Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

อบจ.เชียงรายผนึกกรมวิทย์ฯ หยุดมะเร็งปากมดลูก ด้วย HPV DNA Test

อบจ.เชียงรายเดินหน้ารณรงค์ “ฮ่วมแฮง ฮ่วมใจ๋ ดูแลแม่ญิงเจียงฮาย หยุดมะเร็งปากมดลูก” คิกออฟตรวจคัดกรองด้วยเทคโนโลยี HPV DNA Test สร้างสุขภาวะหญิงไทย

เชียงราย, 17 มิถุนายน 2568 – ในยุคที่ภัยสุขภาพสำหรับผู้หญิงยังคงเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญของสังคมไทย “มะเร็งปากมดลูก” ถือเป็นโรคร้ายแรงที่พรากชีวิตหญิงไทยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แม้เทคโนโลยีทางการแพทย์จะรุดหน้าแต่ความตระหนักรู้และการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองยังไม่ครอบคลุมทั่วถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) จึงเดินหน้ายกระดับสุขภาพหญิงไทย ด้วยการเปิดตัวโครงการ “ฮ่วมแฮง ฮ่วมใจ๋ ดูแลแม่ญิงเจียงฮาย หยุดมะเร็งปากมดลูก” (FINDING HPV STOP CERVICAL CANCER) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

จุดเริ่มต้นความร่วมมือ รู้ก่อน รักษาก่อน ปลอดภัย

โครงการนี้เริ่มต้นด้วยความร่วมมือระหว่างอบจ.เชียงราย และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การนำของนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ที่ให้การต้อนรับนายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมคณะ ในกิจกรรม Kick off พร้อมด้วยการอบรมเชิงปฏิบัติการแก่ทีมสาธารณสุขระดับพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการรณรงค์ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทั่วทั้งจังหวัดเชียงราย

จุดเด่นของกิจกรรมในครั้งนี้อยู่ที่การแนะนำวิธีตรวจคัดกรองด้วย HPV DNA Test เทคโนโลยีใหม่ที่มีความแม่นยำสูงกว่าการตรวจแบบเดิม (Pap Smear) สามารถตรวจจับเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยงสูงทั้ง 14 สายพันธุ์ ที่เป็นต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูกได้อย่างชัดเจน และสามารถเก็บตัวอย่างด้วยตนเองที่บ้าน สะดวก ปลอดภัย และลดความเขินอายในการรับบริการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับผู้หญิงไทยอายุ 30-60 ปี ทุกสิทธิ์ประกันสุขภาพ รวมถึงหญิงที่มีอายุ 15-29 ปี ในกลุ่มเสี่ยงสูง

รณรงค์สร้างความมั่นใจ “เปลี่ยนความเขินอาย เป็นความมั่นใจ”

ภายในงานมีผู้เข้าร่วมกว่า 400 คน ทั้งเจ้าหน้าที่ อสม. และตัวแทนชุมชน โดยได้รับฟังข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งปากมดลูก อธิบายถึงแนวทาง “รู้เร็ว รักษาเร็ว โอกาสหายสูง” ยิ่งพบเร็ว โอกาสหายขาดยิ่งมาก และเน้นให้ผู้หญิงเปลี่ยนความกังวลใจ ความกลัว หรือความเขินอายในการตรวจ เป็นพลังใจในการดูแลสุขภาพตัวเอง โดยสโลแกนประจำโครงการ “เปลี่ยนความเขินอาย เป็นความมั่นใจ แม่นยำ ตรวจง่าย ได้ผลไว” ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น

นายก อบจ.เชียงราย ยังเชิญชวนสตรีในจังหวัด เข้ารับชุดตรวจ HPV DNA Test ได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน เพราะสามารถตรวจเพียงครั้งเดียว แต่ครอบคลุมถึง 14 สายพันธุ์หลัก ลดความยุ่งยากและไม่ต้องขึ้นขาหยั่งเหมือนในอดีต

ขยายผลเฝ้าระวังและป้องกัน สร้างต้นแบบ “อยู่ที่ไหนก็ใกล้หมอ”

การดำเนินโครงการครั้งนี้ไม่เพียงตอบโจทย์นโยบาย “อยู่ที่ไหนก็ใกล้หมอ (โฮงยาใกล้บ้าน Plus)” เท่านั้น แต่ยังเดินหน้าขยายบริการครอบคลุมทุกอำเภอในเชียงราย รวมถึงหมู่บ้านและชุมชนห่างไกล ผ่านเครือข่ายอสม.ที่ได้รับการอบรมอย่างเข้มข้น เพื่อให้สามารถให้ข้อมูล รณรงค์ และติดตามผลกลุ่มเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

ที่สำคัญ กลไกการขับเคลื่อนนี้ ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จึงไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย และยังได้รับความร่วมมือจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่งทั่วประเทศ ที่ร่วมพัฒนารูปแบบคัดกรองเชิงรุกและวางระบบเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพอย่างเป็นระบบ

วิเคราะห์ผลลัพธ์และทิศทางอนาคต

การเปิดตัวโครงการในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกในหญิงไทย ผ่านการรณรงค์เชิงรุกและขยายการเข้าถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ปูรากฐานระบบเฝ้าระวังเชิงรุกอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังสร้างต้นแบบการดูแลสุขภาพที่สามารถนำไปขยายผลในระดับประเทศ

ความสำเร็จของโครงการในระยะยาวขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างภาครัฐ หน่วยบริการสุขภาพในท้องถิ่น เครือข่าย อสม. และความตื่นตัวของหญิงไทยในการดูแลสุขภาพตนเอง ยิ่งมีการขยายผลไปยังกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ห่างไกลมากเท่าใด โอกาสที่จะหยุดวงจรมะเร็งปากมดลูกในไทยก็ยิ่งใกล้ความจริงมากขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
  • สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
  • โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“สันติ” หนุนศูนย์วิทย์ฯเชียงราย ด้านการวินิจฉัยสุขภาพแม่และเด็กแบบครบวงจร

 

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม  นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารลงพื้นที่ตรวจราชการก่อนการประชุม ครม. นอกสถานที่พื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2  ตามที่รัฐบาลมีนโยบายในการสร้างมูลค่าเพิ่ม พืชสมุนไพร เพื่อเพิ่มศักยภาพสินค้าเกษตรไทยตามเป้าหมาย 13 Quick Winของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อส่งเสริมและพัฒนาประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และเป็นศูนย์กลางการแพทย์มูลค่าสูงในภูมิภาคอาเซียน   ยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพ  เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชน

โดย นายสันติ  ยังเป็นประธานเปิด โครงการถ่ายทอดองค์ความรู้วิทยาศาสตร์การแพทย์สู่ชุมชน พร้อมเยี่ยมชมบูธนิทรรศการผลการดำเนินงานของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย และเครือข่าย อาทิ การวินิจฉัยสุขภาพแม่และเด็ก การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธี HPV DNA Test การตรวจสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช การพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP/SME การพัฒนาสมุนไพร และมอบผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงแก่ อสม. จำนวน 1,000 ชุด โดยมีนพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย อสม. ร่วมต้อนรับ ที่ โรงแรมเฮอริเทจ อำเภอเมือง จ.เชียงราย

 

หนุนศูนย์วิทย์เชียงราย ความเป็นเลิศตรวจสารเคมีป้องกันศัตรูพืช  

นายสันติ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีหน่วยงานส่วนภูมิภาคในพื้นที่เชียงรายคือ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย ซึ่งรับผิดชอบการให้บริการตรวจวิเคราะห์วิจัยในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 ประกอบไปด้วย จ.เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน มีการดำเนินงานที่สำคัญที่สนับสนุนงานสาธารณสุขหลายเรื่อง ทั้งการพัฒนาอสม.ด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ชุมชน ซึ่งมีความรู้ในการใช้ชุดตรวจ การพัฒนาผู้ประกอบการชุมชนให้ได้มาตรฐาน

นอกจากนี้ ยังมีห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทั้งด้านโรคอุบัติใหม่อุบัติซ้ำ มีห้องปฏิบัติการตรวจวินิจฉัยตรวจคัดกรองทารกแรกเกิด สามารถตรวจคัดกรองโรคหายากจำนวน 40 โรค และด้านคุ้มครองผู้บริโภค มีห้องปฏิบัติการตรวจเฝ้าระวังสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชในผักผลไม้ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ได้ถึง 132 ชนิด

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเชียงรายมีด่านนำเข้าสินค้าหลายด่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด่านนำเข้าอาหารและยาเชียงของ มีมูลค่าการนำเข้าผักและผลไม้สดมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ซึ่งมีปริมาณนำเข้าปีละ 20,888 ตัน รองจากท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี  ดังนั้นเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคในประเทศไทย จึงพร้อมสนับสนุนให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย พัฒนาขีดความสามารถทางห้องปฏิบัติการให้ได้ 250 ชนิด และผลักดันเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการตรวจสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช และด้านการวินิจฉัยสุขภาพแม่และเด็กแบบครบวงจร ในเขตสุขภาพที่ 1 โซนภาคเหนือ

 

ตรวจยีนผิดปกติเด็กไทย 1.5 หมื่น พบผิดปกติ 2 ราย สงสัยโรคหายาก

ด้านนพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการตรวจโรคพันธุกรรมเมตาบอลิกในทารกแรกเกิด หรือโรคหายาก ในเขตสุขภาพที่ 1 ของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย ตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 – กุมภาพันธ์ 2567 จากเด็กไทยจำนวนทั้งหมด 15,056 ราย มีผลผิดปกติยืนยันเด็กไทยป่วยจำนวน 2 ราย เด็กต่างด้าวจำนวน 1 ราย และพบเด็กไทยสงสัยโรคหายากที่ไม่ได้อยู่ใน 40 โรค จำนวน 2 ราย ซึ่งได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการรักษาแล้ว ทั้งนี้แผนการพัฒนาในอนาคตมีการเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวินิจฉัยสุขภาพแม่และเด็กแบบครบวงจร โดยเพิ่มศักยภาพในการตรวจ ธาลัสซีเมียชนิด Beta mutation การตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์ด้วยวิธี Non-Invasive Prenatal Testing (NIPT) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจคัดกรองกลุ่มอาการดาวน์

ในส่วนการเฝ้าระวังความปลอดภัยของสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชตกค้าง มีแผนพัฒนาในปี 2568 ให้สามารถตรวจวิเคราะห์สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชจาก 132 ชนิด เป็น 250 ชนิด และรายงานผลภายใน 36 ชั่วโมง เพื่อให้ด่านนำเข้าอาหารและยานำผลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคภายในประเทศให้ได้บริโภคผักผลไม้ที่ปลอดภัยจากสารเคมีตกค้าง

 

รพ.แม่ใจ จ.พะเยา โดดเด่นแพทย์แผนไทย ผลิตสมุนไพรร่วมชุมชน

รมช.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในการตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลแม่ใจ จ.พะเยา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชุมชนขนาดกลาง จำนวนเตียงตามกรอบ 30 เตียง ให้บริการผู้ป่วยนอกเฉลี่ย 249 คนต่อวัน มีความโดดเด่นในการดำเนินงานการแพทย์แผนไทยและโรงงานผลิตสมุนไพร ที่ได้พัฒนางานด้านการผลิตยาสมุนไพรร่วมกับชุมชน ตั้งแต่ปี 2542 เพื่อผลิตยาสมุนไพรที่มีคุณภาพสำหรับใช้ในโรงพยาบาลและสถานบริการในเครือข่ายสาธารณสุขของ จ.พะเยา

พร้อมกับพัฒนาส่งเสริมเครือข่ายกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูก – ผลิตสมุนไพรใน อ.แม่ใจ และอำเภออื่น ๆ ของจังหวัดในการปลูก – ผลิตสมุนไพรที่ปลอดภัย มีคุณภาพ เป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ รวมถึงเป็นการผลิตวัตถุดิบในการผลิตยาสมุนไพรที่มีคุณภาพการผลิตยาสมุนไพรของโรงพยาบาลแม่ใจ ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตยาสมุนพรที่ดี จากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุขและได้รับมอบหมายให้ดำเนินการผลิตยาสมุนไพรสำหรับใช้ในระบบการรักษาผู้ป่วยของภาครัฐ ทั้งในระดับโรงพยาบาลและระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในเขตบริการสุขภาพ ที่ 1 โดยผลิตสมุนไพร จำนวนทั้งสิ้น 26 รายการ

 

ชูศูนย์สุขภาพแผนไทย รพ.แม่ใจ 

นอกจากนี้โรงพยาบาลแม่ใจ ยังดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศโดยให้บริการ “ศูนย์สุขภาพแผนไทย โรงพยาบาลแม่ใจ” และ”การนวดวิถีไทย และผลิตภัณฑ์สมุนไพร GMP ใช้วัตถุดิบจากชุมชนต้นน้ำกว้าน” ซึ่งเน้นการบริการด้านการนวดเชิงสุขภาพ และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้วัตถุดิบสมุนไพรจากพื้นที่ ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวทำให้โรงพยาบาลแม่ใจเป็นโรงพยาบาลและพื้นที่ต้นแบบด้านการส่งเสริมสุขภาพ (Health Literacy) และได้รับคัดเลือกเป็นพื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านผ่านมาตรฐานโรงพยาบาลส่งเสริมและสนับสนุนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ระดับดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังได้รางวัลชมเชยโรงงานผลิตยาสมุนไพรดีเด่นระดับชาติ ประเภทโรงพยาบาล

 

รพ.พะเยา เคลื่อนรพ.อัจฉริยะบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด

หลังจากนั้นได้ลงพื้นที่ไปยังโรงพยาบาลพะเยา เพื่อติดตามการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติด จ.พะเยา การดำเนินงานโรงพยาบาลอัจฉริยะรองรับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระบบการแพทย์ฉุกเฉินการช่วยเหลืออุบัติเหตุทางน้ำจังหวัดพะเยาและการดำเนินงานการป้องกัน และการแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News