Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

“นายกวันชัย” ชนะ “ดร.แซน” นั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงราย อีกสมัย

วันชัย” คว้าชัยขาดลอยนั่งนายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมยกทีม สท. ทั้ง 4 เขต

บรรยากาศเลือกตั้งเทศบาลนครเชียงรายคึกคัก ประชาชนตื่นตัว

เชียงราย, 11 พฤษภาคม 2568 – ได้จัดให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงราย โดยตั้งแต่ช่วงเช้าบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก ประชาชนต่างทยอยเดินทางมาใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งทั้ง 87 หน่วย ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 4 เขตเลือกตั้งในเขตเทศบาลนครเชียงราย ซึ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 60,000 คน

ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีการแข่งขันอย่างเข้มข้นระหว่างผู้สมัคร 2 ราย คือ นายวันชัย จงสุทธานามณี ผู้สมัครอิสระ “ทีมวันชัย” อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงรายหลายสมัย และนายศราวุธ สุตะวงค์ ผู้สมัครจากพรรคประชาชน อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีการลงพื้นที่หาเสียงและประชาสัมพันธ์นโยบายของตนเองอย่างจริงจังต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมา

ผู้ว่าฯ เชียงรายลงพื้นที่ติดตามใกล้ชิด

ในระหว่างการเลือกตั้ง นายจรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ออกตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนว่า การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้จะดำเนินไปอย่างโปร่งใส เป็นธรรม และเรียบร้อย พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำหน่วยเลือกตั้งทุกคน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้แสดงความพอใจต่อความเรียบร้อยของหน่วยเลือกตั้งที่ได้ตรวจเยี่ยมทั้งหมด

กกต.เชียงรายระบุไม่มีปัญหาร้ายแรง

ด้านพันจ่าเอกอัษฎางค์ วิเศษวงศ์ษา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครเชียงราย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 87 หน่วย ได้รับการอบรมและจัดเตรียมการมาอย่างดีเยี่ยม ทำให้การดำเนินงานในวันเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นในระหว่างการลงคะแนนเสียง

ขณะเดียวกัน นายชูชาติ สุขสงวน ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดเชียงราย ระบุเพิ่มเติมว่า ยังไม่พบปัญหาอุปสรรคที่ร้ายแรงในการจัดการเลือกตั้ง มีเพียงปัญหาเล็กน้อย เช่น มีผู้สมัครถูกถอนชื่อออก 1 ราย ในพื้นที่อำเภอเวียงแก่น เนื่องจากขาดคุณสมบัติด้านสัญชาติ และมีผู้สมัครเสียชีวิตก่อนเลือกตั้ง 3 ราย ส่วนเรื่องร้องเรียนมีเพียงไม่กี่กรณี ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกล่าวหาเรื่องการให้เงินประชาชนก่อนครบวาระดำรงตำแหน่งเดิม โดย กกต.เชียงรายจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

วันชัย” ชนะท่วมท้น คะแนนทิ้งห่างชัดเจน

หลังจากปิดหีบบัตรเลือกตั้งในเวลา 17.00 น. ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการจากกว่า 100% ของจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด ปรากฏว่า นายวันชัย จงสุทธานามณี หมายเลข 2 จาก “ทีมวันชัย” ได้รับคะแนนสูงถึง 17,243 คะแนน เอาชนะนายศราวุธ สุตะวงค์ หมายเลข 1 จากพรรคประชาชน ซึ่งได้คะแนนประมาณ 12,362 คะแนน ทำให้คะแนนห่างกันอย่างชัดเจน

นอกจากนายวันชัยจะได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงรายอีกสมัยแล้ว ทีมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงราย (สท.) จาก “ทีมวันชัย” ยังสามารถกวาดที่นั่งได้ครบทุกเขตเลือกตั้งทั้ง 4 เขตด้วยคะแนนที่นำโด่งเหนือคู่แข่งอย่างชัดเจน

ประชาชนมั่นใจในผลงานชัดเจน

นายวันชัย จงสุทธานามณี กล่าวหลังทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการว่า ขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจตนและทีมงานอีกครั้ง โดยพร้อมเดินหน้านโยบายที่เคยสัญญาไว้ โดยเฉพาะด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองเชียงราย การส่งเสริมการท่องเที่ยว การยกระดับการศึกษา การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนครเชียงรายให้ดีขึ้นต่อไป

แหล่งข่าวในพื้นที่ระบุว่า ชัยชนะครั้งนี้สะท้อนถึงผลงานที่เป็นรูปธรรมของนายวันชัยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งด้านการพัฒนาเมืองอย่างต่อเนื่อง ความสามารถในการบริหารจัดการปัญหาภัยพิบัติ โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนยังคงมั่นใจและเลือกสนับสนุนเขากลับมาอีกครั้ง

วิเคราะห์การเลือกตั้งนครเชียงราย

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า นายวันชัยยังคงครองใจชาวนครเชียงรายได้เป็นอย่างดี แม้ผู้ท้าชิงจะมีฐานเสียงที่ไม่ธรรมดา แต่นโยบายและผลงานที่จับต้องได้ของนายวันชัยยังคงเหนือกว่า และสะท้อนถึงการเมืองท้องถิ่นเชียงรายที่ยังยึดติดกับผลงานที่ประชาชนสามารถประเมินผลได้ชัดเจน มากกว่ากระแสการเมืองในระดับประเทศ

สถิติที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเทศบาลนครเชียงราย

ข้อมูลจากสำนักงาน กกต.จังหวัดเชียงราย ระบุว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2564 มีประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสูงถึงร้อยละ 71.52 จากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ (ที่มา: รายงานสรุปผลการเลือกตั้งท้องถิ่น กกต.จังหวัดเชียงราย ปี 2564) และคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจมีสัดส่วนการออกมาใช้สิทธิไม่ต่ำกว่าครั้งที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • รายงานสรุปผลการเลือกตั้งท้องถิ่น กกต.จังหวัดเชียงราย ปี 2564
  • เทศบาลนครเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
EDITORIAL

เลือกตั้ง อบจ. 2568 ใครครองพื้นที่? เปิดผลสรุป 76 จังหวัดทั่วไทย

เจาะผลเลือกตั้ง อบจ. 68 เพื่อไทยมาแรง ภูมิใจไทยไม่น้อยหน้า

ประเทศไทย, 6 กุมภาพันธ์ 2568  – Rocket Media Lab เผยข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่ครบวาระทั้ง 47 จังหวัดทั่วประเทศ ขณะที่อีก 29 จังหวัดได้มีการเลือกตั้งไปก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ขณะนี้มีการเลือกตั้งนายก อบจ. ครบทั้ง 76 จังหวัดแล้ว

ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. ทั้ง 47 จังหวัด

จากผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พบว่า พรรคเพื่อไทยสามารถคว้าชัยชนะใน 14 จังหวัด รองลงมาคือพรรคภูมิใจไทย 10 จังหวัด พรรคพลังประชารัฐ 6 จังหวัด พรรคประชาธิปัตย์ 3 จังหวัด พรรคประชาชาติ 3 จังหวัด พรรคกล้าธรรม 2 จังหวัด พรรคประชาชน 1 จังหวัด และมีผู้ชนะเลือกตั้งในฐานะอิสระอีก 1 จังหวัด

เมื่อแบ่งพรรคที่ได้รับชัยชนะในแต่ละภาคของประเทศ พบว่า:

  • ภาคเหนือ: เพื่อไทย 4 จังหวัด, ประชาชน 1 จังหวัด, ภูมิใจไทย 2 จังหวัด

  • ภาคกลาง: พลังประชารัฐ 4 จังหวัด, ชาติไทยพัฒนา 2 จังหวัด, เพื่อไทย 2 จังหวัด, กล้าธรรม 1 จังหวัด

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เพื่อไทย 5 จังหวัด, ภูมิใจไทย 4 จังหวัด, กล้าธรรม 1 จังหวัด, พลังประชารัฐ 1 จังหวัด

  • ภาคตะวันออก: เพื่อไทย 3 จังหวัด, อิสระ 3 จังหวัด

  • ภาคตะวันตก: ประชาธิปัตย์ 1 จังหวัด

  • ภาคใต้: ประชาธิปัตย์ 2 จังหวัด, รวมไทยสร้างชาติ 3 จังหวัด, ประชาชาติ 3 จังหวัด, ภูมิใจไทย 2 จังหวัด, พลังประชารัฐ 1 จังหวัด

ว่าที่นายก อบจ. ทั้ง 47 จังหวัด เป็นใครมาจากไหน

Rocket Media Lab ได้จัดกลุ่มว่าที่นายก อบจ. ทั้ง 47 คน พบว่า:

  • นายก อบจ. เดิม 29 คน

  • นักการเมืองท้องถิ่น 7 คน

  • นักการเมืองระดับชาติ 5 คน

  • หน้าใหม่ 6 คน (โดยในจำนวนนี้เป็นเครือญาตินักการเมือง 4 คน)

โดยมีการวิเคราะห์เพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้ที่ได้รับเลือกตั้ง ดังนี้:

  • นายก อบจ. เดิมสามารถกลับมาดำรงตำแหน่งได้ถึง 43 คน

  • ว่าที่นายก อบจ. หน้าใหม่ 7 คน โดย 3 คนในจำนวนนี้เป็นเครือญาตินักการเมือง

บทสรุปการเลือกตั้ง นายก อบจ. 76 จังหวัด

เมื่อรวมผลการเลือกตั้งครบทั้ง 76 จังหวัด พบว่า พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง 25 จังหวัด รองลงมาคือพรรคภูมิใจไทย 21 จังหวัด พรรคพลังประชารัฐ 9 จังหวัด พรรคประชาธิปัตย์ 3 จังหวัด พรรคประชาชาติ 3 จังหวัด พรรคกล้าธรรม 3 จังหวัด พรรคชาติไทยพัฒนา 2 จังหวัด พรรคประชาชน 1 จังหวัด และมีผู้ได้รับเลือกตั้งในฐานะอิสระอีก 3 จังหวัด

การเปรียบเทียบกับการเลือกตั้งนายก อบจ. ปี 2563

เมื่อนำผลการเลือกตั้งปี 2568 เปรียบเทียบกับปี 2563 พบว่า:

  • 39 จังหวัดยังคงรักษาพื้นที่ทางการเมืองเดิม

  • 37 จังหวัดมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ทางการเมือง

พรรคที่สามารถขยายอิทธิพลได้มากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ขณะที่พรรคพลังประชารัฐสูญเสียพื้นที่ไปบางส่วน

แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

จากการเลือกตั้งครั้งนี้พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในหลายพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคการเมืองระดับชาติ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีผู้สมัครหน้าใหม่ที่สามารถชิงชัยชนะได้ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ครองพื้นที่มาอย่างยาวนาน

ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะทำการตรวจสอบและรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 3 มีนาคม 2568 และนายก อบจ. จะสามารถเข้ารับตำแหน่งภายในวันที่ 2 เมษายน 2568 ซึ่งจะเป็นการกำหนดทิศทางการบริหารท้องถิ่นในอีก 4 ปีข้างหน้า

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : rocketmedialab

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
NEWS UPDATE

อบจ. 68 ‘โหวตโน’ มาแรง กกต. ชี้เลือกตั้งใหม่ 4 จังหวัด คะแนนไม่ถึงเกณฑ์

เลือกตั้ง อบจ. 68 คนใช้สิทธิ์ น้อย ‘โหวตโน’ เพิ่ม กกต. สั่งเลือกตั้งใหม่ 4 จังหวัด

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แถลงสรุปผลการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งมีการเปิดเผยข้อมูลการใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนในระดับชาติและในจังหวัดเชียงราย

การเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ.

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. จำนวน 27,991,587 คน ได้มีผู้มาใช้สิทธิ 16,362,185 คน หรือคิดเป็น 58.45% ซึ่งลดลงจากการเลือกตั้งในปี 2563 ที่มีผู้มาใช้สิทธิ 62.44% โดยมีบัตรดีจำนวน 14,272,694 ใบ (87.23%) และบัตรเสียจำนวน 931,290 ใบ (5.69%) สำหรับผู้ที่ไม่เลือกผู้สมัครใดมีจำนวน 1,158,201 ใบ (7.08%)

ในส่วนของสมาชิก อบจ. มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 47,124,842 คน และมีผู้มาใช้สิทธิ 26,418,754 คน หรือคิดเป็น 56.06% โดยมีบัตรดีจำนวน 23,131,324 ใบ (87.56%) และบัตรเสีย 1,488,086 ใบ (5.63%) ขณะที่บัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครใดมีจำนวน 1,799,344 ใบ (6.81%)

จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด

โดยข้อมูลจาก กกต. เผยว่า จังหวัดที่มีอัตราผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิก อบจ. และนายก อบจ. สูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ลำพูน (73.43%), นครนายก (73%), พัทลุง (72.56%), นราธิวาส (68.42%) และมุกดาหาร (68.03%) ในขณะที่จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิก อบจ. มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ พะเยา (61.68%), เลย (58.04%), เพชรบุรี (57.44%), ยโสธร (56.72%) และชัยนาท (56.63%)

ปัญหาการใช้สิทธิเลือกตั้งในบางพื้นที่

นายแสวง กล่าวถึงเหตุผลที่มีจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งลดลงในบางพื้นที่ ว่ามีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน และในบางจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารก็พบว่ามีการส่งผลคะแนนและหีบบัตรเกินเวลากำหนด 24 ชั่วโมง ซึ่งสะท้อนว่า การเลือกตั้งในวันเสาร์นั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะสามารถให้ความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงานได้

นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่น่าเศร้าเกิดขึ้นเมื่อกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เสียชีวิตระหว่างส่งหีบบัตร ซึ่งทาง กกต. จะดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องตามสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ

จำนวนบัตรเสียและไม่เลือกผู้สมัคร

เรื่องของบัตรเสียในการเลือกตั้ง นายแสวง ยืนยันว่าไม่มีความแตกต่างจากปี 2563 โดยบัตรเสียจากการเลือกนายก อบจ. มีจำนวนใกล้เคียงกับปี 2563 ขณะที่บัตรเสียจากการเลือกสมาชิก อบจ. ในปีนี้ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 7.63% เนื่องจากมีสาเหตุจากระบบการเลือกตั้งที่ทำให้บางจังหวัดมีการเลือกตั้งทั้งสองประเภทผู้สมัคร จึงทำให้ประชาชนบางส่วนสับสนในการลงคะแนน

สำหรับบัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครใดมีจำนวนมาก โดยแสดงให้เห็นถึงการแสดงความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้สมัครในเขตต่างๆ

การเลือกตั้งใหม่ในบางพื้นที่

การเลือกตั้งในบางพื้นที่พบว่าไม่สามารถประกาศผลได้ตามที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากในบางเขตคะแนนเสียงไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ โดยต้องมีการเลือกตั้งใหม่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี, ตรัง, ชุมพร และชัยนาท ซึ่งจะต้องมีการประกาศเลือกตั้งใหม่ภายใน 7 วัน นับจากวันเลือกตั้ง

การนับคะแนนใหม่และทุจริตในการเลือกตั้ง

ในส่วนของการร้องขอให้นับคะแนนใหม่จากบางพรรคการเมืองในพื้นที่เช่น เชียงใหม่และสมุทรปราการ นายแสวง ยืนยันว่า กกต. จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ตั้งไว้ หากการนับคะแนนมีการทักท้วงและทำบันทึกไว้ การพิจารณาจึงจะเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนด

ผลการเลือกตั้งในเชียงราย

สำหรับจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 936,351 คน โดยมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. 605,780 คน คิดเป็น 64.70% และสมาชิก อบจ. 604,365 คน คิดเป็น 65.07% โดยจำนวนบัตรดีจากการเลือกตั้งนายก อบจ. มี 525,928 ใบ (86.82%) และสมาชิก อบจ. มี 511,882 ใบ (84.70%) ทั้งนี้การเลือกตั้งยังพบจำนวนบัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครใดค่อนข้างมาก ซึ่งอาจสะท้อนถึงการแสดงความไม่พอใจหรือความคิดเห็นของประชาชนต่อผู้สมัครในเขตต่างๆ

บทสรุป

การเลือกตั้งครั้งนี้มีทั้งความสำเร็จและปัญหาที่ต้องดำเนินการต่อ โดยเฉพาะการดำเนินคดีในบางเขตเลือกตั้งที่มีปัญหาการทุจริต รวมทั้งการเลือกตั้งใหม่ในบางพื้นที่ที่คะแนนไม่ตรงตามเกณฑ์ แต่โดยรวมแล้ว การเลือกตั้งถือว่าจัดได้อย่างเป็นระเบียบและถูกต้องตามกฎหมาย

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE