Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สภากาชาดเยี่ยมแม่สาย หนุนสร้างพนังกั้นน้ำ

สภากาชาดไทย-กาชาดเชียงราย ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ โครงการแนวป้องกันน้ำและขุดลอกแม่น้ำสายแม่สาย

เชียงราย, 18 พฤษภาคม 2568 – สภากาชาดไทยร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่ปฏิบัติงานก่อสร้างแนวป้องกันน้ำและขุดลอกแม่น้ำสาย เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในฤดูฝนปีนี้ ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญเพื่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

จุดเริ่มต้นของภารกิจ: การระดมพลังข้ามหน่วยงานเพื่อปกป้องชีวิตประชาชน

โครงการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำชั่วคราว-กึ่งถาวร และการขุดลอกแม่น้ำสาย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยน้ำหลากและตลิ่งพัง ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อำเภอแม่สายต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน การค้า และการคมนาคมในพื้นที่

พื้นที่ปฏิบัติงานครอบคลุมตั้งแต่บ้านหัวฝาย หมู่ที่ 1 ตำบลเวียงพางคำ ไปจนถึงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 รวมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยได้รับการสนับสนุนด้านกำลังพลและเครื่องจักรจากกรมการทหารช่าง กองทัพบก ร่วมกับกองกำลังผาเมือง และมณฑลทหารบกที่ 37

กำลังใจถึงแนวหน้า ผู้นำลงพื้นที่ด้วยตนเอง

ในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568 คณะจากสภากาชาดไทย นำโดย นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด พร้อมด้วย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และที่ปรึกษาคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย นางสินีนาฎ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และคณะกรรมการเหล่ากาชาดอำเภอแม่สาย ร่วมกับที่ทำการปกครองอำเภอแม่สายและแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

บรรยากาศของการลงพื้นที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความหวัง โดยมีการจัดเตรียมน้ำดื่ม อาหารว่าง และอุปกรณ์ป้องกันแดดเพื่อแจกจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณในความเสียสละและความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ทุกนาย

รายละเอียดโครงการ ระบบป้องกันน้ำที่ออกแบบอย่างหลากหลาย

เพื่อให้การป้องกันน้ำมีประสิทธิภาพในทุกสภาพพื้นที่ โครงการดังกล่าวได้ออกแบบแนวป้องกันน้ำใน 5 รูปแบบ ดังนี้:

  • แบบที่ 1: ใช้เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก แผ่น Precast panel และคานทับหลัง พร้อมถมดินและเสริมแนว Big bag ด้านบน
  • แบบที่ 2: มีแนวกำแพงพร้อมเสาเหล็กค้ำยัน ใช้แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป
  • แบบที่ 3: เป็นเสาและกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด
  • แบบที่ 4: กำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กมีช่องเปิดสำหรับอาคารริมน้ำ ใช้เหล็กหนา 2 มิลลิเมตร
  • แบบที่ 5: ใช้ Big bag เป็นหลักในการกันน้ำบริเวณแนวอ่อนแรง

นอกจากการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำแล้ว ยังมีการขุดลอกแม่น้ำรวก ซึ่งเป็นลำน้ำสายหลักของพื้นที่ โดยเริ่มตั้งแต่ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย ไปจนถึงพื้นที่ในอำเภอเชียงแสน เพื่อเพิ่มความจุของแม่น้ำ ลดแรงดันน้ำและป้องกันตลิ่งทรุด

การขุดลอกแม่น้ำ ขั้นตอนที่ต้องอาศัยความแม่นยำและระมัดระวัง

การดำเนินการขุดลอกแม่น้ำดำเนินด้วยความรอบคอบ โดยเริ่มจากการสำรวจสภาพพื้นที่ สภาพดิน ความกว้าง-ลึกของลำน้ำ และระยะห่างจากสิ่งปลูกสร้างริมตลิ่ง ก่อนจะเริ่มขุดในช่วงละ 50–100 เมตร

จุดที่มีความเสี่ยงต่อการทรุดตัวของตลิ่งจะมีการตอกเสาเข็มไม้ขนาด 6–8 นิ้ว เรียงชิดเป็นแนว เพื่อป้องกันการไหลทลายของดินลงสู่แม่น้ำ อันจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบ้านเรือนริมฝั่งในอนาคต

ความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของประชาชน

โครงการดังกล่าวสะท้อนถึงแนวทางการจัดการภัยพิบัติอย่างมีระบบที่อาศัยความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งพลเรือน ทหาร และภาคประชาสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงพื้นที่ของสภากาชาดไทยและเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงรายในครั้งนี้ ไม่ได้เพียงเป็นการให้กำลังใจเชิงสัญลักษณ์ แต่ยังเป็นการส่งเสริมขวัญกำลังใจและสร้างแรงสนับสนุนจากระดับนโยบายไปถึงระดับปฏิบัติการ

การป้องกันน้ำท่วมไม่อาจพึ่งพาเฉพาะโครงสร้างทางวิศวกรรม หากต้องเสริมด้วยความเข้าใจในระบบนิเวศ ความร่วมมือของชุมชน และการบำรุงรักษาระบบที่ก่อสร้างไปแล้วอย่างต่อเนื่อง จึงจะสามารถลดผลกระทบในระยะยาวได้อย่างแท้จริง

ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง

  • จากรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปี 2566 ระบุว่า จังหวัดเชียงรายประสบภัยพิบัติน้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 12 ครั้ง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวมกว่า 22,000 ครัวเรือน
  • แม่น้ำสายและแม่น้ำรวก เป็นสองลำน้ำหลักที่มีน้ำหลากบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
  • กรมทรัพยากรน้ำรายงานว่า ในปี 2567 มีปริมาณฝนสะสมในเขตภาคเหนือสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 13.7% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านน้ำท่วมเฉียบพลัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สภากาชาดไทย
  • เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย
  • กรมการทหารช่าง กองทัพบก
  • กองกำลังผาเมือง
  • มณฑลทหารบกที่ 37
  • ที่ทำการปกครองอำเภอแม่สาย
  • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
  • กรมทรัพยากรน้ำ
  • สำนักงานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายใจบุญ ร่วมบริจาคโลหิต ดวงตา อวัยวะ วันกาชาดโลก

จังหวัดเชียงรายจัดกิจกรรมวันกาชาดโลก 2568 ส่งเสริมการบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ เพื่อมนุษยธรรม

เชียงราย, 8 พฤษภาคม 2568 – จังหวัดเชียงรายร่วมกับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรด้านสาธารณสุข จัดกิจกรรมบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ เนื่องในวันกาชาดโลก (World Red Cross Day 2025) ณ ห้างสรรพสินค้าโรบินสันเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก สะท้อนพลังของการให้เพื่อส่วนรวมและสร้างความตระหนักถึงภารกิจด้านมนุษยธรรมขององค์กรกาชาด

ความสำคัญของวันกาชาดโลกและบทบาทของกาชาดในระดับนานาชาติ

วันที่ 8 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเกิดของ นายอังรี ดูนังต์ ผู้ก่อตั้งกาชาดสากล และเป็นวันที่ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ร่วมกับ สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนระหว่างประเทศ (IFRC) ประกาศให้เป็น วันกาชาดโลก” เพื่อเชิดชูภารกิจด้านมนุษยธรรม การช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากภัยพิบัติ สงคราม และความยากลำบากต่าง ๆ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมความเมตตา ความเป็นกลาง และความเป็นอิสระของภารกิจกาชาดทั่วโลก

สำหรับประเทศไทย การดำเนินกิจกรรมในวันนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชนให้เห็นถึงบทบาทของ สภากาชาดไทย ที่นอกจากจะทำหน้าที่รับบริจาคโลหิตเพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยทั่วประเทศ ยังเป็นศูนย์กลางการบริจาคดวงตาและอวัยวะ เพื่อมอบโอกาสใหม่ในการดำรงชีวิตแก่ผู้ป่วยที่รอการรักษา

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเปิดกิจกรรมอย่างเป็นทางการ

เวลา 10.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ ณ ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าโรบินสันเชียงราย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานสาธารณสุข เจ้าหน้าที่เหล่ากาชาดจังหวัด และภาคเอกชนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้กล่าวเปิดงานโดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการให้และการเสียสละ โดยระบุว่า “การบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ เป็นการมอบชีวิตใหม่ให้กับผู้อื่น ถือเป็นการทำบุญสูงสุดที่ไม่มีสิ่งใดทดแทนได้ และเป็นภารกิจที่สะท้อนจิตวิญญาณของกาชาดได้อย่างชัดเจน”

บทบาทของภาคประชาสังคมในการส่งเสริมกิจกรรมบริจาค

นางสินีนาฏ ทองสุข ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยสมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมกิจกรรมและให้กำลังใจแก่ผู้มาบริจาค โดยให้ความเห็นว่า “กิจกรรมนี้ไม่เพียงสร้างคุณประโยชน์ต่อผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังช่วยปลูกฝังจิตสำนึกการแบ่งปันในสังคมอย่างแท้จริง ซึ่งจะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนทางสังคมในระยะยาว”

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความอบอุ่น มีประชาชนจากหลากหลายกลุ่มอายุเข้าร่วม อาทิ นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไป ซึ่งแสดงออกถึงความสมัครใจและความมีจิตอาสาอย่างแท้จริง

ผลการดำเนินกิจกรรมและจำนวนผู้บริจาค

จากการสรุปข้อมูล ณ จุดรับบริจาค พบว่า มีผู้มาลงทะเบียนเพื่อบริจาคโลหิต จำนวน 70 ราย และสามารถบริจาคได้จริง 54 ราย รวมปริมาณโลหิตที่ได้รับทั้งสิ้น 21,300 ซีซี

สำหรับการบริจาคดวงตา มีผู้แจ้งความจำนงจำนวน 23 ราย และบริจาคอวัยวะจำนวน 20 ราย ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับกิจกรรมในปีที่ผ่านมา

ความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

กิจกรรมในครั้งนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือระหว่างหลายหน่วยงาน อาทิ

  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
  • โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
  • ห้างสรรพสินค้าโรบินสันเชียงราย
  • หน่วยงานภาครัฐและองค์กรภาคเอกชนในพื้นที่

ซึ่งทุกฝ่ายให้การสนับสนุนทั้งด้านสถานที่ อุปกรณ์ โลจิสติกส์ และบุคลากรทางการแพทย์อย่างครบถ้วน

การวิเคราะห์ความสำคัญของกิจกรรมและข้อเสนอแนะ

การจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตในวันกาชาดโลกเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการสร้างสังคมแห่งการให้ สะท้อนถึงความรับผิดชอบร่วมกันของประชาชนและภาครัฐ การบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ ไม่ใช่เพียงการช่วยชีวิต แต่ยังเป็นการสร้างระบบการแพทย์ฉุกเฉินและการรักษาที่มีความพร้อมมากขึ้น

ในเชิงนโยบาย อาจพิจารณาขยายกิจกรรมในรูปแบบเคลื่อนที่ไปยังอำเภอต่าง ๆ หรือโรงเรียนมัธยมศึกษา เพื่อปลูกฝังจิตอาสาแก่เยาวชน และส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายการบริจาคในระยะยาว

สถิติและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

  • จำนวนผู้บริจาคโลหิตในประเทศไทย ปี 2566 (จากสภากาชาดไทย): 1.86 ล้านคน
  • ปริมาณโลหิตที่ต้องการใช้ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ: เฉลี่ยวันละ 2,000 – 2,500 ยูนิต
  • จำนวนผู้รอเปลี่ยนไตในประเทศไทย (จากศูนย์รับบริจาคอวัยวะ): มากกว่า 6,000 ราย
  • ผู้แจ้งความจำนงบริจาคดวงตาทั่วประเทศ: ราว 23,000 ราย แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วยที่รอการปลูกถ่าย
  • จังหวัดเชียงรายมีผู้บริจาคโลหิตประจำเฉลี่ย: ปีละ 15,000 ราย (สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย)

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
SOCIETY & POLITICS

ตัดแว่นฟรี! สภากาชาดไทย พัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2566 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงราย อ.เมืองเชียงราย สภากาชาดไทย ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย จัดโครงการให้บริการตรวจวัดสายตา และแก้ไขความผิดปกติทางสายตาพร้อมตัดแว่นฟรีให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่เชียงรายระหว่างวันที่ 17 – 27 ก.ค. 2566 นี้

 
นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากอำเภอทุกอำเภอ ร่วมกับหน่วยงานทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย สำนักงานสาธารณสุข และโรงเรียนในพื้นที่ร่วมกันคัดกรองนักเรียนที่มีปัญหาทางสายตาและการมองเห็นไม่ชัดเจน ซึ่งมีนักเรียนที่เข้าร่วมการคัดกรองเบื้องต้น พบว่ามีสายตาผิดปกติ จำนวน 4,000 คน ความผิดปกติทางสายตา เป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิต ยิ่งถ้าเกิดปัญหานี้กับเด็กนักเรียนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ จะเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตหลายด้าน สภากาชาดมองเห็นปัญหานี้จึงเกิดโครงการ รถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบทตามโครงการแว่นสายตาสภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่มีปัญหาทางสายตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนในชนบทห่างไกลทุกระดับ เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนให้เด็กกลุ่มนี้สามารถเรียนรู้ และดำเนินชีวิตได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป
 
 
นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย กล่าวต่อไปว่าโครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท จังหวัดเชียงราย จะใช้รถตัดแว่นสายตาที่เป็นรถบัสใหญ่ ออกแบบภายในพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ จำนวน 4,000 ราย เพื่อให้เด็กๆ เชียงรายมีความสามารถในการมองเห็นที่ชัดเจนขึ้น มีโอกาสในการเรียนรู้ พร้อมกับดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป สามารถช่วยเหลือตัวเอง และครอบครัวต่อไป
 
 
“เราได้ตระหนักว่าความผิดปกติทางสายตา ของนักเรียนในชนบท เป็นปัญหาสำคัญที่ยังไม่ได้รับการดูแลแก้ไขเท่าที่ควร ทั้งจากปัญหาครู ผู้ปกครองนักเรียนขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องสายตา อีกทั้งยังขาดแคลนจักษุแพทย์ในพื้นที่ ตลอดจนการขาดแคลน ร้านแว่นตาที่มีคุณภาพในท้องถิ่นห่างไกล ทำให้เด็กนักเรียนในชนบทจำนวนมาก มองเห็นไม่ชัด เป็นเหตุให้การเรียนไม่มีประสิทธิภาพ และการดำรงชีวิตด้อยกว่าเด็กปกติทั่วไป ส่งผลให้เด็กกลุ่มนี้ด้อยโอกาสในหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านการศึกษา และการเรียนรู้น้อยลงในครั้งนี้เด็กๆเชียงรายจะได้มีแว่นตาที่มีคุณภาพกว่า 4,000 คน ซึ่งนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯสามารถรอรับแว่นสายตาได้ทันที อีกด้วย”นางสุภาเพ็ญกล่า
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเปิดโครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงราย นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท จังหวัดเชียงราย โดยมีนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย แพทย์หญิงอุไรวัลย์ ตินนังวัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ นายแพทย์ 8 จักษุแพทย์สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย มาให้คำแนะนำ ชี้แจงรูปแบบการดำเนินโครงการ ในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประกอบไปด้วย สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย แพทย์อาสาประจำตำบล อสม. ครู เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กว่า 700 คน

.
นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่ารู้สึกดีใจแทน ด้วยเด็กนักเรียนในชนบท อาจไม่รู้ว่าตนเองมีสายตาบกพร่อง ทำให้เด็กนักเรียนจำนวนมาก มองเห็นไม่ชัด ขาดแคลนร้านแว่นตาที่มีคุณภาพ จึงเป็นเหตุทำให้เด็กส่วนใหญ่ขาดประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ด้อยโอกาสในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านความรู้ ความสามารถ รวมถึงการประกอบอาชีพในอนาคต
.
นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยและนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าโครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท จังหวัดเชียงราย จะใช้รถตัดแว่นสายตาที่เป็นรถบัสใหญ่ ออกแบบภายในพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถประกอบแว่นสายตาบนรถได้ทันที และสามารถรับแว่นสายตาในวันเดียวกัน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ จำนวน 4,000 ราย เพื่อให้เด็กๆ มีความสามารถในการมองเห็นที่ชัดเจนขึ้น มีโอกาสในการเรียนรู้ พร้อมกับดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป สามารถช่วยเหลือตัวเอง และครอบครัวอีกด้วย
.
ด้านแพทย์หญิงอุไรวัลย์ ตินนังวัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ นายแพทย์ 8 จักษุแพทย์สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้ให้คำแนะนำ อธิบายหน้าที่ให้แก่ผู้เข้าอบรมกว่า 700 คน เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติ จัดเตรียมเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์การตรวจวัดสายตา พร้อมสอนวิธีให้คำปรึกษาแก่เด็กนักเรียนในชนบท การตอบปัญหาและช่วยแก้ไข ตลอดจนการปฏิบัติตัวเมื่อสายตาเปลี่ยนแปลงไป
ทั้งนี้สภากาชาดไทย ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย โดยโครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 – 21 กรกฎาคม 2566 นี้ ติดตามรายละเอียดได้ที่ สภากาชาดไทย จังหวัดเชียงราย หรือติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 0-5371-2696

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

สำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด ฉลองครบรอบปี ที่ 1 แห่งการสถาปนา

สำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด สภากาชาดไทย จัดกิจกรรม เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนา “ก้าวใหม่กับงานอาสาสมัครกาชาดเพื่อสังคมไทย” โดยมีกิจกรรมมากมาย ณ อาคาร อปร.คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
 
นางสุนันทา ศรอนุสิน ผู้อำนวยการสำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด กล่าวว่า ตามที่สภากาชาดไทยได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารจัดการหน่วยงานภายใต้องค์กรของสภากาชาดไทย เพื่อการขับเคลื่อนให้สอดคล้องและดำเนินงานตามภารกิจหลัก รวมทั้งเพื่อเป็นการตอบโจทย์ของโลกปัจจุบันอันจะส่งผลให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มเปราะบางทั่วประเทศ ให้เข้าถึงการช่วยเหลือ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข บำบัดโรค กำจัดภัย ได้อย่างทันท่วงที ทั้งในยามเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ และยามที่เกิดภาวะโรคติดต่อร้ายแรง สภากาชาดไทย จึงได้จัดตั้ง“สำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด” ขึ้น เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 จึงเป็นการหลอมรวมงานอาสาสมัครเป็นหนึ่งเดียวกัน 
 
โดยรวมงานของสำนักงานยุวกาชาดเดิม ซึ่งดำเนินงานมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี 1 ศตวรรษ และงานของสำนักงานอาสากาชาดเดิม ที่เดินทางมากว่า 83 ปี พร้อมที่จะขับเคลื่อนงานอาสาสมัครกาชาดพร้อมกันใหม่อย่างเป็นเอกภาพและส่งผลให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม เป็นก้าวใหม่กับงานอาสาสมัครกาชาดเพื่อสังคมไทย ที่เข้มแข็งและอยู่เคียงข้างประชาชนในยามเดือดร้อนต่อไป
 
ในโอกาสครบรอบ 1 ปีของการสถาปนาสำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาดดังกล่าว สำนักงานฯ จึงกำหนดจัดงานเฉลิมฉลอง ในวันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2566 ณ อาคาร อปร. คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม เหรัญญิกสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธี มีการมอบโล่เกียรติยศให้แก่ปูชนียบุคคล จำนวน 2 ท่าน ได้แก่ คุณประกาย อติแพทย์ คุณมณี ชื่นประดิษฐ์ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นแบบอย่างและสมฐานะอาสาสมัครกาชาดอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและธำรงค์ไว้ซึ่งความศรัทธาในงานอาสาสมัครของสภากาชาดไทย จึงสมควรยกย่องเป็นปูชนียบุคคลที่มีคุณูปการต่องานอาสาสมัครอย่างยอดเยี่ยม และ โล่เกียรติยศ 2 หน่วยงาน ได้แก่ โรงเรียนราชินี สถาบันการศึกษาที่เปิดหมู่อนุกาชาดเป็นสถานศึกษาแรก จวบจนปัจจุบันยังคงมีกิจกรรมของชุมนุมอาสายุวกาชาด และ โรงเรียนราชินีบน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีคุณูปการต่องานอาสาสมัครของสภากาชาดไทย
 
ภายในงานยังได้จัดให้มีการแสดงนิทรรศการ เล่นเกม ให้ความรู้ และมีของรางวัลมามอบให้แก่ผู้ร่วมงาน จากภาคีเครือข่าย อาสาสมัครกาชาด ชมรมอาสายุวกาชาด ที่มาร่วมจัดกิจกรรมเพื่อความสุข สนุกสนานและยังประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากมาย อาทิ กิจกรรมจาก Youth Volunteer International กิจกรรมตรวจสุขภาพเบื้องต้นโดยอาสาสมัครกาชาดกิจกรรมจาก บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ศูนย์ขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด มูลนิธิเมาไม่ขับ และยังมีการถ่ายภาพเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกฟรี นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังจะได้ความรู้ทั้งในเรื่องประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของกิจการยุวกาชาด และอาสากาชาด จากอดีตสู่ปัจจุบันจนมาถึงยุคของอาสาสมัครกาชาดก้าวใหม่ในวันนี้ ความรู้ในเรื่องของอาสายุวกาชาดซึ่งเป็นที่พึ่งพาได้ของชุมชน และบูธนิทรรศการของอาสาสมัครกาชาดที่แสดงออกถึงความเข้มแข็ง ด้วยการทำงานของอาสาสมัครทุกช่วงวัย อีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานยุวกาชาดและอาสาสมัครกาชาด

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News