Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกฯ ศึกษาแนวทางแก้ไขระบบ ชลประทานขาดแคลนน้ำ อ.เชียงแสน

 

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์  อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 และคณะ ลงพื้นที่ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบชลประทานและพบปะประชาชน ณ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตเชียงรายย อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยมีประชาชนชาวเชียงแสนให้การต้อนรับ

 

โดยนายกรัฐมนตรี พบปะประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาและรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชน และฟังการนำเสนอโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำเชียงแสน จากนั้น ได้ร่วมรับฟังแผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย จากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่

 

สำหรับโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำเชียงแสน  จะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับปรุงพื้นที่เกษตรกรรมจำนวน 2,100 ไร่ รวมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ให้แก่ราษฎรบ้านห้วยเกี๋ยง ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน และหมู่บ้านข้างเคียงรวม 5 หมู่บ้าน จำนวน 5,246 ครัวเรือน ประชากรจำนวน 9,583 คน ให้มีน้ำใช้เพียงพอตลอดทั้งปี ทั้งยังเป็นการรักษาระบบนิเวศของคูเมืองโบราณ เพิ่มทัศนียภาพ และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของเมืองโบราณเชียงแสนอีกด้วย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘พิสันต์’ ดันผ้าอัตลักษณ์ประจำจังหวัด ต่อยอดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2567 ที่ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย (ศาลากลางหลังแรก) นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงานอัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงราย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามโครงการการพัฒนากิจกรรมและการตลาด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ กิจกรรมหลัก การส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยมีนายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวรายงาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ผู้แทน เจ้าหน้าที่ และประชาชน เข้าร่วม

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า งานอัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงราย จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ การนำมรดกทางภูมิปัญญาการทอผ้าให้คงอยู่ เกิดความภาคภูมิใจในลายผ้าอัตลักษณ์ ประจำจังหวัดเชียงราย “เชียงแสนหงส์ดำ” สีม่วงเชียงราย และผ้าลายพระราชทาน รวมทั้งสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เด็ก เยาวชนและ ประชาชน ให้ความสนใจ ในการอนุรักษ์ผ้าไทย ผ้าถิ่น ผ้าชาติพันธุ์ ผ้าอัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงราย มากยิ่งขึ้น

ซึ่งกิจกรรม ประกอบด้วย การประชาสัมพันธ์ การพัฒนากิจกรรมและการตลาด การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับ ผ้าไทย ผ้าถิ่น ผ้าชาติพันธุ์ ผ้าอัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงรายฯ ระหว่างวันที่ 27 – 28 มิถุนายน 2567 ณ โรงแรม เลอ เมอริเดียนเชียงราย รีสอร์ท การจัดการประกวดการออกแบบแฟชั่นผ้าไทย ผ้าถิ่น ผ้าชาติพันธุ์ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมเอ็ม บูทีค รีสอร์ท เชียงราย โดยมีผู้เข้

าร่วมประกวด จำนวนทั้งสิ้น 33 ผลงาน และคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก 20 ผลงาน เพื่อนำมาแสดงแบบในครั้งนี้

นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายผลักดัน Soft Power ความเป็นไทย สู่ระดับโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพ 5 F ได้แก่ Food อาหาร, Film ภาพยนตร์และวีดิทัศน์, Fashion การออกแบบแฟชั่นไทย, Fighting ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย และ Festival เทศกาลประเพณีไทย

รวมทั้ง เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 ยูเนสโกได้ยกให้จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบ (City of Design) ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก  โดยนำวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น มาสร้างงาน สร้างอาชีพ สู่การเป็นวัฒนธรรมสร้างสรรค์ นำมาซึ่งรายได้สู่ชุมชน ก่อให้เกิดคุณค่าทางสังคม ได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมประกอบด้วย

  1. กิจกรรมการสาธิตภูมิปัญญา นิทรรศการผ้าทอ และการออกบูธแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์ผ้า และเครื่องประดับ ของฝากของที่ระลึก
  2. จัดกิจกรรมแสดงแบบแฟชั่นจากผู้เข้าร่วมประกวดการออกแบบแฟชั่นผ้าไทย ผ้าถิ่น ผ้าชาติพันธุ์ ผ้าอัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงรายฯ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมเอ็ม บูทีค รีสอร์ท เชียงราย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย จำนวนทั้งสิ้น 20 ผลงาน เพื่อนำมาแสดงแบบในวันนี้
  3. กิจกรรมการแสดงแฟชั่นจากนายแบบนางแบบกิตติมศักดิ์ ในชุด“สีสันผ้าเชียงราย สู่แฟชั่นผ้าไทยใส่ให้สนุกที่ยั่งยืน” (Sustainable Fashion Style @ Chiangrai)

     ชุดที่ 1 นายอำเภอและประธานแม่บ้านมหาดไทยอำเภอ จำนวน 18 คู่

     ชุดที่ 2 หัวหน้าส่วนราชการและคู่สมรส จำนวน  5 คู่

     ชุดที่ 3 รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย (นางสุภาพรรณ หมั่นเจริญ) (ชุดฟินนาเล่ Finale set)

  1. การมอบรางวัลการประกวดการออกแบบแฟชั่นผ้าไทย ผ้าถิ่น ผ้าชาติพันธุ์ ผ้าอัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงราย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งมีผู้ได้รับรางวัล ดังนี้
  2. รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นางแว่นแก้ว ภิรมย์พลัด ชื่อชุดผลงาน เดรสฮ้อยใจ๋สายใยไทลื้อ
  3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ นางสาวกนกพร ธรรมวงค์ ชื่อชุดผลงาน วัฒนธรรมแห่งภูมิปัญญา Culture of wisdom
  4. รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ นางสุขาวดี ติยะธะ ชื่อชุดผลงาน ผ้าชุดไทลื้อร่วมสมัยไฉไลด้วยฝ้ายธรรมชาติ
  5. รางวัลชมเชย ได้แก่ นายลิขิต รินชมพู ชื่อชุดผลงาน กอด
  6. รางวัลชมเชย ได้แก่ นายสมชัย ธงชัยสว่าง ชื่อชุดผลงาน Drive to The Future

อีกทั้งภายในงานยังมีการแสดงแฟชั่นโชว์ การเดินแบบผ้าอัตลักษณ์เชียงราย โดยมีนายอำเภอ ผู้แทนนายอำเภอ กลุ่มพัฒนาสตรีจังหวัดเชียงราย ร่วมเดินแบบในครั้งนี้ พร้อมทั้งกิจกรรมการสาธิตภูมิปัญญา นิทรรศการผ้าทอ และการออกบูธแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์ผ้า และเครื่องประดับ ของฝากของที่ระลึก ระหว่างวันที่ 12 – 14 กรกฎาคม 2567ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย (ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก)

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
WORLD PULSE

Bank of China เด้งรับธุรกิจไทย เข้าตลาดจีน กระตุ้นลงทุน 2 ประเทศ

 

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 67 เวลา 13:30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเร็วกว่าเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย 1 ชั่วโมง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พบหารือกับนายเก๋อ ไห่เจียว ประธานธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ณ สำนักงานใหญ่ธนาคารแห่งประเทศจีน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในห้วงการเยือนจีนอย่างเป็นทางการ

 

นายเก๋อ กล่าวต้อนรับรัฐมนตรีและคณะ พร้อมทั้งขอบคุณรัฐบาลไทยและกระทรวง ที่เชื่อมั่นและสนับสนุนกันมา คนจีนจำนวนมากมีความทรงจำและความคำนึงถึงประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และส่วนตัวมีประสบการณ์ทำงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุดของไทยมาหลายปี ความสัมพันธ์ทวิภาคีคืบหน้าเป็นอย่างมาก
นายเก๋อ กล่าวถึงธนาคารแห่งประเทศจีนว่า เป็นธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดในจีน และดำเนินการรอบโลกมากที่สุด เราเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก และดำเนินการใน 64 ประเทศทั่วโลก ซึ่งธนาคารต้องการสร้างความเข้มแข็ง เสริมความร่วมมือให้บริษัทจีนลงทุนในไทย และบริษัทไทยดำเนินการในจีนและประเทศที่สามได้มากขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมาย อย่างยานยนต์พลังงานสะอาด
 
 
นอกจากนี้ นายเก๋อ ยังกล่าวถึงการส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่น และอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ใช้จ่ายในจีนได้ เพื่อยกระดับความเชื่อมโยงและโครงสร้างพื้นฐานในจีน ตลอดจนช่วยบรรษัทข้ามชาติ สามารถเข้าถึงตลาดทุนจีนได้ เพราะจีนมีทรัพยากร และยินดีให้ไทยเข้าถึงตลาดทุนจีน
 
 
ด้านนายมาริษ กล่าวตอบรับว่า ครั้งนี้ถือเป็นการมาเยือนครั้งแรกในจีน และมีโอกาสหารือบุคคลสำคัญ 3 คนของจีน สอดคล้องกับความร่วมมือในประเทศด้วย ซึ่งภายหลังจากการพบหารือนั้น นายมาริษ ยังโพสต์ข้อความผ่านบัญชีผู้ใช้เอ็กซ์ @AmpPoohMaris ว่า อีกเป้าหมายหนึ่งที่วางไว้คือการช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างภาคธุรกิจกับธุรกิจ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการลงทุนของทั้ง 2 ประเทศ จึงได้พบหารือกับ นายเก๋อ ไห่เจียว ประธานธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ซึ่งเป็นธนาคารจีนแห่งแรกที่มาเปิดสำนักงานใหญ่ในไทย จึงขอให้ทาง Bank of China แนะนำนักลงทุนจีนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตั้งแต่ เซมิคอนดักเตอร์ ชิ้นส่วนหลักของรถไฟฟ้า EV เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงานหมุนเวียน ที่สนใจลงทุนในไทย เข้ามาร่วมรับฟังมาตรการดึงดูดการลงทุนใหม่ของ BOI ที่งานโรดโชว์ที่จะจัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง ช่วงเดือนกันยายนนี้ ซึ่งธนาคารฯ ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยพร้อมที่จะช่วยธุรกิจไทยในการเข้าตลาดทุนจีน พร้อมแนะนำธุรกิจจีนรายใหญ่ในอุตสาหกรรมดังกล่าวซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารฯ อยู่แล้วให้ลงทุนในเศรษฐกิจไทยได้
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงราย ยึดแผนพัฒนา 5 ปี ส่งเสริมผ้าทอและผ้าพื้นถิ่น ด้วยอัตลักษณ์

 

เมื่อวันวันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2567 ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย (ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก) ได้มีจัดกิจกรรม ส่งเสริมผ้าทอและผ้าพื้นถิ่น ด้วยอัตลักษณ์จังหวัดเชียงราย ภายใต้โครงการการพัฒนากิจกรรมและการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งได้รัยเกียรติจากสุภาพรรณ หมั่นเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีนางอำไพ บัวระดก พัฒนาการจังหวัดเชียงราย ในนามผู้ดำเนินการจัดอบรมโครงการการพัฒนากิจกรรม และการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ กิจกรรม ส่งเสริมผ้าทอและผ้าพื้นถิ่นด้วยอัตลักษณ์จังหวัดเชียงราย

 

นางอำไพ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันมีเป้าหมายให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น โดยกำหนดให้มีการสร้างความหลากหลาย ด้านการท่องเที่ยวและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวโดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม และเน้นการสร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกระดับ มุ่งพัฒนาธุรกิจ ด้านการท่องเที่ยวให้มีมูลค่าสูงเพิ่มมากขึ้น ด้วยอัตลักษณ์และวัฒนธรรมไทยและใช้ประโยชน์จากข้อมูล และภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อสร้างสรรค์คุณค่าทางเศรษฐกิจและความหลากหลายของการท่องเที่ยวให้สอดรับ กับทิศทางและแนวโน้มของตลาดยุคใหม่การใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวให้เอื้อต่อผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อกระจายโอกาสในการสร้างรายได้ไปสู่ชุมชนอย่างทั่วถึงและยั่งยืน

 

โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและกระจายโอกาสในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างรายได้ไปสู่ชุมชนอย่างทั่วถึงและยั่งยืนโครงการนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ และจะช่วยส่งเสริมในการพัฒนาจังหวัด ที่จะมาเน้นเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณค่าเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามแผนการพัฒนาจังหวัดในระยะ 5 ปี ในปี พ.ศ. 2566-2570

 

ซึ่งการส่งเสริมผ้าทอและผ้าพื้นถิ่น ด้วยอัตลักษณ์จังหวัดเชียงราย กิจกรรมที่ 4 เป็นการส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สนับสนุนการท่องเที่ยว เพิ่มรายได้และกระจายร้ายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชน ดำเนินการระหว่าง วันที่ 12 – 14 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 – 20.30 น. ของทุกวัน ภายในงานมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ในจังหวัดเชียงราย เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้มากถึงจำนวน 31 บูท

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน “ปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น สู่ความมั่นคงและยั่งยืน”

 

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เป็นประธานในกิจกรรม “ปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น สู่ความมั่นคง และยั่งยืน” เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน ร่วมกับสมาชิกวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตร เครือข่ายภาคประชาชน และหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น ปลูกต้นไม้ในพื้นที่วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืนโยนกนคร ต.โยนก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย จำนวน 10,000 ต้น โดยปลูกพร้อมกันกับวิสาหกิจชุมชน ในพื้นที่ดำเนินโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน ทั้ง 12 พื้นที่ 8 จังหวัดทั่วประเทศ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดตาก จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดจันทบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดเพชรบุรี

 


       สำหรับกิจกรรม “ปลูกต้นไม้ 1 ล้านต้น สู่ความมั่นคง และยั่งยืน” นอกจากเป็นการน้อมถวายความจงรักภักดีแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกชุมชนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างสภาวะแวดล้อมที่ดีของชุมชน สามารถพัฒนาเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติในชุมชน เสริมสร้างความสามัคคีร่วมกันในชุมชน พัฒนาท้องถิ่นของแต่ละชุมชนให้มีคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 


       สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) เป็นหน่วยงานของรัฐประเภทองค์การมหาชน สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันการบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานตามมาตรา 7 และมาตรา 8 กำหนดให้สถาบันฯ ดำเนินการเพื่อให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรมและยั่งยืน และมีการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสม และจัดตั้งธนาคารที่ดินหรือองค์กรอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดินของรัฐ และดำเนินการให้ได้มาซึ่งที่ดินของเอกชน ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า เพื่อให้เกษตรกร และผู้ยากจนได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง  รวมทั้งสนับสนุนทางการเงินแก่การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สนับสนุนให้ชุมชนมีการบริหารจัดการที่ดินร่วมกัน ทั้งที่ดินทำกินและที่ดินสำหรับการอยู่อาศัยในรูปแบบโฉนดชุมชน

 


       นอกจากพื้นที่ดำเนินโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน ทั้ง 12 พื้นที่ แล้วนั้น ในปี 2567 สถาบันฯ มีโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน 4 พื้นที่ ประกอบด้วย 1) สหกรณ์การเกษตรโฉนดชุมชนป่าซาง จำกัด บ้านไร่ดง หมู่ที่ 3 (บ้านใหม่ป่าฝาง หมู่ที่ 15) ต.น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน 2) สหกรณ์การเกษตรโฉนดชุมชนบ้านแพะใต้ จำกัด บ้านแพะใต้ หมู่ที่ 7 ต.หนองล่อง อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน 3) สหกรณ์การเกษตรโฉนดชุมชนบ้านท่ากอม่วง จำกัด บ้านท่ากอม่วง ต.หนองปลาสะวาย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน 4) สหกรณ์ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน อ.สันทราย บ้านโป่ง หมู่ที่ 2 ต.แม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘พิสันต์’ เปิดประกวดออกแบบผ้าไทย เตรียมคัด 20 ผลงาน แสดงแฟชั่นโชว์

 

เมื่อวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดการประกวดการออกแบบแฟชั่นผ้าไทย ผ้าถิ่น ผ้าชาติพันธุ์ ผ้าอัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงราย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567  ภายใต้โครงการกิจกรรมและการตลาด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ กิจกรรมหลัก การส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวตลอดทั้งปี กิจกรรมย่อย อัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงราย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมเอ็มบูทีค รีสอร์ทเชียงราย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

โดยการจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการนำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ การนำมรดกภูมิปัญญาการทอผ้าให้คงอยู่สืบไป รวมทั้ง สนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เด็ก เยาวชน และ ประชาชน ให้ความสนใจในการอนุรักษ์ผ้าไทย ผ้าถิ่น ผ้าชาติพันธุ์ ผ้าอัตลักษณ์อาภรณ์นครเชียงราย มากยิ่งขึ้น  

 

ทั้งนี้ ได้มีนักออกแบบ ดีไซน์เนอร์ ช่างทอผ้า ช่างเย็บผ้า ผู้ประกอบการ และบุคคลทั่วไป ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด จำนวนทั้งสิ้น 33 ผลงาน และคัดเลือกให้เหลือ 20 ผลงาน เพื่อนำไปเข้าร่วมการจัดงานแสดงแบบแฟชั่น กิจกรรมการสาธิตภูมิปัญญาฯ ระหว่างวันที่ 12 – 14 กรกฎาคม 2567 ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย (ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก) อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

อบจ.เชียงราย ส่งเสริมประเพณี จัดหล่อเทียนพรรษา วัดพระสิงห์

 

เมื่อวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00 น. องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นำโดย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย จัดโครงการส่งเสริมประเพณีวันเข้าพรรษา “กิจกรรมสืบสานประเพณีหล่อเทียนพรรษา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” ณ วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยได้รับเมตตาจาก พระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมพิธีหล่อเทียนพรรษาในครั้งนี้

 

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ร่วมกับจังหวัดเชียงราย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการสนับสนุนส่งเสริมกิจกรรมพระพุทธศาสนา และในโอกาสอภิลักขิตการมหามงคลนี้ จึงได้ร่วมจัดกิจกรรมหล่อเทียนพรรษา จำนวน 73 เล่ม ในวันนี้ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่ออนุรักษ์ ส่งเสริมและสืบสานประเพณีวันเข้าพรรษาในจังหวัดเชียงรายให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อให้เด็ก เยาวชนและประชาชน ซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ส่งเสริมและสืบสานประเพณีวันเข้าพรรษาในจังหวัดเชียงราย เพื่อปลูกฝังขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ซึ่งจะได้นำเทียนพรรษาทั้ง 73 เล่ม ไปถวายยังวัดในพื้นที่จังหวัดเชียงรายต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

‘1922 Architects’ ชนะออกแบบ ศูนย์สร้างสรรค์ New TCDC จ.เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 หลังศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ Thailand Creative & Design Center (TCDC)  เปิดรับสมัครประกวดแบบ  “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ตอนนี้เราได้ทีม 3 ทีมสุดท้ายของทั้ง 10 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, นครราชสีมา, ปัตตานี, พิษณุโลก, แพร่, ภูเก็ต, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อุตรดิตถ์ และอุบลราชธานี

 

และทั้ง 30 ทีมนี้จะเข้ามา Pitch รอบสุดท้ายในวันที่ 8 – 9 กรกฎาคมนี้ ณ TCDC กรุงเทพฯ และจะประกาศผลผู้ชนะการประกวดแบบ TCDC แห่งใหม่ใน 10 จังหวัด ได้ประกาศผลทาง Facebook: CEA และ TCDC เรียบร้อยโดยทาง TCDC เชียงราย ได้ผู้ชนะเป็น 1922 Architects (D098) ซึ่งได้รับโอกาสในการนำเสนอว่าการออกแบบอาคาร TCDC เชียงรายแห่งใหม่ ให้ตอบสนองบ้านเกิดในจังหวัดของตัวเอง ซึ่งมุ่งมั่นที่จะยกระดับไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมศิลปะและการออกแบบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีของชาวเชียงรายทุกคนด้วย

 

หลังจากการคัดเลือกอย่างเข้มข้น ตอนนี้เราได้ผู้ชนะการประกวดแบบ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” ที่พร้อมจะมาเปลี่ยนโฉมพื้นที่และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทั่วประเทศ มาเนรมิตพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ TCDC แห่งใหม่ในจังหวัดเชียงราย

 

ทาง TCDC ได้ขอบคุณนักออกแบบทุกคน ทุกบริษัทที่ให้ความสนใจและร่วมส่งผลงานประกวดแบบ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” ทั้ง 113 ทีม ที่ส่งผลงานกันเข้ามาถึง 173 ผลงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทยในรอบ 20 ปี

 

ในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นและความคิดสร้างสรรค์ครั้งสำคัญในรอบ 20 ปี ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ Thailand Creative & Design Center (TCDC) ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม บนรากฐานการใช้ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงองค์ความรู้และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ที่มีความพร้อมสำหรับการก้าวสู่อนาคต ซึ่ง TCDC กำลังขยายเครือข่ายไปยังจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อต่อยอดคุณค่าสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม พร้อมสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยความคิดสร้างสรรค์และประชาชนทุกคนสามารถติดตามศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัดได้ที่ new.tcdc.or.th

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TRAVEL

เตรียมนั่งรถไฟกรุงเทพฯ – เวียงจันทน์ เปิดเที่ยวปฐมฤกษ์ 19 ก.ค.นี้

 

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เตรียมเปิดเดินขบวนรถเที่ยวปฐมฤกษ์ ระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ที่มีกำหนดเปิดให้บริการเป็นทางการในวันที่  19 ก.ค.นี้ นำโดย “สุรพงษ์ ปิยะโชติ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีพร้อมร่วมเดินทางออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในเวลา 20.30 น. 

 

โดย ขบวนรถเที่ยวปฐมฤกษ์ จะเดินทางด้วยขบวนรถเร็วที่ 133 กรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 11  ชั่วโมง ในการเดินทางและผ่านกระบวนการพิธีศุลกากรผ่านแดน (ขาออก) ณ สถานีหนองคาย ก่อนจะถึงสถานีปลายทางเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) และผ่านกระบวนการพิธีศุลกากร (ขาเข้า) สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

 

สำหรับแนวเส้นทางให้บริการรถไฟ สายกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ จะใช้เส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ โดยแยกออกจากทางรถไฟสายเหนือที่สถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี ผ่านจังหวัดสระบุรี เข้าสถานีรถไฟชุมทางถนนจิระ จังหวัดนครราชสีมา ผ่านจังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองคาย ก่อนจะข้ามสะพานมิตรไทย-ลาวแห่งที่ 1 เข้าสถานีรถไฟท่านาแล้ง และสิ้นสุดที่สถานีเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

 

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้การรถไฟฯ ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเดินขบวนรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) โดยมีประเด็นหารือ 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 

1.แผนการเปิดเดินรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุดรธานี –หนองคาย – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) รวมถึงแผนการทดลองเดินรถเสมือนจริง ซึ่งกำหนดไว้ในระหว่างวันที่ 13 -14 ก.ค. 2567 

2.แผนพัฒนาตลาดด้านการท่องเที่ยว 

3.แผนการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ 

4. การเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งสินค้าระหว่าง ไทย – ลาว- จีน 

 

ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาการรถไฟฯ ยังได้ร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว ทำการทดลองและทดสอบการเดินขบวนรถไฟระหว่างสถานีอุดรธานี-สถานีหนองคาย-สถานีท่านาแล้ง-สถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) แล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 โดยผลการทดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอุปสรรคในการเดินรถใดๆ  

 

ทั้งนี้ การเปิดเดินขบวนรถระหว่างสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุดรธานี – หนองคาย – เวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ในครั้งนี้ จึงนับเป็นการขยายความร่วมมือครั้งสำคัญของทั้ง 2 ประเทศ จากปัจจุบันที่สามารถเปิดเดินรถถึงสถานีท่านาแล้ง (สปป. ลาว) และเมื่อสามารถให้บริการได้เต็มรูปแบบจนถึงสถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) จะก่อให้ประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวอย่างมหาศาล 

 

โดยสามารถรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบิน มาลงยังสนามบินอุดรธานี เพื่อเดินทางต่อเข้าไปนครหลวงเวียงจันทน์ได้ โดยไม่ต้องต่อรถโดยสารอื่น ซึ่งเป็นการยกระดับระบบโลจิสติกส์ของทั้งสองประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย IGNITE THAILAND ของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และโลจิสติสก์ของภูมิภาค

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรุงเทพธุรกิจ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

3 หน่วยงาน ผนึกกำลังขับเคลื่อน การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ

 

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.30 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ในนามตัวแทนของ อบจ.เชียงราย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงรายสู่เศรษฐกิจยุคใหม่” ร่วมกับ 2 หน่วยงาน ได้แก่ สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรพล วรภัทราทร อุปนายกสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าจังหวัดเชียงราย (YEC) โดย คุณนิทัศน์ ศรีรัตนประสิทธิ์ ประธานผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าจังหวัดเชียงราย ในการนี้ นายรามิล พัฒนมงคลเชฐ ปลัด อบจ.เชียงราย และนางศศิธร ดวงใจประเสริฐ ผู้อำนวยการกองคลัง ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมธรรมรับอรุณ อบจ.เชียงราย

 

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงรายให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำการค้าในเศรษฐกิจยุคใหม่ สามารถประยุกต์การทำการตลาด และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการในทุกระดับ ตลอดจนสร้างแรงบันตาลใจในการดำเนินธุรกิจให้ผู้ประกอบการสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้เกิดรายได้เพิ่มมากขึ้น และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ เป็นการผนึกกำลังสำคัญ ระหว่าง อบจ.เชียงราย สมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าจังหวัดเชียงราย (YEC) เพื่อที่จะสนับสนุนช่วยเหลือให้ความร่วมมือทางด้านวิชาการ เครือข่ายการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และความร่วมมือทางด้านบุคลากร เพื่อร่วมกันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงรายให้ดีขึ้นต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News