Categories
NEWS UPDATE

ไฟป่า 2 จังหวัด แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ สร้างเสียหายแล้วกว่า 450,000 ไร่

 
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 รายงานข่าวจาก GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ระบุว่า จากสถานการณ์ไฟป่าที่มีความรุนแรงในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นอีก 2 พื้นที่ ไฟป่า แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เสียหายแล้วกว่า 450,000 ไร่
 
 
จากสถานการณ์ไฟป่าที่มีความรุนแรงในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นอีก 2 พื้นที่ที่พบว่ามีจุดความร้อนติดอันดับต้นๆ ของประเทศในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ล่าสุดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียม Landsat-8 ของวันที่ 31 มีนาคม 2567 เวลา 10.48 น. แสดงพื้นที่เผาไหม้ที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ของอำเภอ แม่ลาน้อย แม่สะเรียง สบเมย ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งพบพื้นที่ความเสียหายทั้งสิ้น 251,037 ไร่ และ ในพื้นที่ของอำเภอ แม่แจ่ม จอมทอง ฮอด อมก๋อย ดอยเต่า ของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีความเสียหายทั้งสิ้น 203,573 ไร่ โดยรวมพื้นที่ความเสียหายทั้งหมด 454,610 ไร่ สำหรับสาเหตุการเกิดไฟป่ายังคงมาจากการจุดไฟเผาเพื่อหาของป่า ล่าสัตว์ รวมถึงการเผาพื้นที่เกษตรก่อนเตรียมการเพาะปลูก และการเผาหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น
 
 
ข้อมูลดังกล่าวจะใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าตรวจสอบในพื้นที่จริงร่วมกับจังหวัด เพื่อนำไปสู่การวางแผนฟื้นฟู ป้องกัน และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ในการสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน อันจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืน
 
 
ดาวเทียม Landsat 8 เป็นดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการพัฒนาโดยความร่วมมือ ระหว่างองค์การ NASA และ USGS (U.S. Geological Survey) มีการโคจรซ้ำตำแหน่งเดิมทุก ๆ 16 วัน ความกว้างของแนวถ่ายภาพ 185 กิโลเมตร ประกอบด้วยระบบบันทึกภาพ 2 ชนิด คือ Operation land Image (OIL) และ The Thermal Infrared Sensor (TIRS) จำนวน 11 ช่วงคลื่น ให้รายละเอียดจุดภาพช่วงคลื่น visible, NIR, SWIR  30 เมตร ช่วงคลื่น thermal 100 เมตร และ panchromatic 15 เมตร

ประโยชน์ของภาพที่จะนำไปใช้ : 

  • การจัดทำแผนที่ scale ใหญ่
  • การจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน
  • การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงพื้นที่
  • การวิเคราะห์ดินและพืชพรรณ – Soil/vegetative analysis
  • การศึกษาด้านธรณีวิทยา อาทิ น้ำมัน ก๊าซ เหมืองแร่ เป็นต้น
  • การติดตามพื้นที่ด้านสิ่งแวดล้อม
  • การวัดปริมาณน้ำ การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ชายฝั่ง
  • การวิเคราะห์มลภาวะ และหมอกควัน 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
NEWS TOP STORIES

ชิงตัวคนเผาป่าลุ่มน้ำปาย ผู้นำหมู่บ้านนำมวลชนทำร้าย เจ้าหน้าที่ป่าไม้

 
เมื่อวันที่ 25 มี.ค.67 นายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย เปิดเผยว่า กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย 5 นาย เข้าพื้นที่บริเวณเกิดกลุ่มควันไฟที่ปรากฏ ตามจุดฮอทสปอต เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2567 บริเวณป่าสบแม่น้ำยาน ต.ทุ่งยาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อดับไฟป่าที่เกิดขึ้น ขณะที่เดินทางมาถึงแปลงพื้นที่ทำกินในป่าสบแม่น้ำยาน ห่างจากจุดไฟไหม้ 200 เมตร พบกระท่อม 1 หลัง มีคนอยู่จึงทำการแสดงตัว พบว่ามีชาย 1 คน ทราบชื่อภายหลังว่า นายดาเอ ไม่ทราบชื่อสกุล พบอุปกรณ์ในกระท่อม ประกอบด้วย  มีด 3 เล่ม ขวาน 1 อัน ปืนแก๊ป 1 กระบอก ไฟฉาย 2 อัน ยาบ้า 1 เม็ด มอเตอร์ไซด์ 1 คัน เจ้าหน้าที่ได้สอบถาม นายดาเอ ว่าใครจุดไฟเผา นายดาเอ แจ้งว่า จ่านู อยู่กระท่อมตรงไป 150 เมตร เป็นคนจุดไฟ ทั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่ไปตรวจกระท่อมที่ 2 บริเวณจุดเกิดไฟป่า 100 เมตร พบ นายจ่านู กำลังนอนหลับ ตรวจบริเวณในกระท่อมพบอุปกรณ์ในกระท่อม ประกอบด้วย ปืนแก๊ป 1 กระบอก ยาบ้า 8 เม็ด เครื่องกระสุน 1 ชุด มีด 6 เล่ม ซากสัตว์  5 ชนิด ได้แก่ ขนเม่น, เกล็ดตัวนิ่ม, กระดูกกรามเก้ง, ตีนนกเหยี่ยว 2 ข้าง, ตีนไก่ป่า 1 คู่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ลงความเห็นว่า พื้นที่ทั้ง 2 แปลง ตรวจสอบแล้วมีการขยายพื้นที่ป่าและ มีอาวุธปืน มียาบ้าครอบครอง มีการตัดไม้ขยายพื้นที่ และมีร่องรอยการเกิดไฟบริเวณพื้นที่เกิดเหตุของทั้ง 2 คน จึงควบคุมตัวเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปาย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อดำเนินคดี

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหา 2 ราย มาถึงบริเวณบ้านหนองขาว หมู่ 5 ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน มีกลุ่มบุคคล 20 คน ทราบภายหลังในมีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเป็นแกนนำชาวบ้าน ใน ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน นำชาวบ้านมาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่พอใจ และเข้าแย่งตัวผู้ต้องหา และชิงของกลางทั้งหมดไป รวมทั้งทำร้ายเจ้าหน้าที่ผู้จับกุมด้วย

เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกขอให้สืบสวนสอบสวนผู้กระทำผิดร่วมกัน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปางมะผ้า แจ้งจับแกนนำชาวบ้าน พร้อมกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันขัดขวางทำร้ายเจ้าหน้าที่ และแย่งชิงตัวผู้ต้องหา โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่กล้าลงพื้นที่ในการเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อดับไฟป่า ที่ยังพบในพื้นที่อีกต่อไป

 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News