Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

พช.เชียงราย เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทอดพระเนตรนิทรรศการและการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคเหนือ

 

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทอดพระเนตรนิทรรศการและการจัดงานแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานหัตถกรรมภูมิปัญญาชุมชนภาคเหนือ ตามโครงการพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงภูมิปัญญาชุมชนไทย ณ สวนซากุระ และสวน 80 สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง หมู่ที่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 

 

โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายพิชัย คำเกิด หัวหน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง นางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภริยารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางกุลทรัพย์ ชื่นโกสุม ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นางกุสุมาล พงษ์สิทธิถาวร ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยข้าราชการและประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ

 

ในการนี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย นางอำไพ บัวระดก พัฒนาการจังหวัดเชียงราย ได้นำกลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าชาติพันธุ์ จำนวน 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสตรีทอผ้าศรีดอนชัย อ.เชียงของ (ชาติพันธุ์ไทลื้อ) กลุ่มปักผ้าด้วยมือบ้านสันกอง อ. แม่จัน (ชาติพันธุ์อาข่า) กลุ่มผ้าเขียนเทียน บ้านห้วยหาน อำเภอเวียงแก่น (ชาติพันธุ์ม้ง) กลุ่มผ้าทอกะเหรี่ยงบ้านทุ่งพร้าว อ.แม่สรวย (ชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ) และกลุ่มผ้าทอกะเหรี่ยงแคววัวดำ อำเภอเมืองเชียงราย (ชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ) เฝ้าฯ รับเสด็จฯ
 
 
จังหวัดเชียงราย ได้น้อมนำแนวพระราชปณิธาน สืบสาน รักษา ต่อยอด พัฒนาผ้าไทยสู่ความยั่งยืน ในการใช้สีและวัตถุดิบมาจากธรรมชาติตามแนวพระดำริแฟชั่นยั่งยืน (Sustainable Fashion) ที่พระราชทานแนวทางไว้ในการเสด็จเยี่ยมเยียนในปีที่ผ่านมา อันเป็นการลดปัญหาภาวะโลกร้อน โดยผลงานทุกชิ้นมีตราสัญลักษณ์ Sustainable Fashion ที่ทรงออกแบบและพระราชทานให้กระทรวงมหาดไทยเชิญไปมอบให้ทุกกลุ่มที่ดำเนินการพัฒนาผลงานตามพระดำริ และภายหลังจากทรงมีพระวินิจฉัยและพระราชทานคำแนะนำเสร็จสิ้นแล้ว เสด็จไปทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น ชุด ฟ้อนถิ้งบ้อง โดยนักเรียนโรงเรียนฝางชนูปถัมภ์ จึงเสด็จกลับ
 
 
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาตั้งแต่ 09.00 น. และตลอดทั้งวัน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โปรดให้คณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกในพระดำริ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นดีไซเนอร์และผู้มีความรู้ความสามารถด้านการออกแบบ ตัดเย็บ ถักทอ และด้านสีธรรมชาติ เป็นวิทยากรให้ความรู้และคำแนะนำแก่กลุ่มทอผ้าและสมาชิกกลุ่มศิลปาชีพเพื่อเพิ่มมูลค่าของผืนผ้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังผลทำให้มีรายได้ในการดูแลตนเองและสมาชิกในครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กลุ่​มงาน​ส่งเสริม​การพัฒนา​ชุมชน​ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ผู้ว่าฯ เชียงราย เตรียมจัดขบวนพาเหรด มหาสงกรานต์ 2024 เย็นทั่วหล้า

 
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. วธ. ร่วมประชุมหารือคณะทำงานพิจารณารูปแบบการจัดขบวนรถสงกรานต์ ในขบวนพาเหรด งาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ณ ห้องประชุมอู่หลง ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

    

นายพุฒิพงษ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณารูปแบบการจัดขบวนรถสงกรานต์ สำหรับร่วมขบวนพาเหรดในงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ปี 2567 ในวันที่ 11 เมษายน 2567 ตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ ถนนราชดำเนินกลาง และไปสิ้นสุดจอดขบวนพาเหรด ณ ท้องสนามหลวง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

    

ทั้งนี้ งาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ ปี 2567 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 11 – 15 เมษายน 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์และสืบทอดประเพณีไทย  รวมทั้ง เฉลิมฉลองในโอกาสที่ยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้ “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ กระตุ้นการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว และผลักดันให้ประเทศไทย ติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลของโลก

    

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางสาวณพิชญา นันตาดี นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายอภิชาต กันธิยะเขียว นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ เข้าร่วมการประชุมฯ ดังกล่าวด้วย

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

มฟล.ร่วมท้องถิ่นประกาศอนุรักษ์ เวียงหนองหล่ม จุดท่องเที่ยว “สายมู”

 

เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2567 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ร่วมกับ เทศบาล ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย จัดให้มีพิธี “ฟื้นใจเวียงหนองด้วยศรัทธา สืบชะตาป่าต้นอั้น” ณ ปางควาย หมู่บ้านป่าสักหลวง ต.จันจว้า ภายในพื้นที่ “เวียงหนองหล่ม” ซึ่งมีการอนุรักษ์พืชเรียกว่า “ต้นอั้น” ซึ่งเป็นไม้ท้องถิ่นที่เชื่อกันว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ใช้ในการทำของชลังด้วย ทั้งนี้มีมีลักษณะคล้ายป่าโกงกางแต่อยู่ในน้ำจืด และเคยมีอยู่อย่าหนาแน่นในเวียงหนองหล่ม โดยในพิธีมีการทำบุญพระสงฆ์และมีการสืบชะตาป่าต้นอั้น ขบวนสักการะบูรพกษัตริย์อาณาจักรโยนกนาคพันธุ์สิงหนวัติซึ่งเคยตั้งอยู่ที่เวียงหนองหล่มดังกล่าวและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมีการกล่าวโองการฟื้นใจเวียงหนอง เปิดป้ายโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ พื้นที่อนุรักษ์ป่าต้นอั้น ดังกล่าวด้วย

 
 
จากนั้นนายทนงศักดิ์ ทองแสน นายกเทศมนตรี ต.จันจว้า ในฐานะประธานในพิธี และ รศ.ดร.พลวัฒ ประพัฒน์ทอง หัวหน้าโคงการวิจัยภูมิทัศน์ของตำนานพื้นที่แอ่งเชียงแสน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และคณะได้ร่วมกันประกาศให้เวียงหนองหล่มเป็น “สถานะบุคคลทางวัฒนธรรมเวียงหนองหล่ม” โดยมีสัญลักษณ์เป็นการการผูกผ้าบนเสาใจเมืองเวียงหนองที่ตั้งอยู่ตรงพื้นที่อนุรักษ์ป่าต้นอั้นดังกล่าวพร้อมมีการโปรยข้าวตอกดอกไม้เป็นสัญลักษณ์ว่าพื้นที่แหง่นี้จะได้รับการอนุรักษ์ต่อไป
 
 
นายทนงศักดิ์ กล่าวว่า เวียงหนองหล่มมีตำนานและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน รวมทั้งมีธรรมชาติโดยเฉพาะแหล่งน้ำและต้นไม้คือะต้นอั้นที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีการบุกรุกจนกลายเป็นปัญหาที่หมักหมมม ดังนั้นทางท้องถิ่นจึงยินดีอย่างมากที่ทาง มฟล.ได้เข้าไปร่วมในการอนุรักษ์เพราะพื้นที่แห่งนี้รายล้อมด้วยประชากรที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมมากถึง 90% เดิมมีมีพื้นที่กว่า 20,000 ไร่ แต่เพราะแนวเขตไม่ชัดเจนทำให้ในปัจจุบันเหลืออยู่เพียงแค่ประมาณ 15,000 ไร่ รวมทั้งยังมีคดีฟ้องร้องกันระหว่างเทศบาลและเอกชนที่พยายามจะเข้าไปครอบครองอีกกว่า 3-4 ราย
 
 
รศ.ดร.พลวัฒ กล่าวว่า การประกาศครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นร่วมกันฟื้นฟูเวียงหนองหล่ม และหลังจากนี้ก็จะร่วมกับชาวบ้านในการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพราะเวียงหนองหล่มถือเป็นสถานที่ที่มีตำนานและประวัติศาสตร์ ชาวบ้านก็มีวัฒนธรรมประเพณีที่มีเอกลักษณ์ การส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยเฉพาะ “สายมู” จะสามารถควบคู่ไปกับการฟื้นฟูและอนุรักษ์เวียงหนองหล่มในอนาคตได้เป็นอย่างดี
 
 
รายงานข่าวแจ้งว่า “เวียงหนองหล่ม” มีตำนานว่าเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโยนกนาคพันธุ์สิงหนวัติและในวันเสาร์ เดือน 7 แรม 7 ค่ำ พ.ศ.1003 หรือมากกว่า 1,500 ปีมาแล้ว ชาวบ้านได้จับปลาไหลเผือกแล้วนำมาแบ่งกันกินยกเว้นแม่หม้ายคนหนึ่ง ต่อมาเมืองได้สล่มสลายลงกลายเป็นหนองน้ำ มีเพียงแม่หม้ายคนดังกล่าวที่รอดตายป้จจุบันยังมีเกาะอยู่กลางน้ำเรียกว่าเกาะแม่หม้าย
 
 
อย่างไรก็ตาม คาดการกันว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวในอดีต ขณะที่ในยุคปัจจุบันมีชาวบ้านเข้าไปใช้ประโยขน์เลี้ยงกระบือหรือควาย ทำประมง ฯลฯ แต่ก็มีผู้เอกชนซึ่งบางรายเป็นรายใหญ่และมีนามสกุลชื่อดังเข้าไปถือครองโดยรอบเวียงหนองหล่ม หลังเกิดการฟ้องร้องบางรายยอมคืนที่ดินให้กับเทศบาลแต่บางรายยังสู่คดีกันอยู่
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุอินเดีย ประดิษฐาน จ.เชียงใหม่

 

เมื่อวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2567 (อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจาก สาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย)   

 

 

จังหวัดเชียงใหม่ จัดพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดียมาประดิษฐาน โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ภัณฑารักษ์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ อธิบดีกรมการศาสนา หัวหน้าส่วนราชทุกภาคส่วน ข้าราชการ ประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอง 28 กรกฎาคม 2567

 

 

ในการนี้จังหวัดเชียงราย โดยนายพุฒิพงศ์  ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายพิสันต์  จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย และข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

พิพัฒน์ สุ่มมาตย์, ยุทธนา สุทธสม : รายงาน

พร้อมพงษ์ ทาสิทธิ์ : ภาพ

อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

“พิสันต์” เตรียมจัดกิจกรรม มหกรรมดนตรีล้านนาตะวันออก

 
เมื่อวันที่วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม 2567 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางพรทิวา  ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางการจัดเตรียมการดำเนินงาน “กิจกรรมมหกรรมดนตรีล้านนาตะวันออก”  ผ่านระบบออนไลน์ (Host : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่”) โดยมีวัฒนธรรมจังหวัด ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดในกลุ่มภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) เข้าร่วมประชุม

 

   “กิจกรรมมหกรรมดนตรีล้านนาตะวันออก” ภายใต้โครงการเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ เป็นหน่วยดำเนินงานหลัก และ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พะเยา และน่าน เป็นหน่วยดำเนินงานร่วม ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรมเชียงราย พะเยา และน่าน จะจัดกิจกรรมถ่ายทอดฟื้นฟูอัตลักษณ์ดนตรีท้องถิ่นภาคเหนือของจังหวัด และคัดเลือกวงดนตรีเข้าร่วมกิจกรรมมหกรรมดนตรีสีสันล้านนาตะวันออกที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดแพร่จัดขึ้นต่อไป

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ศิลปกรรม “ต๋ามฮอยศิลป์” รุ่นที่ 42. ส่วนหนึ่ง Thailand Biennale,Chiang Rai

 

วันที่ 1-5 มีนาคม 2567 ณ ชั้น 1 หน้าร้านซุปเปอร์สปอร์ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงรายร่วมเป็นส่วนหนึ่ง Thailand Biennale,Chiang Rai กับนิทรรศการผลงานศิลปกรรม “ต๋ามฮอยศิลป์” รุ่นที่ 42

โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ขอเชิญร่วมชมนิทรรศการผลงานศิลปกรรม “ต๋ามฮอยศิลป์” รุ่นที่ 42 กับการแสดงผลงานของนักเรียน สาขาศิลปกรรมแผนกวิชาวิจิตรศิลป์ จากวิทยาลัยอาชีวะศึกษาเชียงราย ระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม 2567 ณ ชั้น 1 หน้าร้านซุปเปอร์สปอร์ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาส พร้อมร่วมผลักดัน แลพัฒนาศักยภาพนักเรียนนักศึกษา ให้มีสมรรถนะอาชีพด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งเสริมทักษะการจัดนิทรรศการแสดงผลงานศิลปกรรมของนักเรียน นักศึกษาสู่สาธารณชน ตอกย้ำภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงราย ให้เป็นเมืองของศิลปะจากผลงานศิลปินรุ่นใหม่ อย่างต่อเนื่อง และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ 3 ไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย Thailand Biennale,Chiang Rai 2023 – เปิดโลก (The Open World)

ทั้งนี้กิจกรรมแสดงนิทรรศการดังกล่าว มีจำนวนนักเรียน นักศึกษา ผู้ร่วมแสดงผลงานนิทรรศการ “ต๋ามฮอยศิลป์” รุ่นที่ 42 จำนวนทั้งสิ้น 33 คน เป็นนักเรียนระดับ ปวช. จำนวน 20 คน, ระดับ ปวส.จำนวน 13 คน จำนวนผลงานทั้งสิ้น 67 ชิ้น โดยแบ่งเป็น ประเภท จิตรกรรมเทคนิคสีน้ำมัน จำนวน 40 ชิ้น ,จิตรกรรมเทคนิคสีอะคิลิก จำนวน 8 ชิ้น และงานวาดเส้น เทคนิคดินสอดำ จำนวน 14 ชิ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เนรมิตโรงละคร ชมฟรี! แสดง โขน พฤหัสบดีสุดท้ายของเดือน

 

ทุกวันพฤหัสบดีสุดท้ายของเดือน บริเวณ Meeting Point ชั้น G โซน A ของศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวนานาประเทศ และลูกค้าคนไทยที่ให้ความสนใจมาจับจองพื้นที่เพื่อเข้าชมการแสดง โขน ซึ่ง ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เนรมิตโรงมหรสพสวยงาม เปิดม่านจัดการแสดง โขน ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทยที่รวมศาสตร์และศิลป์ไว้หลายแขนง เช่น วรรณกรรม วรรณศิลป์ นาฏศิลป์ คีตศิลป์ หัตถศิลป์ โดยเล่าเรื่องราวจากวรรณกรรมชั้นครูอย่าง รามเกียรติ์

โดยศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดที่ส่งเสริม Soft Power ศิลปวัฒนธรรมไทยที่ภาคภูมิใจออกสู่สายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจไทย รวมถึงอนุรักษ์วัฒนธรรมปลูกฝังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ภูมิใจกับวัฒนธรรมไทย

สำหรับการแสดง โขน ในแต่ละครั้งที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ พร้อมเดินหน้าสร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่อง จัดการแสดงโขนอันอ่อนช้อย สง่างาม อลังการ เผยแพร่วัฒนธรรมไทยออกสู่สายตานักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

 ห้ามพลาด!! ชมการแสดงโขน ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ได้ในวันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 จัดให้ชม 2 รอบการแสดง ในเวลา 15.00 น. และ 18.00 น. บริเวณ Meeting Point ชั้น G โซน A เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ชมฟรี!!

และเตรียมปักหมุดให้พร้อมกับการแสดงในเดือนถัดไป ดังนี้ วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม, 25 เมษายน, 30 พฤษภาคม, 27 มิถุนายน, 25 กรกฎาคม, 29 สิงหาคม, 26 กันยายน, 31 ตุลาคม, 28 พฤศจิกายน และ 26 ธันวาคม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เอ็ม บี เค คอนแทคท์เซ็นเตอร์ 1285 พร้อมติดตามกิจกรรมและโปรโมชันดี ๆ ของศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ได้ที่ https://mbk-center.co.th/ หรือเฟซบุ๊กเพจ mbkcenterth อินสตาแกรม mbkcenter

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

อ.เฉลิมชัย ประกาศยุติบทบาท แต่ศิลปินต้องไปต่อ.. รวมเป็น “หนึ่งเดียวกัน ”

 

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ณ วัดร่องขุ่น อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สมาคมขัวศิลปะ จัดประชุมใหญ่ประจำปี 2567 โดยมี ศาตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมขัวศิลปะ เป็นประธานในการประชุมฯ โดยมีศิลปินสมาชิกจากสมาคมครัวศิลปะจำนวน 300 คน ซึ่งประกอบด้วยศิลปินอาวุโส คณะกรรมการบริหารสมาคมนำโดย อาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะ

 

โดยการประชุมครั้งนี้อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ได้กล่าว ต้อนรับและให้โอวาทต่างๆแก่สมาชิกสมาคมขัวศิลปะในครั้งนี้อาจารย์ได้กล่าวว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่อาจารย์จะเข้าร่วมประชุมของสมาคมภายหลังได้ประกาศยุติบทบาทในการร่วมกิจกรรมสังคมต่างๆ แต่ทั้งนี้ อาจารย์ได้ให้แนวทางในการบริหารสมาคมต่อไปซึ่งภายหลังจากการจบไทยแลนด์เบียนนาเล่, เชียงราย 2023 สมาคมขัวศิลปะจะได้ทำการย้ายไปยังหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงรายอย่างถาวร และในการนี้ได้ชี้แจงแนวทางการบริหารจัดการภายหลังต่อจากนี้ โดยในที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบและปฏิบัติตามแนวทางที่อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้ให้แนวทางไว้ โดยนายสุวิทย์ ใจป้อม เป็นนายกสมาคมขัวศิลปะ พร้อมชุดคณะกรรมการบริหาร และเบื้องต้นจะจัดให้มีการจัดตั้งบอร์ดบริหารที่คอยกำกับกิจการผลประกอบการและกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตภายใต้ สมาคมขัวศิลปะเดิมแต่จะมีการบริหารงานที่ รัดกุมโปร่งใส
 
 
ในที่นี้ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ยังได้เสนอแนวทางให้คณะกรรมการบริหารสมาคมขัวศิลปะ ชุดปัจจุบันทำหน้าที่ไปพรางก่อน และจะให้สมาชิกได้หารือเพื่อทำการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ภายในปีหน้า ซึ่งอาจารย์อยากให้การจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติไทยแลนด์เบนาเล่ย์เชียงราย 2023 ในครั้งนี้เสร็จสิ้นไปก่อน โดยในที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางปฏิบัติดังกล่าว
 
 
ในช่วงท้ายยังได้มีการให้ศิลปินทั้งศิลปินอาวุโส นายกสมาคมศิลปะ ได้กล่าวถึง และเสนอแนะแนวทางการบริหารสมาคมสืบไปและเหนือสิ่งอื่นใด อาจารย์ยังทิ้งท้ายอยากจะให้ศิลปินทั้งศิลปินอาวุโสศิลปินรุ่นใหม่ที่กำลังจะเติบโตช่วยกันและสามัคคี ร่วมกันรักษา และต่อยอดขัวศิลปะ ต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมศิลปะ 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เปิดงาน บวร ฮอมปอยผญ๋า เมืองโยนกนาคพันธุ์ ครั้งที่ 4

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.00 น. นายก นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมด้วย นายวิญญู ทองทัน เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย ร่วมพิธีเปิดงาน “บวร ฮอมปอยผญ๋าเมืองโยนกนาคพันธุ์ ครั้งที่ 4” ประจำปี 2567 ณ อุทยานเมืองโยนกนาคพันธุ์ บ้านดงป่าสัก ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย โดยมีว่าที่ ร.ต.ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีนายศุภชีพ มั่งคั่ง นายก อบต.บ้านด้าย นายสุขสันต์ เพ็งดิษฐ์ ผู้จัดการสำนักงาน อพท. ประจำ จ.เชียงราย นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ส.อบต.บ้านด้าย และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม พิธีเปิดในครั้งนี้ด้วย

 

โดยในงานได้จัดพิธีเรียกขวัญ พิธีบวงสรวงสักการะขอพรองค์พญานาคราชทุกตระกูลมงคล พิธีอาบน้ำพระพุทธมนต์ใต้แสงจันทร์ บูชาเทียน ปล่อยโคมไฟ สะเดาะเคราะห์แก้ปีชง รับโชค เสริมดวงชะตา และสร้างทานบารมี แจกผ้าห่ม ข้าวสาร น้ำดื่มเป็นทานจำนวน 777 ชุด ชม ช้อป ชิม นิทรรศการภูมิปัญญาท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ของใช้พื้นบ้าน อาหาร พื้นเมือง ฟังซอพื้นเมือง มวย รำวงการกุศล ปล่อยโคมไฟลอดห่วงการแสดงศิลปวัฒนธรรม และมหรสพมากมาย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

พิธีเวียนเทียนเนื่องในเทศกาล วันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18.00 น. ณ วัดพระแก้ว พระอารามหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย พระครูสุธีสุตสุนทร ดร. เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว พระอารามหลวง เป็นประธานในพิธีเวียนเทียน เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา พุทธศักราช 2567

 

จัดโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ คณะสงฆ์วัดพระแก้ว พระอารามหลวง เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้น้อมระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย การมีส่วนร่วมกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมในมิติศาสนา บำเพ็ญบุญกุศล เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ ซึ่งมีพระสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมกิจกรรม รวมจำนวน 800 รูป/คน                       

     

 

ในโอกาสมงคลนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นางพรทิวา ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม พร้อมข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้ามาร่วมกิจกรรมฯ

 

 

ความสำคัญของวันมาฆบูชา คือเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง โอวาทปาติโมกข์แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า “ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อม ๆ กันถึง 4 ประการ อันได้แก่

 

  1. วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
  2. มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
  3. พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6
  4. พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ “เอหิภิกขุอุปสัมปทา”

     ดังนัเน เพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า “วันจาตุรงคสันนิบาต” หมายความว่า “การประชุมด้วยองค์ 4” นั่นเองทั้งนี้วันมาฆบูชาถือว่าเป็นวันพระธรรม ขณะที่วันวิสาขบูชาถือว่าเป็นวันพระพุทธ ส่วนวันอาสาฬหบูชา เป็นวันพระสงฆ์

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

พรทิวา ขันธมาลา, สุพจน์ ทนทาน : รายงาน 

สานุพงศ์ สันทราย : ภาพ

สุพจน์ ทนทาน อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News