
ไทยและเมียนมาร่วมมือขุดลอกลำน้ำสาย คืนพื้นที่ลำน้ำ ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ชายแดน
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 การขุดลอกและรื้อถอนสิ่งกีดขวางในแม่น้ำสาย บริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยการดำเนินการครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลเมียนมา เพื่อลดปัญหาอุทกภัยและปรับปรุงระบบระบายน้ำของแม่น้ำสายให้สามารถรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝนได้ดีขึ้น
ฝ่ายเมียนมาเป็นผู้รับผิดชอบการขุดลอกตั้งแต่ต้นแม่น้ำสายไปจนถึงจุดเชื่อมของแม่น้ำสายกับแม่น้ำรวก ซึ่งอยู่ในบริเวณบ้านป่าแดง ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ขณะที่ทางการไทยสนับสนุนด้านเทคนิคและร่วมมือกับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบพนังกั้นน้ำให้มีความมั่นคงถาวร ป้องกันการกัดเซาะและการสูญเสียดินแดนชายฝั่งของทั้งสองประเทศ
ความคืบหน้าการหารือไทย-เมียนมา แก้ปัญหาการรุกล้ำลำน้ำสาย
การหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและเมียนมาเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 โดยมี พลโท ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร และนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นตัวแทนฝ่ายไทย ขณะที่ฝ่ายเมียนมามี พลจัตวา โซหล่าย ผู้บัญชาการภาคสามเหลี่ยม และ นายอูมินโก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก เป็นตัวแทนหลักในการเจรจา
หนึ่งในมาตรการสำคัญที่ได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองฝ่าย คือ การติดตั้งเครื่องมือแจ้งเตือนระดับน้ำหรือเครื่องโทรมาตรอัตโนมัติ จำนวน 4 จุด ได้แก่ บ้านโจตาดา บ้านดอยต่อคำ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และสะพานข้ามแม่น้ำรวก ซึ่งคาดว่าจะสามารถแจ้งเตือนอุทกภัยล่วงหน้าได้ 8 – 10 ชั่วโมง
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังเสนอให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำ พร้อมทั้งการขุดลอกแม่น้ำให้สามารถรองรับน้ำได้มากขึ้น โดยคณะอนุกรรมการร่วมไทย-เมียนมา (Sub JCR) ได้รับมอบหมายให้ดำเนินแผนการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2567 ทั้งนี้ ฝ่ายเมียนมาแจ้งว่าได้สำรวจสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำแล้วจำนวน 33 บริเวณ และพร้อมทำการรื้อถอนทันทีที่ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลกลาง
รายละเอียดพื้นที่ตำบลเกาะช้าง
ตำบลเกาะช้าง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีอาณาเขตติดต่อกับ
- ทิศเหนือ: ประเทศเมียนมา โดยมีแม่น้ำรวกเป็นแนวกั้นอาณาเขต
- ทิศใต้: ตำบลศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย
- ทิศตะวันออก: ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน
- ทิศตะวันตก: ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย
ตำบลเกาะช้างมีพื้นที่ประมาณ 47.35 ตารางกิโลเมตร หรือราว 29,593 ไร่ โดยใช้ประโยชน์ที่ดินดังนี้
- พื้นที่อยู่อาศัย: 30.82%
- พื้นที่เกษตรกรรม: 65.23%
- พื้นที่สาธารณะ: 8.66%
เนื่องจากพื้นที่นี้อยู่ติดแม่น้ำรวกและแม่น้ำสาย ทำให้เกิดปัญหาอุทกภัยเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนเมื่อระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากการไหลบ่าของน้ำจากเมียนมาและจีน การขุดลอกลำน้ำและการก่อสร้างพนังกั้นน้ำจึงเป็นแนวทางสำคัญในการป้องกันภัยพิบัติและรักษาความมั่นคงของพื้นที่ชายแดน
สร้างพนังกั้นน้ำสาย ทลายกำแพงเก่า เตรียมขุดลอกป้องกันน้ำท่วม
จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เริ่มดำเนินการตามข้อตกลงไทย-เมียนมา ในการสร้างพนังกั้นและขุดลอกแม่น้ำสาย เพื่อป้องกันอุทกภัย โดยนำเครื่องจักรเข้าทลายกำแพงหินเก่าและเตรียมสร้างกำแพงหินคอนกรีตสูงกว่า 2 เมตร
รายงานข่าวระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างไทยและเมียนมา เพื่อป้องกันอุทกภัยที่เคยเกิดขึ้นครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2567 โดยเมียนมาได้นำเครื่องจักรเข้าทลายกำแพงหินเก่าบริเวณริมฝั่งแม่น้ำสาย ตั้งแต่ชุมชนปงถุนจนถึงบริเวณใกล้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 รวม 3 จุด จากนั้น มีกำหนดจะสร้างกำแพงหินคอนกรีตสูงประมาณ 17.6 ฟุต หรือ 2 เมตรกว่า เพื่อป้องกันน้ำทะลักและตลิ่งพังทลาย
แนวการสร้างพนังมีระยะทาง 3.960 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการขุดลอกแม่น้ำสายตามข้อตกลง ระยะทาง 14.45 กิโลเมตร แต่มีการแบ่งเป็นโซนๆ เอาไว้แล้ว โดยมีโซนที่ 1 ระยะทาง 12.39 กิโลเมตร และโซน 2 ระยะทาง 2.06 กิโลเมตร ส่วนแนวการสร้างพนังมีระยะทาง 3.960 กิโลเมตร นอกจากนี้ จะมีการขุดลอกแม่น้ำรวก ระยะทาง 30.89 กิโลเมตร ซึ่งมีข้อตกลงว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. 2568 ด้วยงบประมาณประมาณ 100 ล้านบาท
สร้างเขื่อนริมน้ำสาย ป้องกันน้ำท่วมแม่สาย
นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ทางการเมียนมาได้เริ่มดำเนินการขุดลอกและทำลายสิ่งกีดขวางในแม่น้ำสาย ฝั่งตรงข้ามท่าขี้เหล็กติดกับสะพานแห่งที่ 1 ตามข้อตกลงไทย-เมียนมา เพื่อป้องกันอุทกภัย โดยทางการเมียนมาจะเป็นผู้รับผิดชอบการขุดลอกแม่น้ำสาย ตั้งแต่ต้นแม่น้ำสายไปถึงจุดเชื่อมกับแม่น้ำรวก บริเวณบ้านป่าแดง ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย
นอกจากนี้ เมียนมาได้เริ่มก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณแม่น้ำสาย จังหวัดท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามกับอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จำนวน 3 จุด ดังนี้:
- จุดที่ 1 บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1: ระยะความยาว 60 ฟุต X 2 ฟุต x 17.6 ฟุต
- จุดที่ 2 บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 (จุดที่ 2): ระยะความยาว 140 ฟุต x 2 ฟุต x 17.6 ฟุต
- จุดที่ 3 บริเวณหลังโรงแรมอารัว: ระยะความยาว 180 ฟุต x 2 ฟุต x 17.6 ฟุต
การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างไทยและเมียนมา เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นประจำในพื้นที่ชายแดน และป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง
สถานการณ์และผลกระทบของปัญหาการรุกล้ำลำน้ำสาย
ผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงปี 2567 ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งในเขตอำเภอแม่สายและเมืองท่าขี้เหล็กของเมียนมา จากการสำรวจพบว่า
- มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 6,980 หลัง
- ดินโคลนท่วมขังในพื้นที่ชุมชน 5 โซน ได้แก่ บ้านสายลมจอย บ้านเกาะทราย บ้านไม้ลุงขน บ้านเหมืองแดง และบ้านปิยพร
- พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสายและแม่น้ำรวกสูญเสียดินแดนจากการกัดเซาะกว่า 20 ไร่
นายอำเภอแม่สายแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีว่า ปัจจุบันทางการเมียนมารอเพียงคำสั่งจากรัฐบาลกลางเท่านั้น หากมีคำสั่งอย่างเป็นทางการ การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างริมฝั่งแม่น้ำสายจะสามารถดำเนินการได้โดยทันที เพื่อให้ลำน้ำสามารถระบายน้ำได้สะดวกขึ้น และลดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในระยะยาว
ข้อมูลทางสถิติและข้อคิดเห็นจากทั้งสองฝ่าย
จากสถิติย้อนหลังของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พื้นที่แม่สายเผชิญกับอุทกภัยรุนแรงถึง 3 ครั้ง ได้แก่ ปี 2562, 2565 และ 2567 โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังเฉลี่ย 1.5 – 2 เมตร ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรมคิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท
ฝ่ายสนับสนุนโครงการนี้ให้ความเห็นว่า การขุดลอกแม่น้ำสายและแม่น้ำรวกเป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันอุทกภัยและลดปัญหาการสูญเสียดินแดนของทั้งสองประเทศ ในขณะที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่าการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยและเมียนมายังคงเดินหน้าหาแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ เพื่อให้แม่น้ำสายและแม่น้ำรวกสามารถทำหน้าที่ระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของอุทกภัยในระยะยาว
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย , mgronline , ท้องถิ่นนิวส์