
เชียงรายเตือนภัยหมอกควัน ฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูง หน่วยงานเร่งรับมือ
เชียงราย, 16 มีนาคม 2568 – รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายออกหนังสือแจ้งด่วน เตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คุณภาพอากาศ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอชายแดน (แม่สาย, แม่ฟ้าหลวง, แม่จัน, เชียงแสน, เวียงแก่น, เทิง และเชียงของ) หลังจากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
สถานการณ์จุดความร้อนในพื้นที่
ข้อมูลจาก GISTDA และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 พบจุดความร้อนในประเทศไทยรวม 1,288 จุด โดยกระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้:
- พื้นที่ป่าอนุรักษ์ – 550 จุด
- พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ – 420 จุด
- พื้นที่เกษตรกรรม – 146 จุด
- พื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) – 96 จุด
- พื้นที่ชุมชนและอื่น ๆ – 75 จุด
- พื้นที่ริมทางหลวง – 1 จุด
ขณะที่ จุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านสูงกว่าประเทศไทยหลายเท่า โดยพบใน เมียนมา 9,949 จุด, ลาว 2,023 จุด, กัมพูชา 707 จุด และเวียดนาม 550 จุด ส่งผลให้ มลพิษทางอากาศข้ามแดนไหลเข้าสู่ภาคเหนือของไทย
คุณภาพอากาศในเชียงรายอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงราย วันที่ 16 มีนาคม 2568 พบว่า ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ทำให้คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับ “ปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ” โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก, ผู้สูงอายุ, สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นอย่างเคร่งครัด
มาตรการเร่งด่วนของจังหวัดเชียงราย
เพื่อบรรเทาผลกระทบและควบคุมสถานการณ์ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย (กอปภ.จ.ชร.) ได้ออกมาตรการเร่งด่วนดังนี้:
- ควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเข้มงวด
- ห้ามเผาในที่โล่งทุกชนิดอย่างเด็ดขาด
- ดำเนินมาตรการ “92 วันปลอดการเผา” ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2568
- ฉีดพ่นละอองน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ
- ขอให้หน่วยงานที่มีเครื่องจักรกลสาธารณภัย ฉีดพ่นละอองน้ำ และฉีดล้างถนน ในพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นสะสมสูง
- ขอความร่วมมือประชาชน รดน้ำต้นไม้, ฉีดพ่นละอองน้ำบนหลังคาและรอบบริเวณบ้าน เพื่อลดปริมาณฝุ่นในอากาศ
- จัดเตรียมสถานพยาบาลรองรับผู้ป่วยจากมลพิษอากาศ
- เปิด คลินิกมลพิษ และห้องปลอดฝุ่น ในโรงพยาบาลทุกระดับ ตั้งแต่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.), โรงพยาบาลชุมชน, โรงพยาบาลศูนย์, โรงพยาบาลเอกชน และศูนย์แพทย์มหาวิทยาลัย
- ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นสามารถเข้ารับการรักษาได้ทันที
เสียงสะท้อนจากประชาชนและผู้เชี่ยวชาญ
ฝ่ายที่สนับสนุนมาตรการเข้มงวด
- นักอนามัยสิ่งแวดล้อมและผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า มาตรการห้ามเผา 92 วัน จะช่วยลดมลพิษได้ในระยะยาว
- ประชาชนบางส่วนสนับสนุนให้ รัฐบาลร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน
ฝ่ายที่มีข้อกังวล
- เกษตรกรบางกลุ่มมองว่า มาตรการห้ามเผาอย่างเข้มงวดอาจส่งผลกระทบต่อการเตรียมพื้นที่เพาะปลูก
- นักเศรษฐศาสตร์บางส่วนชี้ว่า มลพิษทางอากาศอาจส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของเชียงราย หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ
สถิติและข้อมูลอ้างอิง
- จำนวนจุดความร้อนในประเทศไทย (15 มีนาคม 2568): 1,288 จุด (ข้อมูลจาก GISTDA)
- จำนวนจุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้าน: เมียนมา 9,949 จุด, ลาว 2,023 จุด, กัมพูชา 707 จุด, เวียดนาม 550 จุด (ข้อมูลจากดาวเทียม Suomi NPP)
- ค่าฝุ่น PM 2.5 ในเชียงราย: เกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ข้อมูลจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเชียงราย)
- มาตรการห้ามเผาในพื้นที่เชียงราย: ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2568 (ข้อมูลจาก กอปภ.จ.ชร.)
สรุป
ปัญหาหมอกควันและมลพิษทางอากาศจาก จุดความร้อนทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน กำลังส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการดูแลสุขภาพ
ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนในการ ควบคุมการเผา, ฉีดพ่นละอองน้ำ, และเตรียมสถานพยาบาลรับมือ อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาในระยะยาวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงการหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหาทางออกที่ยั่งยืนในการลดมลพิษข้ามแดน
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย / GISTDA / กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)