Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รับมืออุบัติเหตุ เชียงรายจัดซ้อมแผน 2 โรงพยาบาล เตรียมพร้อมช่วงเทศกาล

โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ เตรียมพร้อมรับมือช่วงเทศกาล

ซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ประจำปี 2568 สร้างความพร้อมระบบสาธารณสุขรับมือภัยพิบัติ

เชียงราย – วันที่ 4 เมษายน 2568 โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยกลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ได้จัดกิจกรรมฝึกปฏิบัติการซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่ประจำปี 2568 ณ หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 37 และโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานด้านความมั่นคง และองค์กรกู้ภัยในจังหวัดเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ด้านการจราจร สมาคมศิริกรณ์เชียงรายบรรเทาสาธารณภัย และสมาคมแสงธรรมสาธารณกุศล เชียงราย ก็ได้จัดการฝึกซ้อมอุบัติเหตุหมู่ ณ บริเวณโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ซึ่งมีการเดินทางจำนวนมาก และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุหมู่สูงกว่าช่วงปกติ

เน้นซ้อมสถานการณ์จริง ให้บุคลากรเข้าใจบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน

กิจกรรมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทุกฝ่าย ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพ และสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

โดยแบบจำลองเหตุการณ์ที่ใช้ในการฝึกซ้อมเป็นสถานการณ์จำลองอุบัติเหตุรถชนจำนวนหลายคัน มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากและต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนจริง ตั้งแต่การแจ้งเหตุ ประสานหน่วยสนับสนุน การเข้าถึงผู้ป่วย การลำเลียง และการรักษาเบื้องต้น ไปจนถึงการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพ

ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

การฝึกซ้อมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงาน ได้แก่ โรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่ ทีม ALS กู้ภัยจากเทศบาลนครเชียงราย ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 37 และตำรวจจราจรจาก สภ.เมืองเชียงราย นอกจากนี้ ยังมีการร่วมซ้อมของสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันและสอดคล้องกับระบบการจัดการอุบัติเหตุหมู่ในระดับจังหวัด

สร้างความมั่นใจในการให้บริการประชาชนช่วงเทศกาล

ในช่วงเทศกาล เช่น สงกรานต์ ซึ่งประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย ความเสี่ยงจากอุบัติเหตุบนท้องถนนจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การเตรียมความพร้อมในการรับมืออุบัติเหตุหมู่จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้

แนวคิด “หนึ่งทีม หนึ่งระบบ” สู่การพัฒนาระบบสาธารณสุขเชิงรุก

การฝึกซ้อมครั้งนี้สะท้อนถึงแนวคิด “หนึ่งทีม หนึ่งระบบ” ที่เน้นให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถประสานงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มศักยภาพในการตัดสินใจอย่างเร่งด่วน ณ จุดเกิดเหตุ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขในการส่งเสริมระบบการแพทย์ฉุกเฉินในระดับจังหวัด

ความเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง: ภาครัฐ-ภาคประชาชน

ฝ่ายภาครัฐ เห็นว่าการฝึกซ้อมดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคที่ภัยพิบัติและอุบัติเหตุมีความซับซ้อนมากขึ้น และต้องใช้การประสานงานข้ามหน่วยงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า จังหวัดพร้อมสนับสนุนทรัพยากรและงบประมาณเพื่อให้การรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินมีความรวดเร็วและแม่นยำ

ขณะเดียวกัน จากมุมมองของประชาชนบางกลุ่ม ยังมีความกังวลเรื่องความต่อเนื่องของการฝึกซ้อมในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะในอำเภอห่างไกลที่อาจไม่ได้รับการฝึกอบรมในระดับเดียวกับตัวเมืองเชียงราย และมีข้อเสนอให้กระจายโอกาสการซ้อมและฝึกปฏิบัติไปยังโรงพยาบาลชุมชนมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้รับบริการที่มีคุณภาพเท่าเทียมกัน

ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาระบบรับมืออุบัติเหตุหมู่ในอนาคต

การฝึกซ้อมอุบัติเหตุหมู่ควรได้รับการจัดอย่างต่อเนื่องปีละหลายครั้ง และควรมีการประเมินผลหลังฝึกซ้อมทุกครั้ง เพื่อพัฒนาแนวทางการดำเนินงาน และแก้ไขข้อบกพร่องที่พบเจอ อีกทั้ง ควรมีการฝึกในรูปแบบข้ามจังหวัด เพื่อรองรับกรณีที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด

ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง

  • ในปี 2566 ประเทศไทยเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่า 19,000 ครั้ง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพียงช่วงเดียว
  • จังหวัดเชียงรายเกิดอุบัติเหตุรวม 479 ครั้ง ในปี 2566 โดยมีผู้เสียชีวิต 56 ราย และบาดเจ็บ 562 ราย (ที่มา: ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน, กระทรวงคมนาคม)
  • อัตราการรอดชีวิตของผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหมู่จะเพิ่มขึ้น มากกว่า 50% หากได้รับการช่วยเหลือในช่วง ทองคำ” 1 ชั่วโมงแรก (Golden Hour) (ที่มา: กรมการแพทย์ฉุกเฉิน, กระทรวงสาธารณสุข)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กระทรวงคมนาคม
  • กรมการแพทย์ฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข
  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
  • โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
  • โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศบาลนครเชียงรายพ่นละอองน้ำ ดักฝุ่นหลังน้ำท่วม สู้ PM2.5

เทศบาลนครเชียงรายเร่งสร้างละอองน้ำลดฝุ่น PM2.5 และฟื้นฟูหลังอุทกภัย

มาตรการเร่งด่วนเพื่อสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อมในเขตเทศบาล

เชียงราย, 7 มีนาคม 2568 – เทศบาลนครเชียงราย นำโดย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย และ นายธเนศ โกมลธง รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ภาคีเครือข่าย และโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค นำโดย นายแพทย์ณัฐชัย เครือจักร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ได้ร่วมกันดำเนินมาตรการ พ่นละอองน้ำในเขตเทศบาลนครเชียงราย เพื่อลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมหลังอุทกภัยที่เพิ่งผ่านพ้นไป

แนวทางปฏิบัติและพื้นที่ดำเนินการ

มาตรการพ่นละอองน้ำของเทศบาลนครเชียงรายครอบคลุมพื้นที่ที่มีปัญหาฝุ่นละอองและได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยในช่วงเช้าได้มีการ ล้างถนนและดูดโคลนเลน ตามถนนสายหลักในเขตเมืองเชียงราย จากนั้นได้ดำเนินการพ่นละอองน้ำในจุดสำคัญ ได้แก่:

  • ถนนสิงหไคล (หน้ารพ.โอเวอร์บรุ๊ค)
  • บริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช
  • สวนตุงและโคมนครเชียงราย

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายพื้นที่การพ่นละอองน้ำไปยังจุดที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น และจุดที่มีค่าฝุ่นละออง PM2.5 สูง เพื่อให้มาตรการนี้สามารถช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วัตถุประสงค์ของโครงการพ่นละอองน้ำ

นายแพทย์ณัฐชัย เครือจักร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนโดยตรง เพราะฝุ่น PM2.5 เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจและโรคหัวใจ อีกทั้งยังสามารถแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในระยะสั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นอกจากประโยชน์ด้านสุขภาพแล้ว มาตรการพ่นละอองน้ำยังช่วย บรรเทาความร้อนในช่วงฤดูร้อน ทำให้ประชาชนรู้สึกสบายขึ้น และช่วยลดอุณหภูมิในเขตเมืองเชียงราย ซึ่งได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน

การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า: ถังน้ำจากภารกิจช่วยเหลืออุทกภัย

หนึ่งในแนวทางที่เทศบาลนครเชียงรายนำมาใช้คือการ ปรับใช้ถังน้ำขนาดใหญ่ที่เคยนำไปช่วยเหลือประชาชนในช่วงประสบอุทกภัย โดยนำกลับมาบรรจุน้ำสะอาดเพื่อใช้ในการพ่นละอองน้ำ ซึ่งช่วยลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรและเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงาน

สถิติและข้อมูลเกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 และผลกระทบต่อสุขภาพ

จากรายงานของ กรมควบคุมมลพิษ พบว่า จังหวัดเชียงรายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุดในภาคเหนือ โดยในช่วงเดือนมีนาคม ค่าฝุ่น PM2.5 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่า 80 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดไว้ที่ 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

จากสถิติของ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นกว่า 35% ในช่วงเดือนที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)

เสียงสะท้อนจากประชาชนต่อมาตรการพ่นละอองน้ำ

ฝ่ายสนับสนุนมาตรการ: ชาวเชียงรายหลายคนเห็นด้วยกับมาตรการพ่นละอองน้ำ โดยให้ความเห็นว่าเป็นแนวทางที่สามารถช่วยลดฝุ่นได้ในระยะสั้น และช่วยให้สภาพอากาศดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้สัญจรและชุมชนหนาแน่น

นายสมพงษ์ ชาวเชียงราย ให้ความเห็นว่า พ่นละอองน้ำช่วยให้หายใจโล่งขึ้น ลดฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ รู้สึกดีขึ้นเวลาขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านจุดที่มีการพ่นน้ำ”

ฝ่ายที่มีข้อกังวล: บางกลุ่มมองว่ามาตรการพ่นละอองน้ำเป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราวและไม่สามารถแก้ไขต้นเหตุของปัญหาฝุ่น PM2.5 ได้อย่างถาวร โดยเฉพาะปัญหาหมอกควันจากการเผาป่าและการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศหลักของภาคเหนือ

นางสาวปรียานุช นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การพ่นละอองน้ำช่วยลดฝุ่นได้ชั่วคราว แต่ต้นเหตุของปัญหามาจากการเผาป่าและการเผาเศษวัสดุการเกษตร หากไม่แก้ไขที่ต้นตอ ปัญหาฝุ่น PM2.5 ก็จะกลับมาเหมือนเดิม”

แนวทางเพิ่มเติมในการจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5

นักวิชาการและหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมเสนอว่า ควรมี มาตรการควบคุมการเผาในที่โล่ง และ ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีลดควันในการเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การติดตั้ง เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ในพื้นที่สาธารณะ และ การใช้รถบรรทุกน้ำฉีดพ่นถนนในพื้นที่ที่มีฝุ่นสะสมสูง ก็เป็นอีกทางเลือกที่ควรได้รับการพิจารณา

สรุป

มาตรการพ่นละอองน้ำของเทศบาลนครเชียงรายถือเป็นแนวทางเร่งด่วนที่สามารถช่วย ลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ได้ในระยะสั้น และช่วยฟื้นฟูสภาพแวดล้อมหลังอุทกภัย อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของมาตรการดังกล่าว และความจำเป็นในการจัดการต้นตอของปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างจริงจัง

ในระยะยาว การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อสร้างแนวทางที่สามารถลดฝุ่น PM2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศบาลเชียงราย-โอเวอร์บรุ๊ค ยกระดับบริการสุขภาพพร้อมสร้างสะพานลอยใหม่

เทศบาลนครเชียงรายจับมือโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ยกระดับบริการทางการแพทย์และความปลอดภัย

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 เทศบาลนครเชียงราย ได้ร่วมมือกับ โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค เพื่อพัฒนาบริการทางการแพทย์และเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ โดยมี นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย เป็นประธานต้อนรับคณะผู้บริหารจากโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค นำโดย นายแพทย์ณัฐชัย เครือจักร รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร

โครงการขยายบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม

ในที่ประชุม โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คได้หารือถึงโครงการขยายบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จากเดิม 24 เตียง เพิ่มเป็น 44 เตียง เพื่อลดระยะเวลาการรอคอยของผู้ป่วยโรคไต พร้อมยกระดับมาตรฐานการดูแลรักษาให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ก่อสร้างสะพานลอยเพิ่มความปลอดภัย

อีกหนึ่งโครงการสำคัญคือการก่อสร้างสะพานลอยบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ป่วย ญาติ และบุคลากรที่ต้องข้ามถนน โดยสะพานลอยนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการในการเข้าถึงโรงพยาบาล

การก่อสร้างอาคารสนับสนุนขนาด 5,000 ตารางเมตร

เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คได้วางแผนการก่อสร้างอาคารสนับสนุนขนาด 5,000 ตารางเมตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการดูแลผู้ป่วยในพื้นที่นครเชียงราย

ความร่วมมือที่ดีระหว่างเทศบาลและโรงพยาบาล

นายแพทย์ณัฐชัย เครือจักร ได้กล่าวขอบคุณเทศบาลนครเชียงรายที่ให้ความสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของโรงพยาบาลด้วยดีเสมอมา พร้อมอวยพรให้คณะผู้บริหารเทศบาลมีสุขภาพแข็งแรงในโอกาสวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่

เทศบาลพร้อมสนับสนุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ย้ำว่าเทศบาลพร้อมสนับสนุนทุกโครงการที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านการแพทย์ที่เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับชุมชน

ความสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้

การร่วมมือระหว่างเทศบาลนครเชียงรายและโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้ก้าวหน้า พร้อมสร้างความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในทุกมิติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค จัดงาน วันระลึก ‘หมอบรัดเลย์’

 

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2024 โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ได้จัดงาน “วันระลึกนายแพทย์แดน บีช แบรดลีย์ (หมอบรัดเลย์)  ผู้ที่มีคุณูปการต่อชาวสยาม” จุดประสงค์การจัดงานในครั้งนี้นอกจากเป็นการรำลึกถึงคุณหมอบรัดเลย์ท่านผู้เป็นบุคคลสำคัญที่ได้นำการแพทย์แผนปัจจุบันมาสู่ประเทศไทย 

 

โดยในงานนี้โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คได้รับเกียรติ จากท่าน ว่าที่ร.ต.ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้  โดยมีศจ.ดร.ศิริรัตน์ ปุสุรินทร์คำ ประธานคณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค เป็นผู้กล่าวรายงาน มีการขับร้องประสานเสียงจากบุคลากรโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คในบทเพลง “ระลึกถึงคุณหมอบรัดเลย์” และที่พิเศษสุดคือได้รับเกียรติจาก อาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม ศิลปินชาวเชียงราย ร่วมวาดภาพคุณหมอบรัดเลย์พร้อมกับการบรรเลงเพลงของวงดุริยางค์โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม

 

ศจ.ดร.ศิริรัตน์ ปุสุรินทร์คำ กล่าวว่า ถึงการจัดงาน “วันระลึก นายแพทย์แดน บีช แบรด ลีย์ (หมอบรัดเลย์) ผู้ที่มีคุณูปการต่อชาวสยาม” เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณหมอบรัดเลย์ ท่านผู้เป็นบุคคลสำคัญที่ได้นำการแพทย์แผนปัจจุบันมาสู่ประเทศไทย

 

ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า “วันระลึก นายแพทย์ แดเนียล บีช บรัดเลย์” หรือ “คุณหมอบรัดเลย์” ในครั้งนี้มิชชันนารีจากต่างประเทศเข้ามาประกาศศาสนาและทำพันธกิจในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก  ท่านเหล่านี้ ได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับพี่น้องชาวไทยเป็นอย่างมาก  หนึ่งในมิชชันนารีที่เรารำลึกถึงท่านในวันนี้คือ นพ.บรัดเลย์ (Dan Beach Bradley) หรือ “ คุณหมอบรัดเลย์” ท่านมีคุณูปการต่อชาวไทยในหลายด้าน  ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์  ด้านการศึกษาและสิ่งตีพิมพ์

 

ซึ่งผลงานที่สำคัญของนายแพทย์แดน บีช แบรดลีย์ (หมอบรัดเลย์)  ผู้ที่มีคุณูปการต่อชาวสยามคือ  

  • การริเริ่มผ่าตัดด้วยการนำวิทยาการสมัยใหม่จากตะวันตกมาเข้ามาใช้
  • การริเริ่มการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษหรือฝีดาษ
  • ท่านเป็นคนแรกที่ทำการถ่ายเลือด เพื่อแก้ไขผู้ป่วยที่เสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก
  • เป็นผู้ตั้งร้านจำหน่ายยาและเป็นต้นกำเนิดความคิดของการทำคลินิกแห่งแรกในสยาม หรือที่เราเรียกว่า “ โอสถศาลา ”

 

ผลงานทางด้านการศึกษาและสิ่งตีพิมพ์ของท่านก็มีอย่างมากมาย  ท่านเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจการพิมพ์และโรงพิมพ์   อาทิเช่น  การหล่อแท่นพิมพ์ภาษาไทยสำเร็จเป็นครั้งแรก  พิมพ์เอกสารราชการไทยฉบับแรก    พิมพ์หนังสือพิมพ์ไทยฉบับแรก  พิมพ์พจนานุกรมไทยฉบับแรก  พิมพ์ตำราการแพทย์  พิมพ์ตำราเรียนภาษาไทย  และตำราอื่นๆ อีกมากมาย ทางโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คขอขอบคุณทุกท่าน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ในจังหวัดเชียงรายที่เข้าร่วมงานนี้ครั้งนี้

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค จัดงาน 105 ปี วันรำลึกถึง “คุณหมอบริกส์”

 
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2024 ทางโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค นพ.ณัฐชัย เครือจักร รักษาการผู้อำนวยการและผู้จัดการโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ ได้จัดงานวันรำลึกถึงคุณหมอบริกส์ “จากอดีตถึงปัจจุบัน ศาสนาจารย์ นายแพทย์ วิลเลียม อัลเบิร์ต บริกส์”  ผู้ซึ่งมีคุณูปการต่อชาวเชียงราย ในโอการครบรอบ 105 ปี การจากไปหมอบริกส์ (วันเสียชีวิตที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1919) ซึ่งภายในงานโรงพยาบาล โอเวอร์บรุ๊ค มีทั้งภาครัฐ และเอกชน ในจังหวัดเชียงรายที่เข้าร่วมงานนี้ครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติ จากท่านพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงาน ศจ.ดร.ศิริรัตน์ ปุสุรินทร์คำ ประธานคณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค เป็นผู้กล่าวรายงานการจัดงาน

 

ซึ่งการจากไปหมอบริกส์ (วันเสียชีวิตที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1919) จุดประสงค์การจัดงานในครั้งนี้นอกจากเป็นการรำลึกถึงคุณหมอบริกส์ ผู้ริเริ่มและก่อสร้างโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค คริสตจักรที่ 1 เวียงเชียงราย โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม ก่อสร้างศาลากลาง จังหวัดเชียงราย จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อาคารที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข ก่อสร้างเรือนจำ นอกจากนั้นท่านยังเป็นผู้จัดวางแผนผังเมืองเชียงราย สิ่งที่สำคัญอีกด้านหนึ่งคือการรักษาพยาบาล พี่น้องชาวเชียงราย ได้รับการดูแลรักษาที่ดี ส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่า “โฮงยาฝรั่ง” หรือโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ในการให้การรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน บนแบบอย่างของความเชื่อของคริสตชน เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย เรียกกันว่า “คุณหมอบริกส์” เป็นผู้ริเริ่มและก่อสร้าง โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค คริสตจักรที่ 1 เวียงเชียงราย โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม ก่อสร้างศาลากลาง จังหวัดเชียงราย จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย อาคารที่ทำการไปรษณีย์โทรเลข ก่อสร้างเรือนจำ นอกจากนั้นท่านยังเป็นผู้จัดวางแผนผังเมืองเชียงรายเป็นต้น

 

คุณหมอบริกส์ เสียสละความสุขส่วนตัวในประเทศบ้านเกิดที่มีความเจริญ เสียสละความรู้ ความสามารถที่จะพัฒนาบ้านเมืองของตน เพื่อมาช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ยอมทิ้งเกียรติยศศักดิ์ศรี ที่ควรจะได้รับ มาอยู่ในประเทศ ชุมชน ที่ยากลำบากในสมัยนั้น คงไม่มีเหตุผลใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าคำว่า “ความรัก” และ “เสียสละ” ผ่านทางความเชื่อของท่าน โดยมี “องค์พระเยซูคริสต์” เป็นต้นแบบ

 

คุณูปการที่ “คุณหมอบริกส์” มีต่อชาวเชียงราย ที่สำคัญด้านหนึ่งคือการรักษา พี่น้องชาวเชียงราย ได้รับการดูแลรักษาที่ดี ส่งต่อกันมารุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน นั่นจึงเป็นที่มาของคำว่า “โฮงยาฝรั่ง” ที่ยังติดปากพี่น้องชาวเชียงรายอยู่เสมอมา

พี่น้องชาวเชียงรายมีความทราบซึ้งใจ ในคุณงามความดีและความเสียสละของ “คุณหมอบริกส์” ซึ่งผ่านมาทาง “โฮงยาฝรั่ง” หรือโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค ในการให้การรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน บนแบบอย่างของความเชื่อของคริสตชน เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงราย

 

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News