Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายส่งสตรีดีเด่นสองท่านรับโล่เกียรติยศเวทีชาติ ตอกย้ำพลังสตรีท้องถิ่น

เชียงรายนำ 2 สตรีดีเด่นรับโล่ระดับประเทศ ตอกย้ำ “พลังสตรีไทย” ขับเคลื่อนชุมชนสู่ความยั่งยืน

วันที่ 14 สิงหาคม 2568 กระทรวงมหาดไทยจัดพิธีมอบ “รางวัลสตรีดีเด่นการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงมหาดไทย ประจำปี 2568” ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี และมอบรางวัลรวม 152 รายชื่อ พร้อมผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชนเข้าร่วม

เวทีที่สะท้อนแรงบันดาลใจของผู้หญิงทำงานเพื่อชุมชน

แสงไฟสว่างไสวในฮอลล์อิมแพ็คคลี่ม่านขึ้นพร้อมเสียงปรบมือแน่นขนัด ตัวแทนสตรีจากทุกภูมิภาคก้าวขึ้นสู่เวทีด้วยความภาคภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยยืนรอต้อนรับพร้อมมอบโล่เกียรติยศทีละราย ชื่อถูกประกาศสลับกับเสียงชื่นชมจากเพื่อนร่วมเครือข่าย “พลังสตรี” ไม่ได้เป็นเพียงถ้อยคำ แต่คือสิ่งที่ทุกคนในห้องพิสูจน์ผ่านการลงมือทำจริงในหมู่บ้าน ตำบล และจังหวัดของตนเองตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ในงานเดียวกัน เครือข่ายคณะกรรมการพัฒนาสตรี 76 จังหวัดเข้าร่วมประชุมถอดบทเรียนความสำเร็จ รวบรวมกรณีศึกษาจากพื้นที่ นำเสนอแนวทางต่อยอดนโยบายให้เกิดผลจริงระดับครัวเรือนและชุมชน ตัวเลขผู้เข้าร่วมกว่า 300 คนสะท้อนพลังเครือข่ายที่จับต้องได้ ไม่ใช่งานพิธีการที่จบเพียงวันเดียว

รางวัลนี้คืออะไร และเชื่อมโยงกับประชาชนอย่างไร

“สตรีดีเด่นการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงมหาดไทย” เป็นการเชิดชูสตรีผู้ทำงานขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะในมิติต่าง ๆ ตั้งแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ยกระดับรายได้ครัวเรือน ส่งเสริมอาชีพ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ไปจนถึงการจัดการสวัสดิการชุมชน รางวัลสะท้อนว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างต้องอาศัยคนทำงานหน้างาน โดยเฉพาะเครือข่ายสตรี ซึ่งเป็นแรงขับสำคัญของนโยบายด้านชุมชนของกระทรวงมหาดไทยและกรมการพัฒนาชุมชน.

ในพิธีมอบรางวัลปีนี้ ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชนเข้าร่วมครบถ้วน พร้อมย้ำบทบาทสตรีในฐานะ “ภาคีร่วมพัฒนา” ที่เชื่อมรัฐกับชุมชน และเป็นแรงหลักในการนำโครงการลงสู่ครัวเรือนได้จริง ตั้งแต่ OTOP, กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี, ไปจนถึงโครงการพัฒนาศักยภาพอาชีพและเศรษฐกิจฐานราก.

เชียงรายบนเวทีประเทศ 2 รายชื่อ 2 พื้นที่ 1 ความภาคภูมิ

สำหรับจังหวัดเชียงราย นำโดย นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดเชียงราย เชียงรายส่งตัวแทนสตรีดีเด่นสองท่านขึ้นรับโล่เกียรติยศ ได้แก่

  • นางแว่นแก้ว ภิรมย์พลัด ตำบลศรีดอนชัย อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
  • นางนงลักษณ์ เทพทองพันธ์ ตำบลโรงช้าง อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย

ทั้งสองรายชื่อได้รับการประกาศยืนยันจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 และปรากฏตัวในเวทีระดับประเทศช่วงสัปดาห์งานดังกล่าว นี่ไม่ใช่เพียงความสำเร็จของบุคคล แต่เป็นความภูมิใจของชุมชนและทีมคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดที่ร่วมผลักดันโครงการต่อเนื่อง.

กลไกที่ทำให้ “พลังสตรี” ขับเคลื่อนได้จริง

หัวใจของรางวัลนี้อยู่ที่โครงสร้างการมีส่วนร่วมของ คณะกรรมการพัฒนาสตรี (กพส.) ซึ่งตั้งได้ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จนถึงจังหวัด ทำงานเชื่อมการรับรู้ปัญหาในพื้นที่กับการออกแบบโครงการและการเข้าถึงทรัพยากรของรัฐ ระเบียบและแนวทางปฏิบัติที่วางไว้ทำให้เครือข่ายสตรีเติบโตอย่างเป็นระบบและมีบทบาทกำกับการพัฒนาท้องถิ่นร่วมกับหน่วยงานรัฐ

อีกกลไกสำคัญคือ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่ทำหน้าที่เป็นแหล่งทุนหมุนเวียนและเงินสนับสนุน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของสมาชิก โดยมีเครือข่ายสมาชิกในทุกจังหวัด และมีการขับเคลื่อนต่อเนื่องผ่านเวทีระดับชาติและระดับจังหวัด ตัวเลขสมาชิกและผู้ได้รับประโยชน์จำนวนมากจากคำแถลงของรัฐบาลสะท้อนขนาดและความครอบคลุมของนโยบายเชิงโครงสร้างนี้

ภาพใหญ่ระดับชาติ สถิติเพศภาวะและแรงงาน

เมื่อนำรางวัลไปวางไว้ในบริบทระดับประเทศ ภาพรวมความก้าวหน้าของไทยด้านความเสมอภาคระหว่างเพศยังต้องเดินหน้าต่อ รายงาน Global Gender Gap 2025 ระบุไทยอยู่ในอันดับที่ 66 ของโลก และอันดับ 3 ในอาเซียน สะท้อนความก้าวหน้าบางมิติ แต่ยังมี “ช่องว่าง” ให้ขยายบทบาทสตรีทั้งในเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม

ในตลาดแรงงาน ข้อมูล สำนักงานสถิติแห่งชาติ ไตรมาส 1/2568 ชี้ให้เห็นแนวโน้มการมีงานทำและกำลังแรงงานที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่สัดส่วนสตรีในตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางและสูงของไทยอยู่ราว 34.7% ตามฐานข้อมูล World Bank ตัวเลขดังกล่าวชี้ถึงโอกาสและภารกิจต่อเนื่องในการเพิ่มจำนวนสตรีในบทบาทตัดสินใจ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย SDG 5.5

ทำไม “รางวัลเชิดชูสตรี” จึงมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจฐานราก

การยกระดับบทบาทสตรีในชุมชนไม่ได้หยุดที่เวทีรับรางวัล แต่ส่งผลเชื่อมโยงกับรายได้ครัวเรือน โอกาสการจ้างงาน และศักยภาพการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ชุมชน ตั้งแต่การยกระดับ OTOP ผ่านมาตรฐานและบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการค้าบนแพลตฟอร์มดิจิทัลและเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทำงานประสานเพื่อ “ต่อท่อน้ำเลี้ยง” เข้าสู่โครงการจริง และกำกับติดตามผ่านระบบข้อมูลของกรมการพัฒนาชุมชน.

เชียงรายเองมีกรณีศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเวทีคัดเลือกครัวเรือนสัมมาชีพดีเด่น การพัฒนาทักษะดิจิทัลของผู้ประกอบการ และการนำเสนอผลงานต่อผู้กำหนดนโยบายระดับชาติ สิ่งเหล่านี้ทำให้ “เวทีระดับประเทศ” ไม่ใช่ปลายทาง แต่เป็นจุดเริ่มของรอบการทำงานใหม่ ๆ ที่ขยายผลสู่คนในพื้นที่.

น้ำเสียงจากผู้กำหนดนโยบาย ข้อความที่ส่งถึงพื้นที่

สารหลักที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยส่งถึงเครือข่ายสตรีคือ “สนับสนุนพลังสตรีให้ขับเคลื่อนสิ่งที่ดีงามเพื่อความยั่งยืนของประเทศ” พร้อมย้ำบทบาทกรมการพัฒนาชุมชนในการเป็น “ตัวเร่ง” ให้เกิดโครงการที่มีผลจริงในพื้นที่ ข้อความดังกล่าวสะท้อนแนวทางที่ให้ความสำคัญกับ คนหน้างาน มากกว่างานเชิงเอกสาร และยืนยันการบูรณาการระหว่างนโยบายระดับชาติกับงานระดับตำบล

ในมิติการสื่อสารสาธารณะ พรรคการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น และสื่อกระแสหลักหลายสำนักร่วมรายงานข่าวและเผยแพร่สารจากเวทีนี้ ช่วยเพิ่มการรับรู้และแรงจูงใจให้เครือข่ายสตรีในจังหวัดต่าง ๆ กลับไป “ทำงานต่อ” ด้วยพลังที่มากขึ้น.

จากรางวัลสู่การเปลี่ยนแปลงที่ต่อเนื่อง

พิธีมอบรางวัลสตรีดีเด่นปีนี้ไม่ใช่ภาพจำเฉพาะหน้าเวที แต่คือ “จุดนัด” ของคนทำงานชุมชนที่กำลังผลักดันเศรษฐกิจฐานรากและสวัสดิการสังคมให้เดินหน้าอย่างยั่งยืน เชียงรายมีชื่อสองสตรีดีเด่นขึ้นเวทีระดับชาติ ท่ามกลางเครือข่าย 76 จังหวัดที่กำลังขยายผลนโยบายจากส่วนกลางสู่ครัวเรือน ความสำเร็จนี้ยืนอยู่บนกลไก กพส. และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าช่วยต่อยอดโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยสอดคล้องกับสัญญาณเชิงข้อมูลจากรายงานสากลและสถิติแรงงานไทย

เส้นทางข้างหน้าจึงชัดเจนขึ้น: ทำให้ “พลังสตรี” เคลื่อนต่อด้วยเป้าหมายที่วัดผลได้ สนับสนุนทักษะจำเป็นในตลาดจริง เพิ่มบทบาทผู้หญิงในตำแหน่งตัดสินใจ และบริหารทรัพยากรอย่างโปร่งใส หากทำได้ต่อเนื่อง รางวัลในวันนี้จะกลายเป็น “ทุนทางสังคม” ที่ทำให้ชุมชนเข้มแข็ง เศรษฐกิจฐานรากเติบโต และความเสมอภาคทางเพศเดินหน้าไปพร้อมกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี: ข่าว “ธีรรัตน์ มอบรางวัลสตรีผู้ขับเคลื่อนงานบำบัดทุกข์ บำรุงสุขดีเด่น” (14 ส.ค. 2568). Thai Government
  • สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย
  • ข้อมูลระเบียบ–โครงสร้าง กพส.: กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (เอกสารระเบียบคณะกรรมการพัฒนาสตรี). Department of Land Affaires
  • กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี: เว็บไซต์กลางและข่าวรัฐบาลเกี่ยวกับจำนวนสมาชิกและการดำเนินงาน. womenfund.in.thThai Government
  • รายงาน Global Gender Gap 2025: เอกสารของ World Economic Forum และบทความสรุปข้อมูลโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย/Nation. World Economic Forum ReportsChulalongkorn Universitynationthailand
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติ: สำรวจภาวะการทำงานของประชากร ไตรมาส 1/2568. National Statistical Office
  • World Bank Gender Data Portal: Female share of employment in senior and middle management (%), Thailand 2023.
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
LIFESTYLE

รู้จัก “ป้านิ” ผู้เชิดชูภูมิปัญญา ผ้าปักมือ สตรีดีเด่นปี 68

นิธี สุธรรมรักษ์: สตรีผู้รักษาภูมิปัญญาผ้าปักมือบ้านสันกอง จากสาวโรงงานสู่ผู้นำกลุ่มผ้าปัก อนุรักษ์ศิลปะพื้นถิ่นให้มีชีวิต

แรงบันดาลใจที่ผลักดันให้เกิดกลุ่มผ้าปักบ้านสันกอง

นิธี สุธรรมรักษ์ ประธานกลุ่มอาชีพผ้าปักด้วยมือบ้านสันกอง จ.เชียงราย ได้รับเลือกให้เป็น สตรีดีเด่นด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม เนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2568 เธอเป็นบุคคลสำคัญที่นำภูมิปัญญาท้องถิ่นกลับมาสร้างคุณค่า สร้างอาชีพ และส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้

“ตอนแรกเราแค่ลองเอาผ้าปักของผู้สูงอายุในชุมชนไปขายที่ตลาดไนท์บาซาร์เชียงราย ไม่คิดว่าจะมีคนสนใจมากขนาดนี้” นิธีกล่าว

ผลงานของกลุ่มได้รับความนิยมจากทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ จุดประกายให้เธอตั้งกลุ่มผ้าปักบ้านสันกองขึ้น เพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้สูงอายุที่เคยว่างงานให้กลับมามีรายได้อีกครั้ง

การรวมกลุ่มผู้สูงวัย: งานฝีมือที่มากกว่ารายได้

นิธีรวบรวมผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเฉย ๆ มาฝึกปักผ้า โดยใช้ระยะเวลาเรียนรู้ตั้งแต่ 10 วันถึง 3 เดือน ขึ้นอยู่กับทักษะของแต่ละคน

“คนที่ไม่เคยปักผ้ามาก่อนก็มี เราสอนทุกขั้นตอนจนเขาทำได้”

หลังจากฝึกจนสามารถปักผ้าได้แล้ว กลุ่มจะจ่ายค่าตอบแทนตามขนาดของชิ้นงาน ผู้สูงอายุสามารถสร้างรายได้เฉลี่ยเดือนละ 1,000-2,500 บาท ทำให้พวกเขามีความภูมิใจและลดภาระของลูกหลาน

“บางคนบอกว่าพอได้เงินจากงานปักผ้า เขาเอาไปซื้อของใช้ส่วนตัวเอง ไม่ต้องขอเงินลูกหลาน”

เอกลักษณ์ของผ้าปักบ้านสันกอง

จุดเด่นของผลงานคือ ความละเอียด ประณีต และลวดลายที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชุมชน ลวดลายที่นิยม ได้แก่

  • ลายเมล็ดข้าวสาร สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์
  • ลายใบไม้และดอกไม้ ถ่ายทอดความงามของธรรมชาติ
  • ลายสายน้ำและก้นหอย เป็นสัญลักษณ์ของความต่อเนื่องและความสงบ

“ผลงานแต่ละชิ้นไม่มีแบบซ้ำกันเลย เพราะมันเกิดจากจินตนาการของคนปัก”

กลุ่มสามารถผลิตผลงานได้กว่า 300-400 ชิ้นต่อเดือน ชิ้นเล็กใช้เวลาปัก 2-3 วัน ส่วนชิ้นใหญ่ใช้เวลาถึง 2-3 เดือน

สตรีดีเด่นแห่งเชียงราย: นางนิธี สุธรรมรักษ์ ผู้สืบสานผ้าปักมือ สู่รางวัลระดับประเทศ

การได้รับรางวัลในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถและความทุ่มเทของนางนิธี ในการอนุรักษ์และสืบสานศิลปะการปักผ้าด้วยมือ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นบ้านสันกอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ผลงานของนางนิธี ไม่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับชุมชน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับสตรีในท้องถิ่น ในการพัฒนาตนเองและสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

การพัฒนาและการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น

นิธีวางแผนพัฒนาให้สินค้าของกลุ่มสอดคล้องกับ แนวคิด BCG (Bio-Circular-Green Economy) โดยนำเศษวัสดุกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“เศษด้าย เศษผ้า ไม่เคยถูกทิ้ง ทุกอย่างถูกนำมาใช้ใหม่หมด”

นอกจากนี้เธอยังต้องการให้ กระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด

การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับผู้ต้องขัง

นิธีไม่ได้สอนแค่ในชุมชน แต่ยังนำความรู้ด้านผ้าปักเข้าไปถ่ายทอดให้กับผู้ต้องขังชายในเรือนจำกลางเชียงราย

“ช่วงแรกไม่มีใครเชื่อว่าผู้ต้องขังชายจะปักผ้าได้ แต่พอเริ่มฝึก ฝีมือก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ”

จากเดิมที่มีผู้สนใจเข้าเรียน 80 คน เพิ่มขึ้นเป็น 200 คน ตอนนี้ เรือนจำกลางเชียงรายตั้งกองงาน “ผ้าปัก” อย่างเป็นทางการ และเป็นแหล่งผลิตชิ้นงานให้กับกลุ่ม

สถิติที่เกี่ยวข้องกับงานผ้าปักบ้านสันกอง

  • กลุ่มผ้าปักบ้านสันกองมีสมาชิกกว่า 100 คน อายุตั้งแต่ 55-88 ปี
  • สามารถผลิตได้ 300-400 ชิ้นต่อเดือน
  • เป็นสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาวของเชียงราย และได้รับมาตรฐาน มผช.249/2557
  • โครงการสอนผ้าปักในเรือนจำกลางเชียงรายมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน

สรุป: นิธี สุธรรมรักษ์ ผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง

นิธี สุธรรมรักษ์ ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำกลุ่มอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่ยังเป็นผู้ที่ผลักดันให้ผ้าปักไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล เธอเป็นตัวอย่างของสตรีที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาเป็นอาชีพที่ยั่งยืน และยังคงสานต่อภารกิจนี้ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

คุณสมบัติสตรีดีเด่น: นางนิธี สุธรรมรักษ์

การคัดเลือกสตรีดีเด่นด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม จัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับคณะกรรมการดำเนินงานวันสตรีสากล กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีเกณฑ์การคัดเลือกที่เข้มงวด เพื่อให้ได้สตรีที่ทรงคุณค่าและเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม ซึ่งนางนิธี สุธรรมรักษ์ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนด ดังนี้

  1. ความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญ: นางนิธีมีความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญในด้านศิลปะและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปักผ้าด้วยมือ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
  2. คุณธรรมและจริยธรรม: นางนิธีเป็นสตรีที่มีคุณธรรมและจริยธรรม เป็นที่ยอมรับของบุคคลทั่วไปและสังคม
  3. การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคม: นางนิธีได้รับการยอมรับและมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมในสังคม มีการริเริ่มแผนงาน/โครงการ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างต่อเนื่อง
  4. ความสามารถในการถ่ายทอดและผลักดัน: นางนิธีมีความสามารถในการถ่ายทอด ผลักดัน และเชื่อมโยงประสบการณ์ให้เกิดประโยชน์ในชุมชนและสังคม
  5. บทบาทในการส่งเสริมความเสมอภาค: นางนิธีมีบทบาทในการส่งเสริม เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ และทัศนคติในการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ การคุ้มครองสิทธิสตรี หรือการพัฒนาศักยภาพของสตรี
  6. ไม่เคยได้รับรางวัลในรอบ 5 ปี: นางนิธีไม่เคยได้รับรางวัลเนื่องในวันสตรีสากลของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พม. ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา

จากภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่รางวัลระดับประเทศ

นางนิธี สุธรรมรักษ์ เป็นแบบอย่างของสตรีที่ประสบความสำเร็จในการอนุรักษ์และสืบสานศิลปะวัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยความมุ่งมั่นและความทุ่มเท นางนิธีได้พัฒนาฝีมือการปักผ้าด้วยมือ จนเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ และได้รับรางวัลสตรีดีเด่นด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ประจำปี 2568

รางวัลที่นางนิธีได้รับในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเกียรติประวัติส่วนตัว แต่ยังเป็นเกียรติประวัติของชุมชนบ้านสันกอง และจังหวัดเชียงราย ที่มีสตรีผู้ทรงคุณค่าและเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม

นางนิธี สุธรรมรักษ์ เป็นแรงบันดาลใจให้กับสตรีไทย ในการพัฒนาตนเองและสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ด้วยความสามารถและความมุ่งมั่น สตรีไทยสามารถสร้างชื่อเสียงและสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ / ผ้าปัก by นิธี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE