เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 เวลา 17.00 น. ว่าที่ ร.ต. ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ลงพื้นที่อำเภอเชียงของเพื่อติดตามการประกอบและติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังทวีความรุนแรงในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำอิงที่มีปริมาณน้ำมหาศาลไหลมาจากจังหวัดพะเยา ผ่านอำเภอเทิงและอำเภอขุนตาล เพื่อให้สามารถระบายน้ำลงสู่ลำน้ำโขงได้อย่างรวดเร็วที่สุด
นายทวีชัย โค้วตระกูล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงราย เปิดเผยว่า โครงการชลประทานเชียงรายได้รับการสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำจำนวน 10 เครื่องจากกรมชลประทาน เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย โดยเครื่องผลักดันน้ำนี้มีความสามารถในการสูบหรือผลักดันน้ำได้ที่อัตรา 1.15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระยะยกน้ำ 1.2 เมตร และใช้พลังงาน 25 กิโลวัตต์ ซึ่งเครื่องดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในพื้นที่ที่มีความเร็วน้ำไม่เกิน 1.8 เมตรต่อวินาที
การติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำกำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน ณ จุดบ้านเต๋น หมู่ที่ 8 ตำบลสถาน อำเภอเชียงของ ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการระบายน้ำจากแม่น้ำอิงลงสู่แม่น้ำโขง การดำเนินการนี้เป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์น้ำท่วมหนักที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงรายปี 2567 ที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อพื้นที่หลายอำเภอ
ในปี 2567 จังหวัดเชียงรายเผชิญกับเหตุการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่องจากปริมาณฝนที่ตกหนักเกินกว่าปกติ ส่งผลให้หลายพื้นที่ในจังหวัดต้องประสบกับปัญหาน้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดได้แก่ อำเภอเทิง อำเภอขุนตาล และอำเภอเชียงของ ซึ่งเส้นทางน้ำจากจังหวัดพะเยาไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง ทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ยากและทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพื่อรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยที่รุนแรงนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันในการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำอย่างรวดเร็ว และจะมีการติดตามการทำงานของเครื่องผลักดันน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งสามารถช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติธรรมชาติในอนาคต โดยจะมีการทบทวนและปรับปรุงแผนการจัดการอุทกภัยในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
โดยการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบชลประทานในพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการควบคุมและบริหารจัดการน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงจากอุทกภัยในอนาคต
สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายปี 2567 เป็นการเตือนภัยที่ชัดเจนถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่ยั่งยืน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการแก้ไขปัญหาและสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนถึงความสำคัญของการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำอีกในอนาคต.
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์