Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

คืบหน้าการช่วยเหลือน้ำท่วมในแม่สาย สายลมจอย-บ้านไม้ลุงขนยังไม่ 100%

สถานการณ์และความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอแม่สาย

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 เวลา 17.30 น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยมีผจก.ชร. พล.ต.บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผบ.มทบ.37 เป็นประธานการประชุม ร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินงานของกรมการทหารช่าง

กรมการทหารช่างได้ดำเนินการตรวจสอบความแข็งแรงของบิ๊กแบ็คและลำน้ำสาย 21 จุด พบว่าสถานที่ทั้งหมดแข็งแรงปกติ นอกจากนี้ยังได้ทำการซ่อมแซมและปรับพื้นที่วัด โรงเรียน และบ้านคนยากไร้ ผลการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

การฟื้นฟูบ้านพักอาศัยโดยหน่วยงานต่างๆ

หน่วยงานหลายแห่งเข้าร่วมในการฟื้นฟูบ้านพักอาศัย โดยกรมทรายได้ฟื้นฟูบ้านในชุมชนหัวฝายและตลาดสายลมจอย โดยความก้าวหน้าถึง 100% และ 60.61% ตามลำดับ ส่วนทบ.ดำเนินการฟื้นฟูบ้านไม้ลุงขนถึง 80.95% และกองทัพไทยฟื้นฟูบ้านเกาะทรายได้ถึง 69.05%

ความคืบหน้าของมท.และหน่วยงานร่วม

มท.ชุด ชป.อส.ได้ฟื้นฟูบ้านเพิ่มเติม 3 ครัวเรือน โดยบ้านเหมืองแดงและบ้านเหมืองแดงใต้มีความก้าวหน้าถึง 98.97% และ 100% ตามลำดับ ความคืบหน้าทั่วโซนมหาดไทยอยู่ที่ 99.36%

การสนับสนุนจากสภาแม่สายและส่วนราชการอื่นๆ

สภาแม่สายได้วางกำลังพลอำนวยสะดวกในการขนย้ายดินออกจากพื้นที่ประสบภัย ส่วนประปาเร่งซ่อมแซมระบบประปาและตรวจสภาพในพื้นที่ที่ฟื้นฟูแล้ว ไฟฟ้าก็ได้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านที่ฟื้นฟูสภาพเรียบร้อยแล้ว

ความร่วมมือของกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กองทัพเรือร่วมกับมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย และหน่วยงานอื่นๆ เร่งเคลียร์พื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมและตลาดสายลมจอย โดยใช้เครื่องมือและกำลังพลในการขุดตักดินออกจากบ้านและร้านค้า เทศบาลเวียงพางคำได้นำรถแทรกเตอร์มาปรับเกรดดันดินโคลนที่ติดถนนเพื่อเปิดเส้นทางเข้าบ้านถ้ำผาจม

ความสำเร็จในการฟื้นฟูพื้นที่และการกลับมาใช้ชีวิตประจำวัน

การฟื้นฟูพื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมและตลาดสายลมจอยมีความคืบหน้าอย่างมาก ถนนเข้าออกในหมู่บ้านเริ่มเดินทางสัญจรได้ และมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาให้กับบ้านที่พร้อมแล้ว น.ส. ภัคสิริพัชร์ พิสิษชาโนดม ชาวบ้านบ้านถ้ำผาจม ได้กล่าวว่าชาวบ้านเริ่มทยอยกลับเข้าบ้านเรือน ขอบคุณเจ้าหน้าที่และจิตอาสาทุกคน

ความต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากชาวบ้าน

ชาวบ้านขอความช่วยเหลือในเรื่องเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม หม้อหุงข้าว เนื่องจากน้ำได้พัดพาสิ่งของบางส่วนไป ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านแทบจะไม่เหลือ และรถเข็นขายของถูกน้ำพัดพาไป ทำให้ชาวบ้านลำบากมาก

เป้าหมายการเคลียร์พื้นที่ประสบภัยในเดือนตุลาคม

ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มคาดว่าจะเคลียร์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในอำเภอแม่สายได้ทั้งหมดไม่เกินเดือนตุลาคมนี้

การร่วมมือกันอย่างเต็มที่ของทุกหน่วยงานทำให้การฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ชาวบ้านในพื้นที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซเว่น อีเลฟเว่น มอบอาหารฮาลาล ช่วยชุมชนมุสลิมน้ำท่วมเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายราชัน รุจิพรรณ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย และนายวิเชียร สิริสิทธิวงษ์ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย,นายปรีชา อนุรักษ์ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย, ร.ต.ท.ทัศน์ ดำรงเมือง คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย เป็นผู้แทนรับมอบสิ่งของช่วยเหลือจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) โดยมีนายชัชวาล นวลยิ่ง และ นางสาว ปัญชิกา บุรีจันทร์ ผู้จัดการเขตปฏิบัติการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนส่งมอบอาหารที่มีเครื่องหมายฮาลาล เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องชาวเชียงรายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่การส่งมอบในครั้งนี้ เซเว่น อีเลฟเว่น ได้ร่วมมือกับสำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์ ในการนำอาหารและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือชาวชุมชนอิสลามในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความต้องการอาหารที่ผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาล รวมถึงกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้

 
 นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงราย ประชาชนในชุมชนต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มชาวไทยมุสลิมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากโรงครัวที่จัดทำอาหารช่วยเหลือในพื้นที่ส่วนใหญ่มักจะขาดแคลนเมนูอาหารฮาลาล ทำให้หลายครอบครัวไม่สามารถรับอาหารได้ครบถ้วน 
 

ทางเซเว่น อีเลฟเว่น จึงได้จัดเตรียมอาหารพร้อมรับประทานที่มีตราฮาลาลมามอบให้ในครั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มชาวมุสลิมในชุมชนสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างเท่าเทียมกับกลุ่มอื่น ๆ โดยมีการแบ่งสัดส่วนอาหารไปยังในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

 
 นายราชัน รุจิพรรณ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า การส่งมอบอาหารในครั้งนี้ถือเป็นความตั้งใจของภาคเอกชนในการช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประสบภัยให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้ พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มชาวมุสลิมที่มีความต้องการอาหารตามหลักศาสนา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้อย่างเท่าเทียมกัน
 
 
 นายปรีชา อนุรักษ์ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าการส่งมอบอาหารที่มีเครื่องหมายฮาลาลยังถือเป็นการสร้างความเท่าเทียมและการเปลี่ยนแปลงในแง่บวกสำหรับชุมชนอิสลามที่อาจจะได้รับการจัดสรรอาหารที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดทางศาสนาบ่อยครั้ง ซึ่งในส่วนนี้ก็เข้าใจในสถานการณ์วิกฤต

 

นายชัชวาล นวลยิ่ง ผู้จัดการเขตปฏิบัติการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ จึงได้จัดเตรียมอาหารพร้อมรับประทานที่ผ่านการรับรองฮาลาลเพื่อสนับสนุนชุมชนมุสลิมในพื้นที่ และเราหวังว่าอาหารที่เรามอบให้นี้จะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ได้บ้าง”
 

ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายขณะนี้ ยังมีประชาชนอีกหลายกลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย โดยเฉพาะในอำเภอแม่สาย และอำเภอเมือง ที่ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีก การส่งมอบอาหารในครั้งนี้ถือเป็นการแสดงถึงความห่วงใยและความตั้งใจของภาคเอกชนในการช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประสบภัยให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้ พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มชาวมุสลิมที่มีความต้องการอาหารตามวิถีทางศาสนา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้อย่างเท่าเทียมกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
TOP STORIES

พระครูอ๊อดนำช้างลุยน้ำท่วมเชียงใหม่ ช่วยชาวบ้านฝ่าวิกฤตเสบียงขาดแคลน

 

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2567 พระครูอ๊อด วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำช้างจากบ้านพักช้างตระกูลแสน ได้แก่ พลายคุณแสน และพลายแสนทัพ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในอำเภอสารภี ถนนสายต้นยาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเกิดน้ำท่วมสูงบางจุดจนไม่สามารถเข้าถึงได้โดยรถขนาดใหญ่

การนำช้างมาช่วยเหลือในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่สามารถใช้รถหกล้อหรือเรือเข้าไปในพื้นที่ได้ เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลแรงและระดับน้ำที่สูง ทำให้ช้างกลายเป็นตัวช่วยสำคัญในการขนส่งเสบียงและสิ่งของจำเป็น เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง และข้าวกล่อง เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย

พระครูอ๊อดกล่าวว่า ช้างเป็นสัตว์ที่มีพละกำลังสูงและสามารถฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกรากได้ดีกว่าเรือท้องแบน นอกจากนี้ ยังมีทีมควาญช้างและทีมกู้ภัยน้ำหลากคอยประกบช้างทั้งสองตลอดการทำงานเพื่อความปลอดภัย โดยช้างทั้งสองเชือกยังทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะมีอุปสรรคจากกระแสน้ำและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ในพื้นที่

“การนำช้างมาช่วยเหลือในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การช่วยผู้ประสบภัย แต่ยังเป็นการฝึกช้างให้มีความคุ้นเคยกับการทำงานช่วยเหลือสังคม ซึ่งถือว่าเป็นการใช้พละกำลังของช้างให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง นับเป็นภารกิจสำคัญของช้างตระกูลแสนที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวบ้านในเวลาวิกฤต” พระครูอ๊อดกล่าว

ช้างทั้งสองเชือกได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทีมงานควาญช้าง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้น เช่น การเหยียบตะปูหรือท่อที่อาจอยู่ในน้ำ นอกจากนี้ยังมีการควบคุมการเดินของช้างในเลนกลางถนน และมีทีมกู้ภัยคอยประกบทุกฝีก้าว

คุณแสนและแสนทัพยังแสดงความน่ารักให้เห็นในระหว่างการช่วยเหลือ เมื่อมีคนเรียกชื่อ “แสนทัพ” ช้างก็หันไปทักทายด้วยการโบกงวง ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกอบอุ่นและชื่นชมการทำงานของทั้งช้างและทีมช่วยเหลือ

พระครูอ๊อดได้เปิดรับบริจาคเพื่อสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยผู้ที่สนใจสามารถร่วมทำบุญได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย เลขที่ 5400186947 หรือผ่านระบบพร้อมเพย์หมายเลข 0808500184 ในชื่อบัญชี “พระวีรวัฒน์ วีรวฑฺฒโน”

ผู้ใช้โซเชียลต่างพากันชื่นชมการทำงานของทีมช้างและทีมกู้ภัย พร้อมแชร์โพสต์และภาพถ่ายของคุณแสนและแสนทัพที่ลุยน้ำช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ทำให้ข่าวนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์

การลงพื้นที่ช่วยเหลือของช้างตระกูลแสนในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับคนในสังคมในการทำความดีและช่วยเหลือกันในช่วงเวลาวิกฤตอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการทำงานจิตอาสาที่ใช้ทรัพยากรอย่าง “ช้าง” ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสังคมในเวลาที่ต้องการ

ร่วมกันสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้พระครูอ๊อดและทีมกู้ภัยในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้ เพื่อให้ช้างไทยได้แสดงพละกำลังและศักยภาพในการช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มที่ต่อไป.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : แซนดี้ อะโลฮ่า (Sandy Aloha)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

น้ำป่าท่วมเวียงป่าเป้า เชียงราย ชาวบ้านอพยพ-โรงเรียนเสียหายหนัก

 

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 ทางเพจขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านโป่ง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ได้เผยแพร่ภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ โดยเฉพาะหมู่บ้านห้วยหินลาดใน หมู่ 7 ตำบลบ้านโป่ง และหมู่บ้านห้วยทรายขาว หมู่ 7 ตำบลบ้านโป่ง ที่ประสบภัยน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้ทำให้บ้านเรือนในหลายจุดได้รับความเสียหายหนักจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ประชาชนหลายครอบครัวต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปพักอาศัยในศูนย์อพยพชั่วคราวของ อบต.บ้านโป่ง เพื่อความปลอดภัย

จากรายงานพบว่า บ้านเรือนของประชาชนในหมู่บ้านห้วยทรายขาวได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากน้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้โครงสร้างบ้านเรือนพังทลาย บางหลังถูกกระแสน้ำพัดจนไม่เหลือร่องรอย เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครได้เร่งเข้าช่วยเหลืออพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่จัดตั้งขึ้น ณ อบต.บ้านโป่ง ซึ่งมีการดูแลและจัดหาน้ำดื่ม อาหาร รวมถึงที่นอนให้ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

ไม่เพียงแค่บ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย แต่ยังมีโรงเรียนห้วยหินลาดใน ซึ่งเป็นสถานศึกษาแห่งเดียวในชุมชนได้รับความเสียหายอย่างหนัก อาคารเรียนถูกน้ำป่าพัดพังไปเกือบทั้งหมด ทำให้นักเรียนกว่า 30 คนที่ต้องย้ายสถานที่เรียนชั่วคราว และยังต้องรอความช่วยเหลือในการฟื้นฟูโรงเรียน ซึ่งเป็นแหล่งการศึกษาและศูนย์รวมจิตใจของชุมชน การสูญเสียครั้งนี้ไม่เพียงแต่กระทบต่อการเรียนการสอนของเด็ก ๆ แต่ยังสร้างความสูญเสียทางจิตใจให้กับครอบครัวและชุมชนที่มีโรงเรียนเป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนาอีกด้วย

สถานการณ์น้ำท่วมในอำเภอเวียงป่าเป้า ยังส่งผลกระทบในวงกว้าง ครอบคลุมพื้นที่ใน 4 ตำบลหลัก ได้แก่ ตำบลป่างิ้ว ตำบลเวียงกาหลง ตำบลบ้านโป่ง และตำบลเวียง โดยเฉพาะตำบลบ้านโป่งและตำบลเวียงที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากมีการรับน้ำมาจากแม่น้ำลาว ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านพื้นที่ ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำในหลายจุดมีน้ำท่วมขัง และบางจุดระดับน้ำยังคงสูง ทำให้การสัญจรในหลายเส้นทางถูกตัดขาด ประชาชนในหลายหมู่บ้านไม่สามารถออกมานอกพื้นที่ได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง

สำหรับการฟื้นฟูพื้นที่หลังจากน้ำลด ทางองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผนดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเริ่มจากการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ที่น้ำเริ่มลดลง เพื่อวางแผนซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพานที่ถูกน้ำพัดขาด รวมถึงบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ทางหน่วยงานยังได้จัดเครื่องสูบน้ำเข้ามาช่วยเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ และติดตั้งเครื่องฉีดล้างทำความสะอาดถนนและบ้านเรือนที่ถูกโคลนและเศษดินจากน้ำป่าท่วมสูง

จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ทำให้หลายครอบครัวในอำเภอเวียงป่าเป้าต้องเผชิญกับความยากลำบากทั้งด้านการอยู่อาศัยและความปลอดภัยในชีวิต เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานท้องถิ่นและอาสาสมัครได้ร่วมกันทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน นายสมเกียรติได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนที่มีจิตศรัทธาให้เข้ามาสนับสนุนการฟื้นฟูในครั้งนี้ เพื่อช่วยกันฟื้นฟูชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ทางอบต.บ้านโป่ง ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น เช่น เครื่องนอน ยารักษาโรค และเสื้อผ้า เพื่อช่วยเหลือประชาชนในศูนย์อพยพ หากท่านใดต้องการให้การสนับสนุนสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 053-781989 หรือผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก “อบต.บ้านโป่ง อำเภอเวียงป่าเป้า” โดยตรง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่ง

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ลงพื้นที่แม่สายติดตามน้ำท่วม พร้อมเร่งฟื้นฟูพื้นที่

 

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมี นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน และคณะเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย โดยได้เดินทางไปยังโรงเรียนชุมชนไม้ลุงขนมิตรภาพที่ 169 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบภัย เพื่อมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมให้กำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้านว่ารัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมาเป็นปกติในเร็ววัน

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายในช่วงที่ผ่านมานั้น เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “ยางิ” ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำหลายสายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนในหลายอำเภอ รวมถึงพื้นที่อำเภอแม่สายที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์น้ำได้คลี่คลายลงแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำต่าง ๆ ลดลงอยู่ในเกณฑ์ปกติ และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง

ในระหว่างการลงพื้นที่ นายอัครา พรหมเผ่า ได้ติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด และได้สั่งการให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหาย เพื่อวางแผนฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน โดยเน้นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อลดความซ้ำซ้อนและเร่งแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด โดยได้เน้นย้ำให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่สำคัญในระยะสั้นก่อน เช่น การระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำที่ยังมีน้ำท่วมขัง การฟื้นฟูถนนเส้นทางคมนาคมที่ถูกน้ำท่วม รวมถึงการจัดหาน้ำสะอาดให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ระบบน้ำประปาได้รับความเสียหาย

ด้านกรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 2 และสำนักเครื่องจักรกล ได้จัดส่งเครื่องจักรกลหนัก เช่น รถแบคโฮ เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ และเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ลงพื้นที่ทันทีหลังน้ำลด เพื่อเร่งดำเนินการขุดลอกลำคลอง และบ่อดักตะกอนที่ถูกตะกอนดินทรายอุดตันจากกระแสน้ำหลาก พร้อมกันนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมที่ยังไม่สามารถระบายน้ำออกได้เต็มที่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการฉีดล้างทำความสะอาดถนนเส้นทางหลักและถนนในชุมชนที่ถูกโคลนและเศษดินจากน้ำท่วมพัดมากองทับถม เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัยและเร็วที่สุด

นอกจากนี้ นายอัครา พรหมเผ่า ได้มอบหมายให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการขุดลอกคลองสาย RMC1 (เหมืองแดง) และบ่อดักตะกอนในพื้นที่แม่สายที่มีการสะสมของตะกอนสูง เพื่อคืนประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองสายนี้ให้สามารถรองรับน้ำได้มากขึ้นและลดความเสี่ยงของน้ำท่วมในอนาคต ทั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยประสานงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

จากการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอัคราได้กล่าวกับประชาชนผู้ประสบภัยว่า รัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการฟื้นฟูทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นจะเร่งฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและช่วยเหลือประชาชนให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ในขณะที่ในระยะยาว จะมีการวางแผนป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซ้อน เช่น การขุดลอกคลองและการสร้างระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความมั่นคงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้เสริมว่า กรมชลประทานจะเร่งดำเนินการตามคำสั่งการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเฉพาะการขุดลอกคลองและการบำรุงรักษาระบบระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำในพื้นที่เสี่ยง และจะดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายให้เกษตรกรสามารถกลับมาปลูกพืชผลได้โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งจะติดตามและรายงานความคืบหน้าให้กับผู้บริหารและประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การดำเนินการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการติดตามประเมินผลทุกระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังเน้นย้ำว่า การทำงานในครั้งนี้จะต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของทุกหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมชลประทาน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เร่งฟื้นฟูเชียงรายหลังน้ำท่วม ช่วยเหลือประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตปกติ

 

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้เร่งดำเนินการฟื้นฟูเมืองเชียงรายหลังจากเกิดเหตุอุทกภัยใหญ่ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชุมชนในเขตเทศบาลเมืองเชียงรายหลายแห่ง โดยจัดตั้งแผนฟื้นฟูการจัดเก็บขยะ การกำจัดโคลน และการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ซึ่งหนึ่งในภารกิจหลักคือการจัดเก็บขยะและโคลนตะกอนที่สะสมในพื้นที่ต่าง ๆ ของเมือง พร้อมทั้งฟื้นฟูระบบระบายน้ำให้กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับฝนในอนาคตและฟื้นฟูสุขอนามัยในพื้นที่

 

การดำเนินงานฟื้นฟูในเขตชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

ในวันที่ 28 กันยายน 2567 มีการเพิ่มกำลังพลและอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ เช่น รถบรรทุกขยะ รถแมคโคร รถดูดโคลน และรถบรรทุกน้ำ จำนวนมาก เพื่อให้การรวบรวมและกำจัดขยะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย ไม่ว่าจะเป็น ชุมชนน้ำลัด, ชุมชนฝั่งหมิ่น, ริมน้ำกก, สวนสาธารณะเกาะลอย, เกาะทอง, แควหวาย, ถ.ฝั่งหมิ่น, ทวีรัตน์, เกาะทอง, รั้วเหล็กเหนือ, รั้วเหล็กใต้, ป่าแดง, ฮ่องลี่, ป่างิ้ว, ป่าตึงริมกก, บ้านใหม่ และหมู่บ้านธนารักษ์ ซึ่งแต่ละจุดมีการจัดทีมงานพร้อมอุปกรณ์อย่างครบครัน รวมถึงได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลายภาคส่วนที่ร่วมลงพื้นที่และสนับสนุนภารกิจฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง

 

การสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ

ในการดำเนินการครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน อาทิ กรุงเทพมหานคร (อปท.), บริษัท บีเอ็มเจ็ตเซอร์วิส จังหวัดระยอง, เทศบาลนครนนทบุรี, และเทศบาลนครปากเกร็ด ซึ่งได้ส่งทีมงานและเครื่องจักรเข้ามาช่วยดำเนินการฟื้นฟู โดยเฉพาะรถดูดโคลนเลน จำนวน 4 คัน ที่ได้รับความสนับสนุนจากกรุงเทพมหานคร ทำให้การดำเนินงานในชุมชนป่าแดงสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่เทศบาลนครนนทบุรี และเทศบาลนครปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ช่วยดำเนินการในชุมชนแควหวาย ซอย 4 ในช่วงเช้า และช่วงบ่ายได้เข้าไปช่วยทำความสะอาดและดูดโคลนในชุมชนเกาะทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากน้ำท่วมในครั้งนี้

 

การจัดการขยะและฟื้นฟูระบบระบายน้ำ

นอกจากการจัดเก็บขยะและการกำจัดโคลนในพื้นที่แล้ว ทางเทศบาลนครเชียงรายยังได้ดำเนินการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น เครื่องเจาะสูบฉีดน้ำแรงดันสูง และรถดูดโคลน เพื่อป้องกันการอุดตันและช่วยในการระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมและฟื้นฟูสุขอนามัยของชุมชนให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

 

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อเมืองเชียงราย

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ยังได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูเมืองเชียงรายในครั้งนี้ โดยเฉพาะภาคเอกชนและหน่วยงานราชการที่ส่งทีมและเครื่องมือมาช่วยฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือการทำให้เมืองเชียงรายกลับมามีสภาพแวดล้อมที่ดีอีกครั้ง และสามารถรองรับการดำเนินชีวิตของประชาชนได้อย่างปกติสุข

สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อเทศบาลนครเชียงรายได้ที่หมายเลข 053-711333 หรือประสานงานผ่านศูนย์ช่วยเหลือในพื้นที่ใกล้บ้านของท่านได้ตลอดเวลา โดยเทศบาลจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เมืองเชียงรายกลับมาเป็นเมืองที่น่าอยู่และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ศบภ.มทบ.37 ลงพื้นที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ฟื้นฟูบ้านเรือนในชุมชนแม่สาย

 

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 กองบัญชาการกองทัพบกที่ 37 (ศบภ.มทบ.37) โดย กองพันทหารราบที่ 17 กรมทหารราบที่ 3 ในพระองค์ฯ (ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ) ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านเรือนของประชาชนในกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชุมชนไม้ลุงขน, ชุมชนเกาะทราย และพื้นที่ใกล้เคียง ในเขตอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย การลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็นการช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนและสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง

ลงพื้นที่ฟื้นฟูบ้านเรือนและโรงเรียนในชุมชนไม้ลุงขน

การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ เริ่มจากการทำความสะอาดโรงเรียนบ้านไม้ลุงขน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่จาก ศบภ.มทบ.37 ได้ช่วยกันล้างทำความสะอาดพื้น กำแพง รวมถึงจัดเก็บสิ่งของที่ถูกโคลนและเศษซากต่าง ๆ ที่ถูกน้ำพัดมากองทับถมกันหลังน้ำลด เพื่อเตรียมความพร้อมให้โรงเรียนสามารถกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ศบภ.มทบ.37 ยังได้ลงพื้นที่เพิ่มเติมตามคำร้องขอของผู้ใหญ่บ้านในชุมชน เพื่อเข้าช่วยเหลือทำความสะอาดและซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ในพื้นที่บ้านไม้ลุงขน หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หนึ่งในบ้านที่ได้รับการช่วยเหลือคือ บ้านของนางภัณฑิลา มูลเมืองคำ ซึ่งเป็นบ้านในกลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้เอง เนื่องจากสภาพโครงสร้างที่เสียหายหนักจากโคลนและน้ำท่วม ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันทำความสะอาด กำจัดดินโคลนที่ทับถมอยู่ภายในบ้าน และซ่อมแซมจุดที่เสียหายอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง

ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทหารและชุมชน

การดำเนินการช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการช่วยเหลือจากภาครัฐเท่านั้น แต่ยังได้รับความร่วมมือจากชุมชนและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ที่ช่วยประสานงานและนำเสนอข้อมูลการช่วยเหลือที่ต้องการเป็นลำดับแรก เพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของประชาชน โดยการสนับสนุนจาก ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่มีความเชี่ยวชาญในการฟื้นฟูและบรรเทาสาธารณภัย เป็นการแสดงถึงความร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่างหน่วยงานรัฐและชุมชนท้องถิ่น

สร้างขวัญกำลังใจและคืนความหวังให้ผู้ประสบภัย

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่เพียงแค่การทำความสะอาดและซ่อมแซมบ้านเรือน แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งบางครอบครัวสูญเสียทั้งทรัพย์สินและบ้านเรือน การลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่จาก ศบภ.มทบ.37 นอกจากจะช่วยเหลือด้านแรงงานแล้ว ยังได้พูดคุยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฟื้นฟูบ้านเรือนและการดูแลสุขอนามัยหลังน้ำลด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่อาจมาจากสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด

นางภัณฑิลา มูลเมืองคำ หนึ่งในผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือกล่าวว่า “รู้สึกซาบซึ้งและดีใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทหารและชุมชน ทุกคนเข้ามาช่วยกันทำความสะอาด ซ่อมแซมบ้าน และให้กำลังใจ ทำให้มีกำลังใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่ะ”

มุ่งมั่นฟื้นฟูและเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในอนาคต

นายสมจิตร เปี่ยมเปรมสุข อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การซ่อมแซมและฟื้นฟู แต่ยังมีการวางแผนการป้องกันและการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในอนาคต ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ทาง วสท. จะทำการสำรวจและออกแบบระบบป้องกันน้ำท่วมเพิ่มเติมเพื่อให้ชุมชนสามารถป้องกันและลดผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน

จากความช่วยเหลือครั้งนี้ ทำให้เห็นถึงความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานราชการ ภาคประชาชน และชุมชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูบ้านเรือนและสภาพแวดล้อม นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและความสามัคคีในชุมชน ทำให้การช่วยเหลือครั้งนี้ไม่เพียงแค่การซ่อมแซมบ้านเรือนเท่านั้น แต่ยังเป็นการฟื้นฟูจิตใจและสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัลพัฒนา ส่งมอบของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) นำโดยนายสายัณห์ นักบุญ ผู้อำนวยการ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารและอาสาสมัครจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ได้ร่วมกันมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สิ่งของที่มอบประกอบไปด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม นมสำหรับเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผ้าอนามัย ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ยาสีฟัน และของใช้จำเป็นอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท

การมอบสิ่งของครั้งนี้มี พล.ต. อนุมาศ พินิจชอบ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย และ พ.อ.ณัฐวุฒิ ดวงจรัส เสนาธิการกองบัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งต่อสิ่งของเหล่านี้ไปยังประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว

การสนับสนุนในครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งได้ร่วมมือกับกองทัพไทยในการช่วยเหลือและฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI EDITORIAL

‘ช่างเบน’ กับการให้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด จิตอาสาฟิ้นฟูล้างโคลนในบ้านไม่คิดค่าแรง

 

หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ซึ่งถือเป็นอุทกภัยที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างจำนวนมาก โดยมีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัตินี้ นอกจากนั้น มวลน้ำยังไหลทะลักเข้าสู่ตัวเมืองเชียงราย แม้ว่าระดับน้ำจะลดลงแล้ว แต่การฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำท่วมยังคงต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีดินโคลนสะสมอยู่ในบ้านเรือนและบริเวณโดยรอบ ทำให้ชาวบ้านต้องลงแรงทำความสะอาดเองด้วยความลำบาก

สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์ ได้สัมภาษณ์ครอบครัวจิตอาสาที่เข้ามาช่วยเหลือในพื้นที่ พี่เบน คุณสุวิชา ไชยเลิศ วัย 39 ปี พร้อมภรรยา คุณสิทธิชยา สุกฤติยานันท์ (เอ๋) วัย 40 ปี และลูกชายสองคน ด.ช.ตปัสวิน ไชยเลิศ (โมโน) วัย 7 ปี และ ด.ช.ฌานิน ไชยเลิศ (โมนิน) วัย 6 เดือน บ้านของ พี่เบน คุณสุวิชา อยู่ในบริเวณที่น้ำท่วมไม่ถึง แต่ชุมชนรอบข้างได้รับความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากน้ำท่วมและดินโคลนที่เข้าท่วมบ้านเรือนของผู้ประสบภัย

 พี่เบน คุณสุวิชา เล่าว่า เขาและภรรยาได้คุยกันว่าจะช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างไร โดยเริ่มต้นจากการนำเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงที่มีอยู่มาใช้ในการทำความสะอาดบ้านของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมหนัก ในวันแรกมีเพียงเขาและภรรยาเข้าร่วมทำความสะอาด แต่หลังจากนั้นก็ได้มีอาสาสมัครเข้าร่วมเพิ่มเติม จนมีสมาชิกกลุ่มมากถึง 8 คนในบางวัน ซึ่งทุกคนที่เข้ามาร่วมทำงานก็ทำด้วยใจ โดยไม่ขอรับเงินหรือสิ่งของตอบแทน กลุ่มนี้เป็นกลุ่มจิตอาสาที่มีอุดมคติที่ชัดเจนว่าจะไม่รับเงินจากการช่วยเหลือ แต่หากมีผู้ใจบุญที่ต้องการสนับสนุน พวกเขาขอเป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดแทน เช่น เครื่องฉีดน้ำ แปรงขัดพื้น ผงซักฟอก และไม้กวาด เพื่อให้สามารถใช้ในการช่วยเหลือคนอื่นได้ต่อไป
 

พี่เบน คุณสุวิชา กล่าวต่อว่า ตอนนี้พวกเขาได้เน้นช่วยเหลือ ‘เฉพาะในตัวอำเภอเมืองเชียงราย’ โดยช่วยกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือก่อน เช่น ผู้สูงอายุและครอบครัวที่ไม่สามารถทำความสะอาดบ้านเองได้ พวกเขาใช้เครื่องฉีดน้ำในการล้างดินโคลนออกจากบ้าน และถอดเฟอร์นิเจอร์ที่ผุพังออก ทั้งนี้ การดำเนินงานขึ้นอยู่กับขนาดและสภาพของพื้นที่เป็นหลัก หากชาวบ้านต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม หรือคนไหนที่อยากจ้างช่างต่อเติมที่มีจิตอาสาสามารถติดต่อผ่านไลน์ไอดี Suvicha.cr ได้โดยตรง

 

วิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังทำให้เห็นถึงน้ำใจของจิตอาสาจากทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยเหลือโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แม้ว่าหลายคนจะประสบกับความลำบากเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนร่วมชุมชน เจ้าของบ้านหลายคนที่ได้รับการช่วยเหลือต่างแสดงความขอบคุณด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นสิ่งตอบแทนที่มีค่าสำหรับจิตอาสาเหล่านี้

การช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในจังหวัดเชียงรายยังคงดำเนินต่อไป ทั้งในตัวเมืองและชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

กรุงเทพฯ ส่งรถดูดโคลนช่วยเหลือฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงราย

 

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถดูดโคลนของกรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดเชียงราย โดยมีนายสุราษฎร์ เจริญชัยสกุล ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ และนายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย พร้อมด้วยผู้บริหารจากสำนักการโยธา สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี ณ หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง

การส่งทีมงานครั้งนี้เป็นไปตามคำสั่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้สั่งการให้มีการประสานงานกับจังหวัดเชียงราย เพื่อส่งความช่วยเหลือในภารกิจสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยในเบื้องต้น ได้ส่งข้าราชการ 3 คน (จากสำนักการระบายน้ำ 1 คน และกองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง 2 คน) พร้อมด้วยลูกจ้างจำนวน 23 คน ยานพาหนะ 7 คัน ประกอบด้วย รถดูดโคลนขนาดความจุ 14 ลูกบาศก์เมตร 2 คัน, รถตรวจการณ์ 1 คัน, รถหน่วยซ่อมเคลื่อนที่เร็ว (BEST) 1 คัน, รถบรรทุกติดตั้งเครนขนาด 65 ตัน 1 คัน, รถไฟส่องสว่าง 1 คัน และรถตู้ 12 ที่นั่ง 1 คัน

พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ส่งทีมงานล่วงหน้าไปประเมินสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และได้รับการประสานจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายว่ามีความจำเป็นต้องการรถดูดโคลนเลนเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ซึ่งกรุงเทพมหานครมีรถดูดโคลนเลนทั้งหมด 6 คัน โดยในครั้งนี้ได้ส่งรถไปช่วยสนับสนุนจำนวน 2 คัน โดยอีก 4 คัน ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ในครั้งนี้ กรุงเทพมหานครยังได้ส่งรถหน่วยซ่อมเคลื่อนที่เร็ว (BEST) ของกองโรงงานช่างกล รวมถึงรถบรรทุกติดตั้งเครน เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับเครื่องกลหนัก และรถไฟส่องสว่าง โดยทีมงานทั้งหมดจะเดินทางไปยังพื้นที่ในอำเภอแม่สาย 1 คัน และอำเภอเมืองเชียงราย 1 คัน ซึ่งการดำเนินงานนี้จะเน้นการช่วยเหลือในการดูดโคลนที่อุดตันในท่อระบายน้ำและตามถนนซอยที่กีดขวางการระบายน้ำ

ปลัดกรุงเทพมหานครยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กรุงเทพมหานครได้เปิดรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคจากประชาชนในสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยรับบริจาคถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ และจะทยอยส่งสิ่งของไปยังพื้นที่ประสบภัยในจังหวัดเชียงรายหรือพื้นที่อื่นๆ ที่ยังต้องการความช่วยเหลือ

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังเน้นย้ำว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการดูแลเรื่องโคลนและน้ำท่วม แต่ยังเป็นการฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ หน่วยงานทุกภาคส่วนของกรุงเทพมหานครพร้อมที่จะส่งกำลังใจและความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้โดยเร็ว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News