Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เทศบาลนครเชียงรายรับรางวัล ศูนย์ อปพร. ดีเด่น 14 ปีซ้อน

 

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 วันอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ รางวัลศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนนครเชียงรายดีเด่น โดยนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ผู้อำนวยการศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนนครเชียงราย เข้ารับมอบ ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร

 
ทั้งนี้ นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ในฐานะผอ.ศูนย์อปพร.นครเชียงราย ขอขอบคุณพี่น้องอปพร.เทศบาลนครเชียงราย จำนวนกว่า 2,000 คน ซึ่งทางศูนย์อปพร.เทศบาลนครเชียงรายรับรางวัล 14 ปีซ้อน ทุกคนคือ กำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อร่วมนำพาประเทศ และประชาชนไปสู่ความปลอดภัยอย่างยั่งยืน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
CULTURE

หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 1,856,800 บาท

 
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่ JWD Art Space มีการจัดงานประมูล “Voyage De l’Art” ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง The Art Auction Center และ De Siam ให้ทุกท่านได้เลือกสรรผลงานที่น่าสนใจมากกว่า 122 ชิ้นงาน 
 

โดยได้รับความสนใจจากคนรักงานศิลปะทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่ร่วมเดินทางไปสำรวจดินแดนอันกว้างใหญ่และไร้ขอบเขตกันอย่างหนาตาที่ JWD Art Space ส่งผลให้บรรยากาศการประมูลเต็มไปด้วยสีสันและเรียกเสียงฮือฮาเป็นระยะ และภาพอีกหนึ่งผลงานหาชมยากอย่าง หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลได้ถึง 1,856,800 บาท

 

ผลงานศิลปะที่เข้าร่วมงาน VOYAGE DE L’ART มีทั้งหมด 122 ชิ้น นำมาจัดแสดงเป็น 8 โซน 8 ดินแดนที่รอคอยการสำรวจ รวบรวมผลงานศิลปะหลากหลายแขนงของศิลปินชื่อดังชาวไทยและต่างชาติ โดยมี “หีบเดินทาง” (Trunk) วินเทจของ Louis Vuitton และ Goyard โดย ดี สยาม เป็นจุดเช็กอินที่ทุกคนแวะมาถ่ายภาพ สะท้อนความเป็นเพื่อนคู่ใจของนักเดินทาง ก่อนจะกลายเป็นของสะสมอันทรงคุณค่าที่บ่งบอกถึงสไตล์และเสน่ห์ข้ามกาลเวลา

 

การเดินทางของงานศิลปะหาชมยากถือเป็นประสบการณ์ตื่นเต้นเร้าใจ โดยมีนางเอกของการประมูลที่สร้างสีสันให้คนรักงานศิลป์ร่วมประมูลกันอย่างดุเดือดต้องยกให้ไฮไลต์ทั้ง 10 ชิ้น ผลงานของศิลปินระดับ Old Master ยังครองบัลลังก์อย่างสง่างาม เคียงคู่กับศิลปินยุคใหม่มากฝีมือ ไม่ว่าจะเป็น

  1. Stupa (สถูป) ผลงานของมณเฑียร บุญมา
  2. Landlord of The Earth ผลงานของถวัลย์ ดัชนี
  3. นกอินทรี ผลงานของถวัลย์ ดัชนี
  4. Business Talk ผลงานของนที อุตฤทธิ์
  5. หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี
  6. Duck Out No.2 ผลงานของ Alex Face (พัชรพล แตงรื่น)
  7. Freedom of Speech ผลงานของ MUEBON (มือบอญ)
  8. The Waiting Pink Version ผลงานของ ‘มอลลี่’ นิสา ศรีคำดี
  9. มิสเตอร์ครีม (Mr.Kreme) ผลงานของวรกันต์ จงธนพิพัฒน์
  10. ปากปีจอ ผลงานของวันดา ใจมา

สุดท้ายภาพของถวัลย์ ดัชนี สามารถทำเงินได้ทั้งหมดถึง 8,471,650 บาท โดยทั้ง 3 ภาพคือ

  • Landlord of The Earth ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 4,409,900 บาท งานชิ้นใหญ่ซึ่งใช้เวลาในการสร้างสรรค์นานและใช้ความละเอียดพิถีพิถันมาก เวลาวาดอาจารย์ถวัลย์จะนอนคว่ำเอาอกหนุนหมอนไว้แล้วใช้ปากกาค่อย ๆ ฝน ให้มีน้ำหนักอ่อนแก่จนเกิดเป็นภาพคนที่มีหัวเป็นสัตว์ เป็นงานซึ่งอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีมาก ทั้งที่เวลาผ่านไปหลายสิบปีแล้ว
  • นกอินทรี ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 2,204,950 บาท ภาพจิตรกรรรมที่เกิดจากการตวัดฝีแปรงอย่างรวดเร็วและหนักแน่น ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์อันเป็นภาพจำของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี โดยวาดเป็นนกอินทรีที่แสดงถึงพละกำลังและความแข็งแกร่ง
  • หมูป่า ผลงานของถวัลย์ ดัชนี ปิดยอดประมูลที่ 1,856,800 บาท อีกหนึ่งผลงานหาชมยาก สะท้อนคาแรกเตอร์ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ได้อย่างทรงพลัง อันเกิดจากการตวัดฝีแปรงอย่างรวดเร็วและหนักแน่น ที่แสดงถึงพละกำลังและความแข็งแกร่งของสัตว์ต่าง ๆ ได้อย่างน่าทึ่ง

นิทรรศการ “VOYAGE DE L’ART” จัดขึ้นที่ JWD Art Space ชั้น 3 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 233 7939 และ 065 097 9909 ติดตามการประมูลงานศิลปะของ The Art Auction Center ครั้งต่อไปได้เร็ว ๆ นี้ และถ้าอยากชมนิทรรศการศิลปะหาชมยาก หรือเข้าร่วมการประมูลครั้งต่อไปติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/theartauctioncenter

ประวัติ ถวัลย์ ดัชนี

ถวัลย์ ดัชนี เกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2482 ที่จังหวัดเชียงราย เป็นบุตรของนายศรี และนางบัวคำ (พรหมสา) ดัชนี เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 4 คน ได้แก่ พ.ต.สว่าง ดัชนี นายสมจิตต์ ดัชนี และนายวสันต์ ดัชนี สมรสกับนางคำเอ้ย มีบุตรชาย 1 คน คือ นายดอยธิเบศร์ ดัชนี 

 

ถวัลย์ ดัชนี ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พ.ศ. 2544 

 

ประวัติการศึกษา

พ.ศ. 2485-2491 ศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม จังหวัดเชียงราย

พ.ศ. 2492-2498 ศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จังหวัดเชียงราย

พ.ศ. 2498-2500 ศึกษาระดับครูประถมการช่าง (ปปช.) จากโรงเรียนเพาะช่าง

พ.ศ. 2500 – 2505 ศึกษาปริญญาตรีศิลปบัณฑิต (เกียรตินิยม) จากคณะจิตรกรรมประติมากรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร

พ.ศ. 2506 – 2512 ศึกษาระดับปริญญาโท ทางด้านจิตรกรรมฝาผนัง อนุสาวรีย์ ผังเมือง และปริญญาเอก สาขาอภิปรัชญาและสุนทรียศาสตร์ ที่ราชวิทยาลัยศิลปแห่งชาติ อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ (RIJKS AKADEMIE VAN BEELDEN DE KUNSTEN AMSTERDAM NEDERLAND)

 

คนไทยไม่ยอมรับผลงาน

เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น รูปเขียนขนาดใหญ่ของเขาหลายรูปถูกนักเรียนกรีดทำลาย เว็บไซต์หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ บรรยายเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า “รูปเขียนขนาดใหญ่ของเขาหลายรูป ถูกนักเรียนกรีดทำลายด้วยเหตุที่ว่างานของเขานั้นดูหมิ่นพระพุทธศาสนา ทำให้ถวัลย์ ดัชนี เลิกแสดงผลงานในประเทศไทยไปนานหลายปี กว่าคนไทยจะยอมรับได้ ก็ต้องใช้เวลานานถึงสามสิบกว่าปี”

 

หลังจาก ถวัลย์เลิกแสดงงานศิลปะในไทย การชื่นชมผลงานของถวัลย์ ส่วนใหญ่ต้องผ่านหนังสือหรือสื่อต่างประเทศ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษางานศิลปะในหมู่นักศึกษาและผู้สนใจงานศิลปะ แต่ยังมีกลุ่มบุคคลสำคัญในแวดวงศิลปะในไทยสนับสนุน ผลงานของถวัลย์ ยังแพร่หลายไปในหลายประเทศทั่วโลก ในปัจจุบันผลงานของเขาได้รับการยอมรับ และได้รับการยกย่องชื่นชมว่าเป็นงานศิลปะชั้นเลิศ อีกทั้งเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมงานศิลปะทั่วไปอีกด้วย

 

เสียชีวิต

ถวัลย์ ดัชนี ได้ถึงแก่กรรมด้วยอาการสงบ จากอาการตับวาย เวลา 02.15 น. ของวันที่ 3 กันยายน 2557 ถวัลย์ ดัชนี มีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน และความดัน เมื่อประมาณปี 2555 ได้เข้ารับการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตซึ่งมีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ต่อมาเมื่อต้นปี 2557 ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย และในช่วงปลายเดือนมิถุนายนจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างจริงจัง จนกระทั่งพบว่าเชื้อมะเร็งลุกลามไปที่ตับและปอด มีอาการไตวาย จากนั้นอาการทรุดหนักจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : The Art Auction Center

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ระดมผู้ประกอบการ 17 จังหวัดภาคเหนือ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนภาคเหนือ 2024

 

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานแถลงข่าว โครงการ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนภาคเหนือ 2024 NORTHERN BORDER ECONOMY ACCELERATION 2024 ภายใต้ โครงการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ด้วยเศรษฐกิจมูลค่าสูงภาคเหนือ ประจำปีงบประมาณ 2566 ไปพลางก่อน” โดยมี นางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงราย หอการค้าจังหวัดเชียงราย และผู้ประกอบการธุรกิจในภาคเหนือ 17 จังหวัดเข้าร่วม

 

นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศ เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนสูงถึง 5 ล้านคน มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 34,400 ล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของภาคเหนือ ทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว, สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา, และสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้มีการพัฒนาเส้นทางคมนาคมจากเชียงรายสู่ประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ โดยมีด่านการค้าชายแดน 4 ด่าน ใน 3 อำเภอ ได้แก่ แม่สาย, เชียงของ, และเชียงแสน ซึ่งมีปริมาณการค้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มียอดมูลค่าการส่งออกปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท รัฐบาลจึงกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ โดยจังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, ลำปาง, และลำพูน ถูกกำหนดให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ หรือ Northern Economic Corridor: NEC – Creative LANNA เพื่อพัฒนาเป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์หลักของประเทศอย่างยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อโครงสร้างพื้นฐานพัฒนา การค้าเติบโตเศรษฐกิจก็จะดี คนต้องพัฒนาตาม

 

ซึ่งการดำเนินโครงการฯ ดังกล่าว ประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลักดังนี้

  1. การอบรมสัมมนาผู้ประกอบการ Boost Up Trader to Overseas วันที่ 21-22 มีนาคม 2567 ณ โรงแรม ไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์
  2. การศึกษาดูงานการค้าชายแดน ที่จังหวัดหนองคาย และ จังหวัดตากในเดือนเมษายน 2567
  3. การประชุม/ สัมมนาร่วมภาครัฐ และเอกชนกลุ่มภาคเหนือของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านระหว่างวันที่ 1-2 พฤษภาคม 2567 ณ โรงแรมเฮอริเทจ แกรนด์ คอนเวนชั่นเชียงราย
  4. กิจกรรม Focus Group การอภิปรายหารือ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาทางการค้า ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ณ โรงแรมเฮอริเทจ แกรนด์คอนเวนชั่น เชียงราย

 

ทางด้านนางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายมีจุดผ่านแดนถาวร 6 จุด และจุดผ่อนปรนทางการค้าติดกับชายแดนเมียนมา 5 จุด ติดกับ สปป.ลาว อีก 5 จุดเป็นด่านการค้าที่เชื่อมกับเส้นทาง R3B และ R3A จุดหมายปลายทางของการส่งสินค้าจะส่งเข้าสู่ประเทศจีนทำให้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ เป็นจุดเชื่อมโยงการค้าชายแดนที่สำคัญ เป็นประตูการค้าชายแดนโดยตรงกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และยังเป็นช่องทางการผ่านแดนที่สำคัญในการเชื่อมโยงกับสาธารณรัฐประชาชนจีน มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าชายแดน-ผ่านแดน จากการเปิดเสรีทางการค้า กรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคต่าง ๆ ที่บรรลุข้อตกลงระหว่างกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

22 มีนาคม วันสถาปนา มณฑลทหารบกที่ 37 ครบรอบปีที่ 106

 
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 67 พลตรี บุญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นประธานในพิธีสักการะ และพิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการรำลึกถึงประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของหน่วย อีกทั้งเพื่อเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชนเหล่าทหารหาญที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละเลือดเนื้อ รักษาปกป้องผืนแผ่นดินไทย สร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้แก่คนในชาติ อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หน่วยมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นหน่วยทหารที่ดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง เป็นหน่วยงานที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับส่วนราชการ หน่วยงาน ประชาชน และทุกภาคส่วนที่มีความสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

 

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนามณฑลทหารบกที่ 37 ครบรอบ 106 ปี ซึ่งการปฏิบัติในพิธีฯ ได้รับเกียรติจากพระไพศาลประชาทร วิ. (หลวงพ่อพบโชค ติสสวังโส) องค์ประธานอุปถัมภ์ฝ่ายสงฆ์ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อดีตนายทหาร ผู้บังคับบัญชาระดับสูง และผู้บังคับบัญชาหน่วยต่างๆ ในพื้นที่ ตลอดจนนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ผู้แทนหน่วยงานภาคเอกชน ผู้แทนชุมชนรอบค่าย สมาคมสื่อมวลชนและนักประชาสัมพันธ์เชียงราย เดินทางเข้าร่วมแสดงความยินดีกับเกียรติประวัติของหน่วย และร่วมพิธีอันเป็นสิริมงคลที่หน่วยได้ดำเนินการจัดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ มณฑลพิธีด้านหน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ค่ายเม็งรายมหาราช อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

โดยเริ่มจากช่วงเช้าผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 เป็นประธานกระกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบวงสรวง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิธรรมราชา พระพุทธมารวิชัยไตรรัตนาธิคุณ พระบรมราชานุสาวรีย์พญามังรายมหาราช ต่อจากนั้นพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป ประกอบพิธีทางศาสนา โดยมี พลโท ศุภอักษร สังประกุล อดีตผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเชียงราย เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเครื่องทองน้อยหน้าโกศบรรจุรายชื่อผู้เสียชีวิต และร่วมกันทอดผ้าไตรบังสุกุล ตามลำดับ

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI ECONOMY

ธนพิริยะ ยอดขาย 2 เดือนแรกสดใส ธนพิริยะ ยอดขาย 2 เดือนแรกสดใส

 
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ทางด้านเว็บไซด์ทันหุ้น ได้เผยถึงภญ.อมร พุฒิพิริยะ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจ และผลงาน 2 เดือนแรกของไตรมาส 1/2567 ยังอยู่ในทิศทางบวก แม้ช่วงเดียวกันกับปีก่อนจะมีโครงการรัฐมาช่วยผู้บริโภค แต่ตัวเลขสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจยังดำเนินการไปได้ดี อีกทั้ง Same Store Sales Growth (SSSG) จากสาขาเดิมขยับขึ้นมาเป็นบวก จากเดิมติดลบ แม้จะอยู่ในตัวเลขหลักเดียว แต่ก็ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี
 
 

ทั้งนี้บริษัทมองทิศทางธุรกิจช่วงไตรมาส 1/2567 ค่อนข้างดี และน่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน แม้ค่าเฉลี่ยต่อบิลน้อยลง แต่ความถี่ในการซื้อสินค้าสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโครงการ e-Receipt/e-Tax Invoice สำหรับใช้ลดหย่อนภาษี ทั้งนี้บริษัทมองเศรษฐกิจในจังหวัดเชียงรายดีขึ้น เมื่อเทียบกับภาพรวมในประเทศไทย ประกอบกับการซื้อสินค้าในสาขาของ TNP ในช่วงต้นปี 2567 มาจากการท่องเที่ยว  แม้จะยังไม่มีนักท่องเที่ยวจีน แต่การท่องเที่ยวของเชียงราย ยังมีนักท่องเที่ยวจากชาติอื่น และนักท่องเที่ยวในประเทศ

 

ขณะที่ช่วงสงกรานต์ปี 2567 บริษัทเตรียมสินค้าเพื่อขายในสาขาให้มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม เพราะช่วงหน้าร้อน เครื่องดื่มจะขายดี รวมถึงเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะช่วงเทศกาลสงกรานต์ผู้บริโภคจะขับรถ และต้องการเครื่องชูกำลังค่อนข้างมาก ปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งแล้ว 46 สาขา จากสิ้นปี 2566 ที่ 1 สาขา ส่วนช่วงที่เหลือปี 2567 บริษัทจะขยายสาขาเพิ่มอีก 5 แห่ง เพื่อผลักดันสาขาสิ้นปี 2567 ให้เป็น 51 สาขา สำหรับ SSSG ปี 2567 บริษัทตั้งเป็นเพิ่มขึ้นเป็น 2 หลักจากที่ผ่านมาติดลบ

 

 

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายคลังสินค้า โดยใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อทำศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มเติม สนับสนุนการขยายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งปัจจุบัน TNP มีคลังสินค้าขนาด 1.2 หมื่นตารางเมตร ในการสต๊อกสินค้า และกระจายสินค้าไปในแต่ละสาขา ด้วยระบบที่มีมาตรฐาน

 

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยยังคงกำไรปี 2567 ไว้ที่ 170 ล้านบาท (กำไรปกติกลับมา + 12% จากปีก่อน) บนฐานปีก่อนไม่มีมาตรการรัฐที่มีนัยสำคัญ และเริ่มมี Upside จากสาขาใหม่มากกว่าคาด รวมถึงหากรัฐออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม มอง TNP จะได้ประโยชน์จากการมีฐานลูกค้าหลากหลาย

 

สำหรับกำไรรายไตรมาส คาดกำไร Q1-Q4/2567F จะกลับมาเติบโตจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน ได้ตามปกติอีกครั้ง ระยะสั้นคาดกำไรไตรมาส 1/2567 เบื้องต้น 40 ล้านบาท (+ 10% Y-Y, -16% Q-Q) โดย SSSG มกราคม ยังลบเล็กน้อยจากฐานมกราคม 2567รับประโยชน์มาตรการรัฐส่วนสุดท้าย คือบัตรสวัสดิการส่วนเพิ่ม +200 บาทต่อคน และกุมภาพันธ์กลับมาเป็นบวกราว 4-5% แล้ว

 

ฝ่ายวิจัยคงคำแนะนำ “Buy” จาก TP2567F 4.8 บาท อิง DCF (WACC 8.0%, TV Growth 2.0%) หรือเทียบเท่า PER2566x ยังต่ำกว่ากลุ่มมองเป็นหุ้นกลุ่มอิงบริโภค ที่ราคาอยู่โซนล่าง และซื้อขาย PER2567F 15 เท่า (ค่าเฉลี่ย – 1.3SD) เป็นจุดทยอยสะสมหุ้นกลับ

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทันหุ้น

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย ปลุกพลังเยาวชน“แม่ฟ้าหลวง” สร้างเครือข่ายเยาวชนอาสาพัฒนาเชียงราย

 
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พบปะเยาวชนอำเภอแม่ฟ้าหลวง ในโครงการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย กิจกรรมที่ 3 อบรมเครือข่ายเยาวชนอาสาพัฒนาเชียงราย ณ ห้องประชุม องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยมีนายฐิติวัชร ไลศิริพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

 

การอบรมเครือข่ายเยาวชนอาสาพัฒนาเชียงราย ในครั้งนี้ อบจ.เชียงราย ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการจัดบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งให้เป็นไปตามนโยบายที่ 5 สภาเยาวชนร่วมกำหนดอนาคตเชียงราย โดย อบจ.เชียงราย ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับให้บริการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย และจะจัดให้มีการสร้างเครือข่ายเยาวชนตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล ระดับอำเภอและระดับจังหวัด ภายใต้ชื่อ “เยาวชนอาสาพัฒนาเชียงราย (CRPAO Youth)” หมู่บ้านละ 2 คน (คัดเลือกตัวแทนระดับหมู่บ้าน และคัดเลือกตัวแทนระดับอำเภอ) ตามแนวคิด “เด็กและเยาวชน คือ อนาคตของชาติ”

 

เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีบทบาทแสดงความคิดเห็น เสนอแนะ สะท้อนปัญหา ความต้องการในมุมมองของเยาวชน ก่อเกิดการมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาท้องถิ่นอย่างเต็มรูปแบบ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ ในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคตผ่านการจัดตั้งสภาเยาวชน เครือข่ายเยาวชนและกลุ่มเยาวชน ซึ่งเยาวชนเหล่านั้น ได้มีบทบาทในการเชื่อมประสานการทำงานด้านการพัฒนาอันเป็นประโยชน์ ต่อชุมชน สังคม โดยชักชวนเยาวชนในหมู่บ้านได้เข้ามามีส่วนร่วม ก่อให้เกิดพลังจิตอาสานำพาสู่การเติบโตเป็นพลเมืองสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้ชุมชนเข้มแข็งต่อไป

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รพ.เชียงรายฯจัดหน่วยตรวจสุขภาพทีมอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา

 
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 67 เวลา 10.00 น. ณ อาคารโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ (โฮงยาไทย2) ศาลากลางจังหวัดเชียงราย (หลังเก่า) นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายครรชิต ชมภูแดง หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงรายนางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจทีมอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา โดยมีแพทย์หญิงอัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นำทีมคณะผู้บริหาร คุณหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ เข้าปฏิบัติหน้าที่ และให้การต้อนรับ

 

โดยในวันนี้ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้จัดหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพกับทีมอาสาดับไฟป่า มูลนิธิกระจกเงา จำนวน 51 คน ซึ่งจะได้ไปช่วยปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่สูงชัน เข้าถึงลำบาก ซึ่งจำเป็นมีการตรวจสุขภาพ ทั้งการวัดความดัน การตรวจสมรรถภาพปอด (เป่าปอด) และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน ตามนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทั้งนี้ ได้มอบรองเท้าเซฟตี้สำหรับดับไฟป่าและแกลลอนเปล่าสำหรับใช้บรรจุน้ำดื่ม สำหรับทีมที่ขึ้นไปช่วยดับไฟป่า เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานดับไฟป่าของมูลนิธิกระจกเงา

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ต้องขอบคุณชาวเชียงรายทุกคนที่ร่วมมือกันงดเผาในพื้นที่โล่งทุกชนิดจนทำให้จังหวัดเชียงรายตั้งแต่ในช่วงที่มีประกาศห้ามเผา (ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ จนถึงวัน) พบจุดความร้อนน้อยที่สุดในจังหวัดภาคเหนือตอนบน และขอขอบคุณทีมอาสาดับไฟป่าทุกทีมที่เข้าพื้นที่เพื่อเสริมศักยภาพภารกิจดับไฟป่าทุกคน พร้อมย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน ชีวิตและความปลอดภัยสุขภาพร่างกายของผู้ปฏิบัติงานต้องมาก่อน ต้องมีการตรวจสุขภาพร่างกายทุกครั้งทั้งก่อนและหลังปฏิบัติงาน เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานหากร่างกายไม่พร้อมก็ต้องงดลงพื้นที่ดับไฟป่าเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานเอง 

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงราย นำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรผลิตเตาเผาถ่านซังข้าวโพดและเตาชีวมวลแกลบ

 

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 67 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการอบรมเพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทดแทน ภายใต้โครงการเชียงรายเมืองสีเขียวสร้างสรรค์ โดยมีนายปรศักดิ์ งามสมภาค พลังงานจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงาน และนายสุรฬพลฎ์ ดุรงคชยานุรักษ์ นายกเทศมนตรีป่าอ้อดอนชัย กล่าวต้อนรับ นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงราย ร่วมพิธี

 

จังหวัดเชียงราย มีพื้นที่การเกษตรเป็นจำนวนมากและได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันทุกปี สำนักงานพลังงานจังหวัดเชียงรายเล็งเห็นถึงปัญหา จึงจัดให้ความรู้ให้กับเกษตรกรด้วยการใช้เทคโนโลยี มาใช้ในการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่างถูกวิธี โดยส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทดแทน เตาเผาถ่านซังข้าวโพด ขนาด 200 ลิตร, เตาเผาถ่านไบโอชาร์ ชนิดเผาเร็ว ขนาด 200 ลิตร และเตาชีวมวลแกลบ เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมและเสริมสร้างองค์ความรู้ในการบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ที่นำไปสู่การลดปัญหาด้านหมอกควันให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ระดับตำบล หมู่บ้าน ที่เป็นหน่วยดำเนินการด่านแรกในการช่วยกันป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าเพื่อให้สามารถลดความรุนแรงของการเกิดหมอกควันไฟป่าให้ได้ผลตามเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน

 

อีกทั้งเพื่อเป็นการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เผยแพร่องค์ความรู้การป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและการเผาในที่โล่ง  และเพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงรายให้คุณภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด  และส่งเสริมให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันไฟป่าสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการเกษตรชุมชน สหกรณ์การเกษตร กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ ศูนย์เรียนรู้ตำบล อปท. และกลุ่มเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
ECONOMY

ภาคเหนือปีนี้ผลผลิต ‘ลำไย’ เพิ่ม แต่หนาวไม่พอทำ ‘ลิ้นจี่’ ไม่ติดดอก

 
เมื่อวันที่ 20 มีนาคมคม 2567 นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สศก. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และผู้แทนเกษตรกรดำเนินการจัดทำข้อมูลพยากรณ์ปริมาณการผลิตไม้ผลภาคเหนือ ลำไยและลิ้นจี่ ปี2567 พบว่า ลำไยใน8จังหวัดภาคเหนือ (เชียงราย พะเยา ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ ตาก แพร่ และน่าน) มีเนื้อที่ให้ผลในภาพรวมลดลงเล็กน้อย โดยมีจำนวน1.243 ล้านไร่ ลดลงจากปี2566ที่มีจำนวน 1.244 ล้านไร่ (ลดลงร้อยละ0.10)เนื่องจากเกษตรกรโค่นลำไยเพื่อเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น เช่น ทุเรียน ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และบางส่วนโค่นเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย
 
 

โดยจะให้มีปริมาณผลผลิต1.047ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี2566ที่มีจำนวน 0.949 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ10.24)แบ่งเป็นผลผลิตรวมในฤดู0.702 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี2566ที่มีจำนวน 0.627 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ12.04)และผลผลิตรวมนอกฤดู0.344 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี2566ที่มีจำนวน 0.323 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นร้อยละ6.73)

 

ด้านผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผลในภาพรวมอยู่ที่842กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นจากปี2566ที่มีจำนวน 763 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้นร้อยละ10.35)เนื่องจากราคาลำไยในปีที่แล้วอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษาต้นลำไย จัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอเพื่อรับมือกับสภาพอากาศร้อนและราดสารโพแทสเซียมคลอเรตเพื่อชักนำการออกดอก ประกอบกับภาครัฐส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตลำไยคุณภาพและเกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่มาทำลำไยนอกฤดูมากขึ้น โดยผลผลิตลำไยในฤดูจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมิถุนายน – กันยายน และออกสู่ตลาดมากในเดือนสิงหาคม ประมาณร้อยละ38.72หรือ4.05แสนตัน

 

สำหรับลิ้นจี่4จังหวัดภาคเหนือ (เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ และน่าน)เนื้อที่ให้ผลมีจำนวน 7.30 หมื่นไร่ ลดลงจากปี2566ที่มีจำนวน 7.52 หมื่นไร่ (ลดลงร้อยละ2.86)เนื่องจากเกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทุเรียน เงาะ ยางพารา โดยให้ผลผลิตรวม2.72 หมื่นตัน ลดลงจากปี 2566 ที่มีปริมาณผลผลิต 3.32 หมื่นตัน (ลดลงร้อยละ18.14)โดยผลผลิตต่อเนื้อที่ให้ผลอยู่ที่372กิโลกรัมต่อไร่ ลดลงจากปี2566ที่มีจำนวน 442 กิโลกรัมต่อไร่ (ลดลงร้อยละ15.84)

เนื่องจากในปีนี้สภาพอากาศร้อนสลับหนาว และอากาศหนาวเย็นไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการออกดอกติดผล เพราะลิ้นจี่เป็นพืชที่อาศัยความหนาวเย็นในการชักนำการออกดอก และจากสภาพอากาศไม่เหมาะสม ทำให้ลิ้นจี่บางส่วนแตกใบอ่อนแทนการออกดอก

 

ประกอบกับหลายปีที่ผ่านมา เกษตรกรไม่ดูแลรักษา เนื่องจากลิ้นจี่เป็นพืชที่ดูแลยาก ทำให้ต้นไม่สมบูรณ์ ช่อดอกไม่สามารถพัฒนาเป็นผลได้ โดยในปีที่แล้วลิ้นจี่ออกสู่ตลาดกระจุกตัวอยู่ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งปีนี้ลิ้นจี่แทงช่อดอกช้าคาดว่าปี2567จะมีผลผลิตลิ้นจี่ออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนเมษายน – กรกฎาคม และจะออกสุดมากในเดือนพฤษภาคมและเดือนมิถุนายน รวมประมาณร้อยละ93.03หรือ2.53หมื่นตัน

 

ทั้งนี้ ข้อมูลนี้จะนำไปใช้ในการบริหารจัดการไม้ผลในที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด (คพจ.) และนำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ทั้งนี้ สศก. จะได้ติดตามสถานการณ์การผลิตอย่างต่อเนื่องต่อไปและจะรายงานผลพยากรณ์รอบต่อไปให้ทราบเป็นระยะ เนื่องจากผลไม้มีความอ่อนไหวต่อสภาพภูมิอากาศเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับกระทรวง กรม และจังหวัดได้นำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการผลไม้ต่อไป

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
All

Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 มียอดผู้เข้าชมงานพุ่งกว่า 1.6 ล้านคน

 
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการและองค์การมหาชนในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ โดยที่ประชุมได้รับรายงานจากสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) เกี่ยวกับผลการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 – 30 เมษายน 2567 ภายใต้แนวคิด “เปิดโลก” (The open World) ได้แรงบันดาลใจจากพระพุทธรูปปางเปิดโลกที่โบราณสถาน วัดป่าสัก อำเภอเชียงแสน โดยคัดเลือกผลงานจากศิลปิน 60 คน จาก 23 ประเทศทั้งไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลกร่วมจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีผู้เข้าชมงานและร่วมกิจกรรมภายในงานนี้ทั้งหมดกว่า 1,600,000 คน
 
 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า การจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยและกิจกรรมในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 
 
1) นิทรรศการหลัก แสดงผลงานศิลปะการจัดวางเฉพาะพื้นที่ (Site Specific Installation) จัดแสดงในเขตอำเภอเมืองเชียงราย อำเภอแม่ลาวและอำเภอเชียงแสน 
2) ศาลา (Pavilion) แสดงผลงานนิทรรศการกลุ่มของศิลปิน พิพิธภัณฑ์ และองค์กรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 10 แห่งในอำเภอเมืองเชียงรายและอำเภอใกล้เคียง 
และ3) Collateral Events เป็นกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในช่วงงาน เช่น ดนตรีชาติพันธุ์ งานฉายภาพยนตร์ การแสดงอื่นๆและการเยี่ยมชมบ้านหรือสตูดิโอของศิลปินในจังหวัดเชียงรายตามอำเภอต่างๆ 
 
 
ซึ่ง วธ.โดยสศร.จะร่วมกับหน่วยงานรัฐ เอกชนและเครือข่ายศิลปินและศิลปินชาวไทยและชาวต่างชาติดำเนินการจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยและกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เช่น นิทรรศการ My Bulgarian Neighbor “Melting” Seventh Layer กิจกรรม OPEN WORLD CINEMA – Hours of ours กิจกรรมดนตรีชาติพันธุ์ “กวาคีลา : เป่า ร้อง กลอง รำ เปิดโลกวิถีวัฒนธรรมดนตรีชาติพันธุ์เมืองเชียงราย และนิทรรศการทัวร์เส้นทางท่องเที่ยวชุมชนเฮือนโบราณ เจียงฮาย เป็นต้น
 
 
น่ายินดีที่มีชาวไทยและชาวต่างชาติ คณะบุคคลต่างๆมาเข้าชมและร่วมกิจกรรมในงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 เป็นจำนวนมาก ช่วงเวลาของการจัดงานที่เหลือกว่า 1 เดือน ขอเชิญชวนคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวชมงานเพื่อศึกษาเรียนรู้งานศิลปะร่วมสมัย ซึ่งเป็นหนึ่งใน Soft Power 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่รัฐบาลมุ่งส่งเสริมเพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ตลอดจนเสริมสร้างภาพลักษณ์ และยกระดับบทบาทด้านศิลปวัฒนธรรมของไทยในเวทีโลกและพัฒนางานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยไทยสู่ความเป็นสากล” นายเสริมศักดิ์ กล่าว
 
 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า นอกจากงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 แล้ว ช่วงเดือนมีนาคม 2567 สศร.จัดกิจกรรมแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยอื่นๆ อาทิ นิทรรศการศิลปะ “ลายมือ” ของนายแสงมณี แสงบุญ ศิลปินและดีไซน์เนอร์มืออาชีพผู้มีผลงานสร้างสรรค์ห้องเสื้อ “แสงบุญ” เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการของแฟชั่น โดยนำผลงานศิลปะที่แสดงเรื่องราวซึ่งมีที่มาจากจิตภายในสู่ภายนอก ต่อเส้นสายจากใจสู่มือ ถ่ายทอดผ่านลายมือ ลายเส้น ทั้งขาวดำและสีสัน ออกมาเป็นผลงานศิลปะอันมีเสน่ห์ 
 
 
โดยจัดแสดงตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ณ เฮินศิลป์ใจ๋ยอง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และนิทรรศการ “1+2 CNX” นำเสนอผลงานศิลปะของศิลปินชั้นครู ผู้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณพงศ์เดช ไชยคุตร นายพีระพงษ์ ดวงแก้วและนางสาวราษี ศรบรรจง โดยเป็นการส่องสะท้อนนิเวศทางศิลปะและวัฒนธรรมผ่านทักษะฝีมือของศิลปินชั้นครูทั้ง 3 ท่าน เปิดให้เข้าชมตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2567 ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งกิจกรรมเสพศิลป์…ฟินอาร์ต เช่น กิจกรรมฟื้นชีวิตเรือนพื้นถิ่นโบราณเชื่อมประสานเศรษฐกิจชุมชน จัดขึ้นตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 28 เมษายน 2567 ณ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง กิจกรรมดนตรีในสวนป่า ครั้งที่ 3 จัดขึ้นวันที่ 23 มีนาคม 2567 ณ อุ้มฮุ่มโฮมสเตย์และสวนป่าเกษตรอินทรีย์ อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News