Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

สมอ. จับมือ ปคบ. ทำลายสินค้า ไม่ได้มาตรฐาน กว่า 66 ล้านบาท

สมอ. จับมือ ปคบ. ทำลายสินค้า ไม่ได้มาตรฐาน กว่า 66 ล้านบาท

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดเป็นนโยบายสำคัญเพื่อนำไปปฏิบัติ ซึ่งได้ดำเนินการตรวจควบคุม และกำกับติดตามการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง หากไม่เป็นไปตามมาตรฐานให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที จากรายงานของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พบว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 ถึงเดือนมีนาคม 2566 สมอ.ได้ยึดอายัดสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานทั้งที่จำหน่ายในท้องตลาดและทางออนไลน์ เช่น เหล็กโครงสร้าง เหล็กเส้น ยางล้อสูบลม ปูนซิเมนต์ กระเบื้องเซรามิก เครื่องสุขภัณฑ์ ทินเนอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟฟ้า หมวกกันน็อก และภาชนะเมลามีน เป็นต้น คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 447,900,344 บาท โดยสินค้าที่มีการยึดอายัดสูงสุดอันดับหนึ่ง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าดูแลผิวและผม มูลค่า 191,152,000 บาท รองลงมา ได้แก่ ยางล้อแบบสูบลม มูลค่า 60,089,600 บาท และบริภัณฑ์ส่องสว่าง มูลค่า 48,035,800 บาท

ด้าน นายบรรจง  สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า  ในปีงบประมาณ 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 – พฤษภาคม 2566 สมอ. ได้ทำลายสินค้าไม่ได้มาตรฐานให้สิ้นสภาพตามคำสั่ง กมอ. ไปแล้วอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่ารวม 58,440,334 บาท  สำหรับการทำลายสินค้าไม่ได้มาตรฐานในครั้งนี้ เป็นการนำของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้ว ที่ สมอ. และ ปคบ. ได้ลงพื้นที่ตรวจจับและยึดอายัดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานทั้งที่จำหน่ายในท้องตลาดและทางออนไลน์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 ถึงเดือนมีนาคม 2566 จำนวน 60,000 ชิ้น มูลค่า 66,241,228 บาท ได้แก่ พาวเวอร์แบงค์ ของเล่น ไฟแช็กก๊าซ เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับดูแลผิวและผม เตารีด ลำโพงพร้อมเครื่องขยาย เตาย่างเตาปิ้ง เตาไมโครเวฟ พัดลมไฟฟ้า หม้อหุงข้าวไฟฟ้า หม้อสุกี้ เต้าเสียบเต้ารับ ปลั๊กพ่วง กระทะไฟฟ้า ฝักบัวอาบน้ำ ก๊อกน้ำ หมวกกันน็อก  ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์  หัวนมยาง  ของเล่น  ฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหาร  เซลส์และแบตเตอรี่  เป็นต้น ซึ่งของกลางดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการทำลายให้สิ้นสภาพด้วยวิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 และประกาศคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม  เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าเหล่านี้กลับไปหมุนเวียนในท้องตลาดหรือนำกลับมาใช้ได้อีก 

สำหรับกระบวนการทำลายสินค้าไม่ได้มาตรฐาน สมอ. ได้รับความร่วมมือจาก บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด โรงไฟฟ้ามาบตาพุด อีโค่-เอ็นเนอร์ยี แพลนท์ ซึ่งเป็นโรงกำจัดกากอุตสาหกรรมและหน่วยผลิตไฟฟ้า ที่สามารถรองรับขยะอุตสาหกรรมได้หลากหลายประเภทและหลายขนาด ทั้งที่เป็นอันตรายและไม่เป็นอันตราย โดยกระบวนการดำเนินงานทุกขั้นตอนเป็นแบบระบบปิด มีระบบการควบคุมมลพิษ และของเสียตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่การรับขยะอุตสาหกรรมจากผู้ประกอบการ การขนส่งไปยังจุดคัดแยกประเภทเพื่อเตรียมกำจัด การเข้าสู่กระบวนการกำจัดด้วยเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่น ร่วมกับแอชเมลติ้ง (Gasification with Ash Melting) ซึ่งเศษวัสดุที่ได้จากการเผาไหม้ เช่น อะลูมิเนียม เหล็ก เถ้าลอย ยังนำกลับไปใช้ใหม่ได้ ส่วนวัสดุที่เผาไหม้ไม่ได้ (Incombustible) สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบแทนการก่อสร้างถนนได้  โดยกระบวนการนี้ทำให้    ไม่เหลือขยะอุตสาหกรรมที่ต้องกำจัดเพิ่ม นอกจากวัสดุที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน

“ขอฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการ ทั้งผู้ทำ ผู้นำเข้า และผู้จำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานว่า อย่าได้พยายามฝ่าฝืนกฎหมาย เพราะนอกจากจะถูกดำเนินคดีแล้ว ยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจากการทำลายสินค้าอีกด้วย สำหรับประชาชนผู้ซื้อสินค้า ก็ขอให้ซื้อสินค้าที่มีเครื่องหมายมาตรฐาน มอก. คู่กับ QR Code ที่ตัวสินค้าซึ่งท่านสามารถสแกน  QR Code  เพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ได้รับใบอนุญาต และสามารถร้องเรียนมายัง สมอ. ได้ ในกรณีที่สินค้าไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ระบุไว้” เลขาธิการ สมอ. กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงอุตสาหกรรม

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

พช.เมืองเชียงราย ร่วมบุญผ้าป่าสามัคคี จัดซื้อที่ดินโคกหนองนาพัฒนาชุมชน

พช.เมืองเชียงราย ร่วมบุญผ้าป่าสามัคคี จัดซื้อที่ดินโคกหนองนาพัฒนาชุมชน

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น. คณะศรัทธาวัดพุทธอุทยาน(ดอยอินทรีย์) นำโดยพระอาจารย์ ดร.มหาน้อย พระธรรมทูตอินเดีย เนปาล และอาจารย์สมพงษ์ และคณะศรัทธาดอยอินทรีย์และชุมชนอารยะเกษตร ได้ร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคีซื้อที่ดินโคกหนองนา 15 ไร่ (โฉนด 18 ไร่) เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้พัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย เผยแผ่ให้ความรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ อันเป็นวิชาพลิกฟื้น ดิน น้ำ ป่า สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ คุณภาพชีวิต แนวทางสันติภาพของโลก ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยวันนี้มี พัฒนาการอำเภอเมืองเชียงราย และพัฒนากรตำบลดอยฮาง มาร่วมบุญ และเป็นสักขีพยาน พระจารย์วิบูลย์ ธัมมเตโช กล่าวว่า ผ้าป่ากองแรกในการเซ็นสัญญา และจะมีการทอดผ้าป่าในครั้งต่อๆไป ใช้เวลาไม่เกิน 3 ปี ก็จะจ่ายหมด จึงขออนุโมทนากับทุกคนมา ณ โอกาสนี้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สพอ.เมืองเชียงราย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

พช.เชียงราย เพิ่มทักษะ​โคกหนองนา โครงการ​เกษตรประณีตทฤษฎีใหม่อย่างยั่งยืน

พช.เชียงราย เพิ่มทักษะโคกหนองนา โครงการเกษตรประณีตทฤษฎีใหม่อย่างยั่งยืน

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม 2566 นายวิทยา ชุมภูคำ พัฒนาการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นายปรีชา ปวงคำ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน ติดตามให้กำลังครัวเรือนต้นแบบโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดเชียงราย ที่เข้าร่วมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการเกษตรประณีตทฤษฎีใหม่อย่างยั่งยืน ณ อาคารฝึกอบรม เกษตรทฤษฎีใหม่ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย

โดยมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาเกษตรกร ผู้ว่างงาน ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้มีความรู้ด้านการผลิตพืช สัตว์ และกระบวนการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร การเพิ่มมูลค่าผลผลิต ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการประกอบอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้
 
ในวันนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ ผ่านการสาธิตและฝึกปฏิบัติ ในหัวข้อ กิจกรรมโปรตีนในครัวเรือน “ไก่ไข่อารมณ์ดี” และ การขยายพันธุ์พืชเพื่อการค้า โดยการทำน้ำพริกนรกจากปลานิล และการแปรรูปเห็ดสวรรค์ ซึ่งผู้ผ่านการฝึกอบรมตามเกณฑ์ที่กำหนดจะได้รับสนับสนุนปัจจัยการผลิต รายละ 1,300 บาท
 
ในการนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย ได้สนับสนุนให้เครือข่ายโคกหนองนาพัฒนาชุมชน เข้าร่วมการฝึกอบรมตามโครงการดังกล่าว จำนวน 68 ราย เพื่อนำองค์ความรู้ไปใช้ในการดำเนินชีวิต และพัฒนาศูนย์เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา โมเดล” ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่คนในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
 
ทั้งนี้ โครงการเกษตรประณีตทฤษฎีใหม่อย่างยั่งยืน เป็นหนึ่งในกิจกรรมความร่วมมือตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือโครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่”โคก หนอง นา โมเดล” ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดเชียงราย ระหว่าง สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตรภาคเหนือ นายกสมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย ประธานเครือข่ายโคเนื้อล้านนาจังหวัดเชียงราย ประธานเครือข่าย โคก หนอง นา จังหวัดเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Cddchiangrai

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS NEWS UPDATE

ย้ำ ผู้มีสิทธิบัตรทอง (บัตร 30 บาท) สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาล ได้ 4 ครั้งต่อปี

ย้ำ ผู้มีสิทธิบัตรทอง (บัตร 30 บาท) สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาล ได้ 4 ครั้งต่อปี

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพประชาชนและการเข้าถึงบริการภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง ได้เพิ่มคุณภาพและบริการให้ผู้ถือบัตรทอง (บัตร 30 บาท) สามารถเข้ารับการรักษาได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้  เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการรักษาพยาบาล สามารถเปลี่ยนสิทธิรักษามีผลทันทีไม่ต้องรอ 15 วัน ผ่านแอปพลิเคชันของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. โดยเปลี่ยนได้ได้ง่าย ๆ 3 ช่องทางดังนี้
 
1 Application สปสช. เพียงดาวน์โหลดแอป สปสช. ดาวน์โหลดฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ทั้งระบบ Android และ iOS ระบบ Android https://play.google.com/store/apps/developer ระบบ OShttps://apps.apple.com/us/app/สปสช/id1111681040
2 Line Official Account สปสช.” add เป็นเพื่อน… เพียงสแกน QR Code หรือพิมพ์ค้นหาใช้ช่อง ID ว่า @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
3 ติดต่อด้วยตนเอง ดังนี้  กรณีต่างจังหวัด ได้แก่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต) สถานีอนามัย ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง โรงพยาบาลของรัฐ ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ชั้น 2 อาคารบี (ทิศตะวันตก) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ในวันเวลาราชการ หรือ โทรสายด่วน 1330
 
สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ดังนี้ – บัตรประจำตัวประชาชน – เด็กเล็กใช้สูติบัตร (ใบเกิด) คู่กับบัตรประจำตัวประชาชนผู้ปกครอง  เลือกสถานพยาบาล (หน่วยบริการ) หากไม่ตรงตามที่อยู่บัตรประชาชน ให้แสดงหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้ 1 หนังสือรับรองของเจ้าบ้าน 2 หนังสือรับรองของผู้นำชุมชน 3 หนังสือรับรองผู้ว่าจ้างหรือนายจ้าง 4 เอกสารหรือหลักฐานที่มีชื่อของผู้ประสงค์ลงทะเบียน เช่น ใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าที่พัก สัญญาเช่าที่พัก ฯลฯ
 
“ผู้มีสิทธิบัตรทอง (บัตร 30 บาท) หากย้ายที่พักอาศัย สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาล (หน่วยบริการ) ประจำตัวได้ 4 ครั้งต่อปี ใช้สิทธิรักษาได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รัฐบาลพร้อมดูแลสุขภาพของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม มุ่งมั่นยกระดับเพิ่มสิทธิการดูแลด้านสาธารณสุขไทยให้ครอบคลุมอย่างมีคุณภาพ” นางสาวรัชดา กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
FEATURED NEWS NEWS

นายกฯ ชมทีมเยาวชน รร. ดำรงราษฎร์สงเคราะห์ ทำผลงานยอดเยี่ยมในโครงการระดับโลก

นายกฯ ชมทีมเยาวชน รร. ดำรงราษฎร์สงเคราะห์ ทำผลงานยอดเยี่ยมในโครงการระดับโลก

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถึงผลการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมสำหรับเยาวชน ระดับโลก ในรายการ Regeneron International Science and Engineering Fair 2023 ระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2566 ที่ เมือง Dallas รัฐ Texas สหรัฐอเมริกา 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประกวดครั้งนี้ มีเยาวชนและนักเรียนเข้าร่วมการประกวดถึง 1600 คน จาก 63 ประเทศทั่วโลก โดยผลจากการประกวด มีทีมตัวแทนเยาวชนไทย ได้รับรางวัลในหลากหลายประเภท เช่น ทีมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้รับรางวัลสุดยอดนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ (Regeneron Young Scientist Awards) ซึ่งเป็นรางวัลที่สะท้อนถึงการทำงานอย่างจริงจังของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายของโลกอนาคต โดยใช้แนวคิดที่สร้างสรรค์แตกต่าง และรางวัล Grand Awards อันดับ 1 สาขาสัตวศาสตร์ ในโครงงาน“การเพิ่มอัตราการรอดของแมลงช้างปีกใสจากพฤติกรรมการฟักและการเลือกกินอาหาร (Innovation for Optimizing Lacewing Survivability)” นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล Grand Awards อันดับที่ 3 จากสาขาเดียวกันในโครงงาน “วิธีการยั่งยืนในการควบคุมปัญหาการเป็นศัตรูพืชของหนอนด้วงสาคู” (Approach to Control Red Palm Weevil Pests) อีกทั้ง โครงงานนี้ยังได้รับรางวัล Special Award อันดับที่ 2 จากหน่วยงาน U.S. Agency for International Development (USAID) ในสาขา Agriculture and Food Security

ทีมจากโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จ.เชียงราย ได้รับรางวัล Grand Awards อันดับที่ 2 สาขาสัตวศาสตร์ จากโครงการ “วิธีการใหม่ในการตรวจสอบการติดเชื้อโรคเพบริน (Pebrine Disease Detection Using Silkworm Phototaxis)” และ ทีมจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี ได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 2 สาขาวิทยาศาสตร์โลกและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ในโครงการ “การพัฒนานวัตกรรมซ่อมแซมป่าหลังเกิดไฟป่าเลียนแบบโครงสร้างของผลน้อยหน่าเครือ (A Novel Seed Delivery System for Effective Reforestation)” 

โดยในวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา นายอรรณพ จูจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ครู และตัวแทนนักเรียนโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ ให้การต้อนรับพร้อมมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีให้กับนายธนวิชญ์ น้ำใจดี, นายพณทรรศน์ ชัยประการ, นางสาวกัญญาริณทร์ ศรีวิชัย และนายเกียรติศักดิ์ อินราษฎร ครูที่ปรึกษา ณ อาคารผู้โดยสารชั้น 1 ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง หลังคว้ารางวัลใหญ่ 2nd Place Grand Award พร้อมเงินรางวัล $2000 ในการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม สำหรับเยาวชน ระดับโลก REGENERON ISEF 2023 จัดโดย Society for Science & the Public ณ เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2566
โครงงานที่ได้รับรางวัล
Project Title : Pebrine Disease Detection Using Silkworm Phototaxis (วิธีการใหม่ในการตรวจสอบการติดเชื้อโรคเพบริน)
Project ID : ANIM026T
Category : Animal Sciences (สาขาสัตวศาสตร์)
 
ผู้ทำโครงงาน : นายธนวิชญ์ น้ำใจดี, นายพณทรรศน์ ชัยประการ, นางสาวกัญญาริณทร์ ศรีวิชัย
ครูที่ปรึกษา : นายเกียรติศักดิ์ อินราษฎร
 
รายละเอียดโครงงาน : เราได้พัฒนาวิธีการใหม่ในการตรวจโรค Pebrine ในตัวอ่อนหนอนไหม ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อที่สร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับอุตสาหกรรมเลี้ยงไหม วิธีการใหม่นี้ใช้พฤติกรรมการเคลื่อนที่หาแสงมีประสิทธิภาพสูงในการตรวจโรคในตัวอ่อนทั้งหมดในกลุ่มและแยกตัวอ่อนติดเชื้อออกจากกลุ่มได้ โดยไม่ต้องทำลายตัวอ่อนทั้งหมดต่างจากวิธีการตรวจสอบแบบสุ่มที่ใช้กันอยู่ซึ่งต้องทำในห้องปฏิบัติการโดยผู้เชี่ยวชาญ วิธีใหม่นี้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ตรวจสอบในฟาร์มได้ด้วยตนเอง
โดยโครงการนี้เป็นตัวแทนประเทศไทย ที่ได้รับคัดเลือกจากการประกวดในค่ายนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์แห่งชาติ ประจำปี 2565 (Thai Young Scientist Festival (TYSF)) ครั้งที่ 18 โดย สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

ทีมโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จ.ระยอง ได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 3 สาขาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ จากโครงงาน “การศึกษาแบบจำลองผลของสนามแม่เหล็กต่อพายุทรงหลายเหลี่ยมบนดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์โดยหลักความไม่เสถียรเชิงอุทกพลศาสตร์ (Study of Polygonal Cyclones on Jupiter and Saturn)”นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 4 สาขาชีววิทยาเชิงคำนวณและชีวสารสนเทศศาสตร์จากโครงการ “PROSynMOGN: การปรับปรุง Graph Neural Networks สำหรับโมเลกุลเพื่อทำนายการเสริมฤทธิ์ของยาคู่ผสมสำหรับรักษาโรคมะเร็งที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลการแสดงออกของโปรตีน”

ทีมจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 4 สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ปริวรรต (Translational Medical Science) จากโครงงาน ออร่า “ผู้ช่วยป้องกัน ชะลอ และฟื้นฟูข้อเสื่อม” (O-RA: Osteoarthritis Rehabilitation Assistant) นอกจากนี้ โครงการนี้ยังได้รับรางวัล Special Award อันดับที่ 1 จากหน่วยงาน : Sigma Xi, The Scientific Research Honor Society ในสาขา: Life Sciences Discipline 

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสามารถของทีมตัวแทนเยาวชนไทยที่แสดงศักยภาพ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับรางวัลจากหลายประเภทโครงงานในการประกวด และได้แสดงถึงศักยภาพทางความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเยาวชนไทย ให้เป็นที่ประจักษ์ในการแข่งขันระดับสากล ทั้งนี้ รัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพของเยาวชนไทย และขอบคุณที่นำความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย” นายอนุชาฯ กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS NEWS UPDATE

ภาครัฐจับมือผู้ประกอบการจัดมหกรรมใหญ่ “Job Expo Thailand 2023”

ภาครัฐจับมือผู้ประกอบการจัดมหกรรมใหญ่ “Job Expo Thailand 2023”

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ข้อมูลชี้วัดเกี่ยวกับภาคแรงงานได้ปรับตัวดีขึ้นโดยต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เปิดเผยว่าไตรมาส1/66 (ม.ค.-มี.ค.) ทั่วประเทศมีการจ้างงาน 39.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  ดีขึ้นทั้งในภาคเกษตร บริการ และอุตสาหกรรม
 
ส่วนผู้ว่างงานมีจำนวน 4.2 แสนคน หรือร้อยละ 1.05 ของผู้อยู่ในกำลังแรงงาน ลดลงเมื่อเทียบกับร้อยละ 1.53 ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่อัตราค่าจ้างโดยเฉลี่ย (อัตราค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นหักด้วยเงินเฟ้อ) เพิ่มขั้นร้อยละ 1.3 เฉพาะค่าจ้างแท้จริงภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 2.8% สะท้อนกำลังการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
 
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แม้สถานการณ์โดยรวมจะดีขึ้นแต่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องยังคงขับเคลื่อนแผนงานตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่เน้นย้ำว่าต้องสร้างโอกาสการมีงานทำ มีรายได้เพิ่มตามศักยภาพและความสามารถของประชาชนโดยต่อเนื่อง
 
ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 8-10 มิ.ย. 66 กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้จัดมหกรรมการจัดหางานครั้งใหญ่ระดับประเทศ “Job Expo Thailand 2023” ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา Hall EH 100 – 102 กรุงเทพฯ  โดยได้รวบรวมงานทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 500,000 อัตรา จากสถานประกอบการเกือบ 400 แห่ง ที่จะมีการเปิดรับพนักงานทุกช่วงวัย ทุกระดับวุฒิการศึกษาไว้ในงานเดียว
 
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รัฐบาลจึงขอเชิญชวนผู้ที่กำลังมองหางานและโอกาสใหม่ๆ เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาใหม่ ผู้ว่างงาน หรือทุกคนที่ต้องการมีงานทำมองหาโอกาสทางการชีพใหม่ๆ และภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน อาทิ การแนะแนวอาชีพ คำปรึกษาด้านอาชีพ การเตรียมความพร้อมเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้มีสูงขึ้น
 
มีกิจกรรมการพัฒนาคุณภาพแรงงานในกลุ่มเปราะบาง การให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้แก่ผู้ประกันตน ให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิผู้ประกันตนทุกมาตรา พร้อมเปิดรับสมัครผู้ประกันตนตามมาตรา 40 การให้ความรู้เกี่ยวกับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรงงาน ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับกฎหมายพื้นฐานสำหรับแรงงานด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงแรงงาน

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

สธ. หารือทวิภาคีความร่วมมือด้านสาธารณสุข ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 76

สธ. หารือทวิภาคีความร่วมมือด้านสาธารณสุข ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 76

Facebook
Twitter
Email
Print

 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้แทนไทยหารือทวิภาคีความร่วมมือด้านสาธารณสุข กับบังกลาเทศ มัลดีฟส์ และผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 76 เพื่อการพัฒนาทั้งด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ บุคลากรทางการแพทย์ การศึกษา วิจัย และการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพที่สำคัญของประเทศ

          เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ที่ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย นำคณะผู้บริหาร หารือทวิภาคีความร่วมมือด้านสาธารณสุขกับประเทศบังกลาเทศ มัลดีฟส์ และผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก สมัยที่ 76 โดยในการหารือกับ H.E. Mr. Zahid Maleque รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัวบังกลาเทศ เกี่ยวกับความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขไทยกับกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัวบังกลาเทศ ทางบังกลาเทศมีความสนใจพัฒนาความร่วมมือด้านเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ (Medical devices) นอกจากนี้ ยังขอให้ไทยสนับสนุน Mrs. Saima Wazed Hossain ผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แทน Dr. Poonam Khetrapal Singhที่จะหมดวาระในเดือนมกราคม 2567 ซึ่งนายอนุทินได้กล่าวยืนยันให้การสนับสนุน Mrs. Hossain พร้อมขอให้สนับสนุนการดำเนินงานด้านสาธารณสุขของไทย หากได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนต่อไปด้วย


          จากนั้นได้หารือกับ H.E. Mr. Ahmed Naseen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐมัลดีฟส์
ในการขยายความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขไทยกับกระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐมัลดีฟส์ โดยฝ่ายไทยยินดีพัฒนาความร่วมมือในประเด็นและสาขาที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านสาธารณสุขร่วมกัน เช่น การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข นักศึกษาแพทย์ ข้อมูลด้านสาธารณสุข การวิจัยร่วม และการศึกษาฝึกอบรมด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านงานอนามัยครอบครัว (Family health care) โดยจะได้หารือกันในรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมความร่วมมือต่อไป


          สำหรับการหารือกับ Dr. Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขไทยกับองค์การอนามัยโลก ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์การอนามัยโลกที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดำเนินงานภายใต้แผนยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การอนามัยโลก (WHO Country Cooperation Strategy : CCS) ซึ่งมุ่งเน้นการดำเนินงานที่มีผลกระทบสูงต่อการแก้ไขปัญหาสุขภาพที่สำคัญของประเทศ โดยระดมทุนทางสังคม ปัญญา


และงบประมาณจากองค์การอนามัยโลก กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจนทำให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายด้านสาธารณสุขระดับโลกและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ พร้อมทั้งได้เชิญผู้แทนระดับสูงจากองค์การอนามัยโลก เข้าร่วมการประชุมวิชาการนานาชาติรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี พ.ศ. 2567 (Prince Mahidol Award Conference: PMAC 2024) ในฐานะที่องค์การอนามัยโลกเป็นเจ้าภาพร่วมในการประชุมดังกล่าว และการประชุมวิชาการนานาชาติเพื่อการพัฒนาการศึกษาสำหรับบุคลากรด้านสุขภาพ (Global Health Professional Education Conference) ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และองค์การอนามัยโลกเป็นเจ้าภาพร่วม


          นอกจากนี้ คณะฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมคู่ขนาน เรื่อง “สามารถเชื่อมโยงระหว่างนโยบายการค้าและสุขภาพได้หรือไม่? (Trade and Health Policy Coherence: Mission possible?) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ สำนักงานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาติและองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ นครเจนีวา โดยผู้เข้าร่วมได้อภิปรายเกี่ยวกับข้อมติและข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจากที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลก และกรอบความร่วมมืออาทิ องค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) เพื่อค้นหาความสอดคล้องกันระหว่างนโยบายด้านการค้าและด้านสุขภาพ ปัญหาและอุปสรรค ช่องว่างต่างๆ ข้อเสนอเพื่อการปรับปรุง ตลอดจนร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เรื่องราวความสำเร็จจากประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลก

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

พม. จับมือเครือข่าย เปิดตัวโครงการ “แจงนับคนไร้บ้าน (One Night Count)”

พม. จับมือเครือข่าย เปิดตัวโครงการ “แจงนับคนไร้บ้าน (One Night Count)”

Facebook
Twitter
Email
Print

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 66 เวลา 16.30 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานกิจกรรมเปิดตัวโครงการแจงนับคนไร้บ้าน (One Night Count) เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน อาทิ กรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย และมูลนิธิอิสรชน เพื่อร่วมกันดำเนินการสำรวจสถานการณ์ปัญหาของกลุ่มคนเร่ร่อนหรือคนไร้บ้าน 77 จังหวัดทั่วประเทศ อีกทั้งทำให้ทราบถึงจำนวนคนไร้บ้านสำหรับนำมาใช้คาดการณ์ทางสถิติ ประชากร และอื่น ๆ นำไปสู่การปรับปรุง พัฒนาบริการของรัฐที่ตอบโจทย์ประชาชน โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการ กทม. นายสุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. รองศาสตราจารย์ และ ดร.ภาวิกา ศรีรัตนบัลล์ ผอ.สถาบันเอเชียศึกษา ร่วมกล่าวแสดงเจตนารมณ์บูรณาการทำงานและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ณ บริเวณหน้าอาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม.


นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) มีภารกิจสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้ที่พึ่งหรือคนไร้บ้าน ด้วยการให้บริการสวัสดิการสังคมทั้งการให้ความช่วยเหลือ คุ้มครอง
และลงพื้นที่สำรวจปัญหาความต้องการของคนไร้บ้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเก็บข้อมูลจำนวนคนไร้บ้านทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่ กลุ่มเป้าหมายที่รับบริการภายในหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ปัจจุบัน มีจำนวน 5,083 คน และกลุ่มเป้าหมายคนไร้ที่พึ่งภายนอกหน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ที่ให้บริการอีกกว่า 21,239 ราย ซึ่งเป็นคนไร้บ้านกว่า 2,462 ราย และอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ กว่า 1,761 ราย


ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งหรือคนไร้บ้านอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ แต่กระทรวง พม. เพียงหน่วยงานเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ เนื่องจากคนไร้ที่พึ่งหรือคนไร้บ้านที่ถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่ต้องได้รับการคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) และการเสริมสร้างพลังทางสังคม (Social Empowerment) วันนี้ กระทรวง พม. โดย พส. จึงได้จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการแจงนับคนไร้บ้าน (One Night Count) เพื่อแสดงให้เห็นว่า กระทรวง พม. ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง และมีเป้าหมายร่วมกันในการออกแบบระบบการคุ้มครองดูแล และจัดบริการสวัสดิการสังคมได้อย่างตรงจุด ตลอดจนส่งผลให้คนไร้บ้านสามารถเข้าถึงสวัสดิการและสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างยั่งยืนต่อไป


นายสุปรีดา กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ จะทำให้เราได้เห็นสถานการณ์ทางประชากรและสุขภาวะของคนไร้บ้านในประเทศไทยที่ครอบคลุมประเด็นทั้งในเชิงจำนวนและข้อมูลทางประชากรเชิงลึก เพื่อเป็นข้อมูลสถานการณ์ทางประชากรที่จะเป็นพื้นฐานในการออกแบบและจัดทำนโยบายเกี่ยวกับคนไร้บ้านที่สอดคล้องและเท่าทันกับสถานการณ์ปัญหา


รองศาสตราจารย์ ดร.ภาวิกา กล่าวว่า การแจงนับคนไร้บ้านครั้งนี้ จะเป็นทั้งการนับจำนวน (Head Count) และเก็บข้อมูลทางประชากรเบื้องต้นของคนไร้บ้านทั้งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะ (Unsheltered Count) และในสถานพักพิงที่รัฐหรือเอกชนจัดให้ (Sheltered Count) เพื่อป้องกันปัญหาการนับซ้ำ และสามารถกำหนดนิยามคนไร้บ้านให้ครอบคลุมทั้งในมิติทางวิชาการและมิติทางวัฒนธรรม ให้สอดคล้องกับบริบทของคนไร้บ้านในสังคมไทย สู่การนำมาพัฒนารูปแบบบริการ นวัตกรรมที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย


นายศานนท์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร นับว่าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลักในประเด็นคนไร้บ้านที่พบมากที่สุด
ในประเทศ เนื่องจากผู้คนทั่วประเทศหลั่งไหลเข้ามาอาศัยและทำมาหากิน ซึ่งที่ผ่านมาเราอาจจะไม่ทราบว่า คนไร้บ้าน มีจำนวนเท่าไร ประสบปัญหาอะไร ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญและเป็นการบูรณาการที่เป็นประโยชน์ ทั้งระดับปฏิบัติและนโยบาย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานการช่วยเหลือคนไร้บ้านให้ตรงจุดและมีทิศทางที่ดีขึ้น


นางจุตพร กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมแจงนับคนไร้บ้าน (One Night Count) ในวันนี้  ประกอบด้วย 1) การเปิดตัวกิจกรรมฯ พร้อมกันทั่วประเทศ ณ หน้าอาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. และผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting โดยมีหน่วยงาน One Home พม. ทุกจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วม 2) การปล่อยแถวขบวนรถสายด่วน พม. 1300 ลงพื้นที่แจงนับคนไร้บ้านทั่วประเทศ และ 3) นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัด พม. พร้อมผู้บริหาร และผู้แทนภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่สำรวจแจงนับคนเร่ร่อนหรือคนไร้บ้าน ณ บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
FEATURED NEWS NEWS

บสย. จับมือ BWG ส่งเครื่องแบบพนักงานเก่า เปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาด

บสย. จับมือ BWG ส่งเครื่องแบบพนักงานเก่า เปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาด

Facebook
Twitter
Email
Print

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมส่งมอบเครื่องแบบพนักงานเก่า ให้แก่ ตัวแทนจาก บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จํากัด (มหาชน) (BWG) เพื่อนำเครื่องแบบพนักงานเก่าเข้าสู่กระบวนการกำจัดอย่างถูกวิธี โดย BWG เป็นผู้ให้บริการด้านการบริหารและจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ณ บสย. สำนักงานใหญ่

สำหรับการส่งมอบเครื่องแบบพนักงานเก่าในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในโครงการ CSR “บสย. ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ด้วยกระบวนการเผาทำลายผ่านระบบปิด ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ลดปัญหามลพิษ PM2.5 และยังสามารถนำพลังงานความร้อนที่ได้แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาดทดแทนการใช้ถ่านหิน เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาการนำเครื่องแบบของพนักงาน บสย. ที่มีโลโก้เก่านำไปใช้ประโยชน์อันมิชอบ ซึ่ง บสย. ได้ Rebranding หรือเปลี่ยนตราสัญลักษณ์องค์กรเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการแก่ลูกค้า ปลูกฝังการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย ESG ที่ บสย. มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นองค์กรผู้นำด้าน ESG ของประเทศต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
FEATURED NEWS NEWS

“กรุงไทย” และ “กลุ่ม สิงห์ เอสเตท” ก้าวสู่ Net Zero เชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต ครั้งแรกในไทย

“กรุงไทย” และ “กลุ่ม สิงห์ เอสเตท” ก้าวสู่ Net Zero เชื่อมโยงคาร์บอนเครดิต ครั้งแรกในไทย

Facebook
Twitter
Email
Print

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขอเชิญชวนร่วมเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวทางรถไฟแนวใหม่ “นั่งรถไฟ KIHA183 ปลูกโกงกาง ที่บางปะกง” แบบวันเดย์ทริป เส้นทางกรุงเทพ – ฉะเชิงเทรา – กรุงเทพ วันที่ 4 มิถุนายน นี้ โดยพาอินเทรนด์ไปกับการท่องเที่ยวแนวใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Tourism)  นำผู้โดยสารเดินทาง ด้วยรถไฟไทยสไตล์ญี่ปุ่น KIHA 183  ร่วมกิจกรรมปลูกป่าโกงกาง ปล่อยปู สร้างบ้านปลาคอนโดปู เที่ยวบ้านสวนเมล่อน เรียนรู้การปลูก รับต้นกล้าเมล่อนกลับไปปลูกต่อที่บ้าน พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดกลางน้ำ ณ วัดหงส์ทอง และดื่มด่ำ ชมชิมช้อป ตลาดโบราณคลองสวน 100 ปี ศูนย์กลางการค้าที่สำคัญในอดีตที่ยังมีลมหายใจถึงปัจจุบัน  
 
สนใจรีบสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้ เพียง 1,499 บาท จำนวนจำกัด 200 ที่นั่งเท่านั้น  โดยราคาดังกล่าวรวมรถบัสปรับอากาศ พร้อมอาหาร 2 มื้อ มื้อเช้าสไตล์ญี่ปุ่น เบนโตะอาหารไทย และมื้ออาหารกลางวันแบบจัดเต็ม จองตั๋วได้ที่สถานีรถไฟและช่องทางจำหน่ายตั๋วในระบบออนไลน์ D-Ticket ของ รฟท. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
 
สำหรับรายละเอียดการเดินทาง เริ่มลงทะเบียน สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 07.00 น. จากนั้น 07.40 น.ออกเดินทางสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา  ด้วยขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 993/994  ระหว่างทางเสิร์ฟอาหารเช้า เบนโตะอาหารไทย พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมระหว่างการเดินทางบนขบวนรถ KIHA 183 นอกจากนี้ผู้โดยสารจะได้พบกับจุด Unseen ซึ่งขบวนรถไฟจะจอดให้ผู้โดยสารชมวิวทิวทัศน์บริเวณกลางสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง มีลักษณะคล้ายรถไฟลอยน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถึงสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา เวลา 10.00 น. เดินทางต่อโดยรถบัสปรับอากาศ สู่ตำบลท่าพลับ อำเภอบ้านโพธิ์ เที่ยวบ้านสวนเมล่อน เรียนรู้การปลูกต้นกล้าเมล่อนที่ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่เกษตรกร และเดินทางต่อไปตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง เยี่ยมชนแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศป่าซายเลน โรงเรียนพระพิมลเสนี (พร้อม หงสกุล) นำทุกท่านร่วมกิจกรรม “รักษ์สิ่งแวดล้อมลดโลกร้อน ร่วมปลูกป่าชายเลน ปล่อยปู สร้างบ้านปลาคอนโดปู” ร่วมกันพลิกฟื้นผืนป่าชายเลนของไทย

เวลา 12.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ออกเดินทางต่อไปที่วัดหงษ์ทอง หรือ วัดกลางน้ำ ริมฝั่งอ่าวไทยบริเวณบ่าชายเลน เยี่ยมชมความงาม เจดีย์สีทองอร่าม 3 ชั้น ชั้นล่างประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธรจำลองและพระพุทธรูปอื่น ๆ ไว้ให้กราบไหว้ขอพร ส่วนชั้น 2 มี หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่สด หรือ พระมงคลเทพมุนี (สด จนทุสโร) วัดปากน้ำภาษีเจริญ องค์พระแก้วมรกตจำลองประดิษฐานอยู่ รวมถึงจัดแสดงภาพวาดพระมหากษัตริย์ตั้งแต่ในอดีตจนถึงรัชกาลปัจจุบัน ส่วนชั้นบนสุดเป็น จุดชมวิวสามารถมองเห็นวิวทะเล พอเวลาน้ำขึ้นทำให้ดูเหมือนอาคารนี้ลอยอยู่กลางน้ำ และยังมีพระธาตุคงคามหาเจดีย์ เจดีย์สีเหลืองทองที่บรรจุพระธาตุพระอรหันต์อยู่ภายใน ตลอดจนมีพระอุโบสถของ วัดหงษ์ทอง ที่ตั้งอยู่กลางทะเลเช่นเดียวกัน
 
เวลา 15.00 น. ออกเดินทางไป ตลาดคลองสวน 100 ปี ตลาดที่อยู่ในสองจังหวัด มีเพียงสะพานไม้สูง ๆ ข้ามแม่น้ำเป็นเส้นแบ่งเขต โดยมีความรุ่งเรืองตั้งแต่อดีตซึ่งเป็นทางผ่านของเรือขนส่งทั้งคนและสินค้าระหว่างบางกอกกับฉะเชิงเทรา ซึ่งสามารถเลือกชม ชิม  ช้อป สินค้าของฝาก อาหารคาวหวาน และของที่ระลึก ได้ตามอัธยาศัย จากนั้น 16.30 น.ออกเดินทางไปสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา ถ่ายภาพที่ระลึกกับขบวนรถ KIHA 183 และเดินทางกลับสู่สถานีหัวลำโพง โดยระหว่างทางจอดรับส่งผู้โดยสาร ป้ายหยุดรถพระจอมเกล้า สถานีลาดกระบัง สถานีหัวหมาก สถานีคลองตัน สถานีมักกะสัน  ถึงสถานีหัวลำโพง โดยสวัสดิภาพ เวลา 18.30 น.  

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : การรถไฟแห่งประเทศไทย

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE