Categories
TOP STORIES

ป.ป.ช.ชี้ 3 จุดเสี่ยงทุจริตงานประเพณีท้องถิ่น ดันมหาดไทยแก้ระบบสู่ความโปร่งใส

ป.ป.ช. “จี้จุดเสี่ยง” งานประเพณีท้องถิ่น ชี้ช่องโหว่ทุจริต 3 แกนหลัก—ดันชุดมาตรการเชิงระบบ มหาดไทยถูกระบุบทบาท “แม่งาน” ขับเคลื่อนสู่ความโปร่งใสเพื่อประชาชน

เชียงราย, 28 สิงหาคม 2568 — ในรอบหลายปีที่ผ่านมา งานประเพณีและเทศกาลท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ถูกจับตามองว่าเป็น “จุดเปราะบาง” ของวินัยการเงินการคลัง—ตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้างแบบยกเว้นแข่งขัน ไปจนถึงการปล่อยให้เอกชนผูกขาดรายได้ในพื้นที่จัดงาน และการใช้ที่ดินสาธารณะโดยขาดการอนุญาตที่ถูกต้อง ผลคือรัฐเสียโอกาสจัดเก็บรายได้ ประชาชนและผู้ค้าท้องถิ่นเผชิญต้นทุนสูงขึ้น ความศรัทธาต่อภาครัฐถูกกัดกร่อน

บนฉากทัศน์ดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงจัดทำ “ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตในการจัดงานของ อปท.—กรณีศึกษา: การจัดงานประเพณี” เสนอไปยังฝ่ายนโยบาย โดยระบุความเสี่ยงหลัก 3 ประเด็น พร้อมมาตรการเชิงระบบ เทคโนโลยี และธรรมาภิบาลให้หน่วยงานกลาง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย (มท.) ถือธงบูรณาการร่วมกระทรวงการคลังและคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) เพื่อยกระดับความโปร่งใสทั้งกระบวนการ ตั้งแต่ก่อน-ระหว่าง-หลังการจัดงานประเพณีในพื้นที่ทั่วประเทศ

ป.ป.ช. เปิด 3 ช่องโหว่—ชี้ทิศแก้เกม “จัดงานประเพณี” ให้คล่องและโปร่งใส

หนึ่ง—การจัดซื้อจัดจ้างโดยมิชอบ: ป.ป.ช. ระบุว่าในทางปฏิบัติ หลายพื้นที่หลีกเลี่ยงการแข่งขันราคา ใช้วิธีคัดเลือก/วิธีพิเศษบ่อยครั้ง ขณะที่ขอบเขตงาน (TOR) ไม่ชัดเจนพอ ทำให้ดุลพินิจ “ลื่นไหล” และเสี่ยงเอื้อผู้รับจ้างหน้าเดิม ป.ป.ช. เสนอให้ยึดกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พ.ศ. 2560 และมาตรฐาน TOR ตามหนังสือ กค (กวจ) 0405/ว 159 ที่ระบุสาระจำเป็นของ TOR ตั้งแต่ความเป็นมา วัตถุประสงค์ คุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอ ไปจนถึงคุณลักษณะเฉพาะของงาน เพื่อให้ตัดสินได้บนหลักเกณฑ์วัดผล ไม่ใช่ความเห็นส่วนบุคคล

สอง—การจัดการรายได้งานประเพณีรั่วไหล เมื่อมอบสิทธิแก่เอกชนบริหารพื้นที่—ค่าที่จอดรถ ค่าเช่าแผงค้า ค่าบริการสุขา ฯลฯ—พบรูปแบบให้เอกชนผูกขาดเก็บรายได้เอง ขณะที่ อปท. ไม่ได้กำกับอัตราค่าธรรมเนียมอย่างเป็นธรรม ส่งผลให้รายได้รัฐหดหาย ผู้ค้าท้องถิ่นเสียเปรียบ ป.ป.ช. แนะให้ อปท. เปิดเผยโครงสร้างรายได้-รายจ่าย ข้อสัญญา และผลการดำเนินงานบนเว็บไซต์/ป้ายประกาศ เพื่อให้ชุมชนร่วมตรวจสอบได้ และให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจัดแนวทางตรวจสอบภายในประจำปีสำหรับกิจกรรมที่มีรายได้เกิดขึ้นโดยตรงจากประชาชน

สาม—การใช้ที่ดินสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต: ป.ป.ช. ชี้ว่า การใช้อุทยาน สวนสาธารณะ หรือที่ราชพัสดุจัดงานโดยไม่ผ่านการอนุญาตที่ถูกต้อง ทำให้รัฐเสียสิทธิและอาจเกิดข้อพิพาทกับหน่วยงานผู้ดูแล พ่วงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม จึงเสนอให้ อปท. ทำแผนที่ สอบเขตผู้ครอบครองสิทธิ และขออนุญาตล่วงหน้าตามขั้นตอน เพื่อปิดช่องว่างและสร้างความชัดเจนต่อสาธารณะ

กรอบกฎหมายและคู่มือปฏิบัติ “โครง” มีแล้ว—ต้อง “ยึด” ให้เป็นวินัยเดียวกัน

ในทางกรอบ ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดงาน การจัดกิจกรรมสาธารณะ การส่งเสริมกีฬา และการแข่งขันกีฬาของ อปท. พ.ศ. 2564 วางหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายและการเบิกจ่ายไว้อย่างครอบคลุม—ตั้งแต่วิธีอนุมัติ การวางแผนงบประมาณ ไปจนถึงหลักฐานการจ่ายเงินและการตรวจรับงาน หากบังคับใช้อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้การจัดงานประเพณีเป็น “บริการสาธารณะ” ที่ตั้งอยู่บนการใช้เงินแผ่นดินอย่างคุ้มค่าและตรวจสอบได้ (มีเอกสารเผยแพร่มาตรฐานโดยหน่วยงานท้องถิ่นและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเพื่อใช้เป็นคู่มือ)

ขณะเดียวกัน หนังสือด่วนที่สุดของกรมบัญชีกลาง กค (กวจ) 0405/ว 159 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2566 กำหนดสาระสำคัญ TOR ที่หน่วยงานต้องจัดทำให้ครบถ้วน—เป็น “เช็กลิสต์” ที่ลดดุลพินิจส่วนบุคคล และยกระดับคุณภาพการเทียบข้อเสนอ โดยเฉพาะงานขนาดใหญ่ที่มีรายได้แฝงจากกิจกรรมพาณิชย์ (ค่าแผง ค่าโฆษณา ฯลฯ) การใช้ TOR ตามแบบแนะนำจึงเป็นหัวใจสำคัญของการทำสัญญาที่เที่ยงธรรมและโต้แย้งได้ด้วยข้อมูล

กลไกความโปร่งใส เปิดข้อมูล–เปิดเวทีชุมชน–เปิดประตูตรวจสอบ

ข้อเสนอของ ป.ป.ช. เน้น “เปิดข้อมูลเชิงรุก” เป็นมาตรการแกน—เผยแพร่ประกาศเชิญชวน ร่าง TOR แบบร่างสัญญา ราคากลาง รายงานผลการคัดเลือก แผนผังพื้นที่จัดงาน ปฏิทินงาน รายได้–รายจ่าย และเอกสารเบิกจ่ายที่เกี่ยวข้อง—ซึ่งสอดรับกับชุดตัวชี้วัด ITA (Integrity and Transparency Assessment) ที่ ป.ป.ช. ใช้ประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสหน่วยงานรัฐทั่วประเทศทุกปี การยกระดับคะแนน ITA จึงไม่ใช่ “แค่คะแนน” แต่สะท้อนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐที่จับต้องได้ผ่านข้อมูลสาธารณะจริง ๆ

อีกด้าน ป.ป.ช. ผลักหลักคิด STRONG–จิตพอเพียงต้านทุจริต ให้ชุมชนร่วมเป็น “ผู้กำกับดูแล” ในพื้นที่ของตน ผ่านเครือข่ายภาคประชาสังคม โรงเรียน ชมรมผู้ค้า และอาสาสมัคร ให้ช่วยสอดส่องและแจ้งเบาะแสเมื่อพบเห็นความผิดปกติในขั้นตอนจัดงาน—จากเวทีรับฟังเสียงชาวบ้านถึงข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อทำให้ “วัฒนธรรมไม่ทนต่อการทุจริต” เป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวัน

มหาดไทย–การคลัง–ก.ก.ถ. บทบาท “สามเสาหลัก” ที่ต้องเดินไปด้วยกัน

แกนปฏิบัติการที่ ป.ป.ช. เสนอ คือให้ กระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่กำกับ–สั่งการ อปท. ให้ยึดกฎหมาย/ระเบียบและแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน, ให้ กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) ชี้แนวทาง TOR/ราคากลาง/สัญญา—และอบรมเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ, ส่วน สำนักงาน ก.ก.ถ. ทำหน้าที่ปรับโครงสร้าง–ข้อกำหนดที่เกี่ยวกับการกระจายอำนาจให้หน่วยปฏิบัติสามารถทำงานได้คล่องโดยไม่หลุดกรอบธรรมาภิบาล ทั้งหมดถูกออกแบบให้เชื่อมกับการประเมิน ITA เพื่อเป็น “ตัวชี้วัดผล” ที่เปิดเผยต่อสาธารณะในแต่ละปีงบประมาณ

ตัวเลขที่ชวนคิด เมื่อ “ต้นทุนแฝง” กลายเป็นภาระประชาชน

ประสบการณ์หลายพื้นที่สะท้อนรูปแบบคล้ายกัน—เมื่อเอกชนผูกขาดพื้นที่และตั้งอัตราค่าธรรมเนียมสูง ผู้ค้าท้องถิ่นต้องชำระค่าแผงแพงกว่าคู่แข่งที่มากับผู้จัดงาน รายได้ส่วนหนึ่งไม่ไหลเข้าท้องถิ่น ขณะที่ค่าใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น (ค่าจอดรถ/เข้าห้องน้ำ/บริการสาธารณะ) ข้อเสนอ “เปิดข้อมูลรายได้–รายจ่ายทุกงาน” และ “กำหนดเพดานค่าธรรมเนียมเป็นธรรม” จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนในชุมชนมองเห็นเส้นทางเงินของงานประเพณี—ว่ากลับมาเป็นสวัสดิการสาธารณะมากน้อยเพียงใด ไม่ใช่เพียง “ภาพจำสวยงาม” ของงานรื่นเริงเท่านั้น

เชียงรายในภาพใหญ่ จากเทศกาลท้องถิ่น สู่บททดสอบธรรมาภิบาลระดับพื้นที่

เชียงรายเป็นจังหวัดที่งานประเพณี–เทศกาลคือ “แรงขับเศรษฐกิจชุมชน” ตั้งแต่เทศกาลท้องถิ่น งานวัฒนธรรมไปจนถึงกิจกรรมสร้างสรรค์ใหม่ ๆ สิ่งที่ ป.ป.ช. เสนอจึงไม่ใช่ “ภาระ” ของผู้ปฏิบัติ หากเป็น “เข็มทิศ” ให้ผู้ว่าฯ อปท. และท้องที่–ท้องถิ่น จัดวาระร่วมกัน

  1. แผนล่วงหน้า—กำหนดพื้นที่จัดงาน ตรวจสอบสิทธิการใช้ที่ดิน ทำหนังสือขออนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของกรรมสิทธิ์ให้ครบถ้วน
  2. จัดซื้อจัดจ้างโปร่งใส—ประกาศ TOR ตามคู่มือ กค (กวจ) 0405/ว 159, ใช้วิธีแข่งขันเท่าที่ทำได้, เปิดข้อมูลสัญญาและผลพิจารณา
  3. จัดเก็บรายได้เป็นธรรม—กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมที่ “เป็นมิตรต่อผู้ค้า–ประชาชนท้องถิ่น” มีโควตาพื้นที่ให้ผู้ค้าชุมชน และเปิดเผยรายได้–รายจ่ายหลังปิดงาน
  4. เวทีตรวจสอบสาธารณะ—ตั้งคณะทำงานร่วมภาคประชาชน–สื่อ–สภาเด็กและเยาวชน ทำบทเรียนหลังงาน (after action review) และรายงานผลบนเว็บไซต์ อปท.

จาก “เอกสาร” สู่ “พฤติกรรมองค์กร” เมื่อตัวชี้วัดต้องแปลเป็นภาคปฏิบัติ

ความท้าทายไม่ได้อยู่ที่การมีระเบียบ–คู่มือ หากอยู่ที่ วินัยของผู้ปฏิบัติ และ แรงจูงใจขององค์กร การหนุนใช้ ITA เป็น “กระจกเงา” ให้หน่วยงาน—ควบคู่การสื่อสารความเสี่ยง (risk communication) และการฝึกอบรมแบบลงมือทำ—เป็นกุญแจให้คะแนนโปร่งใส “ไม่ใช่แค่คะแนน” แต่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมที่ประชาชนสัมผัสได้ เช่น เห็น TOR ล่วงหน้าจริง เห็นราคากลาง เห็นสัญญา เห็นรายรับ–รายจ่ายหลังจบงานทุกงาน และสามารถถาม–ทัก–ตรวจได้ตลอดเวลา

เส้นทางคลี่คลายปม แผนเดินหน้าที่ “ทำได้ทันที”

  • ยึดกฎหมาย–ระเบียบเป็นฐาน: ใช้ระเบียบ มท. 2564 เป็น “คัมภีร์การเงินงานประเพณี” และ TOR ตาม ว 159 เป็น “แบบมาตรฐาน” ลดความเสี่ยงดุลพินิจส่วนบุคคล
  • เปิดข้อมูลเชิงรุก: ตั้งหน้าเว็บ “ศูนย์ข้อมูลงานประเพณี” ของแต่ละ อปท.—รวมปฏิทินงาน แผนที่พื้นที่ TOR ราคากลาง แบบร่างสัญญา ผลคัดเลือก รายได้–รายจ่าย และบทเรียนหลังงาน
  • ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง: กำหนดเพดานค่าธรรมเนียมแผง–จอดรถ–ห้องน้ำที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อคนในพื้นที่ สัดส่วนพื้นที่ค้าชุมชนต้องชัด
  • สร้างเครือข่าย STRONG: ผนึกโรงเรียน กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ สภาเด็ก–เยาวชน และสื่อท้องถิ่น ร่วมสอดส่องทุกขั้นตอน—จากเวทีรับฟังจนถึงวันปิดงาน

ทำให้งานประเพณี “คืนประโยชน์สาธารณะ” อย่างแท้จริง

ข้อเสนอของ ป.ป.ช. ทำให้ “งานประเพณี” ซึ่งเคยถูกมองเป็นเพียงกิจกรรมรื่นเริง กลับมามีนิยามสาธารณะครบมิติ—วัฒนธรรม เศรษฐกิจ และธรรมาภิบาล เมื่อโครงกฎหมาย–คู่มือพร้อม ข้อมูลเปิด และประชาชนร่วมกำกับดูแล เม็ดเงินที่เคยรั่วไหลย่อมกลับมาเป็นงบสาธารณะสำหรับพื้นที่ ขวัญกำลังใจผู้ค้า–ชุมชนดีขึ้น ผู้เสียภาษีเห็นภาพชัดว่าเงินที่จ่ายไป “เวียนกลับมา” ในรูปบริการและโครงสร้างพื้นฐานอย่างไร

สำหรับเชียงราย—เมืองที่วัฒนธรรมคือทุน ชุมชนคือหัวใจ—การยกระดับมาตรฐานการจัดงานประเพณีตามแนวทางนี้ ไม่เพียงสร้างความเชื่อมั่นต่อรัฐและผู้จัดงาน หากยังเป็น “แบบฝึกหัดธรรมาภิบาล” รายปี ที่ทำให้ท้องถิ่นแข็งแรง โปร่งใส และยั่งยืนกว่าที่เคย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงาน ป.ป.ช. – “ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตในการจัดงานของ อปท. (กรณีจัดงานประเพณี)” (เผยแพร่ก.ค. 2568) และบทความอธิบายแนวคิด–มาตรการ (ก.ค. 2568). เอกสารอ้างอิงข้อเท็จจริงเรื่องความเสี่ยง 3 ประเด็นและแนวทางปฏิบัติที่เสนอฝ่ายนโยบาย
  • สำนักงาน ป.ป.ช. – หมวด “มาตรการป้องกันการทุจริต ปีงบประมาณ 2568” ซึ่งแสดงสถานะการพิจารณาของข้อเสนอที่ส่งต่อฝ่ายนโยบาย
  • กรมบัญชีกลาง – หนังสือด่วนที่สุด กค (กวจ) 0405/ว 159 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2566 เรื่องแนวทางจัดทำ TOR และสาระสำคัญที่ต้องมี สร้างมาตรฐานการพิจารณาและลดดุลพินิจ.
  • ระเบียบกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2564 ว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดงาน/กิจกรรมสาธารณะ/กีฬา ของ อปท. แนวทางต้นแบบสำหรับวินัยการเงินการคลังของท้องถิ่น (มีเอกสารเผยแพร่ใช้อ้างอิงโดยหน่วยงานท้องถิ่น)
  • โครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) โดยสำนักงาน ป.ป.ช.—กรอบคิด ตัวชี้วัด และการประกาศผลการประเมินหน่วยงานรัฐ ซึ่งใช้เป็น “กระจก” สะท้อนความก้าวหน้าด้านความโปร่งใส
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ป.ป.ช. ประเมินความโปร่งใส ปี 67 จ.เชียงราย ได้เฉลี่ย 91.62 คะแนน

 

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 67 สำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส จัดงานประกาศผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และมอบรางวัล ITA AWARDS 2024 ขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่เข้าร่วมการประเมินได้รับทราบและนำผลการประเมินดังกล่าวไปพัฒนา ปรับปรุง และยกระดับให้หน่วยงานภาครัฐของประเทศไทยมีความโปร่งใส และมีการปฏิบัติงานตามหลักธรรมาภิบาล ตลอดจนสื่อมวลชน และสาธารณชนทั่วไป จะได้มีส่วนร่วมในการสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพในการเปิดเผยข้อมูล และบริการของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเป็นประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในระบบราชการ และเสริมสร้างให้เกิดกระแสการไม่ทนต่อการทุจริตต่อไป

 

โดยมี พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้ประกาศผลการประเมินคุณธรรมฯ และเป็นผู้มอบรางวัล ITA AWARDS 2024 พร้อมทั้ง นายนิวัติชัย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์พิเศษ ในหัวข้อ “สถานการณ์การทุจริตของประเทศไทยในปัจจุบัน : ปัญหาและทางออก” และนายทวิชาติ นิลกาญจน์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินในหัวข้อ “การควบคุมคุณภาพการประเมิน ITA และการส่งเสริมธรรมาภิบาลในหน่วยงานภาครัฐ” ด้วย

 

พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การประเมิน ITA ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 นี้ มีหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศที่เข้าร่วมการประเมิน ทั้งสิ้น 8,325 หน่วยงาน โดยเริ่มเข้าสู่กระบวนการประเมินตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 และสิ้นสุดการประเมินในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ภายใต้การกำกับดูแลมาตรฐานการประเมินและความถูกต้องน่าเชื่อถือทางวิชาการ โดยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ซึ่งผลการดำเนินการที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐที่เข้ารับการประเมินทุกหน่วยงานและหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกำกับดูแลและขับเคลื่อนการประเมิน ITA เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีส่วนร่วมในการเข้ามามีส่วนร่วมในการตอบแบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน (แบบวัด IIT) ของบุคลากรภาครัฐ และการตอบแบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก (แบบวัด EIT) ของประชาชนที่มาติดต่อหรือรับบริการหน่วยงานภาครัฐ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,369,235 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 362,989 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 461,440 คน และประชาชนผู้มาติดต่อหรือรับบริการหน่วยงานภาครัฐ จำนวน 907,795 คน ซึ่งถือว่ามีผู้เข้ามามีส่วนร่วมในการประเมินเป็นจำนวนมาก ในสัดส่วนที่สามารถสะท้อนผลการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐด้านคุณธรรมและความโปร่งใสได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีความน่าเชื่อถือทางวิชาการเช่นเดียวกันกับการดำเนินการในปีที่ผ่านมา อันจะเป็นข้อมูลสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐจะได้นำไปปรับปรุงและพัฒนาหน่วยงานของตนเองได้อย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน

 

โดยผลคะแนนการประเมิน ITA ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในภาพรวมระดับประเทศ พบว่า มีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 93.05 คะแนน ซึ่งมีทิศทางแนวโน้นที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 2.86 คะแนน และเมื่อพิจารณาสัดส่วนของหน่วยงานภาครัฐที่เข้ารับการประเมินที่มีคะแนนผลการประเมินในระดับ 85 คะแนนหรือระดับผ่านขึ้นไป พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 7,696 หน่วยงาน คิดเป็นสัดส่วน 92.44 % ของหน่วยงานทั้งหมด 8,325 หน่วยงาน โดยเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาถึง 11.50 % และค่าเป้าหมายแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น (21) การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ได้กำหนดให้คะแนนเฉลี่ยการประเมินคุณธรรมฯ ทุกหน่วยงานในประเทศต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 89 คะแนน ซึ่งปรากฎว่าผลการประเมินเฉลี่ยอยู่ที่ 93.05 นั้น ผ่านตามค่าเป้าหมายตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ ที่กำหนดไว้

 

สำหรับผลการประเมิน ITA ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่มีคะแนนผลการประเมินสูงสุดในแต่ละกลุ่มหน่วยงาน มีดังต่อไปนี้

  • กลุ่มหน่วยงานของศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ และหน่วยงานในรัฐสภา ได้แก่ สำนักงานศาลปกครอง ได้คะแนน 97.62 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดี”
  • กลุ่มส่วนราชการระดับกรม ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้คะแนน 99.31 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดีเยี่ยม”
  • กลุ่มรัฐวิสาหกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ได้คะแนน 98.96 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดีเยี่ยม”
  • กลุ่มองค์การมหาชน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้คะแนน 97.02 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดี”
  • กลุ่มหน่วยงานอื่นของรัฐ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
    และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้คะแนน 97.27 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดีเยี่ยม”
  • กลุ่มกองทุน ได้แก่ กองทุนยุติธรรมได้คะแนน 94.54 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่าน”
  • กลุ่มสถาบันอุดมศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ได้คะแนน 98.70 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดี”
  • กลุ่มราชการส่วนภูมิภาค (จังหวัด) ได้แก่ จังหวัดแพร่ ได้คะแนน 100 คะแนน อยู่ในระดับ
    “ผ่านดีเยี่ยม”
  • กลุ่มองค์การบริหารส่วนจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้คะแนน 99.73 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดีเยี่ยม”
  • กลุ่มเทศบาลนคร ได้แก่ เทศบาลนครเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ได้คะแนน 99.47 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดีเยี่ยม”
  • กลุ่มเทศบาลเมือง ได้แก่ เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ได้คะแนน 99.67 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดีเยี่ยม”
  • กลุ่มเทศบาลตำบล ได้แก่ เทศบาลตำบลโคกสูงสัมพันธ์ อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น
    เทศบาลตำบลสามขา อำเภอโพนทราย จังหวัดร้อยเอ็ด และเทศบาลตำบลเมืองไพร อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งได้คะแนนเท่ากันที่ 100 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดีเยี่ยม”
  • องค์การบริหารส่วนตำบล ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองไข่นก อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี และองค์การบริหารส่วนตำบลเอราวัณ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้คะแนนเท่ากันที่ 100 คะแนน อยู่ในระดับ “ผ่านดีเยี่ยม”

 

รางวัลที่สอง ประเภทรางวัลจังหวัดที่ขับเคลื่อน ITA บรรลุเป้าหมาย ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติฯ สูงสุด 10 จังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2567

  • จังหวัดแรก ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส ได้คะแนน 98.79 คะแนน
  • จังหวัดที่ 2 ได้แก่ จังหวัดปราจีนบุรี ได้คะแนน 97.93 คะแนน
  • จังหวัดที่ 3 ได้แก่ จังหวัดสิงห์บุรี ได้คะแนน 97.67 คะแนน
  • จังหวัดที่ 4 ได้แก่ จังหวัดแพร่ ได้คะแนน 97.63 คะแนน
  • จังหวัดที่ 5 ได้แก่ จังหวัดสกลนคร ได้คะแนน 97.32 คะแนน
  • จังหวัดที่ 6 ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี ได้คะแนน 97.12 คะแนน
  • จังหวัดที่ 7 ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร ได้คะแนน 97.11 คะแนน
  • จังหวัดที่ 8 ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ ได้คะแนน 96.90 คะแนน
  • จังหวัดที่ 9 ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ ได้คะแนน 96.87 คะแนน
  • จังหวัดที่ 10 ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้คะแนน 96.87 คะแนน

 

รางวัลที่สามจะเป็นประเภทรางวัลหน่วยงานที่มีพัฒนาการสูงสุด ในแต่ละประเภท มีทั้งสิ้น
12 รางวัล
 

  • ลำดับที่ 1 กลุ่มรัฐวิสาหกิจ ได้แก่

    บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด 92.37 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 9.28 คะแนน

  • ลำดับที่ 2 กลุ่มสถาบันอุดมศึกษา ได้แก่

    มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 90.75 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 34.25 คะแนน

  • ลำดับที่ 3 กลุ่มส่วนราชการระดับกรม ได้แก่

    สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ 99.31 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 34.2 คะแนน

  • ลำดับที่ 4 กลุ่มหน่วยงานของศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ และหน่วยงานรัฐสภา ได้แก่

    สถาบันพระปกเกล้า 95.19 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 4.28 คะแนน

  • ลำดับที่ 5 กลุ่มหน่วยงานอื่นของรัฐ ได้แก่

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน 95.92 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 3.31 คะแนน

  • ลำดับที่ 6 กลุ่มองค์การมหาชน ได้แก่

    สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) 87.99 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 35.63 คะแนน

  • ลำดับที่ 7 กลุ่มราชการส่วนภูมิภาค (จังหวัด) ได้แก่

    จังหวัดชลบุรี 96.43 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 10.04 คะแนน

  • ลำดับที่ 8 กลุ่มเทศบาลตำบล ได้แก่

    เทศบาลตำบลบ้านโป่ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ 96.34 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 50.52 คะแนน

  • ลำดับที่ 9 กลุ่มเทศบาลนคร ได้แก่

    เทศบาลนครรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 98.25 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 15.58 คะแนน

  • ลำดับที่ 10 กลุ่มเทศบาลเมือง ได้แก่

    เทศบาลเมืองเพชรบุรี อำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี 98.29 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 36.21 คะแนน

  • ลำดับที่ 11 กลุ่มองค์การบริหารส่วนจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี 99.65 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 7.58 คะแนน
  • ลำดับที่ 12 กลุ่มองค์การบริหารส่วนตำบล ได้แก่

    องค์การบริหารส่วนตำบลหนองจอก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี 95.16 คะแนน มีคะแนนเพิ่มขึ้น 49.61 คะแนน

 

รางวัลสุดท้าย ประเภทรางวัลหน่วยงานส่วนกลางที่มีผลการประเมิน “ผ่านดีเยี่ยม” จำนวนทั้งสิ้น 9 หน่วยงาน

  • ลำดับที่ 1 ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้คะแนน 99.31 คะแนน
  • ลำดับที่ 2 ได้แก่ กองทัพเรือ ได้คะแนน 99.21 คะแนน
  • ลำดับที่ 3 ได้แก่ ธนาคารออมสิน ได้คะแนน 98.96 คะแนน
  • ลำดับที่ 4 ได้แก่ การประปานครหลวง ได้คะแนน 98.84 คะแนน
  • ลำดับที่ 5 ได้แก่ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้คะแนน 98.46 คะแนน
  • ลำดับที่ 6 ได้แก่ กรมการศาสนา ได้คะแนน 98.30
  • ลำดับที่ 7 ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้คะแนน 97.94 คะแนน
  • ลำดับที่ 8 ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ ได้คะแนน  97.27 คะแนน
  • ลำดับที่ 9 ได้แก่ การยาสูบแห่งประเทศไทย ได้คะแนน 97.22 คะแนน

 

นอกจากการประกาศผลการประเมินแล้ว ภายในงานได้มีการมอบรางวัล ITA AWARDS 2024 ให้กับหน่วยงานภาครัฐที่เข้าร่วมการประเมินคุณธรรมฯ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่หน่วยงานภาครัฐที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และมีผลการประเมินตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ให้ความเห็นชอบไว้แล้ว โดยรางวัล ITA AWARDS 2024 มีรางวัลจำนวน 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่ 1 รางวัลหน่วยงานที่มีผลการประเมินสูงสุด ประเภทที่ 2 รางวัลจังหวัดที่ขับเคลื่อน ITA บรรลุเป้าหมาย ประเภทที่ 3 รางวัลหน่วยงานที่มีพัฒนาการสูงสุด และประเภทที่ 4 รางวัลหน่วยงานส่วนกลางที่มีผลการประเมิน “ผ่านดีเยี่ยม”

 

สำหรับประชาชนและผู้ที่สนใจ สามารถดาวน์โหลดเอกสารและเข้าดูรายละเอียดผลการประเมิน ITA ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และการประกาศผลการประเมินคุณธรรมฯ และการมอบรางวัล ITA AWARDS 2024 ได้ที่เว็บไซต์ https://itas.nacc.go.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส สำนักงาน ป.ป.ช. ทาง Line Official Account : @ITAS ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News