Categories
CULTURE SOCIETY & POLITICS

จัดอบรมคุณธรรมจริยธรรมเด็กและเยาวชนมุสลิม

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม 2567 ณ มัสยิดอันนูร แม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นายชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการจัดอบรมคุณธรรมจริยธรรมเด็กและเยาวชนมุสลิม ภาคฤดูร้อน ประจำปี พ.ศ. 2567 โดยมี นายสมจิตร มุณีกร ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดอันนูร แม่สาย เป็นผู้กล่าวรายงาน และอิหม่ามอรุณ จินดาอภิรักษ์กุล กล่าวดุอา (การอวยพร) นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มาพบปะและกล่าวถึงความสำคัญ และติดตามประเมินผลโครงการ เพื่อนำผลไปพัฒนา ส่งเสริม และขยายผลต่อไป

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ คณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิดอันนูร แม่สาย โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อจัดโครงการจัดอบรมคุณธรรมและจริยธรรมเด็กและเยาวชนมุสลิม ภาคฤดูร้อน ประจำปี พ.ศ. 2567 ในระหว่างวันที่ 1 – 5 พฤษภาคม 2567 ณ อาคารเอนกประสงค์มัสยิดอันนูร แม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก เยาวชน และประชาชนในอำเภอแม่สาย จำนวน 200 คน

 

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายวิชชากรณ์ กาศโอสถ นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ นายอภิชาต กันธิยะเขียว นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ นางสาวสุทธิดา ตราชื่นต้อง นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ และนายพร้อมพงษ์ ทาสิทธิ์ ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่เพื่อติดตามประเมินผลโครงการฯ โดยมีกิจกรรมสำคัญดังนี้

 

  1. การอบรมให้ความรู้ด้านศาสนา จริยธรรม และวัฒนธรรม รวมทั้งการดำเนินชีวิตตามแบบเศรษฐกิจพอเพียง
  2. การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและกฎจราจร
  3. การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติด
  4. การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รัชกาลที่ 9
  5. การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการรู้จักป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโรโรนา 2019
  6. กิจกรรมนันทนาการและการปฏิบัติศาสนกิจทางศาสนาอิสลาม
  7. การบำเพ็ญประโยชน์จิตอาสา และทำความสะอาดสถานที่ต่าง ๆ
  8. การทัศนศึกษาของเด็กและเยาวชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, สุพจน์ ทนทาน : รายงาน

พร้อมพงษ์ ทาสิทธิ์ : ภาพ
อภิชาต กันธิยะเขียว : บรรณาธิการข่าว
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัยสู่ลานพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567

 

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 67 ที่ภายในวัดศาลาเชิงดอย ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนเดินจาริกแสวงบุญตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัย ในงานสืบสานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567 ภายใต้ชื่อว่า “2006 ปีสืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมี พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง ตลอดจนพระเถรานุเถระ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายอำเภอแม่สาย หัวหน้าส่วนราชการ พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเชียงราย และจังหวัดใกล้เคียง

 

เข้าร่วมพิธีกันอย่างคึกคักท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายไร้หมอกควัน หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีฝนตกลงมาอย่างมากมายทั่วทั้งจังหวัดทำให้อากาศและบรรยากาศโดยทั่วไปสดใส สดชื่น ทำให้เป็นที่สนใจแก่นักเดิน นักวิ่ง และผู้แสวงบุญ ที่ต้องการเดินจาริกแสวงบุญตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งชาวล้านนาที่นับถือกันมายาวนานจนถึงปัจจุบัน เข้าร่วมจำนวนมาก

 

 ภายในพิธีช่วงเช้ามืดของวันนี้ นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง ประกอบพิธีทางศาสนา วางพานพุ่มดอกไม้สดสักการะครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่ด้านหน้าวัดศาลาเชิงดอย เพื่อความเป็นสิริมงคลในการประกอบพิธีเดินจาริกแสวงบุญ โดยได้มีการปล่อยขบวนเดินจาริกแสวงบุญตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัย ตนบุญแห่งล้านนา เป็นระยะทาง 9 กิโลเมตร เพื่อขึ้นไปไหว้สาพระธาตุดอยตุงเจดีย์องค์แรกของล้านนา เพื่อสืบสานประเพณีนสมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 23-24 มีนาคม 2567 นี้

 

 นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า พระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นโบราณสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา สร้างมาแต่โบราณกาล และเป็นหลักฐานแรกที่พระพุทธศาสนาเข้ามาประดิษฐานในล้านนา ตามประวัติได้กล่าวไว้ว่า พระมหากัสสะปะเถระ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระธาตุรากขวัญเบื้องซ้าย หรือ กระดูกไหปลาร้าข้างซ้าย ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาถวายแด่พระพุทธเจ้าอุชุตราช เจ้าผู้ครองนครนาคพันธ์โยนกชัยบุรี รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์สิงหนวัติ เป็นประธานบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ ดอยดินแดง หรือดอยตุงในปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ 561 ซึ่งการบูชาพระธาตุเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาตั้งแต่โบราณกาล ซึ่งคนล้านนาถือเอาพระธาตุเจดีย์เป็นที่พึ่งของตน ทุกคืนเวลาไหว้พระจะต้องไหว้พระธาตุคือไหว้พระเจดีย์ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐาน ณ ที่ต่างๆ โดยเฉพาะผู้ที่เกิดปีกุน คือปีหมู หรือกุลชอน คือมปีช้าง  ตามความเชื่อของชาวล้านนาต้องไหว้พระธาตุเจดีย์ที่ดอยตุง จะเป็นสิริมงคลแก่การดำรงชีวิต

 

สำหรับปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 จังหวัดเชียงราย จึงได้ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย จัดให้มีกิจกรรมเดินจริกแสวงบุญ ตามรอยครูบาเจ้าศรีวิชัย ขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยตุง ซึ่งเมื่อครั้งครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้เดินทางจารึกแสวงบุญและทำการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระธาตุดอยตุง ด้วยแรงแห่งความศรัทธา เมื่อปีพุทธศักราช 2470 พระครูบาเจ้าศรีวิชัยได้ใช้เส้นทางแห่งนี้ เป็นทางเดินขึ้นองค์พระธาตุดอยตุง คณะศรัทธาพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดเชียงราย จึงได้ยึดถือเป็นประเพณีการเดินจาริกแสวงบุญ สืบต่อมาเป็นประเพณีทุกๆ ปี อีกด้วย

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

“พิสันต์” ยืนยันสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประชาชนร่วมได้ 23 – 24 มี.ค. 67 นี้

 

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ที่วัดพระธาตุดอยตุง ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย และนายญาณาฤทธิ์ หนสมสุข รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานสืบสานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567 “2006 ปีสืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” โดยมี นายอำเภอแม่จัน หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าว

 

การจัดงานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุงของทุกปีตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 หรือเดือน 6 เหนือ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมด้านศาสนาของพุทธศาสนิกชน สืบทอดประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามที่มีมาแต่อดีต อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมในการพัฒนาด้านจิตใจให้เกิดคุณธรรมจริยธรรมอย่างยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะคนที่เกิดปีกุล โดยกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 23 – 24 มีนาคม 2567 นี้ ภายในงานได้กำหนดให้มีกิจกรรมคือ ในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 ช่วงเช้าเป็นพิธีเดินจาริกแสวงบุญธรรมยาตราของพุทธศาสนิกชน จะร่วมเดินจาริกจากอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดศาลาเชิงดอย ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย ไปตามเส้นทางเดินเท้าสายเดิม ขึ้นไปยังวัดพระธาตุดอยตุง รวมระยะทาง 9 กม. เพื่อสักการะพระบรมสารีริกธาตุกระดูกไหปลาร้า (พระรากขวัญเปื้องข้าย) ของพระสัมมาพระพุทธเจ้า ส่วนช่วงบ่ายเป็นพิธีตักน้ำทิพย์สรงพระธาตุดอยตุง เพื่อนำน้ำทิพย์เข้าร่วมพิธีสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ซึ่งอาณาบริเวณโดยรอบพระธาตุดอยตุงเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน ปรากฏบ่อน้ำศักดิ์สิทธิอายุนับพันกว่าปี และบ่อน้ำศักด์สิทธิ์เป็นหนึ่งในสถานที่ตักน้ำประกอบพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 
 

ในพิธีดังกล่าวยังได้จัดให้มีพิธีขบวนแห่น้ำสรงพระราชทานและสิ่งของพระราชทาน โดยเคลื่อนขบวนจากเทศบาลตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย มุ่งสู่ วิหารวัดน้อยดอยตุง และช่วงค่ำเป็นพิธีสมโภช เทศน์สวดเบิก โดยพระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์สมโภชน้ำทิพย์ ส่วนในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2567 ในช่วงเช้าเป็นพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เริ่มในเวลาประมาณ 05.00 น. ณ บริเวณวัดน้อยดอยตุง ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย โดยมีพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 50 รูป ออกรับบิณฑบาตรับข้าวสารอาหารแห้ง จากนั้นต่อด้วยพิธีบวงสรวงพระธาตุดอยตุง เริ่มในเวลาประมาณ 07.00 น. ณ บริเวณพระธาตุดอยตุง พร้อมขบวนเครื่องสักการะพระธาตุดอยตุง และพิธีสืบชะตาหลวงล้านนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมงาน โดยมีพระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ลืบชะตาหลวงล้านนา และพิธีสุดท้ายเป็นพิธีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ถือเป็นหัวใจสำคัญของการจัดงาน เป็นการนำเครื่องสักการะซึ่งผู้เข้าร่วมงานพุทธศาสนิกชน ได้เข้าร่วมขบวนมาถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุเจ้าดอยตุง เป็นสิริมงคลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระราชทานสิ่งของเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในครั้งนี้อีกด้วย

 

โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567

       เวลา 06.00 น. กิจกรรมเดินจาริกแสวงบุญ ธรรมยาตราของพุทธศาสนิกชนร่วมเดินจาริกจากอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย วัดศาลาเชิงดอย ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย ไปตามเส้นทางเดินเท้าสายเดิม เข้าสู่วัดพระธาตุดอยตุง

       เวลา 13.00 น. พิธีตักน้ำ ณ บ่อน้ำทิพย์ วัดน้อยตอยตุง เพื่อเตรียมใช้สรงน้ำพระธาตุดอยตุง

       เวลา 13.00 น. ขบวนเชิญน้ำสรงพระราชทานและสิ่งของพระราชทาน เคลื่อนขบวนจากเทศบาลตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย มุ่งสู่ วิหารวัดน้อยดอยตุง

       เวลา 17.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และสวดเบิกสมโภชน้ำทิพย์ น้ำสรงพระราชทาน ผ้าห่มพระธาตุพระราชทาน และผ้าไตรพระราชทาน ณ วิหารวัดน้อยดอยตุง

 

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2567

       เวลา 05.00 น. พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ณ บริเวณวัดน้อยดอยตุง

       เวลา 07.00 น. พิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ บริเวณพระธาตุดอยตุง

       เวลา 08.00 น. ขบวนเครื่องสักการะพระธาตุดอยตุง ขบวนอัญเชิญสิ่งของพระราชทาน อาทิ น้ำสรงพระราชทาน ผ้าห่มพระธาตุดอยตุงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และเครื่องสักการะ ต่าง ๆ ตามจารีตประเพณีล้านนา ขบวนพุทธศาสนิกชน 18 อำเภอ ขบวนฟ้อนเล็บเชียงราย ขบวนชาติพันธุ์ เคลื่อนจากวัดน้อยดอยตุงขึ้นสู่ลานพระธาตุดอยตุง

       เวลา 09.00 น. พิธีสืบชะตาหลวงล้านนา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมงาน

       เวลา 09.39 น. พิธีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง นำโดย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีฯ

       จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ข้าราชการและประชาชน ร่วมงานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567 “2006 ปีสืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” โดยพร้อมเพรียงกัน

 

พระธาตุดอยตุง ปฐมธาตุเจดีย์แห่งล้านนา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1454 สมัยพระเจ้าอชุตราชแห่งโยกนาคพันธุ์นคร ประดิษฐานพระรากขวัญเบื้องซ้ายและพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า มีประเพณีสักการะและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง เป็นประจำทุกปี ในวันเพ็ญเดือน 6 (เหนือ) หรือตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 4 ของภาคกลาง โดยในการจัดงานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ น้ำสรงพระธาตุดอยตุงสำหรับประกอบพิธี และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทาน น้ำสรงพระธาตุดอยตุง ผ้าห่มพระธาตุดอยตุง และผ้าไตร เพื่อประกอบพิธีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567

 

ทั้งนี้หากท่านใดสนใจเข้าร่วมงาน สามารถติดตามข่าวสารการจัดงาน และรับชมถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรม งานสืบสานประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ประจำปี 2567 “2006 ปีสืบมา หกเป็งล่องฟ้า ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” ผ่านทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ “ไหว้สาพระธาตุดอยตุง” หรือติดต่อสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย โทรศัพท์. 0-5315-0169 หรือ E-mail: chiangrai.culture001@gmail.com
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

วิชชากรณ์ กาศโอสถ : รายงาน 
อภิชาต กันธิยะเขียว : ภาพ และบรรณาธิการข่าว 
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

จัดใหญ่ไหว้สา มหาชินธาตุเจ้าดอยตุง ชมขบวนแห่น้ำทิพย์ และการแสดง

 

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567 ที่พระธาตุดอยตุง ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ (พระอารามหลวง) รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง พร้อมด้วย พระเซ็งกิม กตสิทโธ เจ้าอาวาสวัดกิ่วกาญจน์ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ในฐานะประธานกรรมการดำเนินจัดงาน วัดพระธาตุดอยตุง แถลงข่าว การเตรียมความพร้อมการจัดงาน “ต๋ามฮอยศรัทธา 2006 ปี๋เมินมา หกเป็งวันทา ไหว้สาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง” ประจำปี 2567 ซึ่งงานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 23 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป และจะะมีพิธีสรงน้ำพระธาตุดอยตุง ในวันที่ 24 มีนาคม 2567 อีกด้วย

 

พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ (พระอารามหลวง) รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง กล่าวว่า พระธาตุดอยตุงถือว่ามีประวัติอันยาวนาน และเป็นปฐมเจดีย์ของล้านนา ซึ่งชาวเชียงรายถือว่าโชคดี ที่พระธาตุเจ้าดอยตุง ซึ่งเป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้าข้างซ้าย) ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีการสรงน้ำพระธาตุดอยตุงทุกปีตรงกับเดือน 4 เดือน 6 เหนือ ขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งถือว่าเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ปีนี้ตรงกับ วันที่ 23 และ 24 มีนาคม 2567 จึงขอเชิญชวนชาวพุทธมาร่วมในพิธีนี้ โดยวันที่ 23 มีนาคม 2567 จะเป็นพิธีตักน้ำจากบ่อน้ำทิพย์ เพื่อประกอบพิธีและในวันที่ 24 มีนาคม 2567 จะเป็นพิธีสรงน้ำพระธาตุดอยตุง
 
 
 
ทางด้าน พระเซ็งกิม กตสิทโธ เจ้าอาวาสวัดกิ่วกาญจน์ ประธานกรรมการดำเนินจัดงาน วัดพระธาตุดอยตุง กล่าวว่า ในปีนี้จะจัดยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา ในการนำการแสดงแสง สี เสียง สื่อผสม จินตภาพแห่งความมหัศจรรย์ มาจัดแสดงเรื่องการสร้างพระธาตุดอยตุง เป็นบทละคร จะทำให้เป็นสิ่งเข้าถึงทุกคนได้ง่ายและรวดเร็ว จึงได้กราบนำเรียน ขออนุญาต พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เพื่อดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่าการจัดดังกล่าวจะทำให้ทุกคนรู้จักพระธาตุดอยตุงมากขึ้น และเดินทางมาท่องเที่ยว มาขอพร จนเป็นที่มาของการสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนและจังหวัดเชียงรายต่อไป
 
 
 
ทั้งนี้ ยังมี กิจกรรมอื่นๆ แสดงศิลปวัฒนธรรม พิธีตักน้ำทิพย์ ขบวนน้ำสรงพระราชทาน ผ้าห่มพระธาตุพระราชทาน และเครื่องสักการะ พิธีถวายเครื่องสักการะ พระธาตุดอยตุง พร้อมขบวนชาติพันธุ์ 18 ชาติพันธุ์ ขบวนมวลชนและเครื่องสักการะของส่วนราชการ 18 อำเภอ บูชาตุงประจำปีเกิด บูชาน้ำเต้าบรรจุน้ำทิพย์ กาดกำกิ๋นชาติพันธุ์ ขบวนแห่น้ำทิพย์และเครื่องสักการะหกเป็งวันทาไหว้สาพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง และชมการแสดงจินตภาพแห่งความมหัศจรรย์ละครประกอบแสงสีเสียง.
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
All

ไฟป่าเริ่มลามจากเมียนมา แม่สายระดมกำลังต้าน เห็นเปลวไฟแต่เข้าดับไม่ได้

 

เมื่อวันที่ 6 มี.ค.67 ได้เกิดไฟไหม้ป่าละเมาะขึ้นบริเวณพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งไทยคือหมู่บ้านผาฮี้ ต.โป่งงาม และบ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยไฟได้ลุกไหม้มาจากฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และจะเข้าสู่ฝั่งไทยซึ่งมีถนนเลียบชายแดนกั้นอยู่ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ม.2 ฉก.ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ได้ระดมกำลังกันเข้าระงับเหตุโดยเฉพาะบริเวณช่องทางศูนย์บำบัดผาหมีที่มีหญ้าและต้นไม้แห้งปกคลุมอยู่มาก

 
เจ้าหน้าที่และชาวบ้านต้องใช้เวลานานประมาณ 5 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แต่ไฟก็ลามเข้ามาไหม้ในฝั่งไทยจนมีพื้นที่ได้รับความเสียหาย ประมาณ 6 ไร่ แต่ไม่มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย อย่างไรก็ตามหลังไฟลุกลามยังคงมีการคุกรุ่นและลุกไหม้ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านยังคงต้องเฝ้าระวังรวมทั้งพากันทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไฟที่อาจจะลุกลามเข้ามาอีกเพระฝั่งไทยมีต้นไม้โดยเฉพาะต้นสนหนาแน่น รวมทั้งมีบ้านเรือนประชาชนอยู่ด้วย
 
 
วันเดียวกันนางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้ลงพื้นที่กำกับติดตามการรับมือไฟป่า หมอกควันในพื้นที่อ.เชียงแสน และอ.เชียงของ หลังเริ่มมีสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ และค่าหมอกควัน ฝุ่นละออง PM2.5 มีความรุนแรงมากขึ้น จึงทำให้นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว ที่จะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยเน้นย้ำให้มีการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่นต้องทั่วถึง ทันท่วงที เพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อมูลที่รวดเร็ว ถูกต้อง อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าฝุ่นสูงขึ้น คือ หมอกควันข้ามแดน จึงได้สั่งการให้นายอำเภอ ประสานงาน และเจรจาขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านในระดับพื้นที่ เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเต็มที่
 
 
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังได้กล่าวขอบคุณพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและ PM2.5 พร้อมทั้งยังได้แสดงความชื่นชมทุกในการเสียสละแรงกาย และแรงใจ เพื่อชาติ บ้านเมือง และประชาชน โดยเน้นย้ำว่าทางจังหวัดเชียงรายพร้อมให้การสนับสนุนภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและ PM2.5 อย่างเต็มที่
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เปิดงาน บวร ฮอมปอยผญ๋า เมืองโยนกนาคพันธุ์ ครั้งที่ 4

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.00 น. นายก นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พร้อมด้วย นายวิญญู ทองทัน เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย ร่วมพิธีเปิดงาน “บวร ฮอมปอยผญ๋าเมืองโยนกนาคพันธุ์ ครั้งที่ 4” ประจำปี 2567 ณ อุทยานเมืองโยนกนาคพันธุ์ บ้านดงป่าสัก ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย โดยมีว่าที่ ร.ต.ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยนายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีนายศุภชีพ มั่งคั่ง นายก อบต.บ้านด้าย นายสุขสันต์ เพ็งดิษฐ์ ผู้จัดการสำนักงาน อพท. ประจำ จ.เชียงราย นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ ส.อบต.บ้านด้าย และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม พิธีเปิดในครั้งนี้ด้วย

 

โดยในงานได้จัดพิธีเรียกขวัญ พิธีบวงสรวงสักการะขอพรองค์พญานาคราชทุกตระกูลมงคล พิธีอาบน้ำพระพุทธมนต์ใต้แสงจันทร์ บูชาเทียน ปล่อยโคมไฟ สะเดาะเคราะห์แก้ปีชง รับโชค เสริมดวงชะตา และสร้างทานบารมี แจกผ้าห่ม ข้าวสาร น้ำดื่มเป็นทานจำนวน 777 ชุด ชม ช้อป ชิม นิทรรศการภูมิปัญญาท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ของใช้พื้นบ้าน อาหาร พื้นเมือง ฟังซอพื้นเมือง มวย รำวงการกุศล ปล่อยโคมไฟลอดห่วงการแสดงศิลปวัฒนธรรม และมหรสพมากมาย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกฯ เยือนด่านแม่สาย เชียงราย รับหารือจีนแก้ส่งออกผลไม้แม่น้ำโขง

 

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมาด่านพรมแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ชายแดนไทย-เมียนมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีระกุล รมว.กระทรวงมหาดไทย และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปรับฟังสถานการณ์การค้าชายแดน และอื่นๆ โดยมีนายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายนำหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนเข้านำเสนอปัญหาครบครัน ทั้งนี้เมื่อนายเศรษฐาไปถึงได้เดินพบปะกับเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านที่แตกต่างด้วยหลากหลายชาติพันธุ์โดยบางส่วนได้ยื่นหนังสือขอให้มีพิจารณาสัญชาติ และชาวคะฉิ่นจากบ้านป่ายาง ต.แม่สาย ได้มอบดาบขาวคะฉิ่นให้กับนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงออกถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่ดูแลประชาชน นอกจากนี้ยังมี จากน้้นนายเศรษฐาได้เข้ารับฟังข้อเสนอ ณ ห้องประชุมด่านพรมแดนดังกล่าว

.
ซึ่งนายอนุรัตน์ อินทร ที่ปรึกษาหอการค้า จ.เชียงราย ได้นำเสนอว่าการค้าชายแดนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปีโดยปี 2565 เพิ่มขึ้น 30% โดยมีมูลค่การค้ารวมกว่า 97,000 ล้านบาทกับประเทศจีน เมียนมา และ สปป.ลาว แต่ปัจจุบันประสบปัญหาการค้าทางเรือแม่น้ำโขงเพราะท่าเรือกวนเหล่ยซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านของจีนยังไม่มีพิธีสารเพื่อรับสินค้าประเภทผลไม้จากท่าเรือ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จึงขอให้รีฐบาลและกรมวิชาการเกษตรช่วยผลักดันเพื่อให้อนาคตการส่งออกผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด ฯลฯ สามารถส่งไปยังประเทศจีนได้ทางเรือซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าในปัจจุบันที่ต้องขนส่งทางบกผ่านประเทศเมียนมาและ สปป.ลาว
.
นอกจากนี้เสนอให้ตั้งตลาดพืชผักที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว เพื่อแก้ปัญหาพืชผักจากจีนส่งตรงไปยังตลาดไทย จ.ปทุมธานี แล้วค่อยกระจายไปยังตลาดย่อยในประเทศ ซึ่งที่เชียงของกำลังมีรถไฟเชื่อมไปถึงและใน สปป.ลาว ยังมีการสร้างถนนมอเตอร์เวย์เชื่อมไปถึงจีนซึ่งจะใช้ระยะทางเพียง 180 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 90 นาที จากเดิมที่ใช้ถนนอาร์สามเอซึ่งไกลประมาณ 280 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางร่วม 6-8 ชั่วโมง ขณะเดียวกันเสนอให้ผลักดันโครงการสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน เชื่อมกับเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เพราะฝั่งลาวมีเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำที่กำลังมีเศรษฐกิจเติบโต ทั้งนี้หอการค้า จ.เชียงราย ยังเสนอให้มีการออกวีซ่าเมื่อมาถึงหรือออนอะไรวัลให้กับชาวเมียนมา สร้างถนนมอเตอร์เวย์เชื่อมเชียงราย-เชียงใหม่ และแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยลดการปลูกข้าวโพดและส่งเสริมปลูกกาแฟรวมทั้งประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อลดการเผาด้วย
.
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับปากจะนำข้อเสนอทั้งหมดไปพิจารณาโดยระบุว่า จ.เชียงราย เป็นจุดยุทธศาสร์การค้าที่สำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยมีทั้งการค้าชายแดนที่สามารถเติบโตขึ้นได้อีก การท่องเที่ยว การเกษตร ฯลฯ จึงทำให้ตนเดินทางไปเยือนเป็นแห่งแรกๆ นับตั้งแต่เป็นนายกรัฐมนตรี กระนั้นข้อเสนอบางอย่างก็ต้องนำไปพิจารณาก่อนและการพัฒนาก็ไม่ได้มุ่งไปที่ด้านเศรษฐกิจอย่างเดียวแต่ต้องพิจารณาเรื่องสังคมความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย
.
นายเศรษฐา กล่าวว่าเนื่องจากงบประมาณมีจำกัดดังนั้นคงจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้งหมดไม่ได้ เช่น มอเตอร์เวย์เชียงราย-เชียงใหม่ เพราะมีถนนสายเดิมอยู่แล้วและทางภาครัฐและเอกชนควรนำไปหารือกันอีกครั้ง ส่วนกรณีวีซ่าออนอะไรวัลก็มีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงไม่เฉพาะของประเทศไทยแต่เกี่ยวข้องกับประเทศเมียนมาด้วยจึงต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ดี กระนั้นการส่งเสริมการค้าชายแดนนั้นรัฐบาลจะให้ความสำคัญอย่างเต็มที่โดยเฉพาะทราบว่ามีมิติใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น สินค้าอาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์เป็นที่นิยมของตลาดประเทศเพื่อนบ้านโดยที่แม่สายขายดีรองจากกรุงเทพฯ เลยทีเดียว ส่วนข้อเสนอเกี่ยวกับประเทศจีนนั้นทางคณะรัฐบาลจะเดินทางไปยังประเทศจีนในวันที่ 7-9 ต.ต.นี้ ซึ่งก็จะได้ผลักดันให้มีหน่วยงานระดับมณฑลของจีนเข้าร่วมเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าวต่อไป.
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News