กรมป่าไม้แถลงผลตรวจ “ไร่เชิญตะวัน” ของพระ ว.วชิรเมธี ไม่พบการบุกรุกพื้นที่ป่า
กรมป่าไม้ตรวจสอบศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน ไม่พบการบุกรุก
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานในการแถลงข่าวการตรวจสอบพื้นที่ของ “ศูนย์วิปัสสนา ไร่เชิญตะวัน” ของพระ ว.วชิรเมธี ภายหลังการเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และไม่พบการใช้ประโยชน์นอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยปุย อ.เมือง จ.เชียงราย
รายละเอียดพื้นที่ได้รับอนุญาต 3 แปลง ครอบคลุม 139 ไร่
การใช้ประโยชน์พื้นที่โดยมูลนิธิวิมุตตยาลัยและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติครอบคลุมพื้นที่ 3 แปลง โดยกรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ใช้เป็นสถานที่จัดตั้งวัดและสถานที่วิปัสสนา ได้แก่:
- แปลงที่ 1 พื้นที่ 113 ไร่ 1 งาน 82 ตารางวา อนุญาตให้ใช้ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 12 มีนาคม 2596 ใช้สำหรับมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ ธรรมสมโภช 750 ปี รัตนบุรีเชียงราย และโรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์
- แปลงที่ 2 พื้นที่ 14 ไร่ 3 งาน 97 ตารางวา ได้รับอนุญาตเพื่อสร้างวัดไร่เชิญตะวัน โดยมีระยะเวลาอนุญาตตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2596
- แปลงที่ 3 พื้นที่ 11 ไร่ 3 งาน 01 ตารางวา สำหรับสร้างศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน มีการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2596
เงื่อนไขการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าเสื่อมโทรม และการฟื้นฟูพื้นที่
กรมป่าไม้ได้กำหนดเงื่อนไขในการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าเสื่อมโทรม โดยจะต้องรักษาป่าที่ได้รับการอนุญาตให้คงอยู่และฟื้นฟูเพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ใหม่ การปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างสามารถทำได้ไม่เกินร้อยละ 30 ของพื้นที่ได้รับอนุญาต สำหรับมูลนิธิวิมุตตยาลัยที่ได้รับอนุญาตใช้พื้นที่ 113 ไร่ ทางกรมป่าไม้พิจารณาอนุญาตจากความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่
นายบรรณรักษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การอนุญาตดังกล่าวช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์ป่า ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากหลักทางพระพุทธศาสนาที่มุ่งเน้นการใช้พื้นที่อย่างยั่งยืน
มาตรการตรวจสอบและการเรียกเก็บค่าฟื้นฟู
กรมป่าไม้ดำเนินการตรวจสอบการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าทุกปี หากพบการใช้พื้นที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กรมป่าไม้จะมีมาตรการว่ากล่าวตักเตือน หรืออาจยกเลิกการอนุญาตในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดการฟื้นฟูป่าได้ ผู้ได้รับอนุญาตสามารถชดเชยเป็นค่าบำรุงป่าในอัตรา 12,090 บาทต่อไร่ สำหรับมูลนิธิวิมุตตยาลัย การชำระค่าบำรุงป่าจะเริ่มในปีหน้าในอัตราเริ่มต้นร้อยละ 25 ของเงินทั้งหมด
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมป่าไม้