เชียงราย–วาระแห่งสนามบิน “AOT เปิดพื้นที่รอบสนามบิน” จุดชนวนศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่—โอกาส การบ้าน และสมดุลที่ต้องทันเวลา
เชียงราย,11 พฤศจิกายน 2568 – AOT เปิดแผนปลดล็อกศักยภาพที่ดินรอบสนามบินทั้ง 6 แห่ง ภายใต้สัญญาเช่าระยะยาวสูงสุด 30 ปี ดึงเอกชนร่วมลงทุน 16 โครงการ ครอบคลุมธุรกิจตั้งแต่ MRO-โลจิสติกส์-โรงแรม-Mixed-use ถึง EV Hub โดยมี “เชียงราย” เป็นหนึ่งในทำเลเป้าหมายสำคัญ พร้อมพัฒนาแปลงหน้าสนามบินแม่ฟ้าหลวงกว่า 91 ไร่ เพื่อต่อยอดแผนเพิ่มขีดความสามารถผู้โดยสารจาก 3 เป็น 6 ล้านคน/ปี ในทศวรรษหน้า คำถามคือ—เชียงรายพร้อมแค่ไหน ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน เมือง และ “คน” ที่จะก้าวสู่ Aviation & Tourism Hub แห่งอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS)
สนามบิน = หัวจักรเศรษฐกิจเมืองเหนือ
เช้าวันที่เชียงรายลมหนาวแตะ 20 องศา เงาของปีกเครื่องบินแต้มท้องฟ้าเหนือรันเวย์…ภาพคุ้นตาที่บอกเราว่า “สนามบิน” ไม่ใช่เพียงจุดขึ้น-ลง แต่คือ “หัวจักรเศรษฐกิจ” ที่ดึงนักท่องเที่ยว ทุน และโอกาสใหม่ๆ เข้าสู่เมือง ภายใต้บริบทเช่นนี้ การที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดแผนให้เอกชนเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ระยะยาวสูงสุด 30 ปี รอบสนามบินทั้ง 6 แห่ง พร้อมรายงานว่ามีผู้สนใจยื่นข้อเสนอต่อเนื่อง และอยู่ในกระบวนการให้สิทธิประกอบกิจการ 16 โครงการ จึงเป็น “สัญญาณ” ของคลื่นลงทุนลูกใหญ่ที่กำลังวิ่งเข้าหาเชียงรายอย่างเป็นรูปธรรม
สิ่งที่จับต้องได้ยิ่งกว่านั้นคือ รายละเอียด “พอร์ตที่ดิน” แปลงนำร่องของ AOT อาทิ สุวรรณภูมิ แปลง B 275 ไร่ (Airport Business) และ แปลง E 105 ไร่ (ศูนย์บริการและสนับสนุนกิจการท่าอากาศยาน) ซึ่งถูกโปรโมตในฐานะทำเลพรีเมียม ขยายภาพความเป็นไปได้ของโมเดล Airport City/ Aerotropolis สำหรับเมืองใหญ่ และเป็น “ต้นแบบ” ให้สนามบินเมืองรองอย่างเชียงรายชี้ทิศทางตามมาในสเกลที่เหมาะสม
ขณะเดียวกัน สื่อธุรกิจรายงานตรงกันว่า เชียงราย เองก็ถูกระบุเป็นหนึ่งในทำเลเป้าหมาย โดยมี แปลงหน้าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ขนาดราว 91 ไร่ สำหรับพัฒนาเชิงพาณิชย์ นี่คือหมุดหมายที่จะต่อจิ๊กซอว์ “เมืองสนามบิน” ให้ครบวงจร ทั้งที่พัก-บริการ-ธุรกิจรองรับโลจิสติกส์-ท่องเที่ยว ฯลฯ
และเพื่อรองรับ demand ในอนาคต แผนเพิ่มขีดความสามารถสนามบินแม่ฟ้าหลวง อยู่ระหว่างการพัฒนา ตั้งเป้าขยายความสามารถรองรับจาก 3 เป็น 6 ล้านคน/ปี ภายในปี 2576 (2033) ตามกรอบที่ ACI Asia-Pacific เผยแพร่—ตัวเลขนี้สะท้อนชัดว่า หาก “พื้นที่รอบสนามบิน” เดินหน้าไปพร้อม “ขีดความสามารถตัวสนามบิน” เชียงรายจะยกระดับบทบาทจาก “จุดหมาย” สู่ “ศูนย์กลาง” เชื่อมไทย-ลาว-เมียนมา และจีนตอนใต้ได้จริง
ภาพใหญ่ AOT Property จากสุวรรณภูมิถึงเชียงราย
AOT Property Showcase/Property Tour เปิดหน้าต่างทรัพยากรที่ดินของ AOT ให้เอกชนร่วมพัฒนาในรูปแบบสัญญาเช่าระยะยาวทั่วประเทศ โดยสรุปรวมสาระสำคัญที่สะท้อนแนวโน้มได้ 3 ประการ
- พอร์ตที่ดินเรือธง – สุวรรณภูมิ แปลง B (275 ไร่) และ E (105 ไร่) ถูกวางบทบาทเป็น “ฟันเฟืองหลัก” ของระบบ Airport Business/Support ซึ่งโมเดล รายได้-คน-เทคโนโลยี ที่เกิดขึ้นจะ “spillover” ไปสนามบินเมืองรองในเชิงองค์ความรู้ มาตรฐาน และพันธมิตรธุรกิจ (เช่น ผู้ให้บริการภาคพื้น, โลจิสติกส์, ดิจิทัล)
- ความหลากหลายของกิจการ – AOT เปิดทางสำหรับธุรกิจตั้งแต่ MRO (ศูนย์ซ่อมอากาศยาน), Logistics Hub, Private Jet Terminal, Training Center, Mixed-use/โรงแรม, EV service & charging, ไปจนถึง Attraction in Terminal โดยยืนยันว่ามีผู้ยื่นข้อเสนอเช่าพื้นที่ทั้งนอก/ในอาคารผู้โดยสารแล้ว และกำลังดำเนินการให้สิทธิรวม 16 โครงการ
- จังหวัดเป้าหมายถัดไป – ข่าวเศรษฐกิจชี้ชัดว่า “เชียงราย” มี แปลงหน้า CEI 91 ไร่ อยู่ในรายการศักยภาพพัฒนาเชิงพาณิชย์เคียงข้างสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-เชียงใหม่-ภูเก็ต-หาดใหญ่ โดยบางสำนักพิมพ์ระบุรายละเอียด “ที่ดินเด่น” ของแต่ละสนามบินไว้ชัดเจน (เช่น ทางหลวงเชื่อม, ระยะเวลาเข้าถึงเทอร์มินัล) ซึ่งในทางปฏิบัติคือ “จุดขาย” ที่สำคัญสำหรับนักลงทุน
เชียงรายในสมการ AOT โอกาส 4 ชั้น
(1) Aviation & Tourism Hub – เมื่อสนามบินตั้งเป้าขยายจาก 3 → 6 ล้านคน/ปี ภายในปี 2576 เมืองต้องพร้อมรองรับ ดีมานด์นักเดินทาง ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ทั้ง “พัก-กิน-เที่ยว-ขนส่ง” หาก “แปลงหน้า CEI 91 ไร่” ถูกพัฒนาเป็น ศูนย์บริการผู้โดยสารและนักลงทุน (โรงแรมระดับกลาง-บน, Co-working/Trade Center, Retail, Food Destination) จะทำให้การใช้จ่ายต่อทริปยาวนานและลึกในท้องถิ่นมากขึ้น—เงินหมุนในเมืองไม่ “หลุด” ออกไปสนามบินใหญ่ใกล้เคียง
(2) Logistics & Cross-Border Trade – เชียงรายคือ “ประตู GMS” เชื่อม 3 ด่านสำคัญ (แม่สาย-เชียงของ-เชียงแสน) และโครงข่ายลุ่มน้ำโขง แนวคิด Airport + Dry Port ขนาดย่อม (เชื่อมคลังสินค้า/คีออสศุลกากร/Cold Chain สำหรับสินค้าเกษตร-อาหารปลอดภัย) จะเสริมความเร็วและความน่าเชื่อถือให้ซัพพลายเชน “เหนือสุดสยาม” ขยายตลาดผลผลิตและสินค้าแปรรูปไปนักท่องเที่ยว-ผู้โดยสาร และต่อเชื่อมสู่ภูมิภาคได้จริง
(3) MRO & Skilled Jobs – แม้เชียงรายยังไม่ใช่ฐาน MRO ใหญ่เช่นอู่ตะเภา แต่การมี ศูนย์ซ่อมเฉพาะทาง/ศูนย์ฝึกอบรม ที่ระดับ “Regional” จะจ้างงานทักษะสูง (ช่างอากาศยาน-อิเล็กทรอนิกส์-ความปลอดภัย) พร้อมสร้าง Talent Pipeline กับมหาวิทยาลัย/อาชีวศึกษาในพื้นที่—งานที่รายได้ดีและ “ผูก” คนเก่งไว้กับเมือง
(4) EV & Sustainable Mobility – โครงสร้างพื้นฐาน EV Service/Charging บนพื้นที่ AOT สามารถเป็น “โครงข่ายหลัก” เชื่อมสนามบิน-ตัวเมือง-แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ (ดอยแม่สลอง-แม่สาย-เชียงแสน) รองรับนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ Low-carbon travel และยกระดับภาพลักษณ์เมืองสีเขียว
การบ้าน 5 ข้อของเชียงราย ทำอย่างไรให้ “โอกาส” ไม่กลายเป็น “ช่องโหว่”
ข้อ 1 – ถนน-ระบบรองรับต้องวิ่ง “ทันสนามบิน”
โครงการก่อสร้าง ทางลอดแยกศูนย์ราชการ (ชร.1023) ที่อยู่ระหว่างดำเนินการด้วยงบประมาณราว 850 ล้านบาท ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ คอขวดหน้าสนามบิน—นี่คือ “งานคู่ขนาน” กับการพัฒนาแปลงหน้า CEI ต้องกำกับมาตรฐาน ความปลอดภัย-ฝุ่น-การจราจร ให้เข้มข้น ไม่เช่นนั้น ภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวคุณภาพอาจถูกบั่นทอนด้วยประสบการณ์เดินทาง “ไม่ราบรื่น” ของผู้โดยสารและคนเมือง (หน่วยงานเจ้าของโครงการคือ กรมทางหลวงชนบท) ซึ่งย้ำในเชิงนโยบายเรื่องความปลอดภัยระหว่างก่อสร้างไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าต้องเร่งรัดและปฏิบัติจริงจังในพื้นที่
ข้อ 2 – ผังเมืองและน้ำท่วม “โตเร็วแต่ไม่ท่วมเร็ว”
เชียงรายมีพื้นที่ลุ่มริมน้ำกกและจุดเปราะบางด้านอุทกภัย การพัฒนาเชิงพาณิชย์ 91 ไร่ และบูมก่อสร้างโดยรอบ ต้องถูก “ล็อกระเบียบ” ด้วยมาตรการ ผังเมือง-ระบายน้ำ-พื้นที่รับน้ำ/แก้มลิง-Flood Mark ให้สอดคล้องแผนบริหารจัดการน้ำระดับจังหวัด มิฉะนั้น “ความเจริญ” อาจกลายเป็น “ตัวเร่งปัญหาน้ำหลาก” ในฤดูกาลวิกฤต
ข้อ 3 – สิ่งแวดล้อม-สาธารณสุข Airport City ต้อง Low-Emission
มาตรฐาน อาคารเขียว/พลังงาน-น้ำ-ขยะ ควรถูกกำหนดเป็น เงื่อนไขข้อเสนอเช่า พื้นที่ AOT (เช่น มีระบบบำบัดน้ำเสีย, Solar Roof, จัดการขยะอาหาร, จุดชาร์จ EV) เพื่อให้โมเดลเศรษฐกิจเมืองสนามบินไม่เพิ่ม “รอยเท้าคาร์บอน” และต้นทุนสุขภาพต่อชุมชน
ข้อ 4 – Skill-Up คนเชียงราย งานรายได้ดีต้องเป็นของคนท้องถิ่นก่อน
แผน Reskill/Upskill ด้านภาษา (อังกฤษ-จีน/พม่า), การบริการ, ดิจิทัลโลจิสติกส์, ความปลอดภัยสนามบิน, และช่างเทคนิคอากาศยาน ควรถูกตั้งเป็น พันธกิจร่วม ระหว่าง AOT-เอกชนผู้เช่า-สถาบันการศึกษาในพื้นที่ เพื่อให้ประโยชน์รอบสนามบิน “ตกในเมือง” มากที่สุด
ข้อ 5 – กลไกมีส่วนร่วม สัญญา 30 ปีต้องมี “เสียงพลเมือง”
การปล่อยเช่าระยะยาวควรมี คณะทำงานร่วม ระหว่างรัฐ-เอกชน-ท้องถิ่น-ภาคประชาชน กำกับ ผลกระทบ-การจ้างงาน-การใช้พื้นที่สาธารณะ-สิทธิชุมชน ด้วย KPI ที่วัดได้ (เช่น สัดส่วนการจ้างคนท้องถิ่น, สัดส่วนพื้นที่สาธารณะ, เกณฑ์ฝุ่น-เสียง) เพื่อให้ สัญญา 30 ปี เป็น “สัญญาความเชื่อมั่น” ร่วมกัน ไม่ใช่แค่สัญญาทางพาณิชย์
ตัวเลขที่ควรรู้ (Key Stats)
- 91 ไร่: ขนาด แปลงหน้าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ที่ AOT โปรโมตว่าพร้อมพัฒนาเชิงพาณิชย์ (ตามรายงานสื่อเศรษฐกิจ)
- 275/105 ไร่: ขนาดแปลง B/E สุวรรณภูมิ ที่ทำหน้าที่ “โชว์เคส” โมเดล Airport Business/Support ของ AOT
- 16 โครงการ: จำนวนโครงการที่อยู่ในกระบวนการให้สิทธิประกอบกิจการของ AOT ทั่วเครือข่ายสนามบิน ณ ปี 2568 (ตามข่าวทางการ/สื่อหลัก)
- 3 → 6 ล้านคน/ปี ภายในปี 2576: เป้าหมายขยายขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารของ สนามบินแม่ฟ้าหลวง (CEI) ตามข้อมูล ACI Asia-Pacific
เสียงจากเอกชน & นักวิเคราะห์ (ภาพรวมจากแผน AOT)
แม้แต่ละโครงการยังอยู่ในช่วงกระบวนการให้สิทธิ แต่ “ทิศทาง” ที่ AOT สื่อสารต่อสาธารณะทำให้ตลาดมองเห็น 3 โอกาสหลัก
- Hotel-Mixed Use – Demand นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ “ก่อน-หลังบิน” จะหนุนให้โรงแรมระดับกลาง-บน, Co-working, และ Retail ไลฟ์สไตล์ “ติดรันเวย์” เติบโตเร็ว
- Logistics-MRO-Training – โครงข่ายการค้า GMS + การท่องเที่ยวคุณภาพ ทำให้คลังสินค้า/Cold Chain/Training Center เกิด Ecosystem ใหม่ในเมือง
- EV & Green Services – การพัฒนา “เมืองสนามบินสีเขียว” คือจุดขายยุค Net-Zero ที่ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวคุณภาพ
(สาระดังกล่าวสอดคล้องกับกรอบพอร์ตโฟลิโอที่ AOT ประกาศโปรโมตในงาน Showcase/Property Tour และข่าวสื่อเศรษฐกิจหลายฉบับ)
จาก “สนามบินเมืองรอง” สู่ “ศูนย์กลางใหม่”
ลองจินตนาการปลายปี 2576 เมื่ออาคารผู้โดยสารเชียงรายรองรับ 6 ล้านคน/ปี ผู้โดยสารลงเครื่อง—เดินไม่ถึง 10 นาทีถึง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว-โรงแรม-ศูนย์อาหารท้องถิ่นคุณภาพ ที่คัดสรรจากผู้ประกอบการ SME เชียงราย, Shuttle EV เชื่อมสนามบิน-ริมน้ำกก-ดอยแม่สลอง, สินค้าเกษตรปลอดภัยแพ็กส่งด่วนจาก Cold Chain Hub ข้างสนามบินสู่กรุงเทพฯ-สิงคโปร์—มูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตลอดสายโซ่อุปทาน เม็ดเงิน “ค้างเมือง” มากขึ้น และที่สำคัญ “งานรายได้ดี” ของคนเชียงรายไม่ได้อยู่แค่ในเทศกาล แต่เกิดทุกวัน
สตอรี่ไลน์นี้ไม่ใช่ความฝันเกินจริง หาก 3 ราง เดินคู่กัน
(1) รางนโยบาย – AOT/AOT-Property เดินเร่งกลไกให้สิทธิอย่างโปร่งใส-แข่งขัน-มี KPI สังคม
(2) รางโครงสร้างพื้นฐาน – ถนน-ระบบน้ำ-ผังเมือง-น้ำท่วม-สิ่งแวดล้อม ต้อง “ทันเวลา”
(3) รางคน – Reskill/Upskill ให้ “คนเชียงราย” เป็นเจ้าบ้านของ Hub ใหม่อย่างแท้จริง
“เชียงรายพร้อมหรือยัง?”
การเปิดพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสนามบินของ AOT คือ “โอกาสศตวรรษ” ที่ไม่ได้ผ่านมาเสมอ การมี แปลง 91 ไร่หน้า CEI + แผนขยายสนามบิน 6 ล้านคน/ปี คือคู่หูทรงพลังที่จะลากเศรษฐกิจเชียงรายให้วิ่งเร็ว—แต่ “ยิ่งเร็ว” ยิ่งต้อง ปลอดภัย เป็นธรรม และยั่งยืน
สิ่งที่ควรทำทันที
- ตั้ง คณะทำงานร่วม (AOT-จังหวัด-อบจ./เทศบาล-ภาคเอกชน-ภาคประชาชน) วาง Roadmap 3-5 ปี ของพื้นที่รอบสนามบิน กำหนด KPI ด้านสังคม-สิ่งแวดล้อม-การจ้างงานท้องถิ่น ควบคู่กับ KPI เชิงพาณิชย์
- เร่ง มาตรการก่อสร้างปลอดฝุ่น-ปลอดอุบัติเหตุ ในทุกโครงการโครงสร้างพื้นฐาน “หน้าบ้านสนามบิน” ให้สอดคล้องกับฤดูกาลท่องเที่ยว-ชั่วโมงเรียนของโรงเรียนใกล้เคียง (รอบบ่าย/เย็นต้อง “ถนนสะอาด-สว่าง-ปลอดภัย”)
- เปิด Fast-Track Reskilling ร่วมสถาบันการศึกษาในพื้นที่ เตรียมแรงงานเฉพาะทางสำหรับงานที่จะเกิดขึ้นในพอร์ต AOT (บริการ-ภาษา-โลจิสติกส์-ดิจิทัล-ช่างเทคนิค)
สาระสำคัญที่สุด “เมืองสนามบิน” ที่ดีไม่ได้วัดที่ “ตึกสูงเท่าไร” แต่วัดที่ พลเมืองมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นจริง แค่ไหน—ถ้าเชียงรายยึดหลักนี้ไว้ได้ โครงการ AOT รอบสนามบินจะไม่ใช่แค่สิทธิเช่า 30 ปี แต่คือ “สัญญาความเจริญร่วมกัน” ของทั้งเมือง
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- AOT
- สนามบินแม่ฟ้าหลวง เชียงราย







