Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศกาลทุเรียนและของดีตำบลห้วยไคร้ ศูนย์กลางการพัฒนาทุเรียน เชียงราย

 

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2567 ณ ลานกีฬาอเนกประสงค์ บ้านสันต้นปุย ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้เป็นประธานเปิดโครงการของดีตำบลห้วยไคร้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีนายอนุภาส ปฏิเสน ส.อบจ.เชียงราย อำเภอแม่สาย เขต 3 หัวหน้าส่วนราชการ ภาคีเครือข่าย ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และประชาชนร่วมเฉลิมฉลองในพิธีเปิดครั้งนี้

 

นางสาววรนัน รัตรวิภัคกุน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยไคร้ เป็นผู้กล่าวรายงานว่า อบจ.เชียงราย ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดโครงการของดีตำบลห้วยไคร้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้รับรู้และรู้จักผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการต่าง ๆ ของประชาชนในตำบลห้วยไคร้

กลุ่มเป้าหมายในโครงการนี้ประกอบด้วยกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ เช่น สับปะรดและทุเรียนดอยนางนอน รวมถึงกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยไคร้ และพื้นที่ใกล้เคียง การจัดกิจกรรมนี้เป็นการเสริมสร้างอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับประชาชนในท้องถิ่น รวมถึงการเสริมสร้างความสามัคคีของประชาชนในชุมชน

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ กล่าวในพิธีเปิดว่า “โครงการของดีตำบลห้วยไคร้ ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการท่องเที่ยวและการรู้จักผลิตภัณฑ์ชุมชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้กับชุมชนในตำบลห้วยไคร้ โดยการสร้างโอกาสในการจำหน่ายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ทำให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน”

โครงการนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ตำบลห้วยไคร้ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นให้เติบโตยิ่งขึ้น และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตำบลห้วยไคร้ในฐานะศูนย์กลางการพัฒนาทุเรียนและผลิตภัณฑ์ชุมชน

การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและสินค้าท้องถิ่น รวมถึงการจัดกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการสาธิตการผลิตสินค้าเกษตร นับเป็นการสร้างสรรค์พื้นที่ตลาดใหม่และขยายพื้นที่ตลาดเดิมให้กับกลุ่มผู้ผลิตและผู้ประกอบการในชุมชน

ทั้งนี้ การจัดโครงการของดีตำบลห้วยไคร้ยังเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืนและการสร้างเสริมเศรษฐกิจในระดับฐานรากให้กับชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและการสร้างเสริมอาชีพให้กับประชาชนในท้องถิ่นทั่วประเทศ

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
FEATURED NEWS

ทุเรียนแชมป์ส่งออกรถไฟเร็วสูงจีน – สปป.ลาว ลดเวลาขนส่งเหลือ 15 ชั่วโมง

 

วันที่ 20 สิงหาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปจีนผ่านรถไฟความเร็วสูงจีน – สปป.ลาว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 เดือนแรก (มกราคม – พฤษภาคม) ของปี 2566 มี มูลค่ารวม 2,848.41 ล้านบาท ขยายตัวกว่าร้อยละ 260 จากปี 2565 โดยผลไม้ไทยได้รับความนิยมในตลาดจีนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งการใช้รถไฟจีน-ลาว สามารถช่วยลดระยะเวลาการขนส่ง จากที่เคยใช้เวลาผ่านถนนเส้นทาง R3A ประมาณ 2 วัน เหลือใช้เวลาบนรถไฟไม่เกิน 15 ชั่วโมง ทั้งนี้ รัฐบาลเร่งขับเคลื่อนแผนเชื่อมโยงระบบราง ไทย-สปป.ลาว-จีน เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าไทย ปูทางสู่การเป็นศูนย์กลางคมนาคมขนส่งของภูมิภาคในอนาคต
 
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ พบว่า 10 อันดับแรกของสินค้าที่ส่งออกทางด่านหนองคายผ่านแดน สปป.ลาว ไปจีนมีมูลค่าการส่งออกและขยายตัวสูงที่สุด ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2566 ได้แก่ 1) ทุเรียนสด อยู่ที่ 2,073.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 364 เมื่อเทียบกับช่วงกันของปี 2565 2) มังคุดสด 378.65 ล้านบาท 3) หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ 315.21 ล้านบาท 4) ลำไยสด 37.40 ล้านบาท 5) สินค้าแร่ และเชื้อเพลิงอื่น ๆ 17.89 ล้านบาท 6) สับปะรดแปรรูป 11.43 ล้านบาท 7) ส้มโอสด 2.99 ล้านบาท 8) สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร 2.72 ล้านบาท 9) มะม่วงสด 1.79 ล้านบาท และ 10) ผลไม้อื่น ๆ 1.52 ล้านบาท ตามลำดับ 
 
ทั้งนี้ รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนแผนเชื่อมโยงระบบราง ไทย-สปป.ลาว-จีน อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (กรุงเทพฯ – หนองคาย) เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค สำหรับระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ ในปี 2569 ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพระบบคมนาคมขนส่งทางรางของไทย เชื่อมโยงภูมิภาค ตลอดจนเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกสินค้าไปตลาดจีนได้มากขึ้น โดยใช้ระยะเวลาการขนส่งน้อยลง และยังสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี ในการส่งออกสินค้าไปจีนได้อีกด้วย
 
“รัฐบาลมุ่งมั่นพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในทุกด้าน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานทางราง ซึ่งเป็นการขนส่งที่สามารถลดต้นทุน เวลา และค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ส่งออกไทย พร้อมเชื่อมั่นว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไว้อย่างครอบคลุมตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการ จะมีส่วนสำคัญ ส่งต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศ และส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคได้” นางสาวรัชดาฯ กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักนายกรัฐมนตรี

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News