Categories
AROUND CHIANG RAI WORLD PULSE

ขุดลอกแม่น้ำสาย! ไทย-เมียนมา คืนพื้นที่ ป้องกันน้ำท่วมแม่สาย

ไทยและเมียนมาร่วมมือขุดลอกลำน้ำสาย คืนพื้นที่ลำน้ำ ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ชายแดน

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 การขุดลอกและรื้อถอนสิ่งกีดขวางในแม่น้ำสาย บริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยการดำเนินการครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลเมียนมา เพื่อลดปัญหาอุทกภัยและปรับปรุงระบบระบายน้ำของแม่น้ำสายให้สามารถรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝนได้ดีขึ้น

ฝ่ายเมียนมาเป็นผู้รับผิดชอบการขุดลอกตั้งแต่ต้นแม่น้ำสายไปจนถึงจุดเชื่อมของแม่น้ำสายกับแม่น้ำรวก ซึ่งอยู่ในบริเวณบ้านป่าแดง ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ขณะที่ทางการไทยสนับสนุนด้านเทคนิคและร่วมมือกับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบพนังกั้นน้ำให้มีความมั่นคงถาวร ป้องกันการกัดเซาะและการสูญเสียดินแดนชายฝั่งของทั้งสองประเทศ

ความคืบหน้าการหารือไทย-เมียนมา แก้ปัญหาการรุกล้ำลำน้ำสาย

การหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและเมียนมาเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 โดยมี พลโท ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร และนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นตัวแทนฝ่ายไทย ขณะที่ฝ่ายเมียนมามี พลจัตวา โซหล่าย ผู้บัญชาการภาคสามเหลี่ยม และ นายอูมินโก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก เป็นตัวแทนหลักในการเจรจา

หนึ่งในมาตรการสำคัญที่ได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองฝ่าย คือ การติดตั้งเครื่องมือแจ้งเตือนระดับน้ำหรือเครื่องโทรมาตรอัตโนมัติ จำนวน 4 จุด ได้แก่ บ้านโจตาดา บ้านดอยต่อคำ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 และสะพานข้ามแม่น้ำรวก ซึ่งคาดว่าจะสามารถแจ้งเตือนอุทกภัยล่วงหน้าได้ 8 – 10 ชั่วโมง

นอกจากนี้ รัฐบาลไทยยังเสนอให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำ พร้อมทั้งการขุดลอกแม่น้ำให้สามารถรองรับน้ำได้มากขึ้น โดยคณะอนุกรรมการร่วมไทย-เมียนมา (Sub JCR) ได้รับมอบหมายให้ดำเนินแผนการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2567 ทั้งนี้ ฝ่ายเมียนมาแจ้งว่าได้สำรวจสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำแล้วจำนวน 33 บริเวณ และพร้อมทำการรื้อถอนทันทีที่ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลกลาง

รายละเอียดพื้นที่ตำบลเกาะช้าง

ตำบลเกาะช้าง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีอาณาเขตติดต่อกับ

  • ทิศเหนือ: ประเทศเมียนมา โดยมีแม่น้ำรวกเป็นแนวกั้นอาณาเขต
  • ทิศใต้: ตำบลศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย
  • ทิศตะวันออก: ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน
  • ทิศตะวันตก: ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย

ตำบลเกาะช้างมีพื้นที่ประมาณ 47.35 ตารางกิโลเมตร หรือราว 29,593 ไร่ โดยใช้ประโยชน์ที่ดินดังนี้

  • พื้นที่อยู่อาศัย: 30.82%
  • พื้นที่เกษตรกรรม: 65.23%
  • พื้นที่สาธารณะ: 8.66%

เนื่องจากพื้นที่นี้อยู่ติดแม่น้ำรวกและแม่น้ำสาย ทำให้เกิดปัญหาอุทกภัยเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนเมื่อระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากการไหลบ่าของน้ำจากเมียนมาและจีน การขุดลอกลำน้ำและการก่อสร้างพนังกั้นน้ำจึงเป็นแนวทางสำคัญในการป้องกันภัยพิบัติและรักษาความมั่นคงของพื้นที่ชายแดน

สร้างพนังกั้นน้ำสาย ทลายกำแพงเก่า เตรียมขุดลอกป้องกันน้ำท่วม

จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เริ่มดำเนินการตามข้อตกลงไทย-เมียนมา ในการสร้างพนังกั้นและขุดลอกแม่น้ำสาย เพื่อป้องกันอุทกภัย โดยนำเครื่องจักรเข้าทลายกำแพงหินเก่าและเตรียมสร้างกำแพงหินคอนกรีตสูงกว่า 2 เมตร

รายงานข่าวระบุว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างไทยและเมียนมา เพื่อป้องกันอุทกภัยที่เคยเกิดขึ้นครั้งใหญ่เมื่อปลายปี 2567 โดยเมียนมาได้นำเครื่องจักรเข้าทลายกำแพงหินเก่าบริเวณริมฝั่งแม่น้ำสาย ตั้งแต่ชุมชนปงถุนจนถึงบริเวณใกล้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 รวม 3 จุด จากนั้น มีกำหนดจะสร้างกำแพงหินคอนกรีตสูงประมาณ 17.6 ฟุต หรือ 2 เมตรกว่า เพื่อป้องกันน้ำทะลักและตลิ่งพังทลาย

แนวการสร้างพนังมีระยะทาง 3.960 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการขุดลอกแม่น้ำสายตามข้อตกลง ระยะทาง 14.45 กิโลเมตร แต่มีการแบ่งเป็นโซนๆ เอาไว้แล้ว โดยมีโซนที่ 1 ระยะทาง 12.39 กิโลเมตร และโซน 2 ระยะทาง 2.06 กิโลเมตร ส่วนแนวการสร้างพนังมีระยะทาง 3.960 กิโลเมตร นอกจากนี้ จะมีการขุดลอกแม่น้ำรวก ระยะทาง 30.89 กิโลเมตร ซึ่งมีข้อตกลงว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. 2568 ด้วยงบประมาณประมาณ 100 ล้านบาท

สร้างเขื่อนริมน้ำสาย ป้องกันน้ำท่วมแม่สาย

นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ทางการเมียนมาได้เริ่มดำเนินการขุดลอกและทำลายสิ่งกีดขวางในแม่น้ำสาย ฝั่งตรงข้ามท่าขี้เหล็กติดกับสะพานแห่งที่ 1 ตามข้อตกลงไทย-เมียนมา เพื่อป้องกันอุทกภัย โดยทางการเมียนมาจะเป็นผู้รับผิดชอบการขุดลอกแม่น้ำสาย ตั้งแต่ต้นแม่น้ำสายไปถึงจุดเชื่อมกับแม่น้ำรวก บริเวณบ้านป่าแดง ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย

นอกจากนี้ เมียนมาได้เริ่มก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณแม่น้ำสาย จังหวัดท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามกับอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จำนวน 3 จุด ดังนี้:

  • จุดที่ 1 บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1: ระยะความยาว 60 ฟุต X 2 ฟุต x 17.6 ฟุต
  • จุดที่ 2 บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 (จุดที่ 2): ระยะความยาว 140 ฟุต x 2 ฟุต x 17.6 ฟุต
  • จุดที่ 3 บริเวณหลังโรงแรมอารัว: ระยะความยาว 180 ฟุต x 2 ฟุต x 17.6 ฟุต

การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างไทยและเมียนมา เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นประจำในพื้นที่ชายแดน และป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง

สถานการณ์และผลกระทบของปัญหาการรุกล้ำลำน้ำสาย

ผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงปี 2567 ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งในเขตอำเภอแม่สายและเมืองท่าขี้เหล็กของเมียนมา จากการสำรวจพบว่า

  • มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 6,980 หลัง
  • ดินโคลนท่วมขังในพื้นที่ชุมชน 5 โซน ได้แก่ บ้านสายลมจอย บ้านเกาะทราย บ้านไม้ลุงขน บ้านเหมืองแดง และบ้านปิยพร
  • พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำสายและแม่น้ำรวกสูญเสียดินแดนจากการกัดเซาะกว่า 20 ไร่

นายอำเภอแม่สายแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีว่า ปัจจุบันทางการเมียนมารอเพียงคำสั่งจากรัฐบาลกลางเท่านั้น หากมีคำสั่งอย่างเป็นทางการ การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างริมฝั่งแม่น้ำสายจะสามารถดำเนินการได้โดยทันที เพื่อให้ลำน้ำสามารถระบายน้ำได้สะดวกขึ้น และลดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในระยะยาว

ข้อมูลทางสถิติและข้อคิดเห็นจากทั้งสองฝ่าย

จากสถิติย้อนหลังของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พื้นที่แม่สายเผชิญกับอุทกภัยรุนแรงถึง 3 ครั้ง ได้แก่ ปี 2562, 2565 และ 2567 โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังเฉลี่ย 1.5 – 2 เมตร ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรมคิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท

ฝ่ายสนับสนุนโครงการนี้ให้ความเห็นว่า การขุดลอกแม่น้ำสายและแม่น้ำรวกเป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันอุทกภัยและลดปัญหาการสูญเสียดินแดนของทั้งสองประเทศ ในขณะที่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่าการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณริมฝั่งแม่น้ำ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยและเมียนมายังคงเดินหน้าหาแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ เพื่อให้แม่น้ำสายและแม่น้ำรวกสามารถทำหน้าที่ระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของอุทกภัยในระยะยาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย , mgronline , ท้องถิ่นนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘เยาวชนเชียงราย’ รวมตัวกำจัดโคลน ทีมอาสาพร้อมฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด

น้อง ๆ ศูนย์เยาวชนอบจ.เชียงรายร่วมทำความสะอาดตลาดสายลมจอย อ.แม่สาย หลังน้ำลด

ในวันที่ 20 ตุลาคม 2567 น้อง ๆ ศูนย์เยาวชนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายได้แสดงความร่วมแรงร่วมใจในการฟื้นฟูอำเภอแม่สาย หลังจากน้ำลดทำให้ตลาดสายลมจอยเต็มไปด้วยดินโคลน นี่เป็นความพยายามที่มุ่งหวังให้ชุมชนกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติและพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในอนาคตอันใกล้

ความร่วมมือระหว่างเยาวชนและทหารกองทัพเรือในการฟื้นฟูพื้นที่

การทำความสะอาดดินโคลนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการร่วมมือกันระหว่างน้อง ๆ ศูนย์เยาวชนและพี่ ๆ ทหารกองทัพเรือ ทำให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งสองฝ่ายได้ใช้ความสามารถและทรัพยากรที่มี เพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาสวยงามและใช้งานได้อีกครั้ง

การมีส่วนร่วมของนายอนุชา ยอดเชียงคำ ส.อบจ.เชียงราย ในกิจกรรมฟื้นฟู

นายอนุชา ยอดเชียงคำ ผู้เป็นตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอแม่สาย เขต 1 ได้เดินลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้าของกิจกรรมฟื้นฟู ทั้งนี้ การมีส่วนร่วมของผู้บริหารท้องถิ่นช่วยเสริมสร้างแรงจูงใจให้กับน้อง ๆ เยาวชนในการทำงานเพื่อสังคม

ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำความสะอาดดินโคลนตลาดสายลมจอย

หลังจากการทำความสะอาดดินโคลนที่ครอบคลุมพื้นที่ตลาดสายลมจอย อำเภอแม่สาย กลุ่มเยาวชนและทหารได้ฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาสะอาดและน่าใช้งานอีกครั้ง ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้พื้นที่กลับมาสมบูรณ์ แต่ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ ในการรับมือกับปัญหาสาธารณะ

ความสำคัญของการฟื้นฟูชุมชนหลังน้ำลด

การฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ชุมชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ การทำความสะอาดดินโคลนไม่เพียงแต่ช่วยให้พื้นที่สะอาดขึ้น แต่ยังเป็นการป้องกันการเกิดโรคระบาดและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการสะสมของน้ำและดินโคลน

 

การเตรียมความพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวในอนาคต

ด้วยการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ให้กลับมาสดใส น้อง ๆ เยาวชนและทหารกองทัพเรือได้ช่วยเตรียมความพร้อมให้กับอำเภอแม่สายในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนและสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ การมีพื้นที่ที่สะอาดและปลอดภัยจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของชุมชนได้อย่างยั่งยืน

บทสรุป: ความสำเร็จจากความร่วมมือและจิตอาสา

ความสำเร็จในการฟื้นฟูดินโคลนตลาดสายลมจอย อำเภอแม่สาย เป็นผลมาจากความร่วมมือและจิตอาสาของน้อง ๆ ศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย ร่วมกับพี่ ๆ ทหารกองทัพเรือ และการสนับสนุนจากผู้บริหารท้องถิ่น การทำงานร่วมกันอย่างมีเป้าหมายและมุ่งมั่นนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ชุมชนกลับมาสู่สภาวะปกติ แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือกันเพื่อสังคมที่ดีขึ้นในอนาคต

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

คืบหน้าการช่วยเหลือน้ำท่วมในแม่สาย สายลมจอย-บ้านไม้ลุงขนยังไม่ 100%

สถานการณ์และความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอแม่สาย

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 เวลา 17.30 น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยมีผจก.ชร. พล.ต.บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผบ.มทบ.37 เป็นประธานการประชุม ร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินงานของกรมการทหารช่าง

กรมการทหารช่างได้ดำเนินการตรวจสอบความแข็งแรงของบิ๊กแบ็คและลำน้ำสาย 21 จุด พบว่าสถานที่ทั้งหมดแข็งแรงปกติ นอกจากนี้ยังได้ทำการซ่อมแซมและปรับพื้นที่วัด โรงเรียน และบ้านคนยากไร้ ผลการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

การฟื้นฟูบ้านพักอาศัยโดยหน่วยงานต่างๆ

หน่วยงานหลายแห่งเข้าร่วมในการฟื้นฟูบ้านพักอาศัย โดยกรมทรายได้ฟื้นฟูบ้านในชุมชนหัวฝายและตลาดสายลมจอย โดยความก้าวหน้าถึง 100% และ 60.61% ตามลำดับ ส่วนทบ.ดำเนินการฟื้นฟูบ้านไม้ลุงขนถึง 80.95% และกองทัพไทยฟื้นฟูบ้านเกาะทรายได้ถึง 69.05%

ความคืบหน้าของมท.และหน่วยงานร่วม

มท.ชุด ชป.อส.ได้ฟื้นฟูบ้านเพิ่มเติม 3 ครัวเรือน โดยบ้านเหมืองแดงและบ้านเหมืองแดงใต้มีความก้าวหน้าถึง 98.97% และ 100% ตามลำดับ ความคืบหน้าทั่วโซนมหาดไทยอยู่ที่ 99.36%

การสนับสนุนจากสภาแม่สายและส่วนราชการอื่นๆ

สภาแม่สายได้วางกำลังพลอำนวยสะดวกในการขนย้ายดินออกจากพื้นที่ประสบภัย ส่วนประปาเร่งซ่อมแซมระบบประปาและตรวจสภาพในพื้นที่ที่ฟื้นฟูแล้ว ไฟฟ้าก็ได้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านที่ฟื้นฟูสภาพเรียบร้อยแล้ว

ความร่วมมือของกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กองทัพเรือร่วมกับมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย และหน่วยงานอื่นๆ เร่งเคลียร์พื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมและตลาดสายลมจอย โดยใช้เครื่องมือและกำลังพลในการขุดตักดินออกจากบ้านและร้านค้า เทศบาลเวียงพางคำได้นำรถแทรกเตอร์มาปรับเกรดดันดินโคลนที่ติดถนนเพื่อเปิดเส้นทางเข้าบ้านถ้ำผาจม

ความสำเร็จในการฟื้นฟูพื้นที่และการกลับมาใช้ชีวิตประจำวัน

การฟื้นฟูพื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมและตลาดสายลมจอยมีความคืบหน้าอย่างมาก ถนนเข้าออกในหมู่บ้านเริ่มเดินทางสัญจรได้ และมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาให้กับบ้านที่พร้อมแล้ว น.ส. ภัคสิริพัชร์ พิสิษชาโนดม ชาวบ้านบ้านถ้ำผาจม ได้กล่าวว่าชาวบ้านเริ่มทยอยกลับเข้าบ้านเรือน ขอบคุณเจ้าหน้าที่และจิตอาสาทุกคน

ความต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากชาวบ้าน

ชาวบ้านขอความช่วยเหลือในเรื่องเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม หม้อหุงข้าว เนื่องจากน้ำได้พัดพาสิ่งของบางส่วนไป ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านแทบจะไม่เหลือ และรถเข็นขายของถูกน้ำพัดพาไป ทำให้ชาวบ้านลำบากมาก

เป้าหมายการเคลียร์พื้นที่ประสบภัยในเดือนตุลาคม

ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มคาดว่าจะเคลียร์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในอำเภอแม่สายได้ทั้งหมดไม่เกินเดือนตุลาคมนี้

การร่วมมือกันอย่างเต็มที่ของทุกหน่วยงานทำให้การฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ชาวบ้านในพื้นที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัลพัฒนา ส่งมอบของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) นำโดยนายสายัณห์ นักบุญ ผู้อำนวยการ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารและอาสาสมัครจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ได้ร่วมกันมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สิ่งของที่มอบประกอบไปด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม นมสำหรับเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผ้าอนามัย ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ยาสีฟัน และของใช้จำเป็นอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท

การมอบสิ่งของครั้งนี้มี พล.ต. อนุมาศ พินิจชอบ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย และ พ.อ.ณัฐวุฒิ ดวงจรัส เสนาธิการกองบัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งต่อสิ่งของเหล่านี้ไปยังประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว

การสนับสนุนในครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งได้ร่วมมือกับกองทัพไทยในการช่วยเหลือและฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ทหารเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย น้ำท่วม อ.แม่สาย ส่งอาหารทางอากาศ

 

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 เวลา 10.00 น. พล.ต.บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 (ผบ.มทบ.37) ได้จัดกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) ตำรวจน้ำ และกองพันทหารราบที่ 17 กรมทหารราบที่ 3 (ร.17 พัน.3) ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่มูลนิธิชัยพัฒนา และประชาชนในบริเวณตลาดสายลมจอย ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างรุนแรงในเขตพื้นที่แม่สาย จังหวัดเชียงราย

จุดดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในจุดวิกฤติที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นจากฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากต่อเนื่อง ส่งผลให้บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนในชุมชนใกล้เคียงได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ขณะเดียวกัน พล.ต.บุญญฤทธิ์ ยังได้จัดกำลังพลเข้าชี้จุดสำคัญเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่อุทกภัย และส่งอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นทางอากาศยานผ่านเฮลิคอปเตอร์ (ฮ.) ให้กับผู้ที่ความช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึง

สำหรับภารกิจในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่นี้ถือเป็นการปฏิบัติการเร่งด่วน เนื่องจากน้ำป่าที่หลากลงมายังสร้างอุปสรรคในการเข้าถึงพื้นที่หลายจุด ทำให้การใช้เฮลิคอปเตอร์และเรือเป็นวิธีหลักในการเข้าถึงและจัดส่งสิ่งของจำเป็นให้กับผู้ที่ยังคงติดอยู่ในพื้นที่อันตราย หน่วยทหารและเจ้าหน้าที่ต่างเร่งดำเนินการอย่างเต็มกำลังเพื่อให้การช่วยเหลือสามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างทันท่วงที

ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แห่งนี้ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการรายงานสถานการณ์เป็นระยะเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถประเมินและวางแผนการช่วยเหลือในระยะต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ พล.ต.บุญญฤทธิ์ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ และการสนับสนุนจากภาคประชาชน เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้เกิดผลสำเร็จสูงสุด

ทั้งนี้ การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมยังคงดำเนินต่อไป ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ได้เตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำที่อาจยังคงอยู่ และจะจัดส่งรายงานความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงราย ปลุกพลังเยาวชน ผลักดัน “มหกรรมเยาวชนอำเภอแม่สาย”

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ได้กล่าวพบปะเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย หมวดที่ 6 Creative Space For Youth Development ครั้งที่ 3 “มหกรรมเยาวชนอำเภอแม่สาย” พร้อมด้วยคณะกรรมการศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย ณ หอประชุมโรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

อำเภอแม่สายเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างมาก มีทั้งอาหาร เครื่องแต่งกาย และประเพณีต่างๆ ซึ่งความหลากหลายนี้มาจากกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มที่อาศัยอยู่ในอำเภอแม่สาย ประกอบไปด้วยชาติพันธุ์ไทใหญ่, ไทลื้อ, ไทเขิน, ไตหย่า, ไท-ขวน, จีนขุนนาน, อาข่า, ลาหู่, คาราง, ลัวะ และกะฉิ่น

อบจ.เชียงราย และศูนย์เยาวชน อบจ.เชียงราย มีความมุ่งมั่นที่จะสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามเหล่านี้ให้ดำรงอยู่ต่อไป โดยการจัดกิจกรรมมหกรรมในครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนในอำเภอแม่สายได้ตระหนักรู้ถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวแม่สาย และเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้แสดงศักยภาพในด้านการคิดสร้างสรรค์ ด้านการเต้น และความกล้าแสดงออก ตลอดจนการสื่อสารวัฒนธรรมต่างๆ ของบรรพบุรุษ ภายใต้อัตลักษณ์อันโดดเด่นของอำเภอแม่สาย

ในงานครั้งนี้ เยาวชนได้มีโอกาสแสดงผลงานที่พวกเขาได้คิดค้นและพัฒนาขึ้น ทั้งด้านศิลปะ การแสดง และนวัตกรรมต่างๆ ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และความร่วมสมัย

นางอทิตาธรกล่าวว่า “เด็กและเยาวชนเป็นอนาคตของชาติ การส่งเสริมให้พวกเขาได้รับการพัฒนาและมีพื้นที่ในการแสดงออกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะพวกเขาจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาจังหวัดเชียงรายและประเทศชาติในอนาคต เราต้องการเห็นเยาวชนเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม”

กิจกรรมในมหกรรมเยาวชนครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการสืบสานวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับผู้อื่น การพัฒนาทักษะการสื่อสาร และการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง

อนาคตของจังหวัดเชียงรายขึ้นอยู่กับเยาวชนในวันนี้ หากพวกเขาได้รับการสนับสนุนและโอกาสที่ดีในการพัฒนาศักยภาพ เชียงรายจะกลายเป็นจังหวัดที่มีความเจริญก้าวหน้าและมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่สมบูรณ์

การจัดมหกรรมเยาวชนในครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเยาวชนในทุกด้าน ทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม และการสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เตรียมพร้อมเปิดแลนด์มาร์คใหม่ ‘อุทยานเมืองโยนกนาคพันธุ์’

 

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ร่วมเป็นเกียรติและกล่าวรายงานการจัดงานพิธีเททองหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราช ประกาศอิสรภาพ ณ อุทยานเมืองโยนกนาคพันธุ์ ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมี ท่านศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานในพิธีฯ พร้อมรับมอบเกียรติบัตร ผู้อุปถัมป์อุทยานฯ

 

’อุทยานเมืองโยนกนาคพันธุ์’ ริเริ่มจากมูลนิธิวัดเงิน (Silver Temple Foundation Chiangmai Thailand หรือ STF) แหล่งเรียนรู้วัดศรีสุพรรณ และเครือข่ายภาคเอกชน ประชาชนในจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกันพัฒนา “อุทยานเมืองโยนกนาคพันธุ์” เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ศิลปะวัฒนธรรม ต้นกำเนิดภูมิปัญญาล้านนาและการท่องเที่ยวใหม่ในลุ่มแม่น้ำโขง อุทยานเมืองโยนกนาคพันธุ์ จังหวัดเชียงราย โดยมีกิจกรรมอนุรักษ์ ฟื้นฟู เสริมสร้างความตระหนักรู้ เห็นคุณค่าวิถีชุมชน
 
 
การจัดพิธีเททองหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราชในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม ทรงเจริญพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 อีกทั้งเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวและแรงบันดาลใจในด้านการทำประโยชน์เพื่อบ้านเมืองและปวงชนชาวไทย และเป็นที่สักการบูชา เพื่อความสุข ความเจริญ ความดีงาม เป็นมงคลแก่ผู้ปฏิบัติงานในอุทยาน เมืองโยนกนาคพันธุ์ รวมทั้งเป็นที่สักการบูชาของประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบและประชาชนใน จังหวัดเชียงราย และผู้คนจากทั่วทุกภาคของประเทศไทย
 
 
โดยอุทยานโยนกนาคพันธุ์ เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์เชื่อมโยงกับเวียงหนองหล่ม อยู่ในแนวรอยเลื่อนแม่จัน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการประกาศจังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ให้เป็นพื้นที่ อุทยานธรณีเชียงราย Chiangrai Geopark ในการนี้ นายธีรภัทร์ ทองใบ ผู้อำนวยการอุทยานเมืองโยนกนาคพันธุ์ จึงเชิญ อบจ.เชียงราย โดยมี นายก อบจ.เชียงราย เป็นผู้อำนวยการอุทยานธรณีเชียงราย โดยตำแหน่ง มาจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับอุทยานธรณีเชียงราย Chiangrai Geopark ร่วมกับ สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 1 กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

สร้างทักษะอาชีพวันอาทิตย์ ร่วมกับศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนา

 

เมื่อวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดบ้านจ้อง ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พระครูวรธรรมพิทักษ์ (วีรชน) เจ้าคณะตำบลป่าแดด เจ้าอาวาสวัดท่าน้ำ ประธานคณะกรรมการดำเนินงาน ศพอ.จังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอบรมการเสริมสร้างทักษะอาชีพร่วมกับศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็นผู้กล่าวรายงาน และ นายจันทร์ ทาตุการ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งผา ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ โดยกิจกรรมโครงการฯ ได้ผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมเครื่องจักสานด้วยกระดาษโทรศัพท์ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการอบรม

 

 นำโดย พระครูสุวิชานสุตสุนทร (สมชาย สุวิชาโน) เจ้าอาวาสวัดบ้านจ้อง ผู้อำนวยการ ศพอ.วัดบ้านจ้อง ดำเนินการจัดโดย ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดบ้านจ้อง ร่วมกับ  กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย โรงเรียนบ้านจ้อง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งผา และเครือข่ายทางวัฒนธรรม โดยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์เป็นพื้นที่สำคัญในการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาของชุมชนดำเนินการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ทุกพื้นที่เกิดสังคมคุณธรรมโดยใช้มิติทางศาสนา บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างบ้าน วัด โรงเรียน/ราชการ หรือพลัง บวร

 

สู่การพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ของชาติสืบไป ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์เป็นแหล่งบ่มเพาะปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม และวัฒนธรรมประเพณีไทยให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน ส่งเสริมสนับสนุนศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์เป็นแหล่งเรียนรู้ศีลธรรมตามหลักสูตรธรรมศึกษา ส่งเสริม สนับสนุน ให้เด็ก เยาวชน และประชาชน น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต และอยู่ร่วมกันในชุมชนและสังคมอย่างมีความสุข ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมอบรมการเสริมสร้างทักษะอาชีพร่วมกับศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ส่งเสริม พัฒนา ต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน และสร้างฐานอาชีพให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์

 

พัฒนาส่งเสริมสนับสนุนให้ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ให้มีศักยภาพและความพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชนให้เป็น “ชุมชนคุณธรรม” อย่างต่อเนื่องโดยใช้มิติทางศาสนาบนพื้นฐานความสัมพันธ์ระหว่างบ้าน วัด โรงเรียน ให้อยู่คู่กับสังคม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย คณะสงฆ์ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ผู้นำชุมชน เด็ก เยาวชน และประชาชน จำนวน 65 รูป/คน

 

ในการนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และ นางสาวสุทธิดา ตราชื่นต้อง นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ ข้าราชการสำนักวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมดำเนินการจัดกิจกรรมโครงการฯ ดังกล่าว ทั้งนี้ การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุผลสำเร็จทุกประการ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

เคาะ! จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ่อน้ำทิพย์ วัดพระธาตุดอยตุง 4 ก.ค. 67

 

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอ ผู้บริหาร อปท. และเอกชน ครั้งที่ 6/2567 โดยมี นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ และนางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการทุกภาคส่วน ภาคเอกชน และผู้แทนหน่วยงานในจังหวัดเชียงราย ร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

 

ที่ประชุมได้มีการแนะนำส่วนราชการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นายธีระพงษ์ มีศรี ในตำแหน่งผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทเชียงราย พร้อมรับชมสรุปรายงานผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารจังหวัด ส่วนราชการ หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ ในรอบเดือนมิถุนายน 2567 ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ตามลำดับ

 

ต่อจากนั้นเข้าสู่วาระการประชุมเรื่องเพื่อทราบและรายงานผลการดำเนินงาน เรื่องการดำเนินงานเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปี 2567 สรุปรายงานภาวะการค้าชายแดนและการค้าข้ามแดนด้านจังหวัดเชียงราย รวมถึงเรื่องการเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของจังหวัดเชียงราย โดยในวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 จัดให้มีพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ บ่อน้ำทิพย์ วัดพระธาตุดอยตุง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พิธีเดินขบวนรถบุษบกเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ ขันน้ำสาคร และที่ตักน้ำ ณ บริเวณสวนตุงและโคมนครเชียงราย ไปยัง วัดพระแก้ว พระอารามหลวง ส่วนวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ในส่วนของวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 จัดให้มีพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอุโบสถวัดพระแก้ว พระอารามหลวง และในช่วงเช้าของวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 จัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน และในช่วงเย็นจะเป็นพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ GMS จังหวัดเชียงราย รวมถึงจัดเตรียมโครงการ 72 ล้านต้น พลิกผืนป่าเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โครงการพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร และสถานการณ์ และมาตรการควบคุมโรคไข้เลือดออก และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามลำดับ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวง ครบรอบ 6 ปี จิ๊กซอว์ แห่งความสำเร็จ

 

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2567 ที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย เป็นประธานเปิดงาน 6 ปี กู้ภัยถ้ำหลวง รวมใจเป็นหนึ่งเดียว โดยมีนายปัณณวิชช์ ภูริรักษ์พิติกร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) นำหัวหน้าส่วนราชการ ทีมหมูป่าอะคาเดมี และประชาชน เข้าร่วมงาน เพื่อรำลึกถึงผู้เสียสละให้กับนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และเคยเป็นผู้บัญชาการในเหตุการณ์ช่วยเหลือทีมเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีจำนวน 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.-10 ก.ค.2561 นาวาตรีสมาน กุนัน (จ่าแซม) เรือโทเบรุต ปากบารา รวมถึงนายดวงเพชร พรหมเทพ (น้องดอม นักฟุตบอลทีมหมูป่า)

 

โดยในช่วงเช้ามีพิธีทำบุญตักบาตร พระสงฆ์จำนวน 90 รูป พิธีบวงสรวงเจ้าแม่นางนอน และพิธีร่วมแสดงไว้อาลัยให้กับผู้เสียสละในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการ เลี้ยงไก่ แห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการแสดงเหตุการณ์กู้ภัย เวทีเสวนา หัวข้อ “จิ๊กซอว์แห่งความสำเร็จภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวง” (Jigsaw.Beyond Heroics Decoding the Tham Luang Cave Rescue) การฉายวีดิทัศน์ สารคดีเหตุการณ์กู้ภัยถ้ำหลวง การแสดงสืบสานและเผยแพร่อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และการจำหน่ายสินค้าชุมชน

 

ทั้งนี้วันที่ 23 มิถุนายน ถือเป็นวันที่เริ่มต้นของปฏิบัติการค้นหา และกู้ภัยครั้งประวัติศาสตร์ โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจ ความสามัคคี จากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ประกอบกับความเชื่อ ความศรัทธาและกำลังใจจากทั่วโลก ที่หล่อหลอมรวมรวมจิตใจในการปฏิบัติภารกิจ ทำให้สามารถช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต ได้อย่างปลอดภัย

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News