Categories
NEWS UPDATE

นิด้าโพลชี้! กองทัพไทยได้รับความไว้วางใจสูงสุด ปมขัดแย้งกัมพูชา

นิด้าโพลเผยคนไทย “รักสงบแต่ไม่ขลาด” กองทัพยังได้รับความไว้วางใจสูงสุด ปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา สะท้อนภาพความเชื่อมั่นต่อสถาบันหลักและระดับชาตินิยมในสังคม

ประเทศไทย, 15 มิถุนายน 2568 – ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจล่าสุดเรื่อง “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” สะท้อนความรู้สึก ความไว้วางใจ และความพอใจของประชาชนต่อบทบาทของภาคส่วนต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา ผลสำรวจดังกล่าวดำเนินการระหว่างวันที่ 9-11 มิถุนายน 2568 ด้วยกลุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่างทั่วประเทศ ผ่านวิธีสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) และสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ กำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น 97.0%

กองทัพ” ยังคงเป็นที่พึ่งหลัก ประชาชนให้ความไว้วางใจสูงสุด

ผลสำรวจในประเด็น “ความไว้วางใจในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ” พบว่ากองทัพได้รับความไว้วางใจสูงสุด โดยร้อยละ 62.52 ระบุว่า “ไว้วางใจมาก” รองลงมาร้อยละ 23.74 “ค่อนข้างไว้วางใจ” ขณะที่ “ไม่ค่อยไว้วางใจ” และ “ไม่ไว้วางใจเลย” อยู่ที่ร้อยละ 8.85 และ 4.89 ตามลำดับ ส่วนรัฐบาลไทยมีสัดส่วนความไม่ไว้วางใจสูงถึงร้อยละ 37.48 “ไม่ไว้วางใจเลย” และร้อยละ 31.68 “ไม่ค่อยไว้วางใจ” ขณะที่ร้อยละ 18.85 “ค่อนข้างไว้วางใจ” และร้อยละ 11.99 “ไว้วางใจมาก” กระทรวงการต่างประเทศเองก็มีแนวโน้มคล้ายกัน โดยร้อยละ 35.42 “ไม่ค่อยไว้วางใจ” และร้อยละ 30.76 “ไม่ไว้วางใจเลย” สะท้อนความรู้สึกสงสัยและขาดความมั่นใจในกลไกบริหารจัดการด้านการทูต

ความพอใจต่อการทำงาน “กองทัพ” โดดเด่น ขณะที่รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศยังเผชิญความท้าทาย

เมื่อถามถึง “ความพอใจต่อบทบาท” ของแต่ละภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา พบว่า กองทัพได้รับคะแนน “พอใจมาก” ร้อยละ 61.76 “ค่อนข้างพอใจ” ร้อยละ 23.97 ส่วนกลุ่ม “ไม่ค่อยพอใจ” และ “ไม่พอใจเลย” รวมกันเพียงร้อยละ 14.27 สำหรับรัฐบาลไทยและกระทรวงการต่างประเทศยังคงต้องเผชิญความท้าทายในการสร้างความเชื่อมั่นจากประชาชน เนื่องจากร้อยละ 37.94 “ไม่พอใจเลย” กับบทบาทของรัฐบาลและร้อยละ 30.99 “ไม่ค่อยพอใจ” ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศร้อยละ 35.73 “ไม่ค่อยพอใจ” และร้อยละ 29.00 “ไม่พอใจเลย”

คนไทยส่วนใหญ่ “สนับสนุนหนักแน่น” แนวคิดไทยรักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

สำหรับทัศนคติต่อข้อความในเพลงชาติไทย “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ร้อยละ 69.39 ของกลุ่มตัวอย่างสนับสนุนมาก ร้อยละ 19.24 “ค่อนข้างสนับสนุน” ขณะที่กลุ่มที่ไม่ค่อยสนับสนุนและไม่สนับสนุนเลยมีเพียงร้อยละ 7.02 และ 3.05 ตามลำดับ นี่คือการสะท้อน “ใจรักชาติ” และความพร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติในมุมมองประชาชน

แนวคิด “ชาตินิยม” ในประชากรไทย ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์

เมื่อลงลึกถึงแนวคิด “ชาตินิยม” พบว่าร้อยละ 48.24 ระบุว่ามีความเป็นชาตินิยม “มาก” ขณะที่ร้อยละ 31.60 มองว่า “ขึ้นอยู่กับสถานการณ์” และร้อยละ 14.20 ระบุว่า “ค่อนข้างมีความเป็นชาตินิยม” สะท้อนถึงพลวัตในความคิดและพฤติกรรมทางสังคมของประชาชนที่พร้อมปรับตัวตามสภาพแวดล้อมและสถานการณ์โลก

โครงสร้างประชากร – สะท้อนมิติเชิงสังคมและเศรษฐกิจ

ลักษณะของกลุ่มตัวอย่างครั้งนี้มีความหลากหลายทั้งด้านภูมิภาค เพศ อายุ ศาสนา ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ สัดส่วนประชากรหญิง 52.06% ชาย 47.94% อาศัยอยู่ทุกภูมิภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (33.28%) ภาคเหนือ (17.79%) ภาคกลาง (18.70%) ภาคใต้ (13.82%) กรุงเทพฯ (8.55%) และภาคตะวันออก (7.86%) กลุ่มอายุหลากหลายโดยร้อยละ 26.34 อยู่ในช่วง 46-59 ปี รองลงมา 60 ปีขึ้นไป (25.80%) กลุ่มวัยแรงงาน (18-45 ปี) รวมกว่า 47.66% สะท้อนมุมมองข้ามช่วงวัย ขณะเดียวกัน ระดับการศึกษาหลักอยู่ที่มัธยมศึกษา (38.32%) และปริญญาตรี (31.60%)

กลุ่มอาชีพและรายได้กระจายหลากหลาย ได้แก่ พนักงานเอกชน เจ้าของธุรกิจ อาชีพอิสระ เกษตรกร/ประมง รับจ้างทั่วไป และนักเรียน/นักศึกษา โดยกว่า 20% ไม่มีรายได้ และ 31.45% มีรายได้ 10,001-20,000 บาทต่อเดือน

ข้อเท็จจริงที่ซ่อนอยู่ในตัวเลข

ผลสำรวจนี้ชี้ชัดถึงความเชื่อมั่นของประชาชนที่ยังคงมอบให้กับกองทัพในฐานะสถาบันหลักของประเทศ แม้ว่าบทบาทของรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศจะถูกตั้งคำถามด้านความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความคิดชาตินิยมและการสนับสนุนหลักคิด “รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด” ยังคงแน่นแฟ้นในสังคมไทย สะท้อนถึงทัศนคติและจุดยืนต่อสถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาค การวิเคราะห์เชิงลึกจากนิด้าโพลจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสะท้อนภาพความรู้สึกของสังคมที่มีต่อปัจจัยด้านความมั่นคง และความคาดหวังต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
  • รายงานผลสำรวจ 15 มิถุนายน 2568
  • ข้อมูลประกอบจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ
  • รายงานสรุปประเด็นข่าวจาก “นิด้าโพล”
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

คืบหน้าการช่วยเหลือน้ำท่วมในแม่สาย สายลมจอย-บ้านไม้ลุงขนยังไม่ 100%

สถานการณ์และความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอแม่สาย

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 เวลา 17.30 น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยมีผจก.ชร. พล.ต.บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผบ.มทบ.37 เป็นประธานการประชุม ร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การดำเนินงานของกรมการทหารช่าง

กรมการทหารช่างได้ดำเนินการตรวจสอบความแข็งแรงของบิ๊กแบ็คและลำน้ำสาย 21 จุด พบว่าสถานที่ทั้งหมดแข็งแรงปกติ นอกจากนี้ยังได้ทำการซ่อมแซมและปรับพื้นที่วัด โรงเรียน และบ้านคนยากไร้ ผลการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

การฟื้นฟูบ้านพักอาศัยโดยหน่วยงานต่างๆ

หน่วยงานหลายแห่งเข้าร่วมในการฟื้นฟูบ้านพักอาศัย โดยกรมทรายได้ฟื้นฟูบ้านในชุมชนหัวฝายและตลาดสายลมจอย โดยความก้าวหน้าถึง 100% และ 60.61% ตามลำดับ ส่วนทบ.ดำเนินการฟื้นฟูบ้านไม้ลุงขนถึง 80.95% และกองทัพไทยฟื้นฟูบ้านเกาะทรายได้ถึง 69.05%

ความคืบหน้าของมท.และหน่วยงานร่วม

มท.ชุด ชป.อส.ได้ฟื้นฟูบ้านเพิ่มเติม 3 ครัวเรือน โดยบ้านเหมืองแดงและบ้านเหมืองแดงใต้มีความก้าวหน้าถึง 98.97% และ 100% ตามลำดับ ความคืบหน้าทั่วโซนมหาดไทยอยู่ที่ 99.36%

การสนับสนุนจากสภาแม่สายและส่วนราชการอื่นๆ

สภาแม่สายได้วางกำลังพลอำนวยสะดวกในการขนย้ายดินออกจากพื้นที่ประสบภัย ส่วนประปาเร่งซ่อมแซมระบบประปาและตรวจสภาพในพื้นที่ที่ฟื้นฟูแล้ว ไฟฟ้าก็ได้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านที่ฟื้นฟูสภาพเรียบร้อยแล้ว

ความร่วมมือของกองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กองทัพเรือร่วมกับมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย และหน่วยงานอื่นๆ เร่งเคลียร์พื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมและตลาดสายลมจอย โดยใช้เครื่องมือและกำลังพลในการขุดตักดินออกจากบ้านและร้านค้า เทศบาลเวียงพางคำได้นำรถแทรกเตอร์มาปรับเกรดดันดินโคลนที่ติดถนนเพื่อเปิดเส้นทางเข้าบ้านถ้ำผาจม

ความสำเร็จในการฟื้นฟูพื้นที่และการกลับมาใช้ชีวิตประจำวัน

การฟื้นฟูพื้นที่ชุมชนถ้ำผาจมและตลาดสายลมจอยมีความคืบหน้าอย่างมาก ถนนเข้าออกในหมู่บ้านเริ่มเดินทางสัญจรได้ และมีการจ่ายกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาให้กับบ้านที่พร้อมแล้ว น.ส. ภัคสิริพัชร์ พิสิษชาโนดม ชาวบ้านบ้านถ้ำผาจม ได้กล่าวว่าชาวบ้านเริ่มทยอยกลับเข้าบ้านเรือน ขอบคุณเจ้าหน้าที่และจิตอาสาทุกคน

ความต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากชาวบ้าน

ชาวบ้านขอความช่วยเหลือในเรื่องเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม หม้อหุงข้าว เนื่องจากน้ำได้พัดพาสิ่งของบางส่วนไป ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านแทบจะไม่เหลือ และรถเข็นขายของถูกน้ำพัดพาไป ทำให้ชาวบ้านลำบากมาก

เป้าหมายการเคลียร์พื้นที่ประสบภัยในเดือนตุลาคม

ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มคาดว่าจะเคลียร์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในอำเภอแม่สายได้ทั้งหมดไม่เกินเดือนตุลาคมนี้

การร่วมมือกันอย่างเต็มที่ของทุกหน่วยงานทำให้การฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ชาวบ้านในพื้นที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นคงและปลอดภัยอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News