Categories
NEWS UPDATE

รัฐบาลไทยเร่งปราบ ‘พอตเค’ ปกป้องเยาวชนจากภัยยาเสพติดรูปแบบใหม่

รัฐบาลเดินหน้าปราบปรามยาเสพติด ย้ำ! ‘พอตเค’ ระบาดหนักในกลุ่มนักเที่ยวกลางคืน

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หน่วยงานทางปกครอง และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ความสำคัญต่อการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความมั่นคงและปลอดภัยให้กับสังคมไทย

ยาเสพติดแฝงตัวในรูปแบบใหม่

รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติดในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า ‘พอตเค’ หรือหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเค (เคตามีน) โดยเฉพาะในกลุ่มนักเที่ยวกลางคืน ซึ่งสร้างความกังวลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยยาเคตามีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด การใช้ในทางที่ผิดกฎหมายมีบทลงโทษรุนแรง เช่น โทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี และปรับสูงสุด 1.5 ล้านบาท

ผลกระทบของการใช้เคตามีนในทางที่ผิด

ยาเคตามีนถูกนำไปใช้ในทางการแพทย์ แต่ในปัจจุบันพบการลักลอบนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การสูดดมและสูบควันเพื่อหวังผลในการหลอนประสาท ผู้ใช้ที่เสพติดต่อกันเป็นเวลานานจะเสี่ยงต่อการติดยาทั้งทางร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ ยังมีผลข้างเคียงที่อันตราย เช่น การอาเจียน ชัก สมองและกล้ามเนื้อขาดออกซิเจน และในบางกรณีอาจถึงขั้นเสียชีวิต

รัฐบาลเข้มงวดปราบปรามการแพร่ระบาด

นายอนุกูลกล่าวเพิ่มเติมว่า การปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะการใช้เคตามีนในทางที่ผิด เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาล ซึ่งได้เร่งดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนในการหยุดยั้งการลักลอบผลิต นำเข้า และจำหน่ายยาเสพติดทุกประเภท

นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ป้องกันและให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโทษและผลกระทบของการใช้ยาเสพติด รวมถึงการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางสายด่วน อย. 1556 กด 3 หรือโทร 0 2590 7343 รวมถึงผ่าน Facebook: FDA Thai

มาตรการเฝ้าระวังและแจ้งเตือน

รัฐบาลยังได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือจากประชาชนในการเป็นหูเป็นตา ช่วยเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของ ‘พอตเค’ และสารเสพติดรูปแบบอื่นๆ ที่อาจเข้ามาในพื้นที่ โดยการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและประชาชนเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมไทย

การปราบปรามยาเสพติดและป้องกันการแพร่ระบาดของสารเสพติดรูปแบบใหม่ยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความปลอดภัยและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยทุกคน

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

ผลสำรวจนิด้าโพลเผยคนไทยเหนื่อยหน่ายเศรษฐกิจและปัญหาสังคมในปี 2567

ผลสำรวจ “นิด้าโพล” เผยคนไทยเหนื่อยหน่ายเศรษฐกิจและปัญหาสังคมในปี 2567

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2567 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในหัวข้อ “เหนื่อยหน่ายกับอะไรบ้าง ในปี 2567 ที่ผ่านมา” โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2567 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,310 รายทั่วประเทศ

ระดับความสุขของประชาชนในปี 2567

ผลการสำรวจระบุว่า ความสุขในปี 2567 ของประชาชนแบ่งเป็น 4 ระดับหลัก ได้แก่

  • ค่อนข้างมีความสุข (39.92%) โดยเหตุผลหลักคือชีวิตครอบครัวราบรื่น และไม่มีอุปสรรคในการทำงาน
  • ไม่ค่อยมีความสุข (32.52%) เหตุผลสำคัญคือปัญหาทางการเงินจากค่าครองชีพสูงและความวุ่นวายทางการเมือง
  • มีความสุขมาก (18.17%) เนื่องจากสุขภาพแข็งแรงและชีวิตไม่มีเรื่องกังวล
  • ไม่มีความสุขเลย (9.39%) เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่นำไปสู่หนี้สินและชีวิตที่ยากลำบาก

สิ่งที่ประชาชนเหนื่อยหน่ายในปี 2567

ปัญหาเศรษฐกิจ ครองอันดับแรกที่ประชาชนระบุว่าเหนื่อยหน่าย (52.14%) โดยมีปัจจัยสำคัญคือรายได้และค่าครองชีพ รองลงมาเป็น

  • ปัญหาภัยไซเบอร์ (28.09%) เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการแฮกข้อมูล
  • ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง (27.86%)
  • ปัญหายาเสพติด (21.60%)
  • ปัญหาราคาพลังงาน (14.89%)

ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ก็เป็นหนึ่งในข้อกังวล โดยประชาชนร้อยละ 13.59 เห็นว่าภัยธรรมชาติและปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข

คุณลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง

ประชากรกลุ่มตัวอย่างมีความหลากหลาย ได้แก่

  • ภูมิลำเนา: ร้อยละ 33.35 อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และร้อยละ 17.86 ในภาคเหนือ
  • เพศ: ร้อยละ 48.09 เป็นชาย และร้อยละ 51.91 เป็นหญิง
  • อายุ: กลุ่มอายุ 46-59 ปีมีสัดส่วนสูงสุด (26.64%)
  • รายได้: ร้อยละ 30.53 มีรายได้เฉลี่ย 10,001-20,000 บาทต่อเดือน

แนวทางแก้ไขปัญหา

นิด้าโพลชี้ให้เห็นว่า ความเหนื่อยหน่ายของประชาชนในด้านเศรษฐกิจและสังคมสะท้อนถึงความจำเป็นที่รัฐต้องให้ความสำคัญกับการลดค่าครองชีพ เสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และจัดการปัญหาสังคมอย่างจริงจัง

การสำรวจนี้สะท้อนถึงความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในปีถัดไป ซึ่งสามารถใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายที่ตอบสนองต่อปัญหาอย่างแท้จริง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News