Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย ระดมทุนถวายผ้าป่า ช่วยผู้ได้รับความเดือดร้อนไฟป่าและ PM 2.5

 

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 67 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีถวายผ้าป่า “บวร.บรม.ครบ. เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าให้ประเทศชาติและโลกใบนี้” และเป็นการระดมทุนสำหรับใช้ในการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อน หรือผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 ณ วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง ตำบล้วียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย รอง ผอ.รมน.จังหวัดเชียงราย ปลัดจังหวัดเชียงราย นายอำเภอทุกอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรํบวิสาหกิจ หอการค้าจังหวัดเชียงราย สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ชมรมธนาคารจังหวัดเชียงราย และหน่วนงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมพิธีถวายผ้าป่าในครั้งนี้ด้วย

 

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงราย และคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย จัดพิธีทอดผ้าป่าเพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในการช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันไฟป่า และ PM 2.5 ภายใต้ชื่อว่า “บวร. หมายถึง บ้าน วัด ราชการ โรงเรียน บรม. หมายถึง บ้าน ราชการ มัสยิด ครบ. หมายถึง คริสต์ ราชการ บ้าน และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างคณะสงฆ์ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมให้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการปัญหาหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 
 
 
โดยมีหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชน ได้ร่วมสมทบทุนถอดผ้าป่าในครั้งนี้ ยอดรวม 772,428.50 บาท และยังได้รับความเมตตาจาก พระไพศาลประชาทร (วิ) (พบโชค ติสสวังโส) เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง ร่วมสมทบผ้าป่าจำนวน 100,000 บาท และวัดเจ็ดยอด จำนวน 10,000 บาท รวมยอดทั้งสิ้น 882,428.50 บาท
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เชียงราย เตรียมจัดงานอย่างยิ่งใหญ่รำลึกถึงพ่อขุนเม็งรายมหาราช สร้างเมือง 762 ปี

 

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567  ที่ห้องประชุม ชั้น 2 โรงแรมไชยนารายณ์ริเวอร์ไซด์ อ.เมืองเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงรายและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนางชญาณ์นันท์ เชื้อศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงราย ร่วมกันแถลงข่าว งานพ่อขุนเม็งรายมหาราชและงานกาชาด ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มกราคม ถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 รวม 10 วัน 10 คืน ณ สนามบินฝูงบิน 416 (สนามบินเก่า) อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อเป็นการรำลึกถึงพ่อขุนเม็งรายมหาราชที่ทรงสร้างเมืองเชียงราย (เมื่อวันที่ 26 มกราคม 1805 ครบรอบ 762 ปี) โดยมีหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชนเข้าร่วม

โดยจังหวัดเชียงราย กำหนดจัดงานพ่อขุนเม็งรายมหาราชและงานกาชาด ประจำปี 2567 เพื่อเป็นการรำลึกถึงพ่อขุนเม็งรายมหาราชที่ทรงสร้างเมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 26 มกราคม 1805 ครบรอบ 762 ปี และเพื่อเป็นการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ประกอบด้วยพิธีทางศาสนา พิธีกรรมตามจารีตประเพณี และกิจกรรมที่แสดงออกถึงความร่วมมือของชาวเชียงราย และการนำเสนอผลงานการให้บริการประชาชน ร้านนิทรรศการของส่วนราชการ หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา สมาคม/มูลนิธิ และสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้กับเด็กและเยาวชนได้แสดงความสามารถด้านการแสดง ดนตรี และกีฬา

ในปีนี้ จังหวัดเชียงราย เตรียมจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ที่ทรงสร้างเมืองเชียงราย และเป็นการเฉลิมฉลองเมืองเชียงรายครบรอบ 762 ปี ด้วยการประดับไฟ ตกแต่งบริเวณอาคารสถานที่ จุดสำคัญที่สอดคล้องหรือเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์การสร้างเมืองเชียงราย ทั้งวัด โรงเรียน สถานที่ราชการและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ในเขตเมืองเชียงราย เป็นกิจกรรมที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีของชาวเชียงรายทุกภาคส่วน ที่พร้อมใจกันจัดขึ้น ซึ่งจะมีการกดปุ่มเปิดไฟให้สว่างไสวสวยงามทุกมุมเมือง ในวันที่ 26 มกราคม 2567 (ช่วงเวลาเปิดงานฯ ณ เวทีกลาง) เป็นการเฉลิมฉลองพร้อมกัน 3 จุด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กดปุ่มเปิดไฟ ณ บริเวณเวทีกลางงานพ่อขุนฯ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กดปุ่ม เปิดไฟ ณ วัดร่องเสือเต้น และนายกเทศมนตรีนครเชียงราย จะกดปุ่มเปิดไฟ ณ สวนตุงและโคมจังหวัดเชียงราย

โดยในวันที่ 26 มกราคม 2567 

เวลา 07.30 น. พิธีสักการะพระบรมอัฐิพญามังรายมหาราช และพิธีห่มผ้าพระสถูปพ่อขุนเม็งรายมหาราช ณ วัดดอยงำเมือง
เวลา 09.00 น. พิธีบวงสรวง และทำบุญสืบชะตาเมืองเชียงราย ณ อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช (ห้าแยกพ่อขุนฯ) พร้อมกันกับอีก 6 อำเภอ ได้แก่อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน อำเภอเชียงของ อำเภอเทิง อำเภอพาน และอำเภอแม่สรวย ซึ่งหลังเสร็จพิธี จะมีการ”ฟ้อนเมืองปูจาไหว้สาพญามังราย” ณ อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช (ห้าแยกพ่อขุน) โดยช่างฟ้อนมากกว่า 762 คน
เวลา 14.30 น. พิธีไหว้สาพญามังราย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายอำเภอทั้ง 18 อำเภอถวายเครื่องสักการะ ณ อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช (ห้าแยกพ่อขุน)
เวลา 16.00 น. พิธีปล่อยขบวนงานเฉลิมฉลองครบรอบ 762 ปี เมืองเชียงราย ของกลุ่มอําเภอ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จํานวน 11 ขบวน เริ่มเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ไปตามเส้นทางผ่านสวนตุงและโคม เลี้ยวซ้ายแยกศาล เข้าสู่แยกประตูสลี เลี้ยวขวาผ่านหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ และเลี้ยวซ้ายแยกบรรพปราการ (แยกวัดมิ่งเมือง) มุ่งหน้าสู่ฝูงบิน 416 (สนามบินเก่า)

เวลา 18.30 น. พิธีเปิดงานพ่อขุนเม็งรายมหาราช และงานกาชาด ประจำปี 2567 ณ เวทีกลางงานพ่อขุนเม็งรายมหาราชฯ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายจะกดปุ่มเปิดไฟให้สว่างไสวทั่วทุกมุมเมืองและสถานที่สำคัญของจังหวัด พร้อมกับอีก 2 จุด คือ ณ วัดร่องเสือเต้น โดยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย และ ณ สวนตุงและโคมจังหวัดเชียงราย โดยนายกเทศมนตรีนครเชียงราย

กิจกรรมการแสดงเวทีกลางงานพ่อขุนเม็งรายมหาราชและงานกาชาด ประจำปี 2567 ดังนี้
1. กิจกรรมการเดินแบบผ้าไทยเพื่อการกุศล วันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2567
2. กิจกรรมการประกวดดนตรีแสงสี To Be Number 1 Contest วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567
3. กิจกรรมการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ประเภทกำนันผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ และภริยา
– ระหว่างวันที่ 28 – 30 มกราคม 2567 (รอบแรก) และ วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 (รอบตัดสิน)
4. กิจกรรมการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ประเภทผู้บริหาร สมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการ และพนักงาน
– ระหว่างวันที่ 28 – 30 มกราคม 2567 (รอบแรก) และ วันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 (รอบตัดสิน)
5. กิจกรรมการประกวดธิดาดอย วันพุธที่ 31 มกราคม 2567 และ วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567
6. กิจกรรมการประกวดรำวงย้อนยุค วันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567
7. กิจกรรมการประกวดดนตรีนักเรียน/นักศึกษา วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567

 

ร้านนิทรรศการของ 18 อำเภอ ส่วนราชการ และภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งการจําหน่ายสินค้ามือสองและสลากกาชาดจากเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงรายและชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย

 

การแข่งขันกีฬา Sports Festival 2024 มหกรรมแข่งขันกีฬางานพ่อขุนเม็งรายมหาราชและงานกาชาดจังหวัดเชียงราย ประจำปี 2567 วันที่ 26 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2567 ประเภทการแข่งขันสตรีทฟุตบอล 3 คน การแข่งขันบาสเก็ตบอล 3 คน การแข่งขันเซปักตะกร้อ และการแข่งขันเปตอง

ไฮไลท์ของงาน คือ การออกสลากกาชาดการกุศล ในคืนวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567
สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงรายได้ออกสลากกาชาดการกุศล จำนวน 100,000 ฉบับๆ ละ 100 บาท โดยกำหนดการออกสลากวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ดังนี้
รางวัลที่ 1 บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พร้อมที่ดิน จำนวน 1 รางวัล
รางวัลที่ 2 รถยนต์ TOYOTA YARIS ATIV สีเงิน จำนวน 1 รางวัล
รางวัลที่ 3 รถจักรยานยนต์ HONDA WAVE 110i จำนวน 3 รางวัล
รางวัลที่ 4 สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 5 รางวัล
รางวัลที่ 5 สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 10 รางวัล
รางวัลที่ 6 แหวนทองคำ น้ำหนัก 0.6 กรัม จำนวน 50 รางวัล
รางวัลเลขท้าย 3 ตัว หม้อทอดไร้น้ำมัน จำนวน 100 รางวัล

 

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงมหรสพ ความบันเทิง และคอนเสิร์ต ตลอดทั้ง 10 วัน 10 คืน

วันศุกร์ที่ 26 ม.ค. 67 – – > แบงค์ ปรีติ
วันเสาร์ที่ 27 ม.ค. 67 – – > Silly Fools
วันอาทิตย์ที่ 28 ม.ค. 67 – – > วง L.กฮ.
วันจันทร์ที่ 29 ม.ค. 67 – – > Retrospectและเก้า จิรายุ
วันอังคารที่ 30 ม.ค. 67 – – > 1 Mill & Fixed
วันพุธที่ 31 ม.ค. 67 – – > เสก LOSO
วันพฤหัสบดีที่ 1 ก.พ. 67 – – > LOMOSONIC
วันศุกร์ที่ 2 ก.พ. 67 – – > RACHYO
วันเสาร์ที่ 3 ก.พ. 67 – – > วงมหาหิงค์
วันอาทิตย์ที่ 4 ก.พ. 67 – – > วงกางเกง
 
Highlight งานพ่อขุนเม็งรายมหาราช และงานกาชาดประจำปี 2567

1. พิธีบวงสรวงและทำบุญเมืองเชียงราย
1.1 จัดพิธีพร้อมกันระหว่างจังหวัด และ 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน
อำเภอเชียงของ อำเภอเทิง อำเภอพาน และอำเภอแม่สรวย จังหวัดจัดพิธี ณ อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช
ทั้งช่วงเช้าและบ่าย โดยมีการแสดง “ฟ้อนเมืองปูจาไหว้สาพญามังราย”
1.2 รถขบวนแห่ของจังหวัดเชียงรายเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 762 ปี เมืองเชียงราย ของกลุ่มอำเภอ
องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จำนวน 11 ขบวน
โดยมีเส้นทางในการเดินขบวนพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 762 ปี เมืองเชียงราย และงานพ่อขุนเม็งรายมหาราชและงานกาชาด
ประจำปี 2567 เริ่มเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราชตามเส้นทางผ่านหน้าสวนตุงและโคมเลี้ยวซ้ายแยกศาล
เข้าสู่แยกประตูสลี เลี้ยวขวาเข้าสู่หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติเชียงรายและเลี้ยวซ้ายแยกบรรพปราการ (แยกวัดมิ่งเมือง)
มุ่งหน้าสู่ฝูงบิน 416 (สนามบินก่า ระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร (กำหนดให้มีการแสดง 3 จุดๆ ละ 35 นาที ได้แก่
1) ก่อนเคลื่อนขบวน ณ บริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช 
2) ระหว่างทาง ณ บริเวณหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ
3) ทางเข้าฝูงบิน 416 (สนามบินเก่า))
 

2. การประดับไฟเฉลิมฉลองครบรอบ 762 ปี เมืองเชียงราย
โดยมีพิธีการกดปุ่มเปิดไฟ ให้ความสว่างไสวสวยงามพร้อมกันทั่วทุกมุมเมืองและสถานที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย
พร้อมกัน 3 จุด ดังนี้ 1) ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กดปุ้มเปิดไฟ ณ บริเวณเวทีกลาง งานพ่อขุนเม็งรายมหาราช
2) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย กดปุ่มเปิดไฟ ณ วัดร่องเสือเต้น
3) นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กดปุ่มเปิดไฟ ณ สวนตุงและโคมจังหวัดเชียงราย
 

3. กิจกรรมงานพ่อขุนเม็งรายมหาราช และงานกาชาด ประจำปี 2567 โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการออกบูธจากส่วนราชการและภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งการจำหน่ายสินค้ามือสองและสลากกาชาด จากเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงรายและชมรมแม่ข้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีรางวัลใหญ่เป็นบ้านพร้อมที่ดิน และรถยนต์
 

4. การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน ภายในงานมีการจัดกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้แสดงความสามารถ ทั้งการแข่งขันกีฬา การวาดภาพศิลปะและการประกวดวงดนตรีของเด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงราย
 

5. มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ 3 ไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย 2023 (Thailand
Biennale, Chiang Rai 2023), เชียงรายเมืองแห่งสุขภาพ (Chiang Rai Wellness City)
และการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย
5.1 การจัดแสดงนิทรรศการออกบูธศิลปะจากขัวศิลปะ
5.2 การจัดแสดงนิทรรศการออกบูธศิลปวัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์
5.3 การจัดแสดงนิทรรศการออกบูธผลิตภัณฑ์ชา กาแฟ
5.4 การจัดแสดงนิทรรศการออกบูธด้านสุขภาพและอุตสาหกรรม Wellness จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” เชียงรายจัดกิจกรรมถนนอย่างปลอดภัย

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2567 ณ วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์เนื่องใน “วันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน” ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคประชาสังคม เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ ภาคีเครือข่ายด้านความปลอดภัยทางถนน มูลนิธิ และคณะครู นักเรียนวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย เข้าร่วม พร้อมถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมรณรงค์ฯ ร่วมกับส่วนกลาง ผ่านระบบ Zoom Meeting พร้อมกันทั่วประเทศ

ด้วยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 กำหนดให้วันที่ 21 มกราคมของทุกปีเป็นวันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงราย จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน ประจำปี พ.ศ. 2567 ของจังหวัดเชียงรายขึ้น เพื่อเป็นการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน
 
 
การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อลดการบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางถนน โดยการสร้างความตระหนักถึงความปลอดภัย เมื่อถึงทางข้าม ทางม้าลาย และสื่อสารวันความปลอดภัย ของผู้ใช้ถนนไปยังประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ให้ระลึกถึงความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ใช้ถนน เพื่อไปถึงเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนไม่เกิน 12 คน ต่อประชากรแสนคนในปี พ.ศ. 2570
 
 
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า อุบัติเหตุทางถนนยังคงเป็นประเด็นที่น่ากังวล ซึ่งสร้างความสูญเสียในทุกระดับ ตั้งแต่ครอบครัว ชุมชน สังคม และเศรษฐกิจของประเทศ การขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน จึงจำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม อีกทั้งจำเป็นต้องเร่งสร้างการร่วมแรง ร่วมใจให้เกิดความตระหนักรู้สู่สาธารณชน
 
 
การที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ใช้รถใช้ถนนนั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องดำเนินการผลักดัน ประชาสัมพันธ์ และกำหนดมาตรการให้กับประชาชนทุกช่วงวัย ให้มีองค์ความรู้ในด้านการใช้รถ ใช้ถนนที่ปลอดภัยควบคู่กันไป และขอให้หน่วยงาน และภาคีเครือข่าย ได้กำหนดมาตรการให้กับบุคลากรในสังกัดปฏิบัติตามกฎจราจรเพื่อสร้างกระแสให้เกิดเป็นวัฒนธรรม ในการใช้รถ ใช้ถนนอย่างปลอดภัย และเพื่อประชาชนจะได้นำไปเป็นแบบอย่างที่ดี ต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ผู้ว่าฯ เชียงรายหวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยสั่งเจ้าหน้าที่ยึดสารตั้งต้นทำดอกไม้ไฟ อ.พาน

 

เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2567 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัด นายวุฒิกร คำมา นายอำเภอพาน จ.เชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับ พ.ต.อ.จิตรกร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผกก.สภ.พาน และทหารมณฑลทหารบกที่ 37 เจ้าหน้าที่ทหาร มทบ.37 ชุดชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือ E.O.D ภ.จว.เชียงราย นำหมายค้นของศาลแขวง จ.เชียงราย เข้าตรวจค้นที่อาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้นครึ่ง 2 คูหา พื้นที่หมู่ 1 ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย ภายหลังได้รับแจ้งว่ามีการเก็บสะสมวัตถุที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เพราะตั้งอยู่หลังตลาด อ.พาน ซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่น

จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบเจ้าของร้านเป็นชายวัยกว่า 84 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งหมายค้นให้ทราบและเข้าไปตรวจสอบภายในพบว่าภายในพื้นที่บ้านเป็นอาคารคอนกรีตสูง 2 ชั้นครึ่ง จำนวน 2 คูหา ตรงชั้นล่างเป็นเหมือนที่เก็บของพบดอกไม้เพลิงหลายชนิดจำนวนมากคาดว่าใส่รถกระบะได้ 4 คัน สารตั้งต้นที่ใช้ประกอบการทำวัตถุดอกไม้เพลิง เช่น โพแทสเซียมคลอไรด์ โพแทสเซียมคลอเรต ดินประสิว กำมะถัน โซดาไฟ ฯลฯ จำนวนประมาณ 1 คันรถบรรทุก ทั้งหมดถูกวางกองกันไว้โดยไม่มีการแยกประเภท
 
 
จากการสอบถามเจ้าของบอกว่า เก็บวัตถุทั้งหมดไว้เพื่อจะขายให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ตรวจสอบและนำของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.พาน เบื้องต้นดำเนินคดีในข้อหาหน่ายดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาต และอยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานว่ามีความผิดอื่นหรือไม่ต่อไป
สีของพลุมาจากไหนจากข้อมูลอ้างอิง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
 

ไส้พลุเดินทางขึ้นสู่ท้องฟ้า ชนวนควบคุมเวลาการระเบิดจะเกิดการเผาไหม้ เมื่อสัมผัสกับส่วนผสมต่าง ๆ ภายในไส้พลุ และระเบิดออก ทำให้เม็ดดาวแตกกระจายให้สีสันอย่างที่เห็นบนท้องฟ้า

สารเคมีแต่ละชนิดจะให้สีสันต่าง ๆ กัน เช่น

– สตรอนเชียมคาร์บอเนต (SrCO3) ให้ สีแดง

– ลิเทียมคาร์บอเนต (Li2CO3) ให้ สีแดง

– แบเรียมคลอเรต (BaClO3) ให้ สีเขียว

– คอปเปอร์ซัลเฟต (CuSO4) ให้ สีฟ้า

– แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) ให้ สีเหลือง

– โซเดียมออกซาเลต (Na2C2O4) ให้ สีเหลือง

– แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2) ให้ สีส้ม

ขณะที่ สีสันจากดอกไม้ไฟเกิดจากสารเคมีที่อยู่ในส่วนให้สี โดยสารประกอบโลหะแต่ละชนิดจะมีการปลดปล่อยแสงสีที่แตกต่างกันเมื่อได้รับความร้อน ดังนี้

 

 

สีเหลือง – โซเดียม การเผาไหม้ของโซเดียมจากความร้อนจะทำให้เกิดการระเบิดสีเหลืองที่สดใส

แสงสีแดง – โลหะสตรอนเชียม สตรอนเซียมถูกนำมาใช้ในหน้าจอแก้วของโทรทัศน์สีรุ่นเก่า เพราะมันจะช่วยป้องกันรังสีเอกซ์ที่จะมากระทบคนดู ถึงแม้ว่าตัวของสารจะเป็นสีเหลือง แต่เวลาเผาไหม้มันกลับให้สีแดงแทน

สีเขียว – โลหะแบเรียม พลุดอกไม้ไฟสีเขียวส่วนใหญ่ทำมาจากแบเรียมไนเตรทซึ่งเป็นพิษต่อการสูดดมดังนั้นสารนี้จึงไม่นิยมใช้สำหรับสิ่งอื่น ๆ

สีน้ำเงิน – ทองแดง เฉดสีน้ำเงินถือเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของการผลิตพลุดอกไม้ไฟ เพราะมันมีข้อจำกัดด้านฟิสิกส์และเคมี และต้องมีอุณหภูมิที่แม่นยำจึงจะทำให้เกิดเฉดสีน้ำเงินบนท้องฟ้า

สีขาว – อะลูมิเนียม หรือแมกนีเซียม องค์ประกอบทางเคมีเหล่านี้มีอุณหภูมิการเผาไหม้ที่สูงที่สุด และการเพิ่มสารที่สร้างสีขาวนี้กับสีอื่น ๆ ก็จะทำให้เกิดเฉดสีที่อ่อนลง

 

 

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘พิสันต์’ เยือน “เฉลิมทัศน์” จุดฉายภาพยนตร์ รถโรงหนังคันแรกในทวีปเอเชีย

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2567 เวลา 14.00 น. นายพิสันต์  จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นางพรทิวา  ขันธมาลา ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม และเจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เดินทางไปเยี่ยมเยือนจุดฉายภาพยนตร์ ณ วัดจอเจริญสุขุมวาท อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย เพื่อร่วมสนับสนุนรถโรงหนังและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)ที่ลงพื้นที่เตรียมงานฉายภาพยนตร์ให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงรายได้รับชมเป็นจุดแรก ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากเด็กนักเรียน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมรับชมภาพยนตร์ทุกรอบเป็นจำนวนมาก

 

 กระทรวงวัฒนธรรม โดย หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)ได้จัดซื้อรถโรงหนัง ซึ่งเป็นรถโรงหนังคันแรกในทวีปเอเชีย เพื่อร่วมฉลองวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีฯ อีกทั้งทรงพระราชทานนามรถโรงหนังว่า “เฉลิมทัศน์” เป็นหนึ่งในโครงการของหอภาพยนตร์ ที่มีแนวคิดให้โรงภาพยนตร์รูปโฉมทันสมัย ยาว 23 เมตร สูง 4.35 เมตร กว้างเมื่อจอดและกางออก 11 เมตร ความจุ 100 ที่นั่ง มีระบบภาพและเสียงสมบูรณ์แบบ รองรับระบบ 2 มิติ และ 3 มิติ พร้อมจะเคลื่อนที่ไปในทุกหนทุกแห่งในประเทศไทย โดยเฉพาะเด็กนักเรียนและชาวบ้านชุมชนที่อยู่ห่างไกลไม่มีโอกาสได้ชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษทางสังคมที่ชุมชน เด็กและเยาวชนทุกคนจะรอคอยการมาของรถโรงหนังซึ่งจะสร้างจินตนาการและบอกต่อกันไปทำให้เกิดความทรงจำที่ดี เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

พรทิวา ขันธมาลา, สุพิชชา ชุ่มมะโน : รายงาน 

เอกณัฎฐ์ กาศโอสถ : ภาพ 

อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

“ครูเชียงรายเกมส์ ครั้งที่ 15” กีฬาเชื่อมความสามัคคี ‘สหพันธ์ครูเชียงราย’“ครูเชียงรายเกมส์ ครั้งที่ 15”

 

เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2567  นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาสหพันธ์ “ครูเชียงรายเกมส์ ครั้งที่ 15” ณ สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย

 

โอกาสนี้ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ได้กล่าวในพิธีเปิด “การแข่งขันกีฬา ครูเชียงรายเกมส์ ครั้งที่ 15 ว่า “การแข่งขันกีฬาของสหพันธ์ครูเชียงราย เป็นการรวมพลังกลุ่มของข้าราชกาครูในจังหวัดเชียงรายให้เป็นหนึ่งเดียว ครู ซึ่งเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาและขับเคลื่อนการจัดการศึกษา ยกระดับคุณภาพการศึกษาที่มีตัวนักเรียนเป็นตัวขับเคลื่อน ด้วยร่างกายที่มีความพร้อมสมบูรณ์แข็งแรง สุขภาพจิตที่ดี มีน้ำใจ รู้รัก สามัคคี จึงมีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง จึงขอให้สหพันธ์ครูเชียงราย ดำเนินกิจกรรมนี้ให้ลุล่วงและประสบความสำเร็จไปด้วยนี้ทั้งครั้งที่ 15 และครั้งต่อๆ ไป
ทางด้าน ดร.อนวัช อุ่นกอง ประธานสหพันธ์ครูเชียงราย เปิดเผยว่า “การจัดการแข่งขันกีฬาสหพันธ์ “ครูเชียงราย เกมส์ ครั้งที่ 15” วัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง มีระเบียบวินัย ระเบียบ ตามข้อปฏิบัติของข้าราชการครูแบะบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงเชื่อมความรัก ความสามัคคี สร้างขวัญกำลังใจ รวมถึงได้พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงขับเคลื่อนภารกิจของสหพันธ์ครูเชียงราย ภายใต้สโลแกนที่ว่า “เรื่องของครูเราดูแล”
 
 
การจัดการแข่งขันกีฬาครูเชียงรายเกมส์ ครั้งที่ 15 ได้รับเงินสนับสนุนจ่ก สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงราย จำกัด เป็นเงิน จำนวน 250,000 บาท นักกีฬาเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จากเขตพื้นที่การศึกษา เขต 1-4, สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดเชียงราย, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 500 คน แบ่งเป็น 4 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ฟุตบอล วอลเล่ย์บอล เซปักตระกร้อ และ เปตอง โดยได้รับความร่วมมือจากสมาพันธ์ครูจาก สพป.เชียงราย เขต 1-4 ในการฝึกซ้อมและคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาทั้ง 4 ประเภทเข้าร่วมการแข่งขัน และร่วมชมร่วมเชียร์ ใช้สนามกีฬากลางจังหวัดเชียงราย และสนามโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย เป็นสนามแข่งขัน
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ยกระดับธุรกิจท่องเที่ยวล้านนาตะวันออกสู่การเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ

 

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2567 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 พร้อมด้วย นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้ช่วยศาสตราจารย์อุดม งามเมืองสกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา เปิดกิจกรรมนำเสนอผลการวิจัย และการขับเคลื่อนสู่การใช้ประโยชน์จากงานวิจัย“แนวทางการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวมูลค่าสูงในพื้นที่ล้านนาตะวันออก สู่การเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ” ซึ่งคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา และคณะผู้วิจัยแผนงานวิจัยเรื่อง “แนวทางการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวมูลค่าสูงในพื้นที่ล้านนาตะวันออกสู่การเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ” ณ โรงแรมเดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมนำเสนอผลการวิจัย และการขับเคลื่อนสู่การใช้ประโยชน์จากงานวิจัย ดังกล่าว ทั้งออนไซด์ และรับชมทางออนไลน์

 
ผู้ช่วยศาสตราจารย์อุดม งามเมืองสกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา กล่าวว่า กิจกรรมนำเสนอผลการวิจัย และการขับเคลื่อนสู่การใช้ประโยชน์จากงานวิจัย“แนวทางการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวมูลค่าสูงในพื้นที่ล้านนาตะวันออก สู่การเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ”เกิดขึ้นจากความร่วมมือของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา, คณะบริหารธุรกิจและนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา และคณะพลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการสนับสนุน จาก โครงการวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์แผนการดำเนินงานโครงการวิจัย สร้างการรับรู้และก่อให้เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในเขตพื้นที่ล้านนาตะวันออก
 
 
ด้าน นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กล่าวว่า กิจกรรมนำเสนอผลการวิจัย และการขับเคลื่อนสู่การใช้ประโยชน์จากงานวิจัย“แนวทางการส่งเสริมการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวมูลค่าสูงในพื้นที่ล้านนาตะวันออก สู่การเป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ” เป็นกิจกรรมที่หาวิธีการที่เหมาะสมในการขับเคลื่อนด้านการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวมูลค่าสูงในพื้นที่ล้านนาตะวันออก ภายใต้การพัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยวโดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เน้นคุณค่า สร้างความยั่งยืน และเพิ่มรายได้ของประเทศ และนำไปสู่การดำเนินการที่เป็นรูปธรรม มีการนำไปจัดทำเป็นแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด เกิดเป็นแผนงานหรือเกิดการลงทุนหรือเกิดกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมให้มีการลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวมูลค่าสูงในพื้นที่กลุ่มจังหวัดล้านนาตะวันออก ตลอดจนจัดทำเป็นข้อเสนอเพื่อปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดการลงทุนในธุรกิจการท่องเที่ยวมูลค่าสูงในพื้นที่ล้านนาตะวันออกต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

สกสว. ประกาศแต่งตั้ง “ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์” ให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ

 

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง แต่งตั้ง “ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์” ให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการ สกสว. และปฏิบัติงานหน้าที่ผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (O-Science) และมอบหมายให้กำกับดูแล กลุ่มภารกิจพัฒนา ววน, ด้านกำลังคนและสถาบันความรู้ (O-Brain)  ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป

สำหรับ ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ มีประสบการณ์การทำงานด้านวิทยาศาสตร์มากว่า 20 ปี ได้รับการยอมรับในวงการวิชาการ วิจัยและนวัตกรรม  รวมถึงมีบทบาทด้านการพัฒนาและบริหารองค์กรด้านการศึกษาในมหาวิทยาลัยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนเข้าดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการ สกสว. ดร.ณิรวัฒน์ ดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (O-Science) ผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจพัฒนา ววน, ด้านกำลังคนและสถาบันความรู้ (O-Brain) ในบริบทของงานด้านการศึกษา ได้รับตำแหน่งสำคัญ เช่น รองผู้อำนวยการโรงเรียนสุรวิวัฒน์ รองผู้อำนวยการเทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ตลอดจนเป็นคณะกรรมการในองค์คณะสำคัญต่างๆ อาทิ 1) กรรมการผู้แทน สกสว. ในคณะกรรมการฐานข้อมูลด้านอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 2) กรรมการผู้แทน สกสว. ในคณะกรรมการกลั่นกรองการจัดสถาบันอุดมศึกษาเป็นกลุ่ม ชุดที่ 2 กลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม 3) อนุกรรมการ สป.อว. ด้านการพัฒนาและบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค 4) อนุกรรมการ บพค. ด้านการยกระดับสถาบันวิจัยและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมถึง 5) อนุกรรมการขับเคลื่อนและประเมินผลนโยบายและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศ

ในส่วนของรางวัลสำคัญที่ได้รับ อาทิ 1) Gold Prize, Seoul International Invention Fair 2016 (พ.ศ. 2559) ประเทศเกาหลีใต้ 2) รางวัลสภาวิจัยแห่งชาติ ด้านผลงานประดิษฐ์คิดค้น ระดับดีมาก พ.ศ. 2559 
3) รางวัลคนดีศรี วท. พ.ศ. 2557 โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4) รางวัล Anglo-Thai Society Educational Award พ.ศ. 2553  สาขาวิทยาศาสตร์ โดยเอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน และสมาคม Anglo-Thai Society และ 5) รางวัล Balliol College Domus Award 2008 (พ.ศ.2551) โดย Balliol College มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศสหราชอาณาจักร เป็นต้น

ทั้งนี้ ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาเคมี (เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง) จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยทุนโครงการส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) และได้รับทุนศึกษาระดับปริญญาโท-เอก ทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศึกษาต่อในสาขาเคมีอนินทรีย์ (Doctor of Philosophy in Inorganic Chemistry) ณ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศสหราชอาณาจักร (University of Oxford, UK)  ทั้งนี้ได้สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรชั้นสูงการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน (ปรม.) รุ่นที่ 22 จากสถาบันพระปกเกล้า และหลักสูตร “WiNS 3” โครงการพัฒนาเครือข่ายและศักยภาพผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รุ่นที่ 3

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักพัฒนากองทุนและการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ สกสว.

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

ม.มหิดล พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีฟื้นวิกฤติส่งกำลังใจผู้ผลิตอาหารแพลนต์เบสอย่าเพิ่งถอดใจ!

 

เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความก้าวหน้าในด้านต่างๆ รวมถึงภาคเกษตรกรรม ในการเพิ่มมูลค่า และพัฒนาศักยภาพของสินค้าเกษตรให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค และรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้มากยิ่งขึ้น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภัทร์ ไชยกุล อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คือหนึ่งในความภาคภูมิใจในฐานะ “ปัญญาของแผ่นดิน” ตามปณิธานฯ ผู้อุทิศสร้างสรรค์นวัตกรรมและถ่ายทอดเทคโนโลยีอาหารทางการแพทย์ จากข้าว – น้ำนม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย และเศรษฐกิจชาติ จนได้รับพระราชทานโล่รางวัล “นักวิจัยด้านการเกษตรดีเด่น ประจำปี 2566“ จาก สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ไปเมื่อเร็วๆ นี้

ภายใต้แนวคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมบนความเรียบง่าย แต่มากมายด้วยประโยชน์ ทำให้ในช่วงกลางปี 2567 นี้ คนไทยจะได้สัมผัสกับอาหารทางการแพทย์ฝีมือคนไทย จากการเพิ่มคุณค่าข้าวไทยในส่วนที่เหลือจากโรงสีข้าว ขยายผลเพิ่มเติมคุณค่าด้วยน้ำนมข้าว จาก “ข้าวระยะเขียว” ซึ่งอุดมไปด้วยคุณค่าจากสารอาหารต่างๆ มากมาย

ก่อนต่อยอดผสมด้วยส่วนประกอบจาก “ผลิตผลเกษตรไทยทางเลือก” จากมันสำปะหลัง ใช้เป็นส่วนผสมหลักแทนข้าวในอาหารทดแทนมื้ออาหาร สำหรับผู้ที่มีเบาหวาน มากด้วยคุณสมบัติที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มกากใยอาหารในเฟสถัดไป ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาได้แล้วเสร็จไม่เกินช่วงต้นปีหน้า 2568

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภัทร์ ไชยกุล กล่าวว่า ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์จากข้าวและแป้งมันสำปะหลังไทย ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีขยายผลสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช หรือ “แพลนต์เบส” (Plant – based Products) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่น่าจับตาเมื่อ 2 – 3 ปีก่อน แต่เพิ่งประสบปัญหา “กำลังการซื้อที่ลดลง” ของผู้บริโภคทั่วโลก จากผลสรุปทางการตลาดของปี 2566 ที่ผ่านมา

เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ในฐานะผู้สร้างสรรค์และถ่ายทอดเทคโนโลยีอาหาร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภัทร์ ไชยกุล ได้ให้มุมมองต่อผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารแพลนต์เบสว่ายังไม่ควรถอดใจ เนื่องจากตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเมื่อ 2 – 3 ปีก่อนเป็นเพียง “กลไกทางการตลาด” ซึ่งผู้บริโภคอาหารจากพืชเป็นประจำอยู่ก่อนแล้วยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน

แต่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวโดยที่ยังคง “ไม่ตอบโจทย์” จากการไม่สามารถทำให้ “ผู้บริโภคหน้าใหม่” เกิดความรู้สึกคุ้นเคยใน “รสสัมผัส” ที่ทดแทนการบริโภคเนื้อสัตว์ได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังคงเป็นที่วิตกกังวลในเรื่อง “ความปลอดภัย” ที่มาจาก “สารเติมแต่ง” เป็นประเด็นสำคัญอีกต่างหาก

ในขณะที่ประเทศไทยยังคงนับเป็นหนึ่งในแหล่งอาหารที่สำคัญของโลก จากความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ จึงทำให้ยังคงมีผลิตผลทางการเกษตรอีกมากมายที่สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์อาหารแพลนต์เบสที่มากด้วยคุณค่า และคุณภาพ

การต่อยอดผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์จากข้าวไทยในส่วนที่เหลือจากโรงสีข้าว ผลงานโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภัทร์ ไชยกุล นอกจากทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มได้ถึง 10 เท่าในเฟสแรก จะยิ่งทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง เมื่อได้นำแป้งมันสำปะหลังมาเป็นส่วนประกอบ

ซึ่งจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าจับตาไม่แพ้ในช่วงเวลาที่ผลิตภัณฑ์อาหารแพลนต์เบสกำลังมาแรง หากจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผลักดันให้เข้าสู่ระบบสาธารณสุข เช่นเดียวกับนโยบาย “30 บาทรักษาทุกโรค“ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้สัมผัสกับ “ยาจากธรรมชาติ” ที่ได้จากอาหารทางการแพทย์ซึ่งพัฒนาขึ้นจากผลิตผลทางการเกษตรที่มากด้วยคุณค่า – คุณภาพของไทย เพื่อทำให้คนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกันโดยถ้วนหน้า

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย Kick Off ต้นกล้าความดี เริ่มอำเภอพาน เสริมเยาวชนกล้าแสดงออก

 

เมื่อวันพุธที่ 17 มกราคม 2567 เวลา 09.00 น. นายก นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย “กลุ่มต้นกล้าความดี” ครั้งที่ 1 พร้อมด้วย นายทัศพงษ์ สุวรรณมงคล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายฐิติวัชร ไลศิริพันธ์ ผอ.ส่วนส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.เชียงราย เข้าร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้ด้วย โดยมีนายอนุภัทร เปรมชาราไชย ประธานคณะกรรมการวุฒิสภานักเรียน ร.ร.พานพิทยาคม ประธานเยาวชนอาสาพัฒนาเชียงราย เขต อ.พาน และรักษาการรองประธานคนที่ 3 สภาเยาวชน อบจ.เชียงราย กล่าวรายงาน และมีนางภาวิณี สุขสวัสดิ์ ผอ.ร.ร.พานพิทยาคม และน้องๆเยาวชน อ.พาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ หอประชุม ร.ร.พานพิทยาคม จ.เชียงราย

โดยกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่ออบรมให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการมีบุคลิกภาพที่ดี สามารถสื่อสารกับบุคคลอื่นได้อย่างมั่นใจในตนเองมากขึ้น เพื่อให้เด็กและเยาวชนในเขตพื้นที่อำเภอพาน ตระหนักและทราบถึงแนวทางการพัฒนาบุคลิกภาพของตนเอง เสริมสร้างจุดแข็งของตนเองในด้านการสื่อสาร เพื่อการปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนอำเภอพาน มีความกล้าแสดงออก กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น และกล้าที่จะนำความสามารถของตนเองมาแสดงให้ผู้อื่นได้รับชม เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ในการร่วมคิด ร่วมทำ ส่งเสริมให้เยาวชนใช้เวลาว่างสร้างสรรค์กิจกรรมอันเป็นประโยชน์ให้สังคม
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News