Categories
WORLD PULSE

ญี่ปุ่นเผชิญปัญหาผู้เสียชีวิตโดดเดี่ยว พุ่งสูงเกือบ 4 หมื่นคนในครึ่งปีแรก

 

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับวิกฤตทางสังคมที่น่ากังวล เมื่อรายงานจากสำนักข่าวเอ็นเอชเค (NHK) ของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีผู้เสียชีวิตในบ้านอย่างโดดเดี่ยวสูงถึง 37,227 คน จากจำนวนศพทั้งหมด 102,965 ศพที่ถูกส่งมาชันสูตร ซึ่งคิดเป็นกว่า 30% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยศพเหล่านี้เป็นผู้ที่ใช้ชีวิตตามลำพัง ไม่มีครอบครัวหรือผู้ดูแล และบางรายใช้เวลามากกว่า 1 เดือนกว่าจะมีผู้มาพบศพ

รายงานระบุว่ากว่า 70% ของผู้เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเหล่านี้เป็นผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 85 ปี ขึ้นไป จำนวน 7,498 คน และผู้ที่มีอายุระหว่าง 75 ถึง 79 ปี อีก 5,920 คน และอายุระหว่าง 70 ถึง 74 ปีอีก 5,635 คน ทั้งนี้ สถิติที่น่าตกใจเพิ่มเติมคือจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 3,936 คน ถูกพบหลังจากผ่านไปมากกว่า 1 เดือน และยังมีอีกไม่ต่ำกว่า 130 คน ที่ศพถูกพบหลังจากเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 1 ปี

การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวสะท้อนถึงปัญหาสังคมผู้สูงอายุในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรสูงอายุมากที่สุดในโลก จากรายงานของสหประชาชาติ แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะพยายามแก้ไขปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่การจัดการกลับเป็นเรื่องที่ท้าทายและยากลำบาก

นอกจากปัญหาผู้สูงอายุที่เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวแล้ว ญี่ปุ่นยังเผชิญกับปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยิ่งทำให้วิกฤตสังคมผู้สูงอายุนั้นรุนแรงขึ้น โดยผลสำรวจของรัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายนของปีนี้ มีทารกเกิดใหม่เพียง 350,074 คน ลดลง 5.7% จากช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว นับว่าเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์

สถานการณ์นี้ยิ่งสร้างความกังวลต่ออนาคตของญี่ปุ่น โดยสถาบันวิจัยประชากรและความมั่นคงทางสังคมแห่งชาติของญี่ปุ่นได้คาดการณ์ว่า จำนวนผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะเพิ่มขึ้นเป็น 10.8 ล้านคนภายในปี 2050 หรืออีกประมาณ 26 ปีข้างหน้า และในปีเดียวกัน คาดว่าจะมีผู้ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเพิ่มขึ้นถึง 23.3 ล้านคน

นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนและเกาหลีใต้ก็กำลังเผชิญกับปัญหาลักษณะเดียวกัน โดยจีนพบว่าประชากรลดลงสวนทางกับอัตราการเกิดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1961 ขณะที่เกาหลีใต้ในขณะนี้ได้กลายเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลกแล้ว

รายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นเตรียมที่จะยื่นเรื่องไปถึงรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาผู้สูงอายุที่เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวนี้ และหวังว่ารายงานนี้จะช่วยสร้างความตระหนักถึงวิกฤตประชากรสูงอายุที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ปัญหาการเกิดของประชากรและการเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวไม่เพียงแต่เป็นปัญหาของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่มีสังคมสูงอายุและอัตราการเกิดที่ลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักข่าวเอ็นเอชเค (NHK)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
NEWS NEWS UPDATE

AOT ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมสนามบิน อีก 30 บาท เริ่ม 1 เม.ย.2567 นี้

 

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) AOT หรือ ทอท. จะปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charges: PSC) หรือค่าธรรมเนียมสนามบิน ทั้ง 6 แห่ง

  • ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยปรับจาก 700 บาทต่อคน เป็น 730 บาทต่อคน
  • ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ปรับจาก 100.บาทต่อคน เป็น 130 บาทต่อคน โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป

สาเหตุที่ ทอท.ต้องปรับค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน เนื่องจาก ทอท.ได้นําระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) มาให้บริการตามท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัย มีศักยภาพเทียบเท่าระดับสากล

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า ตามที่ AOT ได้นําระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing Systems: CUPPS) มาให้บริการ ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ AOT ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่

  • ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 
  • ท่าอากาศยานดอนเมือง
  • ท่าอากาศยานเชียงใหม่ 
  • ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
  • ท่าอากาศยานภูเก็ต 
  • ท่าอากาศยานหาดใหญ่ 

ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว ความปลอดภัยในการใช้บริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับมติที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ที่ได้กำหนดนโยบายด้านการบินพลเรือนของประเทศในการนำเทคโนโลยีระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) มาใช้ในสนามบินที่ให้บริการแก่สาธารณะ เพื่อพัฒนาการดำเนินการสนามบินสาธารณะให้มีความทันสมัย มีศักยภาพเทียบเท่าระดับสากล 

ปัจจุบันการให้บริการระบบ CUPPS ประกอบด้วย

  1.  บริการตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Terminal Equipment: CUTE) ที่เข้ามาช่วยยกระดับการให้บริการของเคาน์เตอร์เช็กอินเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับการบริการบนมาตรฐานเดียวกันกับท่าอากาศยานระดับสากล 
  2. บริการเช็กอินด้วยตัวเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารไม่ต้องรอแถวเช็กอิน อีกทั้งยังสามารถเช็กอินล่วงหน้าเป็นเวลา 6 – 12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง (ตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน) 
  3. บริการรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) สำหรับให้ผู้โดยสารสามารถโหลดสัมภาระได้ด้วยตนเอง ซึ่งการนําระบบ CUPPS มาให้บริการส่งผลให้มีต้นทุนอัตราค่าบริการที่เพิ่มขึ้น 

ดังนั้น AOT จะปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charges: PSC) สำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยปรับจาก 700 บาทต่อคน เป็น 730 บาทต่อคน และค่า PSC สำหรับผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ปรับจาก 100 บาทต่อคน เป็น 130 บาทต่อคน โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป

และได้มีการอัปเดตรายชื่อสายการบินสายการบินที่ผู้โดยสารสามารถเช็คอินด้วยตนเองผ่านระบบเช็คอินด้วยตนเองอัตโนมัติ และสายการบินที่ผู้โดยสารสามารถโหลดกระเป๋าด้วยตนเอง ผ่านระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยประกอบไปด้วย

.

สายการบินที่ผู้โดยสารสามารถเช็กอินด้วยตนเองผ่านระบบเช็คอินด้วยตนเองอัตโนมัติ 27 สายการบิน

  1. Thai Air Asia
  2. Thai Asia X
  3. Air Canada
  4. Air France
  5. All Nippon Airways
  6. Austrian Airlines
  7. Bangkok Airways
  8. Cathay Pacific Airways
  9. Cebu Pacific Air
  10. China Airlines
  11. Emirates
  12. Eva Airways
  13. Finnair
  14. Japan Airlines
  15. KLM Royal Dutch Airlines
  16. Lufthansa
  17. Malaysia Airlines
  18. Philippine Airlines
  19. Qatar Airways
  20. Scandinavian Airlines
  21. Scoot
  22. Singapore Airlines
  23. Starlux Airlines
  24. Swiss International Airlines
  25. Thai Airways International
  26. Thai Viet Jet Air
  27. Turkish Airlines

.

สายการบินที่ผู้โดยสารสามารถโหลดกระเป๋าด้วยตนเอง ผ่านระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ 13 สายการบิน

  1. Thai Air Asia
  2. Thai Asia X
  3. Air France
  4. Austrian Airlines
  5. Bangkok Airways
  6. Emirates
  7. Eva Airways
  8. KLM Royal Dutch Airlines
  9. LUFTHANSA
  10. Qatar Airways
  11. Scoot
  12. SWISS INTERNATIONAL AIRLINES
  13. Thai Airways International

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Suvarnabhumi Airport / บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) AOT 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News