Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกเทศมนตรี-เลขานุการคลัง เยี่ยมอาสาช่วยน้ำท่วมเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2567 นายกเทศมนตรีนครเชียงรายและเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิสยามเชียงรายสำนักงานใหญ่ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย

จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย หลายภาคส่วนร่วมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งดำเนินการช่วยฟื้นฟูหลังน้ำลดลง นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง มอบเงินสดผ่านมูลนิธิสยามเชียงราย สำนักงานใหญ่ ห้าแยกพ่อขุนเม็งราย พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่อาสาสมัครในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย
 
ด้านในเขตเทศบาลนครเชียงราย นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย นำผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางเชียงรายมาช่วยบรรจุกระสอบทราย ซึ่งผู้ต้องขังมีโอกาสทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม อีกทั้งเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครเชียงราย ขุดลอกระบายน้ำในชุมชนสันตาลเหลือง และนำธงแดงไปติดตั้งจุดสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย สะพานพญาเม็งราย ชุมชนป่าแดง เพื่อเตือนระวังอันตรายจากระดับน้ำกก
 
ทางด้าน พ.จ.อ.ภูมิรพี ทวีกสิกรรม รองปลัดเทศบาลนครเชียงราย และกองการแพทย์เทศบาลนครเชียงราย นำถุงยังชีพช่วยเหลือครอบครัวอสม.นครเชียงรายที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำรอการระบาย เนื่องจากปริมาณน้ำฝนตกอย่างต่อเนื่อง
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ลงนามโครงการฝึกวิชาชีพการเกษตรให้แก่ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ

 

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่เชียงราย โดยนางนงลักษณ์ สมัครการ สรรพสามิตพื้นที่เชียงราย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับเรือนจำกลางเชียงราย โดยนายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย เพื่อความร่วมมือในการจัดการของกลางอย่างมีประสิทธิภาพและธรรมาภิบาล 

 

โดยได้ส่งมอบของกลางประเภทสุราและยาสูบ เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการทำน้ำหมักชีวภาพไล่แมลง สำหรับการฝึกวิชาชีพด้านการเกษตร ตามโครงการฝึกวิชาชีพด้านการเกษตรให้แก่ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ ณ ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เรือนจำชั่วคราวดอยฮาง ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ตามนโยบายของกรมสรรพสามิต โดยท่านอธิบดี เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ที่ได้มุ่งยกระดับการดำเนินงานของกรมสรรพสามิตด้วยยุทธศาสตร์ EASE Excise ที่มุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ยกระดับการจัดการของกลางในคดีที่เสร็จสิ้น โดยมอบให้หน่วยงานของรัฐนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการ โดยคำนึงถึงวิธีการจัดการทำลายของกลางที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด 

 

จึงเกิดแนวคิดนำของกลางเป็น สุรา ยาสูบ มาแปรรูปเป็นน้ำหมักชีวภาพ ซึ่งเป็นไปตามหลัก ESG คือ 1.ด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากเดิมที่ใช้วิธีการทำลายแบบเททิ้ง หรือ ฝังกลบ ซึ่งนอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ ยังสร้างมลภาวะต่อสภาพแวดล้อม อีกด้วย 2.ด้านสังคม (Social) เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ การฝึกอาชีพด้านการเกษตร แก่ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ เพื่อให้กลับตัวเป็นพลเมืองดีของสังคม และไม่หวนไปกระทำผิดซ้ำ 3.ด้านธรรมาภิบาล (Governance) การบริหารจัดการของกลางให้เกิดความโปร่งใส สร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน รวมถึงยังเป็นการสร้างความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักธรรมาภิบาล

 

          โดย นางนงลักษณ์ สมัครการ สรรพสามิตพื้นที่เชียงราย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่เชียงราย ได้มอบของกลางในคดีที่สิ้นสุดให้แก่หน่วยงานราชการ คือมณฑลทหารบกที่ 37 เพื่อใช้ประโยชน์ในโครงการทหารพันธุ์ดี และในครั้งนี้สรรพสามิตเชียงราย ได้ลงนาม MOU กับเรือนจำกลางเชียงราย รวมถึงได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงราย รวบรวมความต้องการของหน่วยงานราชการในกระทรวงเกษตร ในการใช้ของกลางไปจัดทำน้ำหมักชีวภาพไล่แมลง เพื่อแจกจ่ายแก่เกษตรกรตามโครงการต่างๆ เพื่อลดการใช้สารเคมีและสนับสนุนการเกษตรแบบอินทรีย์ หากมีหน่วยงานของรัฐในจังหวัดเชียงราย ประสงค์ขอรับการสนับสนุนของกลางสุราและยาสูบ เพื่อใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ราชการ สังคม หรือประชาชน สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่เชียงราย 053-711329

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“หับเผย” ร้านกาแฟเรือนจำกลาง ส่งเสริมอาชีพผู้ต้องราชทัณฑ์เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย ร่วมกันเปิด “ร้านหับเผย by กลางเชียงราย” I บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางเชียงราย ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยมี ส่วนราชการ ภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้อง ร่วมในพิธีเปิด ทั้งนี้การเปิดร้าน “หับเผย by กลางเชียงราย” มีทั้งร้านกาแฟ และร้านคาร์แคร์ รวมทั้ง วงดนตรีของผู้ต้องราชทัณฑ์ ชื่อวงดนตรี “หับเผยแบนด์”

โดยในพิธีเปิด มีการแสดงของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เรือนจำกลางเชียงราย รวมทั้ง ผู้ต้องขัง รวมทั้งการร้องเพลงขับกล่อมของวงดนตรี “หับเผยแบนด์” ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่มีความสามารถด้านดนตรี ทั้งนี้ นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย ได้ร่วมร้องเพลงขับกล่อมผู้มีร่วมกิจกรรม ก่อนที่จะนำ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เยี่ยมชมร้านกาแฟ และ ผลงานทำมือสร้างชีพของผู้ต้องขัง ทั้งงานผ้า งานวาดรูป งานไม้ และอื่น ๆ
 
 
นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดร้าน “หับเผยคาเฟ่ by กลางเชียงราย” ณ เรือนจำกลางเชียงราย ในวันนี้ ถือได้ว่าเรือนจำกลางเชียงราย ได้ดำเนินกิจการสนองนโยบายกระทรวงยุติธรรม และนโยบาย 8 มิติ ยกระดับ สร้างการเปลี่ยนแปลง ของกรมราชทัณฑ์ ปี 2567 ได้เป็นอย่างดียิ่ง หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราจะเห็นว่ากระทรวง ยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ พยายามที่จะปรับเปลี่ยนแนวนโยบายในการควบคุมผู้ต้องขัง บุคคลทั่วไปก็จะมองเรือนจำเป็นสถานที่ ที่ไม่น่าอภิรมย์ เป็นสิ่งน่ากลัวสำหรับบุคคล ทั่วไป
 
 
นายสหการณ์ กล่าวด้วยว่า ในฐานะผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ก็พยายามที่จะสื่อสารให้ผู้ต้องขัง และประชาชน ทั่วไปได้เห็นคุณค่า เลข 13 หลัก ว่าผู้ต้องขัง เลข 13 หลักของเขามีศักดิ์มีสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนคนไทยทั่วไปทุกคน การอบรมผู้ต้องขังเป็นหนึ่งในโปรแกรม ที่จะแก้ไขให้ผู้ต้องขังได้รับทราบว่าศักดิ์และสิทธิ์เลข 13 หลักของเขามีคุณค่าในช่วงที่ต้องโทษก็มีการอบรมฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขัง รายได้ก็เป็นส่วนหนึ่งในขณะที่เขาต้องโทษ 70 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ที่ได้จากการฝึกอาชีพก็จะแบ่งเป็นรางวัลให้กับ ผู้ต้องขัง แบ่งเป็นรางวัลให้เจ้าหน้าที่ 10 เปอร์เซ็นต์ และอีก 20 เปอร์เซ็นต์ ก็นำมาใช้เป็นต้นทุนหมุนเวียนต่อไป
 
 
“ผู้ต้องขังกลุ่มที่สามารถแก้ไขได้ เมื่อมีการฝึกทักษะวิชาชีพ และมีรายได้ระหว่าง ต้องโทษ ภายหลังจากพันโทษไป ก็เป็นหนึ่งในการส่งเสริมอาชีพให้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อยู่ข้างในระหว่างต้องโทษก็ดูแลสภาพความเป็นอยู่ของเขาให้ดีขึ้น พอพ้นโทษออกไปเขาสามารถไปประกอบอาชีพได้หลากหลายอาชีพ ไม่เฉพาะร้านกาแฟ เราสามารถส่งเสริมให้เขามีอาชีพภายหลังพ้นโทษ หลายโครงการที่กรมราชทัณฑ์สนับสนุน ส่งเสริม ขอเพียงแต่หน่วยงานภายนอก ภาครัฐ ภาคเอกชน มองเห็นคุณค่าของผู้ต้องขังกลุ่มนี้ หลาย ๆ คนออกไปประกอบอาชีพจริง แม้กระทั่งการตัดผม ก็มีการส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีรายได้ เพื่อเป็นแรงใจในการก้าวข้ามความผิดพลาด และกลับตัวเป็นคนดีของสังคม
 
 
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรือนจำกลางเชียงราย จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และผู้ต้องขังที่ได้ผ่านการอบรมและฝึกวิชาชีพด้านการบริการจำหน่ายกาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆ จะได้รับทักษะความรู้นำไปประกอบอาชีพสุจริต หารายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หรือกระทำผิดซ้ำอีก” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
 
 
ทางด้าน นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย กล่าวว่า เรือนจำกลางเชียงราย ได้จัดทำโครงการก่อสร้างร้านกาแฟ ภายใต้ชื่อร้าน “หับเผยคาเฟ่ by กลางเชียงราย” เพื่อใช้เป็นสถานที่ฝึกวิชาชีพ ผู้ต้องขังที่ใกล้จะพ้นโทษ ภายใต้แนวคิด สร้างคน สร้างโอกาส สร้างอาชีพ คืนคนดีสู่สังคม เพื่อให้ผู้ต้องขัง ได้ฝึกวิชาชีพด้านการให้บริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ ญาติผู้ต้องขัง ทนายความ พนักงานสอบสวนและประชาชนที่เข้ามาติดต่อราชการ รวมทั้งประชาชนหรือนักท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งสถานที่ ร้านหับเผยคาเฟ่ by กลางเชียงรายแห่งนี้ มีบรรยากาศร่มรื่นอยู่ภายใต้ต้นฉำฉา (จามจุรี) มีกาแฟสดจากยอดดอย สู่ริมกำแพง และมีเบเกอรี่ ขนมไทย ที่ผ่านการประเมินผล ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐาน อาหารสะอาดรสชาติอร่อย Clean Food Good Tast อันเกิดจากการฝึกวิชาชีพของผู้ต้องขังหญิง แดน 4
 
 
“การดำเนินการเปิดร้านหับเผยคาเฟ่ by กลางเชียงราย ภายใต้แนวคิด “สร้างคนสร้างโอกาส สร้างอาชีพ คืนคนดีสู่สังคม” ดังกล่าว เป็นการดำเนินการที่สอดคล้อง กับนโยบาย 8 มิติ ยกระดับสร้างการเปลี่ยนแปลง ของท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนการบริหารงานราชทัณฑ์ มิติที่ 5 พัฒนาและต่อยอดการศึกษา การฝึกวิชาชีพ ที่สอดคล้องกับตลาดแรงงาน อันเป็นการพัฒนาพฤตินิสัยให้ผู้ต้องขัง คิดดี ทำดีเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม ผู้ต้องขังได้รับการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนได้รับการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู และนำความรู้ที่ได้รับ ไปประกอบอาชีพสุจริตภายหลัง พ้นโทษ ทำให้ประชาชนรับรู้ เข้าใจ มีทัศนคติที่ดี ต่อกรมราชทัณฑ์” ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย กล่าว
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เรือนจำกลางเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เรือนจำกลางเชียงราย เปิดมุมกาแฟ “หับเผย BY กลางเชียงราย”

 

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ที่เรือนจำกลางเชียงราย ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย ได้จัดพื้นที่ส่วนหน้าของเรือนจำกลางเชียงราย ซึ่งเป็นบริเวณประตูทางเข้าเรือนจำกลางเชียงราย ให้เป็นร้านกาแฟแห่งใหม่ ชื่อว่า “หับเผยคาเฟ่ BY กลางเชียงราย” และ คาร์แคร์ล้างรถ ที่ชื่อ “หับเผย คาร์แคร์ BY กลางเชียงราย” โดยสถานที่ทั้ง 2 อยู่ติดกัน มีร่มเงาจากต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เย็นสบาย

 

โดย นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย กล่าวถึงที่มาของชื่อร้านกาแฟ “หับเผย” ว่า คำว่า “หับเผย” เป็นภาษาโบราณ ที่อดีตเจ้าหน้าที่จะเข้าออกเรือนจำ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “คุก” มาตอนเช้าก็จะมาเปิดประตูเราจะเรียกว่า “เผย” และเมื่อถึงเวลาเลิกงานก็จะปิดประตูเรือนจำ ซึ่งจะเรียกว่า “หับ” จึงเป็นที่มาของคำว่า “หับเผย” นั้นเอง
สำหรับที่มาของการเปิดร้านบริการทั้ง 2 แห่ง คือร้านกาแฟ “หับเผย” และ คาร์แคร์ “หับเผย” เพื่อเป็นการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังก่อนปล่อย โดยการจำแนกผู้ต้องที่มาฝึกวิชาชีพในสถานที่แห่งนี้ จะเป็นผู้ต้องขังชั้นกลางขึ้นไป คือเหลือโทษสูงไม่เกิน 3-5 ปี โดยทางเรือนจำจะคัดผู้ต้องขังหญิงมาทำการฝึกประสบการณ์การทำกาแฟ การบริการ
 
 
ทั้งนี้ เรือนจำฯ ก็ทำการฝึกฝีมืออยู่เป็นประจำในเรือนจำ แต่เราได้เปิดโอกาสให้ได้ปฏิบัติจริง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับสนับสนุนวิทยากรจากสถาบันการศึกษา มาทำการฝึกอาชีพให้กับผู้ต้องขังอยู่เป็นประจำ ทำให้กาแฟที่ “หับเผยคาเฟ่ BY กลางเชียงราย” มีราคาไม่สูงมากนัก เพราะถือว่าเป็นการฝึกวิชาชีพ ส่วนกาแฟที่นำมาบริการ มาจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน เป็นวิสาหกิจชุมชนอำเภอแม่สรวย คือ “ดอยช้าง”
 
 
นอกจากนี้ยังมี “หับเผย คาร์แคร์ BY กลางเชียงราย” ที่คอยให้บริการทุกๆ คน ในราคาที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งผู้ที่มาฝึกวิชาชีพจะเป็นผู้ต้องขังชาย โดยเปิดบริการตั้งแต่ 08.30-16.30 น. จึงอยากขอให้ทุกๆ ท่าน ที่ผ่านไปมาบริเวณเรือนจำกลางเชียงราย ได้แวะเข้ามาใช้บริการล้างรถ ชิมกาแฟ ขนมที่หลากหลาย เพื่อเป็นการให้กำลังใจผู้ต้องขังทุก ๆ คน ที่พวกเขาต้องการโอกาสจากทางสังคมเมื่อพ้นโทษออกไป”
 
 
ในการนี้ ทางเรือนจำกลางเชียงราย ยังได้จัดตั้งวงดนตรีขึ้นมา ที่มีชื่อวง “หับเผย แบนด์” ซึ่งจัดแสดงดนตรีสดให้กับนักท่องเที่ยวได้รับฟังเพลงเพราะๆ ในช่วงงานสำคัญต่าง ๆ รวมทั้ง การนำผลิตภัณฑ์งานทำมือ การปักผ้า การทำกระเป๋า จากฝีมือผู้ต้องขังชาย และหญิง ออกมาจำหน่ายด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เรือนจำกลางเชียงราย เปิดมุมกาแฟ “หับเผย BY กลางเชียงราย”

 

เมื่อ 9 มกราคม 2567 ที่ห้องมรกต โรงแรมวังคำ อำเภอเมืองเชียงราย ว่าที่ร้อยโท ณัฐรัชต์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ พร้อมด้วยนายเสริมชัย กิตติรัตน์ไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา นางปราณีอินทชัย นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ นางวราพร ใจกล้า นายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ และนางผ่องศรี จิริศานต์ ประธานจัดงานคอนเสิร์ตการกุศล “ก้าวหนึ่งเพื่อน้อง” ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานคอนเสิร์ตการกุศล ภายใต้ชื่อว่า “ก้าวหนึ่งเพื่อน้อง” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 นี้ 

 

โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ ภายในโงเรียนดำรงราษฎร์สงเคาระห์ เพื่อหารายได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องเรียน พัฒนาห้องเรียนทุกห้องของโรงเรียนให้มีคุณภาพมาตรฐาน เอื้อต่อการเรียนรู้และมีบรรยากาศที่เหมาะสมในการจัดการเรียนรู้ ทำให้ครูและนักเรียนจัดกิจกรรมเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาให้มากยิ่งขึ้น

 

สำหรับการจัดงานคอนเสิร์ตการกุศล “ก้าวหนึ่งเพื่อน้อง” ภายในงานจะได้พบกับศิลปิน “เจี๊ยบ” นนทิยา จิวบางป่า และ “เท่ห์” อุเทน พรหมมินท์ ศิลปินชาวเหนือ ที่จะมาขับกล่อมบรรเลงเพลงเพราะๆ ทั้งอดีตและปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการแสดงของศิษย์ปัจจุบัน และศิษย์เก่า Back Up ศิลปินโดย MFU Band. โดยจัดจำหน่ายบัตรเข้าชมคอนเสิร์ตการกุศลครั้งนี้ในราคา 1,000 บาท 2,000 บาท และ 5,000 บาท และจะได้รับความสุขความเพลิดเพลินจากคอนเสิร์ตการกุศลครั้งยิ่งใหญ่แล้ว ผู้ซื้อบัตรทุกท่านยังจะได้มีโอกาสร่วมส่งต่อความสุขให้แก่นักเรียน ของโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคาระห์ อีกด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News