เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม MOU ความร่วมมือโครงการไปรษณีย์ไทย @ธงฟ้า ระหว่างกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เพื่อขยายจุดให้บริการของไปรษณีย์ไทยสู่ร้านธงฟ้ากว่า 20,000 สาขาทั่วประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพิ่มช่องทางในการดรอปหรือส่งสินค้าผ่านร้านธงฟ้าและลดภาระค่าใช้จ่าย โดยมีนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ นายวัลลภ รุจิรากรเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ และ ดร.อนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมด้วย
โดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า โครงการไปรษณีย์ @ธงฟ้า เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงดีอีทำงานเชิงรุก พี่น้องประชาชนจะได้รับความสะดวกสบายมาบริการให้ในเขตหมู่บ้านประหยัดเวลาประหยัดค่าใช้จ่าย ไปรษณีย์ไทยจะมีสาขาเพิ่มอีก 20,000 สาขาทันทีในการรับส่งสินค้า ช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้า สำหรับกรมการค้าภายใน ร้านธงฟ้าก็ได้รับประโยชน์ นอกจากรับส่งของยังสามารถขายของในร้านตัวเองได้อีก ในอนาคตอาจมีการต่อยอดในการขนส่งสินค้าภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นซึ่งได้ประโยชน์ทุกฝ่าย
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทั้ง 2 หน่วยงานบูรณาการการจัดส่งสินค้าช่วยเพิ่มรายได้สร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชน ไปรษณีย์ไทยยังขาดเครือข่ายและกระทรวงพาณิชย์มีร้านธงฟ้าอยู่ในเครือข่ายกว่าหนึ่งแสนร้านค้า เราคัดมา 20,000 ร้านค้า ความร่วมมือครั้งนี้จะเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนที่เป็นคนตัวเล็ก เจ้าของร้านค้าธงฟ้า ซึ่งจะเป็นเครือข่ายประชาชนให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ใช้ไปรษณีย์ไทยและร้านธงฟ้าเพิ่มรายได้และลดภาระค่าใช้จ่าย หน่วยงานของรัฐก็มาช่วยสนับสนุนดูแลพี่น้องประชาชน
สำหรับจุดบริการ “ไปรษณีย์ไทย@ธงฟ้า” ในระยะแรกจะเปิดเป็นจุดดรอปพัสดุ ผู้ฝากส่งเพียงเตรียมการฝากส่งล่วงหน้า ซึ่งผู้ให้บริการร้านธงฟ้าสแกนบาร์โค้ดหน้ากล่องผ่านแอปพลิเคชันเพื่อรับสิ่งของเข้าระบบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จะเข้ามารับพัสดุไปดำเนินการเพื่อส่งต่อให้ผู้รับปลายทาง และระบบจะคำนวณรายได้ให้ร้านธงฟ้า โดยจะเริ่มให้บริการในเดือนเมษายน 2567 ตามเวลาทำการของร้านธงฟ้าแต่ละแห่ง ส่วนระยะต่อไปจะเปิดให้บริการทั้งจุดรับพัสดุและเป็นจุดรอจ่ายพัสดุให้ผู้รับปลายทาง ทั้งนี้ จากความร่วมมือดังกล่าว จะทำให้ไปรษณีย์ไทยมีเครือข่ายรวมมากกว่า 50,000 จุดทั่วประเทศ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม