เอกสารการแพทย์เผยความจริงเกี่ยวกับเพศของ Imane Khelif นักมวยหญิงผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิก
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 Imane Khelif นักมวยหญิงจากแอลจีเรีย ซึ่งเคยได้รับเหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีส กลายเป็นศูนย์กลางของกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งหลังมีรายงานทางการแพทย์รั่วไหลออกมา เผยให้เห็นว่า Khelif มีความผิดปกติทางเพศตามข้อมูลของผู้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศส Djaffar Ait Aoudia ซึ่งระบุว่าเธอเป็นเพศชายทางชีวภาพ
เปิดโปงปัญหาความเป็นธรรมในวงการมวยหญิง
Imane Khelif เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนและหน่วยงานกำกับการแข่งขันหลายครั้งเกี่ยวกับเพศของเธอ โดยเฉพาะหลังจากการแข่งขันโอลิมปิกที่ปารีส 2024 ที่เธอได้คว้าเหรียญทองจากการแข่งขันมวยหญิง การปรากฏตัวของเธอในฐานะนักมวยหญิงที่แข็งแกร่งและเอาชนะคู่ต่อสู้ได้หลายครั้งนั้น ได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ผู้ที่มองว่าเธอควรจะแข่งขันในหมวดหมู่เพศชาย
รายงานทางการแพทย์ยืนยันปัญหาทางพัฒนาการเพศ
รายงานจากผู้สื่อข่าวชาวฝรั่งเศสเผยว่าเขาได้เข้าถึงเอกสารทางการแพทย์ของ Khelif ซึ่งแสดงว่าเธอมีภาวะ “5-alpha reductase deficiency” ซึ่งเป็นความผิดปกติทางพัฒนาการเพศที่พบในเพศชาย ทำให้เธอมีลักษณะทางกายภาพที่สอดคล้องกับเพศชาย ข้อมูลนี้ยิ่งเสริมกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเธอไม่ควรแข่งขันในกลุ่มมวยหญิง
ประธาน IBA เรียกร้องให้ประธาน IOC ขอโทษต่อกรณีอื้อฉาวนี้
นาย Umar Kremlev ประธานสมาคมมวยสากล (IBA) ได้เรียกร้องให้ Thomas Bach ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ขอโทษต่อสาธารณชนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า IOC ได้ละเมิดกฎของวงการกีฬาด้วยการอนุมัติให้นักมวยชายแข่งขันกับนักมวยหญิงในปี 2024 ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อวงการมวยสากลและความเป็นธรรมของนักมวยหญิง
ประธาน IBA ย้ำถึงการปกป้องความเสมอภาคในวงการมวย
Umar Kremlev เน้นย้ำว่า IBA ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทางเพศและความยุติธรรมในการแข่งขัน เขาเรียกร้องให้ Thomas Bach และทีมงาน IOC ขอโทษต่อชุมชนมวยทั่วโลก รวมถึงนักมวยหญิงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ โดยกล่าวว่า “Thomas Bach ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนี้ และทุกคนในสมาคมมวยสากลกำลังรอคอยคำขอโทษจากเขา”
ปัญหาการตัดสินคุณสมบัติของนักกีฬาจาก IOC
กรณีของ Imane Khelif และ Lin Yu-ting นักมวยจากไต้หวัน เคยถูกตัดสิทธิ์โดยสมาคมมวยสากลในการแข่งขันมวยหญิงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม IOC กลับอนุมัติให้พวกเธอสามารถเข้าแข่งขันได้ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการถกเถียงถึงความเหมาะสมและการตัดสินใจของคณะกรรมการโอลิมปิก