศูนย์พักพิงหอประชุม อบต.โป่งผา จำนวน 61 ราย
– ศูนย์พักพิงวัดถ้ำผาจม จำนวน 160 ราย
 
– นพค.31 /นพค.32/นพค.34 สนับสนุนกำลังพล รถครัวสนาม และรถสุขาเคลื่อนที่
– มูลนิธิสมาคมกู้ชีพกู้ภัย อาสาสมัคร จิตอาสาภาคประชาชน ร้านค้า/ผู้ประกอบการ สนับสนุนปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย ให้ที่พักพิงชั่วคราว มอบอาหารปรุงสำเร็จ และถุงยังชีพ
 
– กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ณ ห้องประชุม 1 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Webex) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม และนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมจังหวัดเชียงราย
 
– จิตอาสาราชทัณฑ์ (จอส.รท.) จัดส่งเจ้าหน้าที่และนักโทษเด็ดขาดหรือผู้ต้องกักขังที่ได้รับอนุมัติจ่ายออกทำงานสาธารณะหรือได้รับอนุญาตให้ออกทำงานนอกเรือนจำ สนับสนุนภารกิจลำเลียงน้ำและอาหาร รวมทั้งร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day รวมทั้งสิ้น 35 นาย
 
การอำนวยการ/สั่งการ
จังหวัดเชียงราย กำหนด Big Cleaning Day ในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย ดังนี้ วันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย. 2567 Kick Off ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงราย (จุดที่ 1) และบริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช (จุดที่ 2) ระหว่างวันที่ 16 – 18 ก.ย. 67 กำหนดแผนปฏิบัติการทำความสะอาดพื้นที่เมืองเชียงราย โดยกำหนดโซนดำเนินการเป็น 4 โซน ดังนี้ โซนที่ 1 ได้แก่ ชุมชนร่องเสือเต้น ชุมชนบ้านใหม่ หากแล้วเสร็จดำเนินการต่อในพื้นที่ชุมชนสันตาลเหลือง ชุมชนสันต้นเปา และชุมชนป่าตึงริมกก โซนที่ 2 ได้แก่ ชุมชนป่าแดง ชุมชนฝั่งหมิ่น 
 
หากแล้วเสร็จดำเนินการต่อในพื้นที่ชุมชนรั้วเหล็กใต้, ชุมชนรั้วเหล็กเหนือ ชุมชนกกโท้งใต้ และชุมชนกองยาว โซนที่ 3 ได้แก่ ชุมชนน้ำลัด หากแล้วเสร็จดำเนินการต่อในพื้นที่ชุมชนเกาะลอย ชุมชนป่างิ้ว ชุมชนเทิดพระเกียรติ ชุมชนราชเดชดารง ชุมชนทวีรัตน์ ชุมชนบ้านไร่ ชุมชนฮ่องลี่ และชุมชนดอยทอง โซนที่ 4 ได้แก่ ชุมชนแควหวาย ชุมชนมุสลิมกกโท้ง หากแล้วเสร็จดำเนินการต่อในพื้นที่ ชุมชนบ้านไร่ ชุมชนเกาะทอง ชุมชนริมน้ำกก ชุมชน ชุมชนวังดิน และชุมชนร่องปลาค้าว) แผนปฏิบัติการลำเลียงน้ำและอาหาร (อาหารแห้ง) สำหรับพื้นที่ถูกตัดขาดเส้นทางโดยสิ้นเชิง บ้านจะคือ หมู่ที่ 10 ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย ให้อำเภอเมืองเชียงรายสำรวจหย่อมบ้านที่ยังคงมีความต้องการ และร้องขอผ่านศูนย์บัญชาการฯ โดยให้อำเภอเมืองเชียงรายลำเลียงเสบียงไปส่งยังตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย 
 
เพื่อใช้รถเดินทางต่อไปยังบ้านจะคือ/ บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร บ้านอาดี่ บ้านแคววัวดำ ต.แม่ยาว อ.มืองชร. และบ้านจะเด้อ ต.ดอยฮาง อยู่ระหว่างเปิดใช้เส้นทางและดำเนินการเรียบร้อยแล้วเป็นบางจุด ให้ใช้การสัญจรทางบกในการลำเลียงเป็นหลัก/ สำหรับพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง ได้มีการกระจายเสบียงไปก่อนล่วงหน้านี้แล้ว คาดว่าเพียงพอและทั่วถึง หากมีการร้องขอเรื่องน้ำและอาหารเร่งด่วนฉุกเฉิน จำเป็นต้องใช้อากาศยาน มอบให้ ตชด.327 รับประสานการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่ที่ถูกตัดขาดเส้นทางโดยสิ้นเชิงนั้น ให้เจ้าของสายทางและหน่วยงานสนับสนุนดำเนินการเร่งรัดเปิดใช้เส้นทางโดยเร็วที่สุด
 
การปฏิบัติการทางอากาศ ให้ใช้กรณีฉุกเฉินเร่งด่วน เช่น การลำเลียงผู้ป่วยวิกฤติ สำหรับการขนส่งน้ำและอาหารพิจารณาเป็นรายกรณีเนื่องจากจัดสรรลงไปอย่างเพียงพอและทั่วถึงแล้ว
 
ในระยะนี้เป็นช่วงฟื้นฟูบูรณะ และ Big Cleaning Day ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม มอบหมาย สนง.ปภ.จ.เชียงราย จัดสรรสิ่งของและอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ได้รับบริจาคกระจายลงไปทั่วทุกจุด อปท.ที่ไม่ได้ประสบสาธารณภัยรวมทั้งหน่วยงานที่มีรถน้ำให้สนับสนุนภารกิจจนกว่าจะแล้วเสร็จ ให้ตำรวจสอดส่องและรักษาความปลอดภัยให้กับบ้านและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อป้องกันโจรลักขโมย ด้านเกษตรให้เร่งรัดการสำรวจความเสียหาย และจัดประชุม ก.ช.ภ.อ. และ ก.ช.ภ.จ. ต่อไป
 
แนวโน้มสถานการณ์
สถานการณ์อยู่ในระดับคลี่คลาย-เฝ้าระวัง ไม่มีฝนตก ระดับน้ำสาย/น้ำกกลดลง/น้ำโขง แนวโน้มลดลง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้
 
แจ้งเตือนทุกอำเภอเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากน้ำล้นตลิ่งอย่างต่อต่อเนื่อง เตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือทันที ตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อได้รับการร้องขอ และเตรียมการทำความสะอาดพื้นที่ประสบภัย สำหรับ อปท. ที่ไม่ได้ประสบภัยให้สนับสนุนภารกิจ เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

อบจ.เชียงราย เร่งช่วยเหลือน้ำท่วม บ้านปางลาวและบ้านฟาร์มสัมพันธกิจ

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 16.30 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) พร้อมด้วยนายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัด อบจ.เชียงราย และสิบเอกวิมล รู้ทำนอง ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และงบประมาณ อบจ.เชียงราย รวมถึงบุคลากร อบจ.เชียงราย และน้องๆ จิตอาสาจากศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย ได้ลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจและมอบความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา

ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบหลักๆ ในครั้งนี้เป็นชุมชนบ้านปางลาว ตำบลบ้านดู่ และบ้านฟาร์มสัมพันธกิจ ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย หลังจากที่น้ำในแม่น้ำกกได้ล้นตลิ่งและไหลเข้าสู่หมู่บ้าน ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ประสบความเดือดร้อนอย่างหนัก บ้านเรือนและทรัพย์สินได้รับความเสียหายอย่างมาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของทัน ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินและการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่

เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ และคณะ ได้ส่งมอบน้ำดื่มและอาหารที่ได้รับบริจาคจากผู้ใจบุญ รวมถึงสิ่งของจำเป็นอื่นๆ เพื่อช่วยให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบสามารถดำรงชีวิตได้ในระหว่างการฟื้นฟูชุมชน โดยอาหารและน้ำดื่มเหล่านี้ถูกนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยทุกครัวเรือนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก ทั้งบ้านปางลาวและบ้านฟาร์มสัมพันธกิจ

นอกจากการมอบสิ่งของยังชีพ นางอทิตาธร และคณะยังได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ความเสียหายและติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เพื่อให้การฟื้นฟูชุมชนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการช่วยเหลือที่ทันท่วงที เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำในกรณีที่มีฝนตกหนักเพิ่มขึ้น

จากการประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้น พบว่า น้ำในพื้นที่เริ่มลดระดับลงบ้างแล้ว แต่ยังคงมีน้ำขังในบางส่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทาง อบจ.เชียงราย ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระดมความช่วยเหลือด้านเครื่องจักรในการระบายน้ำและทำความสะอาดพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานเชิงรุกขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง นอกจากนี้ ยังได้มีการวางแผนร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและกลุ่มจิตอาสาในการฟื้นฟูสภาพพื้นที่และจัดการปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากอุทกภัย รวมถึงการสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมในระยะยาว

นางอทิตาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย จะยังคงติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนในด้านการจัดหาน้ำสะอาด อาหาร และการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพานที่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ ทาง อบจ.เชียงราย ยังได้ร่วมมือกับชุมชนและองค์กรภาคเอกชนในการวางแผนระยะยาวเพื่อป้องกันน้ำท่วมและเพิ่มความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติในอนาคต

สำหรับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและยังคงต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้จากหน่วยงานท้องถิ่นที่อยู่ใกล้เคียงหรือองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เพื่อรับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่เชียงราย สั่งการเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม แม่สายยังวิกฤต

 

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 เวลา 08.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในเขตอำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยในเขตเทศบาลนครเชียงราย ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว ถือเป็นข่าวดีสำหรับชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ บริเวณถนนพหลโยธินช่วงห้าแยกพญามังราย ที่เคยมีน้ำท่วมสูงเมื่อวานนี้ ล่าสุด ระดับน้ำลดลงไปกว่า 1 เมตร อย่างไรก็ตาม ถนนบริเวณรอบๆ ยังคงมีโคลนและซากรถที่ถูกน้ำพัดพามากีดขวาง ส่งผลให้ยังไม่สามารถสัญจรผ่านได้สะดวก แต่สถานการณ์โดยรวมดีขึ้นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ได้เริ่มเข้าพื้นที่ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยว เช่น พื้นที่ตรอกซอกซอยบางจุด

สำหรับพื้นที่วัดร่องเสือเต้น ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของประชาชนจำนวนมาก ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายและเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ได้เข้าไปช่วยเหลือจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งจำเป็นต่างๆ ให้ประชาชนแล้ว

นายสุทธิพงษ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์บริเวณสะพานพญาเม็งราย ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมขังในระดับที่สูงอยู่ รถเล็กยังไม่สามารถสัญจรผ่านได้สะดวก และหากไม่มีฝนตกลงมาอีก ระดับน้ำจะลดลงอย่างต่อเนื่อง และสามารถใช้งานเส้นทางได้ตามปกติในอีก 1-2 วัน

ในส่วนของอำเภอแม่สาย ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้รับรายงานว่าระดับน้ำในพื้นที่ลดลง แต่ระดับน้ำในแม่น้ำแม่สายยังคงสูงอยู่ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนัก จึงยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในย่านตลาดสายลมจอย ที่ยังคงมีน้ำท่วมและกระแสน้ำไหลเชี่ยว ทำให้การเข้าถึงพื้นที่ยังเป็นไปได้ยาก

นายสุทธิพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ภายใต้การนำของนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ทำงานอย่างเต็มที่ร่วมกับทีมงานจากหลายฝ่าย ทั้งราชการ สมาคม มูลนิธิ และหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ในขณะเดียวกัน มีการดำเนินการทำความสะอาดและฟื้นฟูพื้นที่ที่น้ำลดลงแล้วอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการจัดการกับสิ่งกีดขวางที่ปิดกั้นเส้นทางน้ำ

สำหรับการเดินทางภายในจังหวัดเชียงราย เส้นทางจากจังหวัดพะเยาเข้าสู่จังหวัดเชียงราย ผ่านอำเภอพาน สามารถใช้ได้ตามปกติแล้ว ส่วนเส้นทางภายในเทศบาลนครเชียงราย ยังคงต้องรอการฟื้นฟูให้พร้อมใช้งาน ขณะที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว

ในช่วงท้าย นายสุทธิพงษ์ได้ให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งขอให้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากมีความต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงรายหมายเลข 1567

ในเวลา 09.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้เดินทางไปยังศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย และรับมอบรองเท้าบูทจากนายจักรภัทร แสนภูธร หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคเหนือ เพจอีจัน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงมหาดไทย 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ประชุมสถานการณ์น้ำท่วมเชียงรายถือว่าหนักที่สุดในรอบ 80 ปี

 

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมในเขตชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ “ยางิ” ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 80 ปีในพื้นที่ชายแดน โดยน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชายแดนแม่สาย รวมถึงพื้นที่ตลาดสายลมจอย และบ้านเรือนประชาชนเป็นบริเวณกว้าง

นายสุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้ประสานงานช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งนำเครื่องมือและยุทโธปกรณ์ช่วยเหลือเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีปัญหาเรื่องกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากส่งผลให้การเคลื่อนย้ายประชาชนที่ติดค้างตามอาคารต่างๆ เป็นไปอย่างลำบาก แต่จนถึงขณะนี้สามารถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่อันตรายได้แล้วประมาณ 80% โดยประชาชนบางส่วนถูกย้ายไปอยู่ในวัดพรหมวิหาร และโรงแรมต่างๆ ที่ถูกใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว

นอกจากนี้ นายสุทธิพงษ์ยังกล่าวถึงการเตรียมการฟื้นฟูว่า มีการจัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มเพียงพอเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แม้บางพื้นที่จะยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง แต่สถานการณ์โดยรวมเริ่มคลี่คลายเนื่องจากมีฝนตกลงมาน้อยลงและระดับน้ำเริ่มลดลง ทั้งนี้คาดว่าหากไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามา ภายใน 5 วันข้างหน้าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ในส่วนของระบบเตือนภัยน้ำท่วม นายสุทธิพงษ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีการแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอพยพออกจากจุดอันตราย แต่ประชาชนบางส่วนไม่สามารถคาดการณ์ความรุนแรงของน้ำท่วมได้เนื่องจากเคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมมาแล้วหลายครั้งในปีนี้ แต่ครั้งนี้น้ำมาแรงและพนังกั้นน้ำพังทำให้เกิดผลกระทบมากกว่าครั้งก่อน

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้เฮลิคอปเตอร์จำนวน 3 ลำเข้าบินตรวจตราและนำเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม พร้อมทั้งกำลังดำเนินการฟื้นฟูและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ รวมถึงการประเมินความเสียหายและเตรียมมาตรการป้องกันน้ำท่วมในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

พายุ “ยางิ” ทำเชียงรายน้ำท่วมหนัก แม่สาย-เชียงของ ได้รับผลกระทบ

 

เมื่อวันที่ 9-10 กันยายน 2567 จังหวัดเชียงรายเผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากอิทธิพลของพายุ “ยางิ” ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอแม่สายและอำเภอเชียงของ โดยบ้านเรือนประชาชนและสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก

 

ความเสียหายจากน้ำท่วมในอำเภอแม่สาย

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า อำเภอแม่สายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยเฉพาะในพื้นที่ ตลาดสายลมจอย ซึ่งเป็นจุดขายสินค้าชายแดนไทย-เมียนมา น้ำจากแม่น้ำสายได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ทำให้พ่อค้าแม่ค้าไม่สามารถเก็บสินค้าขึ้นหนีน้ำได้ทัน ส่งผลให้สินค้าหลายร้านเสียหายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้น้ำยังพัดพาขอนไม้และเศษวัสดุลงมาจากต้นน้ำในประเทศเมียนมา ซึ่งคาดว่าในพื้นที่ป่าต้นน้ำมีฝนตกหนักเช่นกัน

นายพุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย พร้อมฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน โดยมีการแจ้งเตือนประชาชนให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและอยู่ในจุดปลอดภัย

 

น้ำท่วมเชียงของ พื้นที่หมู่บ้านได้รับผลกระทบ

อีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย คือ อำเภอเชียงของ โดยเฉพาะในตำบลสถาน น้ำได้เอ่อล้นตลิ่งและท่วมในพื้นที่หมู่ 2, 5, 12 ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนกว่า 50 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม เจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลสถานได้เร่งใช้เครื่องจักรเปิดทางน้ำและระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่เริ่มลดลง แต่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

เตรียมความพร้อมรับมือฝนตกหนักและน้ำท่วมระลอกใหม่

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ระบุเพิ่มเติมว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำและฝนตกในพื้นที่ มีแนวโน้มว่าอาจมีฝนตกหนักและมวลน้ำระลอกใหม่เข้าท่วมเพิ่มเติมในช่วง 2-3 วันนี้ ทางจังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศเตือนประชาชนให้ระมัดระวังและเตรียมการรับมืออย่างทันท่วงที

สำหรับพื้นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น น้ำตกและถ้ำ หากพบว่ามีฝนตกหนักและเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทำการปิดกั้นพื้นที่และแจ้งเตือนประชาชนอย่างชัดเจน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

 

การช่วยเหลือเบื้องต้นและมาตรการป้องกันเพิ่มเติม

ในการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ทางจังหวัดเชียงรายได้ประสานกับหลายหน่วยงานในการจัดหาอาหาร น้ำดื่มสะอาด เครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย นอกจากนี้ ยังได้เร่งซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหาย และอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้เตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่วในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง และขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมและการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมตัวรับมือและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนนิรภัย 1784 หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพื่อรับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

เชียงราย จัดตั้งกองทุนฯ ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัย สูงสุด 150,000 บาท

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 6 กันยายน 2567 ณ ห้องจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการแถลงข่าว การช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเรียงรายฯ โดยมี นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองรู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย และนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอเทิง เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว โดยมีนางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้ววยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมการแถลงข่าวในครั้งนี้

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้งกองทุนฯ ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ผ่านบัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขาเชียงราย เลขที่บัญชี 504-3-23-732-5 ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ.2567 โดยยอดบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า ซึ่งการจัดตั้งกองทุนในครั้งนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะบ้านที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย สำหรับการช่วยเหลือด้านสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก ก็ได้มีส่วนราชการ ภาคีเครือข่าย ภาคเอกชน ภาคสังคมสงเคราะห์ เหล่ากาชาด ในการแจกจ่ายสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการดำรงชีพพื้นฐาน ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการช่วยเหลือ

นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์จังหวัดเชียงราย ซึ่งตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค. 67 เป็นต้นมา เกิดอุทกภัยและดินถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในระหว่างวันที่ 14 ส.ค. – 5 ก.ย. 67 จำนวน 18 อำเภอ 106 ตำบล 925 หมู่บ้าน และบางส่วนในเขตเทศบาลนครเชียงราย จำนวน 27 ชุมชน ราษฎรได้รับผลกระทบ 34,131 ครัวเรือน 127,809 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 31 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2,861 หลัง ซึ่งเกิดจากน้ำป่าและดินสไลด์ สำหรับภาคการเกษตรได้รับผลกระทบภาพรวม 189,275 ไร่ ส่วนใหญ่ได้แก่ นาข้าว ไร่ข้าวโพด ไร่มัน พืชสวน พืชยืนต้น ด้านปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ 356,000 ตัว ด้านประมง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งบ่อปลาและบ่อกุ้ง รวม 4,137 ไร่ ถนนได้รับความเสียหาย 499 จุด สะพานและคอสะพาน 13 แห่ง ฝาย 69 แห่ง อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 3 แห่ง ศาสนสถานและวัด 34 แห่ง สถานศึกษาได้รับผลกระทบ 30 แห่ง สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมี 4 อำเภอได้แก่อำเภอเทิง อำเภอเวียงแก่น อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอขุนตาล ซึ่งทั้ง 4 อำเภอนอกจากได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากแล้ว ยังได้รับผลกระทบจากน้ำอิงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตรบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำของลำน้ำอิงด้วย

นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอเทิง ได้กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม จนถึงปัจจุบันนี้ อำเภอเทิงได้เกิดอุทกภัยขึ้น ได้รับผลกระทบ 10 ตำบล 156 หมู่บ้าน 713 ครัวเรือน มีผู้อพยพมายังศูนย์พักพิงรวมกว่า 105 ราย ซึ่งขณะนี้ทุกคนได้กลับบ้านแล้ว บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 7 หลังคาเรือน แต่ยังถือว่าเป็นเรื่องดีที่สถานการณ์เกิดในช่วงเวลากลางวัน ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่ 1 รายเท่านั้น

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงกรณีการเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยจำนวน 2 ราย คือ รายที่ 1 นายสุรชัย อายุ 56 ปี เป็นราษฎร ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ถูกน้ำป่าพัดร่างขณะขี่จักรยานยนต์เข้าไปทำงานในไร่ ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ องค์การบริหารส่วนตำบลปอ ได้มอบค่าจัดการศพและเงินสงเคราะห์ครอบครัว เป็นเงิน 59,400 บาท และสำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงราย มอบเงินสงเคราะห์กรณีผู้ประกันตน มาตรา 33 เสียชีวิตให้แก่ทายาทนายสุรชัยฯ เป็นเงิน 87,353.97 บาท และ คปภ. เยียวยาให้อีก 35,000 บาท รายที่ 2 นายชวฤทธิ์ อายุ 49 ปี เป็นราษฎรบ้านป่าตาลแดง หมู่ที่ 3 ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล จ.เชียงราย ถูกน้ำป่าพัดร่างสูญหายตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. 67 เวลา 09.00 น. พบร่างในวันที่ 24 ส.ค. 67 โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้มอบค่าจัดการศพ 29,700 บาท และสำหรับพี่น้องประชาชนที่บ้านเรือนเสียหาย จะได้รับเงินเยียวยาตามระเบียบหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2563 หลักเกณฑ์ ค่าซ่อมแซมที่พักอาศัยเนื่องจากเสียหายทั้งหลังไม่เกิน 49,500 บาท หลังที่เสียหายบางส่วนเท่าที่เสียหายจริงไม่เกิน 49,500 บาท  
.
ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวถึงหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือ ของกองทุนฯ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งบ้านที่ได้รับถวามเสียหายทั้งหลัง และมีการประเมินความเสียหายเกินกว่า 1 ล้านบาท  จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 150,000 บาท ความเสียหาย 700,000 – 1 ล้านบาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 125,000 บาท ความเสียหาย 500,000 – 700,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 100,000 บาท ความเสียหาย 300,000 – 500,000 บาท  จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ  75,000 บาท ความเสียหายตำกว่า 300,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 50,000 บาท สำหรับที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหายบางส่วน และมีการประเมินความเสียหายเกิน 500,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ 75,000 บาท ความเสียหาย 300,000 – 500,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ร้อยละ 10 ของประมาณการความเสียหายแต่ไม่เกิน 50,000 บาท ความเสียหาย 100,000 – 300,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนฯ ร้อยละ 5 ของประมาณการความเสียหายแต่ไม่เกิน 15,000 บาท หากความเสียหายต่ำกว่า 100,000 บาท จะใช้งบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเยียวยา
.
นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การเยียวยาของทาง กองทุนฯ จะสมทบกับการเยียวยาของราชการ เพื่อให้ผู้ประสบภัยกลับมาลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้ง ด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาวเชียงราย และในวันที่ 7-9 กันยายน นี้ ก็ต้องเฝ้าระวังเรื่องของผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ซึ่งทางจังหวัดเชียงราย ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดเชียงราย ที่ภายในหอประชุมคชสาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เราต้องร่วมกันเตรียมความพร้อม ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เพราะหากเกิดเหตุภัยพิบัติขึ้นอีก เราต้องทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทางจังหวัดได้สั่งการให้ทุกอำเภอจัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เราทุกคนต้องดูแลซึ่งกันและกัน เพราะเราชาวเชียงรายจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างเด็ดขาด
จากนั้น ผู้เข้าร่วมแถลงข่าวได้รับชมคลิปวีดีโอสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือในจังหวัดเชียงราย และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้รับมอบเงินและสิ่งของจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร้านค้า เข้าสู่กองทุนฯ เพื่อนำไปช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News