Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘ธ.กสิกรไทย’ ช่วยเหลือพนักงาน คนละ 10,000 บาท ให้กู้โปะหนี้ 3 แสนบาท

 

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567 รายงานข่าวเปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ได้ทำบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างระหว่าง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กับ สหภาพแรงงานธนาคารกสิกรไทย และ สหภาพแรงงานผู้บังคับบัญชาธนาคารกสิกรไทย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 เกี่ยวกับสวัสดิการและสภาพการจ้างงานพนักงาน ประกอบด้วย

1.ธนาคารจะจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพนักงานในภาวะที่สินค้าอุปโภคบริโภค ตลอดจนน้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาสูงขึ้นมาก โดยมีลักษณะเป็นการจ่าย “เฉพาะคราว (One Time)” จำนวนเงินคนละ 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ให้แก่พนักงานที่มีตำแหน่งองค์กรไม่สูงกว่า “รองผู้อำนวยการฝ่าย” โดยกำหนดวันจ่ายเงินในเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งจะได้มีประกาศแจ้งวันให้ทราบต่อไป

2.ธนาคารตกลงแก้ไขเปลี่ยนแปลงวงเงินและดอกเบี้ยเงินกู้สวัสดิการเพื่อที่อยู่อาศัย โดยขยายวงเงินกู้ในแต่ละช่วงให้กว้างขึ้น พร้อมทั้งลดดอกเบี้ยลง โดยวงเงินกู้ 1-1,500,000 บาท ดอกเบี้ย MLR-5.50% , วงเงินกู้ 1,500,001-3,000,000 บาท ดอกเบี้ย MLR-3.75% และกรณีติดตั้ง Solar Cell Roottop (3K ขึ้นไป) ลดดอกเบี้ยเพิ่ม 1% , วงเงินกู้ 3,000,001-5,000,000 บาท ดอกเบี้ย MLR-2.00% และกรณีติดตั้ง Solar Cell Roottop(3K ขึ้นไป) ลดดอกเบี้ยเพิ่ม 1% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

3.ธนาคารยืนยันการปฏิบัติตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ฉบับลงวันที่ 30 กันยายน 2558 เรื่องสิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาล โดยยังคงปฏิบัติตามระเบียบและอัตราการเบิกในแต่ละประเภทตามที่ธนาคารกำหนด แต่ไม่เกินปีละ 250,000 บาท (สองแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) และสามารถนำวงเงินส่วนที่เหลือ ยกสะสมไปใช้ในปีถัดไปได้อีกไม่เกิน 1 ปี เหมือนเช่นเดิม

4.ธนาคารจะพิจารณาปรับตำแหน่งให้กับพนักงานบริการ ที่มีผลการปฏิบัติงาน PM Grade B ขึ้นไป มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรี หรือผู้บริหารสายงานรับรองว่ามีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม ซึ่งได้ทดลองมอบหมายให้ทำงานใหม่มาก่อนหน้าแล้ว ให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องมีตำแหน่งงานรองรับ และพนักงานมีความประสงค์ขอเปลี่ยนไปทำงานดังกล่าว

5.ขยายขอบเขตวัตถุประสงค์เงินกู้เพื่อบรรเทาทุกข์ ให้ครอบคลุมถึงการกู้เงินบรรเทาทุกข์ เพื่อชำระหนี้สินส่วนตัวของพนักงานที่มีต่อบริษัทหรือสถาบันการเงินอื่น โดยมีหลักฐานเอกสารการติดตามหนี้จากสำนักงานทนายความ หรือหมายฟ้องคดีจากศาล หรืออื่นๆ ตามที่ธนาคารเห็นสมควร ในวงเงินกู้ตามภาระหนี้จริง แต่ไม่เกิน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) อัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี ผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี และพนักงานผู้ขอกู้ต้องมีอายุงานตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป ทั้งนี้ เงื่อนไขอื่นๆ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์เงินกู้สวัสดิการพนักงาน

6.บรรดาประกาศ คำสั่ง ระเบียบ รวมทั้งข้อตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบันให้คงมีผลบังคับใช้ต่อไป และธนาคารมีสิทธิที่จะปรับปรุงแก้ไขหรือเพิ่มเติมประกาศ คำสั่ง ระเบียบ ที่เกี่ยวกับสภาพการจ้างดังกล่าวได้ แต่ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีอยู่เดิม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
SOCIETY & POLITICS

นายกฯ ยืนยันรัฐบาลทำดีที่สุดแล้ว หลังส่งพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน

 
 

9 ธันวาคม 2566 เวลา 11.00 น. ณ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ถึงโครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทให้กับประชาชน ว่า ตามที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังได้กล่าวไปแล้วว่าได้ยื่นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทแล้ว  ส่วนกฤษฎีกาจะส่งกลับมาภายในกี่วันนั้น ยังไม่ทราบยืนยันว่าทำดีที่สุดแล้ว ให้เหตุผลดีที่สุดแล้ว และไม่ต้องมีการใช้คำว่า ล็อบบี้กัน 

ส่วนเนื้อหาที่ส่งให้กฤษฎีกาตีความนั้น นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เราได้พูดคุยกันอยู่ว่าเร่งด่วนจำเป็นหรือเปล่า ซึ่งเราให้ข้อมูลว่า เรามั่นใจเป็นเรื่องเร่งด่วนจำเป็นอย่างที่บอกเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต  เรื่องการปรับหนี้นอกระบบเป็นการยกระดับ ไม่ใช่โยนภาระให้กับนายจ้างไปอย่างเดียว  ตนเองพยายามลดค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่ชายขอบของสังคม หากดิจิทัลได้ออกมาใช้ในเดือนพฤษภาคมคิดดูว่าเงินเข้าระบภาษี 4-5 แสนล้านบาท การจ้างงานการผลิตจะสูงขึ้นหรือไม่ นายจ้างจะได้มีรายได้สูงขึ้น จะมีการทำการผลิตมีการขายของมากขึ้นหรือไม่ต้องควบคู่กันไป  

นายกฯ กล่าว ขอวิงวอนและอ้อนวอน พร้อมมั่นใจว่าดิจิทัลวอลเล็ต จะออกตามกำหนดคือเดือนพฤษภาคม 2567 ยังไม่ได้มีอะไรชี้วัดมา ว่าจะไม่สำเร็จ ซึ่งหากมีปัญหา ก็ต้องดูว่าปัญหาคืออะไร คำถามที่ออกมา ข้อโต้แย้งที่ออกมาคืออะไร แล้วค่อยว่ากัน

ส่วนมีการพยายามสร้างวาทกรรมออกมาว่า “ใช้เงินได้ไม่ทุกคน แต่เป็นหนี้ทั่วถึง” นั้น นายกรัฐมนตรี      กล่าวว่า ก็เป็นวาทกรรมไป ตนเองเชื่อว่าเราอธิบายกันมาเยอะแล้ว คนรวยก็บอกว่าฟังคำแนะนำของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่แล้ว ว่าอย่าไปแจกคนรวยไม่ต้องแจก จึงมีคำถามไปว่าอะไรคือคนรวย มีการชี้ว่าคนรวยมีเงินฝากไม่ถึง 500,000 บาทรายได้ต่อเดือนต้องไม่ถึง 70,000 บาท ก็พยายามรับฟังอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีคนตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลไปทุ่มเวลาให้กับโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทจนทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ล่าช้านั้น นายกฯ กล่าวว่า พวกท่านเห็นตนเองทำแต่ดิจิทัลวอลเล็ตหรือเปล่า ซึ่งเมื่อวานไปไหนมา ทำเรื่องอะไรทำหนี้นอกระบบ  สัปดาห์ที่แล้วไปดูเรื่องชายแดนที่สระแก้ว  2 อาทิตย์ก่อนบินไปเอเปค ซึ่งตนเองทำอยู่เรื่องเดียวหรือไม่ โดยวันที่12 ธ.ค.นี้ ก็จะทำเรื่องหนี้ในระบบอีก ไม่ได้ทำเรื่องเดียว เรื่องการท่องเที่ยวก็ทำ ในช่วงค่ำวันนี้จะบินไปเชียงราย ยืนยันทำหลายเรื่องและทำเต็มที่ทุกเรื่อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :  ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News