Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

มฟล.พัฒนาพลิกโฉมสมุนไพรไทย ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน

 

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ห้องคำมอกหลวง อาคาร M-Square มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ นายกสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พร้อมด้วยผู้บริหาร ร่วมต้อนรับคณะคณะทำงานสนับสนุนข้อมูลการวิจัยทางคลินิกและการจัดการข้อมูลการใช้สมุนไพรในคน ในคณะกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา โดยมี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ประธานกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา เป็นประธานในการประชุมเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสมุนไพร ภายใต้โครงการศูนย์กลางความรู้ต้นแบบด้านสมุนไพรเพื่อการใช้ประโยชน์ทางสุขภาพอย่างยั่งยืน Hub of Knowledge: Herbs for sustainable health and well-being 

 

เพื่อให้เกิดการพัฒนาและพลิกโฉมสมุนไพรไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 100 คน ประกอบด้วย คณะกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา คณะทำงานสนับสนุนข้อมูลการวิจัยทางคลินิกและการจัดการข้อมูลการใช้สมุนไพรในคน ในคณะกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วุฒิสภา ผู้เชี่ยวชาญจากกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก เครือข่ายโรงพยาบาล สถาบันการศึกษา/สถาบันวิจัย ที่มีผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านสมุนไพร รวมถึงผลิตวัตถุดิบต้นทาง หน่วยงานสนับสนุนทุนวิจัย องค์การเภสัชกรรม สมาคม/สมาพันธ์ มูลนิธิขับเคลื่อนงานด้านสมุนไพร และเครือข่ายภาคเอกชนมากกว่า 40 หน่วยงาน

 

สำหรับการพัฒนาและพลิกโฉมสมุนไพรไทยนั้น มีความจำเป็นต้องพัฒนาศูนย์กลางความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนาสมุนไพร โดยการจัดตั้งเครือข่าย (Consortium) ที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญที่มีองค์ความรู้ด้านการวิจัยสมุนไพร และพัฒนากลไกที่ส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดกระบวนการทำวิจัยร่วมกันตลอดจนการพัฒนารูปแบบ (Template) การเก็บรวบรวมข้อมูลองค์ความรู้ งานวิจัย โครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูลบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ และนำไปสู่การพัฒนาฐานข้อมูลสมุนไพรใน Knowledge Hub ที่มีรูปแบบเดียวกัน 
 
 
เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง และการวิเคราะห์ช่องว่างของการวิจัยและพัฒนางานด้านสมุนไพร (Gap analysis) ที่เป็นสมุนไพรเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2566-2570 เพื่อส่งเสริมให้เกิด Hub of Knowledge ที่ทำงานร่วมกับนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญในระดับนานาชาติ และประชาสัมพันธ์ Hub of Knowledge ด้านสมุนไพรของประเทศไทย
 
 
นอกจากนี้ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการงานวิจัยด้านสมุนไพร และบูธผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากเครือข่ายภาคเอกชน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่าของพืชสมุนไพรและผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

‘บก.ลายจุด’รับสับสนหลายเรื่อง หลัง มฟล. แถลงการณ์ ‘ดร.เค็ง’

 
วันที่ 4 ธ.ค. 2566 วันที่ 4 ธ.ค.2566 กระแสความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกรณีของ ดร.เค็ง นักเรียนทุนปริญญาเอกที่ป่วยจิตเวชจนต้องลาออกจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงที่เชียงราย แต่ต่อมาพบว่าทางมหาลัยได้ดำเนินการยื่นเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทาง ดร.เค็ง ถึง 16 ล้านบาท จนต่อมาเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่รายละเอียดมาต่อเนื่อง โดยการโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลของสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ “บก.ลายจุด” หลังมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง แถลงการณ์เรื่องการยื่นฟ้องคดีกับอาจารย์เพื่อให้ชดใช้ทุนการศึกษาตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์
 
โดยได้โพสต์ก่อนอื่นขอขอบคุณ ม.แม่ฟ้าหลวง ที่ออกมาสื่อสารกับสังคมในเรื่องนี้ หลังจากที่ดร.เค็งพยายามติดต่อเพื่อขอพูดคุยแต่ไม่เคยได้รับการตอบสนอง นอกจากหมายศาล
 
 
โดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก. ลายจุด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กรวมของแถลงการณ์ดังกล่าวคือ ทุกสิ่งอย่างเจอกันที่ศาล โดยอ้างว่าไม่สามารถไกล่เกลี่ยพูดคุยกันได้ ทั้งๆที่ความเป็นจริงคดีทางปกครองสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ ผมไม่มั่นใจว่าแถลงการณ์ดังกล่าวผ่านนิติกรของ ม.แม่ฟ้าหลวงด้วยหรือเปล่า แต่ถ้าผ่านฝ่ายกฎหมายมา ผมขอโต้แย้ง และขอให้ทางผู้รู้ทั้งหลายช่วยโต้แย้งในจุดนี้
เรื่องใบลาออก ดร เค็งยืนยันว่าไม่ได้เซ็นใบลาออก ถ้ามฟล.ยืนยันว่าเขียนใบลาออกผมขอดูเอกสารดังกล่าวในแถลงการณ์ฉบับต่อไป อยากให้ลองสืบค้นมานำเสนอ
 
 
กรณีชี้ว่า ดร เค็ง ไม่ได้นำใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐมายืนยันการเจ็บป่วยนั้น ไม่มีข้อโต้แย้งเพราะ ดร เค็ง ตกอยู่ในสถานะที่ป่วยจิตเวชและไ่ม่ได้เข้ารับการรักษาอยู่หลายปี แต่อย่างไรก็ตามทาง มฟล ไม่ทราบเลยหรือว่าตอนที่ผู้รับทุนและเป็นบุคคลากรของหน่วยงานไปศึกษาอยู่ใน ตปท ได้ประสบปัญหาเรื่องการเจ็บป่วยทางจิตเวชถึงขนาดถูกบังคับรักษาอยู่ใน รพ ที่ีอังกฤษถึง 28 วัน และพฤติกรรมการส่ง email หรือแม้แต่ข้อความที่อยู่ใน email ที่สื่อปัญหาอาการหูแว่วของ ดร เค็ง ในขณะนั้น มฟล ไม่รับทราบหรือวิเคราะห์หรือแสดงความเมตตาที่จะทำความเข้าใจในอาการเหล่านั้น และจะต้องเป็นภาระของพนักงานในองค์กรที่เจ็บป่วยต้องพิสูจน์ด้วยตนเองโดยลำพังเท่านั้น
ผมอ่านแถลงการณ์ของ มฟล แล้วทำให้ผมสับสนทั้งหลักกฎหมาย หลักการบริหารองค์กร และ หลักเมตตาธรรม
 
 
 
 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ม.แม่ฟ้าหลวง’ แถลงการณ์ แจงเหตุยื่นฟ้อง ‘ดร.เค็ง’

 
วันที่ 4 ธ.ค. 2566 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง แถลงการณ์เรื่องการยื่นฟ้องคดีกับอาจารย์เพื่อให้ชดใช้ทุนการศึกษาตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ยื่นฟ้อง ดร.เค็ง ซึ่งเป็นอาจารย์ที่เรียนจบในระดับปริญญาเอกที่ขอลาออกในขณะที่ยังไม่ครบเงื่อนไขการชดใช้ทุน โดยให้ชดใช้ทุนการศึกษานับสิบล้านบาท ทั้งที่ ดร.เค็ง เจ็บป่วยด้วยโรคจิตเวช นั้น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงขอชี้แจงในกรณีนี้ ดังนี้
 
 
1. ดร.เค็ง เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำแหน่งอาจารย์ สังกัดสำนักวิชาการจัดการ ได้เริ่มปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.2548 และต่อมาได้รับทุนรัฐบาลจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงให้ไปศึกษาในระดับปริญญาเอก ณ University of Kent ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2551

 

2. ดร.เค็ง ได้กลับมาปฏิบัติงานที่มหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 2 ส.ค.2556 และในระหว่างปฏิบัติงานได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2557โดยให้ มีผลเป็นการลาออกในวันที่ 1 ก.ย. 2557 ซึ่งในการขอลาออกเป็นการแสดงเจตนาโดยสมัครใจของ ดร.เค็ง และเมื่อ ดร.เค็ง ยังคงแสดงเจตนาเดิมในการขอลาออกโดยได้รับทราบเงื่อนไขของการชดใช้ทุนแล้ว มหาวิทยาลั ยจึงได้ อนุญาตให้ลาออกตามความประสงค์ แต่ด้วยเงื่อนไขของสัญญาและระเบียบของกระทรวงการคลัง เมื่อ ดร.เค็ง ปฏิบัติงานเพื่อชดใช้ทุนการศึกษาไม่ครบถ้วนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมหาวิทยาลัย จึงมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญา เพื่อเรียกให้ชดใช้ทุนการศึ กษา ของกระทรวงวิทย์ ฯ จำนวน 630,207.46 บาท กับอีก 194,730 ปอนด์ และของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจำนวน 726,305.94  บาท

 

3. ตามเงื่อนไขของสัญญารับทุน และหลักเกณฑ์ปฏิบัติของกระทรวงการคลัง กำหนดให้สิทธิผู้รับทุนที่ไม่ต้องรับผิดชดใช้เงินทุนตามสัญญาเมื่อเป็นบุคคลวิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ แต่ต้องแสดงหลักฐานทางการแพทย์จากโรงพยาบาลในสังกัดของรัฐ โดยให้แพทย์ผู้ทาการรักษาระบุว่าเหตุวิกลจริต และจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบดังกล่าว ทาให้ผู้ผิดสัญญาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้แต่ทั้งนี้ ในระหว่างปฏิบัติงานให้กับมหาวิทยาลัยจนกระทั่งยื่นหนังสือลาออก ดร.เค็ง ไม่เคยจัดส่งเอกสารหลักฐานทางการแพทย์ว่าไม่สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้ให้กับมหาวิทยาลัยได้รับทราบเลย โดย ดร.เค็ง ได้ยื่นเอกสารทางการแพทย์ต่างๆ ในชั้นพิจารณาของศาลปกครองเชียงใหม่แต่ล่วงเลยระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในสัญญาไปแล้วศาลปกครองเชียงใหม่จึงได้พิจารณาและพิพากษาให้ ดร.เค็ง ชดใช้ทุนการศึกษาตามเงื่อนไขของสัญญา

 

4. ดร.เค็ง ได้ยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2566  แต่เมื่อคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด การไกล่เกลี่ยในชั้นศาลนี้ไม่อาจทำได้ มหาวิทยาลัยจึงไม่อาจดำเนินการใด ๆ ในขณะนี้ได้

 

5. มหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติต่อ ดร.เค็ง ด้วยเมตตาธรรมและคุณธรรมมาโดยตลอดโดยได้สนับสนุนและส่งเสริมให้ ดร.เค็ง ได้รับโอกาสไปศึกษาวิชาการในต่างประเทศตามที่ ดร.เค็ง ตั้งใจและขอยืนยันว่าในการพิจารณาเรื่องราวของ ดร.เค็ง มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการภายใต้ขั้นตอนและหลักเกณฑ์ของกฎหมาย และระเบียบของทางราชการ แต่อย่างไรก็ดีหากศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาพิพากษาเป็นประการใด มหาวิทยาลัยก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามคาพิพากษาของศาลทุกประการ

 

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

ทันตแพทย์ มฟล. บริการแบบครบวงจร สุขภาพช่องปากพระสงฆ์สามเณร

 

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 ผศ.ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ ผศ. (พิเศษ) ทพ.ไพศาล กังวลกิจ คณบดี สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ พร้อมด้วยผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ จัดพิธีทำบุญสำนักวิชาทันตแพทย์ศาสตร์ และเปิดการดำเนินโครงการส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพช่องปากพระสงฆ์ ที่ห้องประชุมวันชัย ศิริชนะ อาคารสำนักวิชาทันตแพทย์ศาสตร์ ชั้น 5 ภายในศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตำบลท่าสุด อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ตลอดจน พระเถระผู้ใหญ่ เจ้าคณะอำเภอ ร่วมพิธีในครั้งนี้ด้วย 
 
โดยจัดให้มีพิธีทางศาสนาพระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่หลังจากนั้น นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผศ.ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ ผศ. (พิเศษ) ทพ.ไพศาล กังวลกิจ คณบดี สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และพระพุทธิวงศ์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ได้ร่วมกันเปิดดำเนินโครงการส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพช่องปากพระสงฆ์ ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการของสำนักวิชาทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากของพระสงฆ์ ให้มีความรู้ มีเจตคติและปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องปาก ซึ่งจะนำไปสู่การมีสุขภาพช่องปากที่ดี
 
ผศ.(พิเศษ) ทันตแพทย์ ไพศาล กังวลจิต คณบดี สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ม หาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าสุขภาพอนามัยที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญและจำเป็นของชีวิต ปัญหาสุขภาพช่องปากทั้งโลกฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ รวมถึงโรคปริทันต์ และโรคติดเชื้อในช่องปาก เป็นโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมและมีผลต่อการรักษาโรคร้ายแรงหลายโรค เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ซึ่งจากการสำรวจพบว่า พระสงฆ์และสามเณรจำนวนมากมีปัญหาสุขภาพในช่องปาก ทั้งโรคฟันผุ โรคปริทันต์ โรคติดเชื้อต่างๆ นอกจากทำให้เกิดความเจ็บปวดทรมานและนำไปสู่การสูญเสียฟันก่อให้เกิดปัญหาต่อการบดเคี้ยวอาหาร และส่งผลต่อสุขภาพ
 
นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มพระสงฆ์เป็นกลุ่มที่เข้าถึงบริการรักษาทางทันตกรรมในอัตราที่ต่ำ ทำให้โรคในช่องปากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่ม จึงทำให้โรคลุกลามไปจนถึงขั้นติดเชื้อที่รุนแรง และสูญเสียฟัน ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพ เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติศาสนกิจ ดังนั้นเพื่อให้พระสงฆ์ได้มีความรู้และปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในการดูแลสุขภาพช่องปากตนเอง และเพื่อให้พระสงฆ์ได้รับบริการทางทันตกรรมที่ถูกต้องเหมาะสมอย่างครบวงจร เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพระสงฆ์ควบคู่ไปกับกิจกรรมส่งเสริมทันตสุขภาพ โดยการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่เพื่อให้บริการตรวจ วินิจฉัย การอุดรักษาฟัน การขุดหินปูน รักษาโรคเหงือกอักเสบ และโรคปริทันต์ รวมทั้งการถอนฟันที่วัด ให้ทันตสุขศึกษาควบคู่ไปกับการรักษาทางทันตกรรมเพื่อให้พระสงฆ์และสามเณรสามารถดูแลสุขภาพช่องปากตนเองได้อย่างเหมาะสมในกรณีที่เป็นโรคที่รุนแรง จำเป็นต้องได้รับการรักษาเป็นพิเศษ หรืออาศัยทันตแพทย์เฉพาะทาง เช่น การรักษาโรคปริทันต์อักเสบที่รุนแรง การรักษาคลองรากฟัน การรักษาโรคติดเชื้อ เนื้องอกต่างๆ ในช่องปากและกระดูกขากรรไกร รวมทั้งการใส่ฟันปลอมจะส่งตัวมารับการรักษาที่สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งโครงการนี้ได้ตั้งเป้าหมายให้บริการแก่พระสงฆ์และสามเณร ที่วัดต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย จำนวน 300 รูป ระยะเวลาดำเนินการเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิ โสภณพาณิชย์ อีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงอุตสาหกรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

มฟล. ร่วมชุมชนปลูกป่าเชิงนิเวศ ฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำชุมชน

 
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) โดยโครงการสวนพฤกษศาสตร์ฯ ได้ดำเนินการโครงการรักษ์ดิน รักษ์น้ำ รักษ์ป่า ซึ่งเป็นโครงการทางด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 และเนื่องในวันต้นไม้แห่งชาติประจำปี 2566 ซึ่งปีนี้ตรงกับวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ถือเป็นโอกาสดีในการจัดกิจกรรมปลูกป่าเชิงนิเวศ ในพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่ชุมชนใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ปลูกฝังให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ได้แก่ นักศึกษา บุคลากร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง บุคลากรเทศบาลตำบลนางแล และประชาชนทั่วไปในชุมชนตำบลนางแล ให้มีความรู้สึกรัก และหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ โดยมีอาจารย์วิทยาศักดิ์ รุจิวรกุล รักษาการแทนรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) พร้อม ดร.จันทรารักษ์ โตวรานนท์ หัวหน้าโครงการสวนพฤกษศาสตร์ฯ นำบุคลากรและนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม เมื่อวันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566 เวลา 08.00-14.00 น. ณ ที่พื้นที่อนุรักษ์บ้านนางแลใน – บ้านร่องปลาค้าว ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
 
ทั้งนี้กิจกรรมที่โครงการรักษ์ดิน รักษ์น้ำ รักษ์ป่า โดยโครงการสวนพฤกษศาสตร์ฯ ได้ดำเนินการแล้ว ได้แก่ การปลูกต้นไม้ การสร้างฝาย โดยนักศึกษา บุคลากรของมหาวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายพัฒนาสภาพแวดล้อมมหาวิทยาลัยให้ร่มรื่น ผลักดันมหาวิทยาลัยสู่การเป็น Green & Clean Campus และส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมในครั้งนี้หวังที่จะทำให้พื้นที่ป่าได้รับการฟื้นฟู มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น สามารถเพิ่มความหลายหลายทางชีวภาพภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยได้มากขึ้น สร้างจิตสำนึกรักทรัพยากรธรรมชาติให้แก่นักศึกษาและบุคลากรตลอดจนประชาชนทั่วไปได้ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผืนป่าทำให้ระบบนิเวศดีขึ้น และทำให้ไม้ยืนต้นเจริญเติบโตมากขึ้น ทดแทนไผ่ป่า ลดอัตราการเกิดไฟป่าได้
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

มฟล. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ความปลอดภัยทางชีวภาพ

 
มฟล. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ หวังสร้างมาตรฐานการวิจัยระดับสากล
 
ส่วนบริหารงานวิจัย สถาบันวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จัดการอบรมอบรมเชิงปฏิบัติการ ความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosafety and Biosecurity Training Course) หลักสูตรอบรมภาคภาษาอังกฤษ ระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุมคำมอกหลวง อาคาร M-Square มฟล. โดยมี นายกานต์กุญช์ บำรุงชาติ หัวหน้าส่วนบริหารงานวิจัย กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมการอบรมทั้งที่เป็นนักศึกษานานาชาติ อาจารย์และนักวิจัยของมหาวิทยาลัย และได้รับเกียรติจากวิทยากร ดร.ฉายสุรีย์ ศุภวิไล ข้าราชการบำนาญ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บรรยายเรื่อง กฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคามปลอดภัยทางชีวิภาพ (Biosafety) และการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ผศ. ดร.วีระชัย ทิตภากร อาจารย์ประจำวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บรรยายเรื่อง หลักการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ ดร.บุญเฮียง พรมดอนกอย นักวิจัยอาวุโส ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ บรรยายเรื่อง การจัดการความเสี่ยงทางชีวภาพ (Biorisk Management) และอีกหลายหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
 
นายกานต์กุญช์ บำรุงชาติ หัวหน้าส่วนบริหารงานวิจัย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมมือกับ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (National Center for Genetic Engineering and Biotechnology: BIOTEC) จัดหลักสูตรอบรมภาคภาษาอังกฤษเรื่อง “ความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างให้เกิดความรู้และความเข้าใจแก่นักวิจัย นักศึกษาต่างชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในห้องปฏิบัติการชีวภาพ เพื่อสามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและมีความปลอดภัย โดยได้รับเกียรติจากวิทยากร 3 ท่านคือ ดร.บุญเฮียง พรมดอนกอย และ ผศ. ดร.วีระชัย ทิตภากร รวมทั้ง ดร.ฉายสุรีย์ ศุภวิไล ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการความปลอดภัยทางชีวภาพของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงอีกด้วย
 
ทั้งนี้ การวิจัย ถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างองค์ความรู้นำมาใช้ในการเรียนการสอน การพัฒนาประเทศ และพัฒนาคุณภาพในด้านวิชาการของมหาวิทยาลัย ในปัจจุบันการทำงานวิจัยที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่หรือพันธุวิศวกรรม มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการสร้างประโยชน์ด้านอุตสาหกรรม การแพทย์ การเกษตร และด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง 
 
โดยตามหลักสากลในการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ต้องมีการดูแลความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการ ซึ่งประกอบด้วยมาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยทางชีวภาพ และมาตรฐานความปลอดภัยทางห้องปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการวิจัยการทดลองนั้น มีความปลอดภัยต่อผู้ที่เกี่ยวข้องและสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่นักวิจัยและผู้ปฏิบัติงาน จะต้องมีความรู้ มีความเข้าใจ ในเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะส่งผลให้ผลงานวิจัยที่ได้มีมาตรฐานในระดับสากล และเป็นที่ยอมรับในวงกว้างต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

มฟล. ขึ้นทะเบียนหลักสูตรพุทธศิลปกรรม รุ่น 3 สร้างศิลปินมืออาชีพรุ่นต่อรุ่น

 
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) โดย ศูนย์บริการวิชาการ จัดการรายงานตัวและขึ้นทะเบียนผู้เรียนหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม รุ่นที่ 3 พ.ศ. 2566 ณ อาคารพลเอกสำเภา ชูศรี มฟล. มีรายชื่อผู้รายงานตัวจำนวน 60 รูป/คน โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวแสดงความยินดี และมอบเข็มกลัดที่ระลึกของหลักสูตรฯ ให้แก่ผู้เรียน ดร.ณัฐวุฒิ ยอดสุวรรณ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการ บรรยายภาพรวมของหลักสูตร รองศาสตราจารย์ ดร.พลวัฒ ประพัฒน์ทอง อาจารย์ประจำหลักสูตร แนะนำหลักสูตร แนวทางการสอน การวัดและการประเมินผล รวมทั้งชี้แจงรายละเอียดสัญญาการจัดการสิทธิและการจัดสรรผลประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้การศึกษาในหลักสูตรฯ พร้อมทั้งคณาจารย์ประจำหลักสูตรให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน ได้แก่ อาจารย์ทองเดช ทิพย์ทอง อาจารย์วาทิตย์ เสมบุตร อาจารย์ขจรเดช หนิ้วหยิ่น อาจารย์วัชระ กว้างไชย์ และ อาจารย์กาญจนา ชลศิริ
 
ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดี มฟล. กล่าวแสดงความยินดีกับผู้รายงานตัวเป็นผู้เรียนของหลักสูตรว่า ในนามของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับผู้เรียนทุกท่าน ที่ได้ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นในการเข้าศึกษาในหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาพุทธศิลปกรรมของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งรุ่นนี้นับเป็นรุ่นที่ 3 รวมผู้เรียนทั้งสิ้นจำนวน 60 รูป/คน
 
ขอแสดงความชื่นชมหลักสูตรระยะสั้นนี้ ที่ได้มีการบริหารจัดการหลักสูตร ในการจัดการเรียนการสอนให้กับพระภิกษุ สามเณร และบุคคลทั่วไปที่มีความสนใจในด้านพุทธศิลปกรรม ให้ได้มีโอกาสในการศึกษาเรียนรู้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการศึกษา โดยดำเนินการมาแล้ว 3 รุ่น โดยรุ่นที่ 1 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา
 
หลักสูตรนี้เป็นความคิดริเริ่มจากผู้ก่อตั้ง 3 ท่าน คือ พระเมธีวชิโรดม หรือที่เรารู้จักในนาม ท่าน ว.วชิรเมธี ที่ท่านเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ท่านที่ 2 คือ ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติ และท่านที่ 3 คือ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ ท่านเป็นอธิการบดีผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และในปัจจุบันท่านเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยท่านทั้ง 3 ได้มีแนวคิดร่วมกัน ในการที่จะก่อตั้งให้มีหลักสูตรนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ด้านสุนทรียศาสตร์ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติแบบเข้มข้น ที่สร้างความรู้ความเข้าใจในด้านพุทธศิลปกรรมได้อย่างลึกซึ้ง ตลอดจนการเผยแพร่งานพุทธศิลปกรรมให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ และส่งเสริมให้งานพุทธศิลปกรรมให้คงอยู่ตลอดไป
 
สำหรับหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาพุทธศิลปกรรมนี้ ได้ดำเนินการในลักษณะแบบบูรณาการพันธกิจร่วมกัน ระหว่างการบริการวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปะวัฒนธรรม ซึ่งได้ดำเนินการโดยการทำงานของศูนย์บริการวิชาการของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จะเป็นลักษณะของการดำเนินการที่เป็นโครงการบริการที่ไม่มีรายได้ โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนพุทธศิลปการแห่งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้จิตศรัทธา และรายได้จำนวนร้อยละ 40 จากการจำหน่ายผลงานสร้างสรรค์ของอาจารย์ประจำหลักสูตรและผลงานของผู้เรียน
 
หลักสูตรนี้ได้แบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่ 1 พุทธศิลป์พื้นฐาน ระดับที่ 2 พุทธศิลป์สร้างสรรค์ และระดับที่ 3 พุทธศิลป์สร้างสรรค์ขั้นสูง โดยการดำเนินการสอนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และคณาจารย์ประจำหลักสูตรที่มีความรู้ความสามารถ จัดการเรียนการสอนทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ในระยะเวลา 1 ปี โดยที่ผู้ที่จะสำเร็จการศึกษาตามแผนการสอนในแต่ระดับ จะได้รับประกาศนียบัตรสำเร็จการศึกษา ที่รับรองโดยพระเมธีวชิโรดม ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ ซึ่งทั้ง 3 ท่านเป็นผู้ก่อตั้งหลักสูตรนี้
 
หลักสูตรหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาพุทธศิลปกรรม นับเป็นหลักสูตร Master Class อย่างแท้จริง ด้วยเป็นหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง สุดท้ายนี้ก็ขอแสดงความยินดีกับผู้เรียนทุกท่านอีกครั้ง ซึ่งถือว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ท่านเป็นผู้เรียนในหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาพุทธศิลปกรรมของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงรุ่นที่ 3 ปี พ.ศ 2566 ซึ่งจะได้พัฒนางานด้านพุทธศิลป์ออกไปในวงกว้าง และก่อประโยชน์อย่างมีประสิทธิผลในสังคมไทยและสังคมโลกได้อย่างยั่งยืนต่อไป” อธิการบดี มฟล. กล่าว
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

มฟล.ต้อนรับผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย

มฟล.ต้อนรับผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย

Facebook
Twitter
Email
Print
 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมาผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร รักษาการแทนอธิการบดี พร้อมด้วย ดร.ธีรภาพ ปรีดีพจน์ คณบดีสำนักวิชาจีนวิทยา และ ดร.พรภวิษย์ หล้าพีระกุล รักษาการแทนผู้อำนวยการศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร ให้การต้อนรับ ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย Mrs. Feng Junying, Counselor of Education and Mrs.Wang Huan, First Secretary เพื่อพบปะหารือเกี่ยวกับการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของนักศึกษาแลกเปลี่ยนชาวจีนที่กำลังศึกษามหาวิทยาลัยภาคเหนือของประเทศไทย รวมถึงเข้าหารือกับผู้ดูแลนักศึกษาแลกเปลี่ยนชาวจีนกับส่วนพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และตัวแทนนักศึกษาแลกเปลี่ยนชาวจีนของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พร้อมกันนี้ได้แสดงความยินดีแก่อธิการบดีในการเข้ารับตำแหน่งใหม่ ที่ห้องรับรอง อาคารวันชัย ศิริชนะ

ทั้งนี้ผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูตฯ เข้าพบปะคณบดีสำนักวิชาจีนวิทยาพร้อมอาสาสมัครครูชาวจีน ตลอดจนส่วนพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อรับทราบข้อมูลของมหาวิทยาลัย การดูแลนักศึกษาต่างชาติ ตลอดจนพบปะกับนักศึกษาชาวจีนจำนวนหนึ่ง โดยผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ให้ความสนใจซักถามเรื่องการเรียนและความเป็นอยู่ นอกจากนี้ ได้เยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิริธรและสถาบันขงจื่อ โดยมี Assoc.Prof.Dr.Zhang Tao ผู้อำนวยการสถาบันขงจื่อมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ให้การรับรองคณะและนำชมสถานที่ต่างๆด้วย

ทั้งนี้มฟล. และสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย มีความสัมพันธ์ที่ดีด้วยกันเสมอมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 โดยได้ร่วมก่อตั้งศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร ณ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการเรียนการสอนภาษาและวัฒนธรรมจีน สนับสนุนการสร้างผลงานวิชาการและเป็นศูนย์รวมข้อมูลและคำปรึกษาด้านจีนวิทยา ตลอดจนเผยแพร่ผลงานวิชาการและองค์ความรู้เกี่ยวกับประเทศจีน โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยประสานงานอาสาสมัครครูชาวจีนเพื่อทำการสอน ณ สำนักวิชาจีนวิทยา มาโดยตลอด ตลอดจนผู้บริหารได้มีการเยี่ยมเยือนระหว่างกัน และสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมงานประชุมทางวิชาการนานาชาติบ่อยครั้ง
.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

มฟล.พัฒนาศักยภาพฝึกปฏิบัติงาน นักศึกษาพยาบาลตั้งแต่ชั้นปีที่ 2-4

มฟล.พัฒนาศักยภาพฝึกปฏิบัติงาน นักศึกษาพยาบาลตั้งแต่ชั้นปีที่ 2-4

Facebook
Twitter
Email
Print
สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จัดโครงการ ‘พัฒนาศักยภาพด้านการสอนสำหรับพยาบาลพี่เลี้ยง’ จัดขึ้นระหว่างวันจันทร์ที่ 22 – 26 พฤษภาคม 2566 ที่ห้องพวงชมพู-พู่ระหง อาคาร E-park มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถในการดูแลการฝึกปฏิบัติงานของนักศึกษาพยาบาลตามบทบาทหน้าที่ของพยาบาลพี่เลี้ยง ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากโรงพยาบาลที่นักศึกษาสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ฝึกปฏิบัติงาน ส่งพยาบาลพี่เลี้ยงเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้จำนวน 59 ท่าน และอาจารย์ใหม่จากสำนักวิชาพยาบาล 4 ท่าน โดยพิธีเปิด มีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชมพูนุช โสภาจารีย์ คณบดีสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ เป็นประธานเปิดกิจกรรม

กิจกรรมนี้จัดขึ้นจากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสังคมและวัฒนธรรม ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงปัญหาสุขภาพ เช่น โรคอุบัติใหม่ ผลกระทบจาก PM 2.5 เป็นต้น การปฏิบัติงานวิชาชีพพยาบาลทั้งในด้านการบริหาร การปฏิบัติงานบริการสุขภาพ การวิจัย รวมถึงการศึกษาพยาบาลจึงจำเป็นต้องพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสุขภาวะที่เกิดขึ้น และสอดคล้องกับปรัชญาการศึกษาของสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ที่มีจุดมุ่งหมายให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการปฏิบัติงานของตนเองในอนาคต

การจัดการศึกษาพยาบาลโดยเฉพาะการฝึกปฏิบัติในโรงพยาบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้นักศึกษาสามารถเชื่อมโยงความรู้จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามมาตรฐานการพยาบาล พยาบาลพี่เลี้ยงประจำหอผู้ป่วยจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยสนับสนุน เพิ่มพูนองค์ความรู้ และทักษะการปฏิบัติการพยาบาลแก่นักศึกษาพยาบาล นำสู่การสร้างพยาบาลรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในการปฏิบัติพยาบาล

สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มฟล.จึงจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อส่งเสริมความรู้ ทักษะในการดูแล และนิเทศการฝึกปฏิบัติงาน รวมทั้งร่วมวางแผนกับอาจารย์พยาบาลในการนิเทศการฝึกปฏิบัติของนักศึกษาพยาบาล ตลอดจนเพื่อสร้างเครือข่ายพยาบาลพี่เลี้ยงจากโรงพยาบาลต่างๆ ในการร่วมดูแลและนิเทศนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงด้วย

คณบดีสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ กล่าวตอนหนึ่งในการเปิดกิจกรรมว่า “การศึกษาวิชาพยาบาลในยุคศตวรรษที่ 21 นักศึกษาพยาบาลทุกคนจะได้เรียนรู้เนื้อหาภาคทฤษฎีควบคู่กับการฝึกปฏิบัติการพยาบาลที่เน้นให้นักศึกษาสามารถคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีทักษะการสื่อสาร และมีความใฝ่รู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง การเตรียมพร้อมให้กับนักศึกษาพยาบาลเพื่อเป็นพยาบาลวิชาชีพที่คุณภาพในอนาคต จึงให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมทั้งภาคทฤษฏี ภาคปฏิบัติในห้องทดลองและการปฏิบัติการพยาบาลในสถานการณ์จริง

รวมถึงการเชื่อมโยงทฤษฎีกับสถานการณ์จริงให้นักศึกษาสามารถนำไปปฏิบัติการพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ พยาบาลพี่เลี้ยงในหอผู้ป่วยจึงมีส่วนสำคัญยิ่งที่จะช่วยสนับสนุนการเรียนรู้และทักษะปฏิบัติของนักศึกษาพยาบาลขณะขึ้นฝึกปฏิบัติงาน ในการทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และทักษะในการปฏิบัติการพยาบาล เป็นแบบอย่างของพยาบาลวิชาชีพที่ปฎิบัติงานอย่างมีคุณธรรมจริยธรรม ใช้องค์ความรู้ในการดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้นักศึกษาพัฒนาทักษะ สร้างทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพ นำสู่การผลิตพยาบาลวิชาชีพที่มีศักยภาพและคุณภาพในการปฏิบัติพยาบาลตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพ”

กิจกรรมตลอด 5 วันมีทั้งในการบรรยายและการฝึกปฏิบัติ โดยแบ่งเป็น 4 Module และการฝึกปฏิบัติ ได้แก่ Module ที่ 1 ประเด็นแนวโน้มระบบสุขภาพ และหลักสูตรการศึกษาสาขาพยาบาลศาสตร์ Module ที่ 2 ศาสตร์การสอน Module ที่ 3 ปรัชญาการเรียนรู้ และบทบาทอาจารย์พี่เลี้ยง Module ที่ 4 รูปแบบและวิธีการจัดการเรียนจัดการสอนในคลินิก และการประเมินผลการเรียนรู้ในคลินิก ก่อนจะมีการฝึกปฏิบัติการออกแบบการจัดการเรียนการสอนทางคลินิกแบบแบ่งกลุ่มย่อย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS SOCIETY & POLITICS

มฟล. บริการสร้างเสริมสุขภาพ วันพยาบาลสากลและวันพยาบาลแห่งชาติ

มฟล. บริการสร้างเสริมสุขภาพ วันพยาบาลสากลและวันพยาบาลแห่งชาติ

Facebook
Twitter
Email
Print
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา บริเวณศาลาเอนกประสงค์บ้านม่วงคำ หมู่ 4 ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย คณาจารย์และนักศึกษา สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จัดกิจกรรมการบริการสร้างเสริมสุขภาพเนื่องในวันพยาบาลสากลและวันพยาบาลแห่งชาติ มีการให้ความรู้และบริการตรวจสุขภาพทั้งกายและใจ โดยกิจกรรมประกอบด้วย การบริการประเมินภาวะสุขภาพ การประเมินภาวะอ้วน การคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง โรคอ้วน มะเร็งเต้านม และกิจกรรมให้ความรู้และให้การปรึกษาด้านสุขภาพ เช่น การดูแลตนเองเรื่องโรคเบาหวาน ความดัน การปฐมพยาบาล การรับประทานอาหารบำรุงสมอง การจัดการกับความเครียด แก่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงมหาวิทยาลัย โดยมีประชาชนสนใจเข้าร่วมกิจกรรมอย่างล้นหลาม

กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นตามที่วันที่ 12 พฤษภาคม ของทุกปีเป็นวันพยาบาลสากลและวันพยาบาลแห่งชาติ คณาจารย์และนักศึกษา สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงในฐานะตัวแทนของผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ได้จัดกิจกรรมการบริการวิชาการ และสร้างเสริมสุขภาพขึ้นในวันใกล้เคียง เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของมิสฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ผู้ก่อกำเนิดวิชาชีพการพยาบาล และเป็นปฐมบูรพาจารย์วิชาการพยาบาลของโลกในทุกปี ทั้งยังเป็นโอกาสได้ให้บริการประเมินภาวะสุขภาพ ให้ความรู้ และการปรึกษาในการดูแลสุขภาพแก่ประชาชนในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยและพื้นที่ใกล้เคียงในจังหวัดเชียงราย ตลอดจนเพื่อสร้างโอกาสให้คณาจารย์และนักศึกษาเกิดจิตบริการสาธารณะ และมีส่วนร่วมในการ รณรงค์แก้ไขปัญหาสุขภาพแก่ประชาชนในเขตความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

Facebook
Twitter
Email
Print
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News