การศึกษาการนำทางในห้องปฏิบัติการเปลี่ยนไป สู่การจำลองในโลกจริง
วิจัยการนำทางในห้องแล็บสู่การค้นพบในสิ่งแวดล้อมจริง
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 รายงานข่าวด้านวิทยาศาสตร์เปิดเผยถึงการศึกษาการนำทางที่เคยเน้นในห้องแล็บเริ่มเปลี่ยนไปสู่การศึกษาในสิ่งแวดล้อมจริง โดยในอดีต นักวิจัยมักศึกษาแค่การนำทางบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม ทำให้มองข้ามปัจจัยภายนอก เช่น ภูมิอากาศและสิ่งมีชีวิตรอบตัว แต่ผลวิจัยใหม่กลับชี้ว่าแนวทางนี้อาจไม่สะท้อนความเป็นจริง
ตัวอย่างหนึ่งคือ ชาว Evenki ที่เลี้ยงกวางเรนเดียร์ในไซบีเรีย ซึ่งใช้วิธีการนำทางด้วยการติดตามธรรมชาติรอบตัว เช่น ชื่อสถานที่ เส้นทางแม่น้ำ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเครื่องมือ GPS ต่างจากคนในโลกตะวันตกที่พึ่งพาการนำทางด้วยแผนที่และ GPS เป็นหลัก
การศึกษาในสภาพแวดล้อมจริงเปิดมุมมองใหม่
นักวิจัยหลายคนรวมถึง Hugo Spiers จาก University College London เริ่มเห็นถึงข้อจำกัดของการศึกษาการนำทางในห้องแล็บ และมีการนำเทคโนโลยีใหม่อย่างเกม Sea Hero Quest ที่จำลองการนำทางผ่านสภาพแวดล้อมเสมือนจริง ช่วยให้ผู้เล่นจากกว่า 193 ประเทศสามารถนำทางผ่านโลกเสมือนได้ ทำให้นักวิจัยเข้าใจพฤติกรรมการนำทางในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ มากขึ้น
Spiers กล่าวว่าการสร้างห้องทดลองจริงอย่างห้อง PEARL ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ช่วยให้นักวิจัยสามารถสร้างสิ่งแวดล้อมจำลองได้ทุกประเภท ตั้งแต่โรงพยาบาลไปจนถึงสถานีขนส่ง โดยที่ยังสามารถควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่
ทักษะการนำทางแตกต่างกันตามวัฒนธรรมและวิถีชีวิต
การศึกษาในสภาพแวดล้อมจริงชี้ให้เห็นว่า ความสามารถในการนำทางของเด็กในพื้นที่ชนบทนั้นมักดีกว่าเด็กในเมือง เนื่องจากเติบโตในเส้นทางที่ซับซ้อนและต้องหาทางด้วยตนเอง ขณะที่การนำทางโดยพึ่งพาอุปกรณ์เสริมอย่าง GPS กลับทำให้ทักษะการนำทางลดลง นักวิจัยพบว่าชุมชน Tsimane ในโบลิเวียยังคงมีความสามารถในการนำทางที่ดี แม้เข้าสู่วัยชราเพราะยังคงเดินทางไกลในป่าได้เป็นประจำ
งานวิจัยนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า การใช้ชีวิตในโลกตะวันตกที่ลดการเคลื่อนไหวและการสำรวจ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทักษะการนำทางเสื่อมถอยลงเมื่ออายุมากขึ้น
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : sciencenews