Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ทหารเชียงราย เคาะประตูบ้าน ต้านไฟป่า PM2.5

มทบ.37 เดินหน้ากิจกรรม “เคาะประตู สู่ความห่วงใย” รณรงค์ลดหมอกควัน PM2.5 เชียงแสน

กองทัพภาคที่ 3 ผสานพลังจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ลงพื้นที่หมู่บ้านแนวชายแดนจังหวัดเชียงราย ย้ำความร่วมมือทุกภาคส่วนในการหยุดเผา ลดปัญหาฝุ่นพิษ

ประเทศไทย, 16 เมษายน 2568 – มณฑลทหารบกที่ 37 โดยกำลังพลจิตอาสาพระราชทานภายใต้โครงการ “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ลงพื้นที่จัดกิจกรรม “เคาะประตู สู่ความห่วงใย ใส่ใจสุขภาพประชาชน” ณ บ้านปงของ หมู่ 5 บ้านปงของเหนือ หมู่ 10 และบ้านธารทอง หมู่ 11 ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ตามนโยบายของจังหวัดเชียงราย ที่ได้ประกาศมาตรการ “92 วันปลอดการเผา” ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2568 อย่างเข้มข้น

ร้อยตรี ณัฐพลพล บุญทับ นำจิตอาสาลงพื้นที่

การปฏิบัติงานครั้งนี้ นำโดย ร้อยตรี ณัฐพลพล บุญทับ หัวหน้าชุดประสานการคุ้มครองป้องกันชุมชน สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านธารทอง พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” ของมณฑลทหารบกที่ 37 ซึ่งได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างใกล้ชิด ให้คำแนะนำ สร้างความเข้าใจ และแจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันสุขภาพในห้วงสถานการณ์ฝุ่นควัน

สร้างการรับรู้ หยุดไฟ หยุดควัน อย่างยั่งยืน

กิจกรรมในครั้งนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมพฤติกรรมเชิงบวก และการมีส่วนร่วมของชุมชนในการแก้ปัญหาเชิงรุก โดยเฉพาะเรื่องการหลีกเลี่ยงการเผาในที่โล่งทุกชนิด และการลดการก่อให้เกิดเชื้อเพลิงที่อาจลุกลามเป็นไฟป่าในฤดูแล้ง โดยจุดเน้นที่ถ่ายทอดแก่ประชาชนในพื้นที่ ได้แก่

  • หลีกเลี่ยงการเผาขยะ หญ้าแห้ง ตอซังข้าว กิ่งไม้ หรือวัสดุใด ๆ ที่ติดไฟง่าย
  • สอนแนวทางการทำปุ๋ยหมักจากเศษพืชแทนการเผา
  • ส่งเสริมการแยกขยะอย่างถูกวิธี และการนำวัสดุอินทรีย์ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
  • สนับสนุนการทำแนวกันไฟในพื้นที่ล่อแหลมใกล้แนวป่า
  • แนะนำการจัดการเชื้อไฟในพื้นที่การเกษตรอย่างปลอดภัย

แจกหน้ากากอนามัย รับมือ PM2.5 เกินมาตรฐาน

จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่พบว่ามีค่า PM2.5 เกินมาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ส่งผลต่อสุขภาพโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง มณฑลทหารบกที่ 37 จึงได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้ประชาชนในพื้นที่ เพื่อใช้ป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่อาจก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้การแจกจ่ายหน้ากากอนามัยได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชนและอสม.ในพื้นที่อย่างดียิ่ง

ประกาศ 92 วันปลอดการเผา – กลไกขับเคลื่อนสู่การลดฝุ่นควัน

จังหวัดเชียงรายได้ประกาศ “92 วัน ปลอดการเผาในที่โล่ง” ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 31 พฤษภาคม 2568 เป็นนโยบายสำคัญในช่วงฤดูแล้ง เพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นรูปธรรม โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าหมายการลดจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ให้ลดลงอย่างน้อย 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ชุมชนคือหัวใจสำคัญของการป้องกันไฟป่า

แม้จะมีมาตรการจากภาครัฐอย่างเข้มข้น การลดปัญหาไฟป่าและหมอกควันจะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดความร่วมมือจากประชาชนในระดับรากหญ้า การลงพื้นที่พบประชาชนของจิตอาสาทหารในกิจกรรม “เคาะประตู สู่ความห่วงใย” ครั้งนี้ จึงถือเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมจาก “การเผาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์” ให้กลายเป็น “ความเข้าใจและการมีส่วนร่วม” ได้อย่างแท้จริง

ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง และแหล่งอ้างอิง

  • ข้อมูลจาก กรมควบคุมมลพิษ (PCD) ระบุว่า จังหวัดเชียงรายพบจุดความร้อน (Hotspot) เฉลี่ย 1,800 จุดต่อปีในช่วงฤดูแล้ง โดยมากเกิดจากการเผาในพื้นที่เกษตร
  • จากข้อมูล กรมอนามัย ปี 2566 พบว่า ค่าเฉลี่ย PM2.5 ในภาคเหนือตอนบนในช่วงมีนาคม-เมษายน สูงถึง 55-70 µg/m³ ซึ่งเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 50 µg/m³
  • องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การสัมผัส PM2.5 ต่อเนื่องสามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคระบบทางเดินหายใจได้ถึง 20–30%
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News