Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

‘เชียงราย’ เตรียมจัดงานระดับนานาชาติ WORLD TEA & COFFEEEXPO 2024

 

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ที่อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง ไร่แม่ฟ้าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ แถลงข่าวการจัดงาน WORLD TEA & COFFEE EXPO 2024 โดยทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ผนึกกำลังความร่วมมือและหน่วยงานภาครัฐ-เอกชนจังหวัดเชียงราย สานต่อโครงการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสินค้าชุมชน ประกาศความพร้อมเตรียมจัดงาน WORLD TEA & COFFEE EXPO 2024 ในระหว่างวันที่ 28 – 30 กันยายน 2567 ณ หอปรัชญารัชกาลที่ 9 มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ภายใต้แนวคิด เชียงรายมีดี ชาดี กาแฟดี ตอกย้ำการเป็นจุดหมายปลายทาง Destination Branding ของการจัดงานไมซ์ (MICE) ด้านชาและกาแฟ ในระดับนานาชาติของจังหวัดเชียงราย 

พร้อมชูยุทธศาสตร์ความร่วมมือในทุกมิติเพื่อส่งเสริมระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เชื่อมโยงทุกห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) เพื่อสนับสนุนศักยภาพพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวด้านชา-กาแฟของภูมิภาคอาเซียน พบกับการรวมตัวครั้งสำคัญของเครือข่ายเกษตรกร นักวิชาการ ผู้ประกอบการ และนักลงทุนจากทั่วประเทศ ที่จะมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมอง ร่วมจัดนิทรรศการแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์จากชาและกาแฟ การประชุมนานาชาติ (Tea and Coffee International Symposium) โดยผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ รวมถึง กิจกรรมการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรชากาแฟ พร้อมค้นพบเส้นทางการท่องเที่ยวที่จะมอบประสบการณ์ครั้งใหม่ที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์บนเส้นทางสายไมซ์ ด้วยการนำเสนอมนต์เสน่ห์ความโดดเด่นแห่งอัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงราย ที่ครอบคลุมทั้งวิถีชีวิต อาหารการกิน ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ความงดงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และความครบครันของสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์รองรับกิจกรรมไมซ์ในทุกรูปแบบ

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า การจัดงาน WORLD TEA & COFFEE EXPO 2024 เป็นกิจกรรมต่อเนื่องของโครงการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสินค้าชุมชนของทีเส็บ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพ ยกระดับสินค้าชุมชนให้เป็นที่รู้จักและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดพื้นที่เป้าหมาย ผ่านกลไกการจัดงานประชุมและงานแสดงสินค้าหรือ MICE สำหรับจังหวัดเชียงราย นั้น ทีเส็บ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในฐานะของการเป็นแหล่งผลิตชาและกาแฟคุณภาพชั้นนำของประเทศ จึงได้มีแผนงานส่งเสริมการสร้างชื่อเสียงหรือ Destination Branding ตอกย้ำให้เชียงรายเป็นถิ่นของชาและกาแฟชั้นเลิศ โดยมีการดำเนินงานที่ครอบคลุมในทุกมิติเพื่อส่งเสริมระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้อต่อห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของอุตสาหกรรมชาและกาแฟ ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้แปรรูป ผู้ประกอบการ สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมทางการตลาดสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศ
 
สำหรับการจัดงาน WORLD TEA & COFFEE EXPO 2024 ประกอบไปด้วยกิจกรรมทั้งการประชุมระดับประเทศและระดับนานาชาติ เพื่อแสวงหาแนวทางความร่วมมือและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจของผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ชา-กาแฟ กิจกรรมการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันต่อยอด การลงทุน รวมถึงการจัดนิทรรศการการจัดแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์จากชาและกาแฟคุณภาพของจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเครือข่าย ตลอดจนการจัดกิจกรรมเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ของจังหวัดเชียงราย ด้วยการนำเสนออัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงรายที่ครอบคลุมทั้งด้านวิถีชีวิต อาหารการกิน ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ความงดงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ผสมผสานกับความโดดเด่นของการเป็นแหล่งผลิตชาและกาแฟชั้นเลิศ ซึ่งนับเป็นการนำแพลตฟอร์ม MICE มาบูรณาการเชื่อมโยงการทำงานเพื่อเพิ่มศักยภาพของจังหวัดเชียงรายให้มากยิ่งขึ้น
 
สำหรับการจัดงาน WORLD TEA&COFFEE EXPO 2024 ภายใต้แนวคิด เชียงรายมีดี ชาดี กาแฟดี ซึ่งกำหนดจัดขึ้นใน ระหว่างวันที่ 28 – 30 กันยายน 2567 ณ หอปรัชญารัชกาลที่ 9 มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ซึ่งจะมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการและการจัดแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟ จากเกษตรกรและผู้ประกอบการ รวมกว่า 50 ราย ที่จะมาร่วมนำเสนอความโดดเด่นของชาและกาแฟของไทย การประชุมเสวนาจากเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้เชี่ยวชาญที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองแนวทาง การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมชากาแฟของประเทศไทย รวมถึงการจัดอบรมเวิร์คช้อปพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในมิติต่างๆ
 
การประชุมนานาชาติ (Tea and Coffee International Symposium) เพื่อตอกย้ำศักยภาพของจังหวัดเชียงรายในการเป็นจุดหมายปลายทางของการจัดงานไมซ์ (MICE)ด้านชาและกาแฟในระดับนานาชาติและขยายเครือข่ายความร่วมมือในระดับภูมิภาค กิจกรรมเจรจาความร่วมมือทางธุรกิจ (Business Matching) เพื่อแสวงหาแนวทางการสร้างโอกาส ต่อยอดพัฒนาห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain)เชื่อมโยงสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและพัฒนาช่องทางลงทุน กิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ที่จะมอบประสบการณ์ครั้งใหม่ที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ บนเส้นทางสายไมซ์ ด้วยการนำเสนอความโดดเด่นแห่งอัตลักษณ์ของจังหวัดเชียงรายและความครบครันของสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับกิจกรรมไมซ์ในทุกรูปแบบ
 
อย่างไรก็ตาม ทีเส็บ มุ่งหวังให้การจัดงาน WORLD TEA & COFFEE EXPO 2024 ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะตอกย้ำสร้างการรับรู้ศักยภาพของจังหวัดเชียงรายและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ของการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมชาและกาแฟ ไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติผ่านอุตสาหกรรมไมซ์ รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างเครือข่ายทางวิชาการและทางธุรกิจ การขยายกลุ่มเป้าหมายทั้งการปลูก การวิจัย การแปรรูป การค้าและการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมทั้งยังมุ่งสร้างความเข้าใจและความตระหนักของการบูรณการความร่วมมือกันทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้จังหวัดเชียงราย รวมถึงกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวด้านชาและกาแฟ ของภูมิภาคอาเชียนต่อไป
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
ECONOMY

กระตุ้นนักเดินทาง ดันเชียงใหม่ เชียงราย จัดประชุมจุดเด่นภูมิศาสตร์ ปลูกชาและกาแฟชั้นเลิศ

 

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2566 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งเสริมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) ซึ่งขยายตัวต่อเนื่อง ครึ่งปีแรก 2566 สร้างรายได้แล้ว 2.5 หมื่นล้านบาท พร้อมส่งเสริมแผนงานบูรณาการผลักดันอุตสาหกรรม MICE ให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางจัดการประชุมใน 4 ภูมิภาค ด้วยการใช้จุดเด่นด้านอาหาร วัฒนธรรม และความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ดึงดูดนักเดินทาง MICE สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เผยอัตราการเติบโตของนักเดินทาง MICE ในไทย ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากในช่วงครึ่งปีงบประมาณ 2566 มีจำนวนนักเดินทาง MICE ในประเทศ จำนวน 10,974,350 คน สร้างรายได้กว่า 25,016 ล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่า สิ้นปีงบประมาณ 2566 นี้ จะมีจำนวนนักเดินทาง MICE ในประเทศ รวม 17,790,000 คน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 59,000 ล้านบาท 

TCEB ได้เตรียมแผนงานบูรณาการผลักดันอุตสาหกรรม MICE ภายใต้แนวคิด “มิติไมซ์ มิติใหม่ ไมซ์ดีดีที่เมืองไทย” ซึ่งได้กำหนดโครงสร้างฝ่ายงานส่งเสริม MICE ในประเทศ 360 องศา ให้ตอบโจทย์กลุ่มนักเดินทาง MICE ทั้งการพัฒนาสินค้าบริการ พื้นที่ สถานที่จัดงาน ผู้ประกอบการ ชุมชน และเครือข่ายในพื้นที่ รวมถึงการพัฒนาแคมเปญส่งเสริมการตลาด สนับสนุน การสื่อสารการตลาดครบวงจร ซึ่งในปี 2566 นี้ TCEB เน้นย้ำการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการผ่านสำนักงาน MICE ใน 4 ภูมิภาคของไทย ซึ่งมีการดำเนินการต่าง ๆ ดังนี้

– ภาคเหนือ นำเสนอการเป็นจุดหมายปลายทางด้านวัฒนธรรม แหล่งอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ส่งเสริมการจัดงานประชุมทางด้านชาและกาแฟระดับนานาชาติ เช่น เชียงใหม่ และเชียงราย โดยอาศัยจุดเด่นทางภูมิศาสตร์ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกชาและกาแฟชั้นเลิศ
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นตำแหน่งที่ตั้งเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ประตูสู่การท่องเที่ยวชายแดนและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยออกแบบเส้นทาง MICE “อีสานไมซ์ ไร้คาร์บอน” (ISAN MICE Neutral Carbon Routing) จัดทำโปรแกรมการเดินทาง MICE 3 วัน 2 คืน ตลอดทริปจะมีการวัดค่าการปล่อยคาร์บอน เพื่อคำนวณหาจำนวนการปล่อยคาร์บอนต่อคนต่อทริป
– ภาคกลาง ถือเป็นศูนย์กลางการจัดงาน MICE ระดับนานาชาติของประเทศ โดยมีงานใหญ่เตรียมจัดงานมากมาย เช่น งาน GMS Logistic งาน CVTEC MICE Business Roadshow 2023 และงาน EEC Cluster Fair เพื่อส่งเสริมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมทั้งจะขยายพื้นที่ศักยภาพไปยังจังหวัดอื่น ๆ ในภาค เช่น จังหวัดกาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ 
– ภาคใต้ ส่งเสริมอัตลักษณ์ภาคใต้กับโครงการพัฒนาสินค้าและบริการของอุตสาหกรรมเรือสำราญและอาหารพื้นถิ่น โดยเตรียมจัดงาน MICE Bazaar ครั้งที่ 2 เปิดเวทีซื้อขายสินค้าบริการของอุตสาหกรรม MICE ณ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในเดือนกันยายน 2566

“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการทำงานอย่างแข็งขันเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม MICE อย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่าแผนงานการจัดงาน MICE ทั้ง 4 ภูมิภาคของประเทศจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและช่วยกระจายรายได้ให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ ชุมชน ธุรกิจ ตลอดจนการจ้างงาน และเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรม MICE จะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจไทยให้หมุนเวียนเติบโต” นายอนุชาฯ กล่าว

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News