รายงานแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวไทยในปี 2567
แนวโน้มการใช้จ่ายสิ่งของจำเป็นเพิ่มขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้เปิดเผยรายงานผลการศึกษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอาเซียน (ASEAN Consumer Sentiment Study – ACSS) ประจำปี 2024 โดยพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 42% ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z (52%) และ Gen Y (47%) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้มีผู้หญิงเป็นกลุ่มหลักที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น
การตอบสนองต่อความกังวลด้านอัตราเงินเฟ้อ
จากการศึกษาพบว่า อัตราเงินเฟ้อเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้บริโภคกังวลมากที่สุด โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 64% ระบุว่านี่คือปัญหาหลัก ขณะที่อีก 60% ชี้ให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายในครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น และ 58% แสดงความกังวลต่อการออมที่ลดลง ทำให้ผู้บริโภคเริ่มลดค่าใช้จ่ายสินค้าที่ไม่จำเป็น โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 51% ระบุว่าได้ลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้
การลงทุนเพื่อประสบการณ์ – เทรนด์ใหม่ในหมู่ผู้บริโภค
แม้จะมีภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์มากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งการใช้จ่ายในด้านประสบการณ์มีมากกว่า 40% โดยเน้นที่การเดินทาง การรับประทานอาหารในร้านอาหารชั้นนำ การเข้าร่วมคอนเสิร์ต และอีเวนต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่ใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์มากถึง 56% และ Gen Y ที่ 45%
การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มสูงขึ้นในต่างประเทศ
ตามข้อมูลจากวีซ่า ประเทศไทย พบว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพื่อประสบการณ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในหมวดการรับประทานอาหาร การเดินทาง และการเข้าร่วมงานบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งมีการเติบโตสูงสุดถึง 57% การเดินทางระหว่างประเทศยังคงเป็นแนวโน้มที่สำคัญในการใช้จ่าย โดยผู้บริโภคชาวไทยกว่า 58% ระบุว่าได้เดินทางไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียน เช่น สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม
คนรุ่นใหม่กับการบริหารการเงินเพื่ออนาคตที่มั่นคง
ถึงแม้จะมีแนวโน้มการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์เพิ่มขึ้น แต่ผู้บริโภคชาวไทยยังคงให้ความสำคัญกับการออมและการลงทุน โดยมีถึง 57% ที่ระบุว่ามีเงินสำรองฉุกเฉินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายสามเดือน ขณะเดียวกัน บัญชีเงินฝากของกลุ่ม Gen Z เพิ่มขึ้นถึง 52% และ Gen Y เพิ่มขึ้น 27% นอกจากนี้ การลงทุนในต่างประเทศโดยคนรุ่นใหม่เติบโตขึ้น 10% โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 14%
การวางแผนมรดกและการออมเพื่อเกษียณอายุ
ในแง่ของการวางแผนมรดกและการออมเพื่อเกษียณ พบว่าผู้บริโภคชาวไทยมีความรู้ด้านการเกษียณอายุอย่างเพียงพอ โดยกว่า 9 ใน 10 คนได้เริ่มวางแผนการเกษียณอายุแล้ว และ 41% ได้ระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขณะที่อีก 25% ยังไม่ได้เริ่มวางแผนมรดกใด ๆ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย