Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ถึงที่! เชียงราย-พอ.สว. ลุย “ขุนตาล” เสริมแกร่ง “Chiangrai Clinic Center”

บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ถึงที่! จังหวัดเชียงรายและ พอ.สว. ลุย “ขุนตาล” มอบบริการถึงบ้าน พร้อมเสริมแกร่ง “Chiangrai Clinic Center”

เดินหน้าสู่ชุมชน สร้างสุขใกล้ตัว

เชียงราย, 17 กรกฎาคม 2568 – จังหวัดเชียงรายยังคงยืนหยัดในนโยบาย “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน” อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 16-17 กรกฎาคม 2568 นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำทีมคณะทำงานเดินทางสู่บ้านทุ่งศรีเกิด หมู่ 3 ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จัดกิจกรรม “จังหวัดเคลื่อนที่” ควบคู่กับหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ครั้งที่ 18 ประจำปี 2568 เพื่อส่งมอบบริการภาครัฐถึงมือประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ลดภาระค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง พร้อมเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสใหม่

กิจกรรมในวันนี้ได้รับความร่วมมืออย่างอบอุ่นจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนายอำเภอขุนตาล คณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย กิ่งกาชาดอำเภอขุนตาล และหน่วยงานราชการต่างๆ ที่พร้อมใจตั้งบูธบริการแบบครบวงจร

บริการครบวงจรถึงบ้าน เพื่อคนทุกกลุ่ม

หัวใจของ “จังหวัดเคลื่อนที่” คือการนำบริการหลากหลายของภาครัฐสู่หน้าประตูบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกลที่การเข้าถึงบริการพื้นฐานเป็นเรื่องท้าทาย

  • ด้านสุขภาพ: หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. นำทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม ฉีดวัคซีน และให้คำปรึกษาสุขภาพแก่ประชาชนในพื้นที่
  • เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง-ผู้สูงอายุ: คณะรองผู้ว่าฯ เชียงราย พร้อมนายแพทย์เอกชัย คำลือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุในบ้านหนองข่วง หมู่ 3 ตำบลยางฮอม จำนวน 5 ราย มอบกำลังใจและถุงยังชีพ สะท้อนถึงความห่วงใยต่อกลุ่มเปราะบาง
  • เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย: มอบถุงยังชีพ 100 ชุดแก่ประชาชนในพื้นที่ และเปิดรับบริจาคดวงตา-อวัยวะ สร้างโอกาสแห่งชีวิตใหม่
  • ส่งเสริมอาชีพ: กรมประมงมอบพันธุ์ปลาให้แก่ผู้นำชุมชน เพื่อเสริมสร้างแหล่งอาหารโปรตีนและสนับสนุนการเลี้ยงชีพในพื้นที่

อบจ.เชียงราย เสริมแกร่ง “Chiangrai Clinic Center” เคลื่อนที่

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทหลักในการบูรณาการพัฒนาท้องถิ่น โดยนางนภาภัณฑ์ ต่วนชะเอม เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย พร้อมนายนิรันดร์ ไร่แดง สมาชิก อบจ.ขุนตาล เขต 1 ได้เข้าร่วมเปิดงานและร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด

ภายในงานมีการจัดตั้ง “Chiangrai Clinic Center เคลื่อนที่” เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ แก้ไขปัญหา และอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ อบจ.เชียงราย ยังนำเครือข่ายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในอำเภอขุนตาลมาร่วมให้บริการอย่างครบวงจร ทั้งการรักษา ป้องกัน ส่งเสริม และฟื้นฟูสุขภาพ โดยเน้นกลุ่มเปราะบางและประชาชนในถิ่นทุรกันดาร

ความร่วมมือในวันนี้จึงเป็นภาพสะท้อนของการประสานงานระหว่างภาครัฐ ผู้นำท้องถิ่น ภาคประชาชน และอาสาสมัครพอ.สว. ที่ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังเพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตคนเชียงราย

“จังหวัดเคลื่อนที่” โมเดลเข้าถึงบริการภาครัฐอย่างแท้จริง

“หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน” และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดช่องว่างการเข้าถึงบริการในพื้นที่ห่างไกลของเชียงราย ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่และมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ประเด็นสำคัญที่เด่นชัดจากกิจกรรมนี้ ได้แก่

  • ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ: การนำบริการของรัฐถึงบ้านโดยตรง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ที่เดินทางลำบาก ลดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม
  • บูรณาการความร่วมมือทุกระดับ: การทำงานร่วมกันของผู้ว่าราชการจังหวัด อำเภอ อบจ. รพ.สต. เหล่ากาชาด และภาคเอกชน แสดงถึงความพร้อมและความร่วมมือที่จริงจังของทุกภาคส่วน
  • เข้าถึงกลุ่มเปราะบางอย่างใกล้ชิด: การเยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุ สะท้อนความใส่ใจและการบริการที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
  • พลังของ อบจ.: การจัดตั้งศูนย์คลินิกเคลื่อนที่และเครือข่าย รพ.สต. มาร่วมให้บริการ สะท้อนถึงบทบาทนำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชน

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่สำคัญ คือการผลักดันกิจกรรมให้มีความต่อเนื่อง มีทรัพยากรสนับสนุนเพียงพอ และติดตามผลลัพธ์ระยะยาวเพื่อปรับปรุงบริการให้ตอบโจทย์ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะและมุมมองอนาคต

ในอนาคต โครงการนี้ควรขยายขอบเขตบริการ เช่น การให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การส่งเสริมอาชีพใหม่ การดูแลสุขภาพจิต และสร้างศูนย์ข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงบริการรัฐได้ง่ายขึ้น ทุกภาคส่วนควรร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ “รอยยิ้มและสุขภาพดี” ไม่ใช่เพียงแค่วันนี้ แต่กลายเป็นวิถีชีวิตที่ยั่งยืนของคนเชียงราย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย
  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
  • เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย
  • อำเภอขุนตาล
  • หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

จังหวัดเคลื่อนที่เวียงเชียงรุ้ง ยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิต

จังหวัดเชียงรายจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และ “จังหวัดเคลื่อนที่” มอบบริการและความช่วยเหลือแก่ชาวบ้านห้วยหมากเอียก

เชียงราย, 22 พฤษภาคม 2568 – ที่บ้านห้วยหมากเอียก หมู่ 14 ตำบลป่าซาง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย ได้มีการจัดกิจกรรมหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ครั้งที่ 13 ประจำปีงบประมาณ 2568 พร้อมด้วยโครงการ “จังหวัดเคลื่อนที่ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” เพื่อนำบริการสาธารณสุขและความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐสู่ชุมชนห่างไกล งานนี้มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ผ่านการมอบสิ่งของ บริการทางการแพทย์ และการหารือแนวทางการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

 

ความท้าทายของชุมชนห่างไกลในบ้านห้วยหมากเอียก

ในพื้นที่ชนบทของจังหวัดเชียงราย บ้านห้วยหมากเอียก หมู่ 14 ตำบลป่าซาง อำเภอเวียงเชียงรุ้ง เป็นชุมชนเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 41 กิโลเมตร ด้วยประชากรเพียง 514 คน ใน 164 หลังคาเรือน ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างทั่วไป ซึ่งให้รายได้ไม่แน่นอนและมักไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ความห่างไกลจากศูนย์กลางเมืองทำให้การเข้าถึงบริการสาธารณสุขและสวัสดิการพื้นฐานเป็นเรื่องท้าทาย โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และครอบครัวที่มีรายได้น้อย

ในช่วงฤดูฝน ชาวบ้านต้องเผชิญกับถนนที่ขรุขระและการเดินทางที่ยากลำบาก ส่งผลให้การไปโรงพยาบาลหรือศูนย์บริการสาธารณสุขในตัวอำเภอเป็นภาระทั้งด้านเวลาและค่าใช้จ่าย เด็กนักเรียนในชุมชนบางคนขาดแคลนทุนทรัพย์สำหรับการศึกษา ขณะที่ผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงมักขาดการดูแลอย่างใกล้ชิด สถานการณ์เหล่านี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการนำบริการของภาครัฐลงสู่พื้นที่ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสให้ชุมชน

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงให้ความสำคัญกับการแพทย์และการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล จังหวัดเชียงรายจึงได้จัดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และโครงการ “จังหวัดเคลื่อนที่” เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม

กิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และจังหวัดเคลื่อนที่

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ณ บ้านห้วยหมากเอียก นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ครั้งที่ 13 ประจำปีงบประมาณ 2568 พร้อมด้วยโครงการ “จังหวัดเคลื่อนที่ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” โดยมีนางสินีนาฎ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย นายแพทย์รัฐการ ปาระมี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นางสาวมินทิรา ภดาประสงค์ นายอำเภอเวียงเชียงรุ้ง รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น อาสาสมัคร พอ.สว. และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

กิจกรรมครั้งนี้มุ่งเน้นการให้บริการด้านสาธารณสุขและสวัสดิการแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล โดยหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ได้จัดทีมแพทย์ พยาบาล และอาสาสมัครเพื่อตรวจสุขภาพทั่วไป ตรวจคัดกรองโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง รวมถึงให้คำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการทันตกรรมพื้นฐานและแจกยาสามัญประจำบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถดูแลสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของโครงการ “จังหวัดเคลื่อนที่” ได้นำหน่วยงานภาครัฐจากหลากหลายสาขามาให้บริการประชาชนถึงพื้นที่ เช่น การรับเรื่องร้องทุกข์ การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การออกบัตรประจำตัวประชาชน และการให้ความรู้ด้านการเกษตรและอาชีพ ภายในงานมีการมอบสิ่งของเพื่อช่วยเหลือประชาชน ได้แก่:

  • ถุงยังชีพจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย
  • ข้าวสารจากวัดห้วยปลากั้ง
  • ผ้าห่มกันหนาวจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย
  • พันธุ์ปลาจากสำนักงานประมงจังหวัดเชียงราย
  • เงินสงเคราะห์สำหรับครอบครัวผู้มีรายได้น้อยจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย
  • ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลนจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย

นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า “กิจกรรมครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและความมุ่งมั่นในการสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงให้ความสำคัญกับการแพทย์และการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกล เราต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในชุมชนที่ห่างไกลจากการเข้าถึงบริการพื้นฐาน”

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะยังได้ร่วมปลูกต้นไม้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเน้นการปลูกต้นไม้พื้นถิ่นที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เพื่อส่งเสริมความสมดุลของระบบนิเวศและสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชน ต่อจากนั้น ได้มีการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ร่วมกับนายอำเภอ หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชน เพื่อระบุปัญหาเร่งด่วน เช่น การขาดแคลนน้ำสะอาดในฤดูแล้ง และแนวทางส่งเสริมอาชีพที่ยั่งยืน

ไฮไลต์ของงานคือการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุจำนวน 5 รายในอำเภอเวียงเชียงรุ้ง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกเหล่ากาชาดได้มอบถุงยังชีพและให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด การเยี่ยมเยียนครั้งนี้ไม่เพียงช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แต่ยังสร้างความอบอุ่นใจให้กับครอบครัวที่ต้องดูแลผู้ป่วยในสภาวะที่จำกัด

รอยยิ้มและความหวังของชุมชน

กิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. และโครงการ “จังหวัดเคลื่อนที่” ได้นำรอยยิ้มและความหวังมาสู่ชาวบ้านห้วยหมากเอียก ชาวบ้านที่เข้ารับการตรวจสุขภาพแสดงความดีใจที่ไม่ต้องเดินทางไกลไปโรงพยาบาล ขณะที่ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาต่างรู้สึกขอบคุณที่ได้รับโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต การมอบพันธุ์ปลาและการให้ความรู้ด้านการเกษตรยังช่วยให้ชาวบ้านสามารถสร้างรายได้เสริมในระยะยาว

การเยี่ยมเยียนผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุสร้างความประทับใจอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวที่ขาดแคลนทรัพยากรในการดูแลผู้ป่วย นางสาวคำปุน มีศรี ชาวบ้านที่ดูแลแม่วัย 78 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง กล่าวว่า “การที่ท่านผู้ว่าฯ และทีมงานมาเยี่ยมถึงบ้าน ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ถูกลืม และถุงยังชีพที่ได้รับช่วยแบ่งเบาภาระได้มาก”

การปลูกต้นไม้และการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาชุมชนช่วยจุดประกายให้ชาวบ้านตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น ผู้นำชุมชนในบ้านห้วยหมากเอียกแสดงความมุ่งมั่นที่จะนำข้อเสนอจากที่ประชุมไปปฏิบัติ เช่น การจัดตั้งกลุ่มเกษตรอินทรีย์เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และการขอสนับสนุนงบประมาณสำหรับระบบน้ำสะอาดในหมู่บ้าน

ในระยะยาว จังหวัดเชียงรายมีแผนขยายกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และโครงการ “จังหวัดเคลื่อนที่” ไปยังพื้นที่ห่างไกลอื่นๆ ในจังหวัด เพื่อให้ครอบคลุมทุกชุมชนที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยตั้งเป้าลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนผ่านการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและชุมชน

ผลลัพธ์และความท้าทาย

กิจกรรมเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ประสบความสำเร็จในการนำบริการและความช่วยเหลือสู่ชุมชนห้วยหมากเอียก ผลลัพธ์ที่สำคัญ ได้แก่:

  1. การเข้าถึงบริการสาธารณสุข: การตรวจสุขภาพและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพช่วยลดภาระของชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกล และเพิ่มโอกาสในการป้องกันและรักษาโรค
  2. การบรรเทาความเดือดร้อน: การมอบถุงยังชีพ เงินสงเคราะห์ และทุนการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและนักเรียนที่ขาดแคลน
  3. การส่งเสริมความยั่งยืน: การปลูกต้นไม้และการให้ความรู้ด้านการเกษตรช่วยสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนอาชีพที่ยั่งยืน
  4. การสร้างความผูกพันในชุมชน: การเยี่ยมเยียนผู้ป่วยติดเตียงและการประชุมหารือช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและชุมชน

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการยังเผชิญกับความท้าทายบางประการ:

  1. ข้อจำกัดด้านทรัพยากร: การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และโครงการ “จังหวัดเคลื่อนที่” ต้องใช้บุคลากรและงบประมาณจำนวนมาก ซึ่งอาจจำกัดความถี่และขอบเขตของกิจกรรม
  2. การเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล: แม้ว่าบ้านห้วยหมากเอียกจะอยู่ห่างจากอำเภอเพียง 4 กิโลเมตร แต่บางชุมชนในอำเภออื่นๆ อาจมีสภาพถนนที่ยากลำบากกว่า
  3. ความต่อเนื่องของการพัฒนา: การแก้ไขปัญหา เช่น การขาดแคลนน้ำสะอาด ต้องใช้เวลาและการลงทุนระยะยาว ซึ่งต้องอาศัยการประสานงานอย่างต่อเนื่อง
  4. การมีส่วนร่วมของชุมชน: การกระตุ้นให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่องอาจต้องใช้การสื่อสารและการสร้างแรงจูงใจเพิ่มเติม

เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ควรมีการดำเนินการเพิ่มเติมดังนี้:

  • เพิ่มการสนับสนุนทรัพยากร: ขอความร่วมมือจากภาคเอกชนและองค์กรพัฒนาเอกชนในการสนับสนุนงบประมาณและบุคลากร
  • พัฒนาการคมนาคม: ปรับปรุงถนนในพื้นที่ห่างไกลเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเข้าถึงชุมชนได้ง่ายขึ้น
  • สร้างกลไกติดตามผล: จัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามความคืบหน้าของข้อเสนอจากการประชุม และประเมินผลกระทบของการช่วยเหลือ
  • ส่งเสริมการมีส่วนร่วม: จัดอบรมผู้นำชุมชนและเยาวชนเพื่อให้มีบทบาทในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่น

สถิติและแหล่งอ้างอิง

เพื่อให้เห็นภาพความสำคัญของการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และโครงการ “จังหวัดเคลื่อนที่” ข้อมูลต่อไปนี้รวบรวมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ:

  1. จำนวนผู้ได้รับบริการจากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.:
    • ในปี 2567 หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดเชียงรายให้บริการประชาชนในพื้นที่ห่างไกลกว่า 5,000 คน
    • แหล่งอ้างอิง: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย. (2567). รายงานผลการดำเนินงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.
  2. อัตราความยากจนในจังหวัดเชียงราย:
    • ประชากรในจังหวัดเชียงรายที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนมีสัดส่วนประมาณ 12.5% โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบท
    • แหล่งอ้างอิง: สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย. (2567). รายงานสถานการณ์ความยากจนในจังหวัดเชียงราย.
  3. จำนวนผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง:
    • อำเภอเวียงเชียงรุ้งมีผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ประมาณ 15% ของประชากรทั้งหมด และมีผู้ป่วยติดเตียงราว 200 ราย
    • แหล่งอ้างอิง: สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย. (2568). รายงานข้อมูลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง.
  4. ผลกระทบของการปลูกต้นไม้:
    • การปลูกต้นไม้พื้นถิ่นในพื้นที่ชนบทช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้ถึง 10–15% ต่อปี และลดการพังทลายของดินได้ 20%
    • แหล่งอ้างอิง: สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย. (2567). รายงานผลกระทบจากการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ชนบท.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
  • สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย
  • หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สภากาชาดเยี่ยมแม่สาย หนุนสร้างพนังกั้นน้ำ

สภากาชาดไทย-กาชาดเชียงราย ลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ โครงการแนวป้องกันน้ำและขุดลอกแม่น้ำสายแม่สาย

เชียงราย, 18 พฤษภาคม 2568 – สภากาชาดไทยร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่ปฏิบัติงานก่อสร้างแนวป้องกันน้ำและขุดลอกแม่น้ำสาย เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในฤดูฝนปีนี้ ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญเพื่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดน

จุดเริ่มต้นของภารกิจ: การระดมพลังข้ามหน่วยงานเพื่อปกป้องชีวิตประชาชน

โครงการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำชั่วคราว-กึ่งถาวร และการขุดลอกแม่น้ำสาย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยน้ำหลากและตลิ่งพัง ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อำเภอแม่สายต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน การค้า และการคมนาคมในพื้นที่

พื้นที่ปฏิบัติงานครอบคลุมตั้งแต่บ้านหัวฝาย หมู่ที่ 1 ตำบลเวียงพางคำ ไปจนถึงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 รวมระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยได้รับการสนับสนุนด้านกำลังพลและเครื่องจักรจากกรมการทหารช่าง กองทัพบก ร่วมกับกองกำลังผาเมือง และมณฑลทหารบกที่ 37

กำลังใจถึงแนวหน้า ผู้นำลงพื้นที่ด้วยตนเอง

ในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568 คณะจากสภากาชาดไทย นำโดย นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด พร้อมด้วย นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และที่ปรึกษาคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย นางสินีนาฎ ทองสุข นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย และคณะกรรมการเหล่ากาชาดอำเภอแม่สาย ร่วมกับที่ทำการปกครองอำเภอแม่สายและแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

บรรยากาศของการลงพื้นที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความหวัง โดยมีการจัดเตรียมน้ำดื่ม อาหารว่าง และอุปกรณ์ป้องกันแดดเพื่อแจกจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณในความเสียสละและความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ทุกนาย

รายละเอียดโครงการ ระบบป้องกันน้ำที่ออกแบบอย่างหลากหลาย

เพื่อให้การป้องกันน้ำมีประสิทธิภาพในทุกสภาพพื้นที่ โครงการดังกล่าวได้ออกแบบแนวป้องกันน้ำใน 5 รูปแบบ ดังนี้:

  • แบบที่ 1: ใช้เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก แผ่น Precast panel และคานทับหลัง พร้อมถมดินและเสริมแนว Big bag ด้านบน
  • แบบที่ 2: มีแนวกำแพงพร้อมเสาเหล็กค้ำยัน ใช้แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป
  • แบบที่ 3: เป็นเสาและกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด
  • แบบที่ 4: กำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กมีช่องเปิดสำหรับอาคารริมน้ำ ใช้เหล็กหนา 2 มิลลิเมตร
  • แบบที่ 5: ใช้ Big bag เป็นหลักในการกันน้ำบริเวณแนวอ่อนแรง

นอกจากการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำแล้ว ยังมีการขุดลอกแม่น้ำรวก ซึ่งเป็นลำน้ำสายหลักของพื้นที่ โดยเริ่มตั้งแต่ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย ไปจนถึงพื้นที่ในอำเภอเชียงแสน เพื่อเพิ่มความจุของแม่น้ำ ลดแรงดันน้ำและป้องกันตลิ่งทรุด

การขุดลอกแม่น้ำ ขั้นตอนที่ต้องอาศัยความแม่นยำและระมัดระวัง

การดำเนินการขุดลอกแม่น้ำดำเนินด้วยความรอบคอบ โดยเริ่มจากการสำรวจสภาพพื้นที่ สภาพดิน ความกว้าง-ลึกของลำน้ำ และระยะห่างจากสิ่งปลูกสร้างริมตลิ่ง ก่อนจะเริ่มขุดในช่วงละ 50–100 เมตร

จุดที่มีความเสี่ยงต่อการทรุดตัวของตลิ่งจะมีการตอกเสาเข็มไม้ขนาด 6–8 นิ้ว เรียงชิดเป็นแนว เพื่อป้องกันการไหลทลายของดินลงสู่แม่น้ำ อันจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบ้านเรือนริมฝั่งในอนาคต

ความร่วมมือเพื่อความมั่นคงทางสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของประชาชน

โครงการดังกล่าวสะท้อนถึงแนวทางการจัดการภัยพิบัติอย่างมีระบบที่อาศัยความร่วมมือจากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งพลเรือน ทหาร และภาคประชาสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงพื้นที่ของสภากาชาดไทยและเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงรายในครั้งนี้ ไม่ได้เพียงเป็นการให้กำลังใจเชิงสัญลักษณ์ แต่ยังเป็นการส่งเสริมขวัญกำลังใจและสร้างแรงสนับสนุนจากระดับนโยบายไปถึงระดับปฏิบัติการ

การป้องกันน้ำท่วมไม่อาจพึ่งพาเฉพาะโครงสร้างทางวิศวกรรม หากต้องเสริมด้วยความเข้าใจในระบบนิเวศ ความร่วมมือของชุมชน และการบำรุงรักษาระบบที่ก่อสร้างไปแล้วอย่างต่อเนื่อง จึงจะสามารถลดผลกระทบในระยะยาวได้อย่างแท้จริง

ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง

  • จากรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปี 2566 ระบุว่า จังหวัดเชียงรายประสบภัยพิบัติน้ำท่วมรวมทั้งสิ้น 12 ครั้ง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวมกว่า 22,000 ครัวเรือน
  • แม่น้ำสายและแม่น้ำรวก เป็นสองลำน้ำหลักที่มีน้ำหลากบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
  • กรมทรัพยากรน้ำรายงานว่า ในปี 2567 มีปริมาณฝนสะสมในเขตภาคเหนือสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 13.7% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านน้ำท่วมเฉียบพลัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สภากาชาดไทย
  • เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย
  • กรมการทหารช่าง กองทัพบก
  • กองกำลังผาเมือง
  • มณฑลทหารบกที่ 37
  • ที่ทำการปกครองอำเภอแม่สาย
  • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
  • กรมทรัพยากรน้ำ
  • สำนักงานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

12 สิงหาคม ชาวเชียงรายร่วมใจ บริจาคโลหิต อวัยวะ และดวงตา

 

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ที่มูลนิธิสาธารณะกุศลสงเคราะห์เชียงราย (หน้าโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม) อ.เมืองเชียงราย เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และมูลนิธิสาธารณกุศลสงเคราะห์เชียงราย จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 92 พรรษา 12 สิงหาคม 2567 เพื่อถวายความจงรักภักดี ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 

ที่ทรงมีต่อประชาชนและพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ซึ่งเปิดรับบริจาคตั้งแต่เวลา 9.00 – 14.00 น. โดยภายในกิจกรรมวันนี้ ชาวเชียงรายต่างรวมใจสวมเสื้อสีฟ้า สีสัญลักษณ์ของวันแม่ มีทั้งประชาชนจิตอาสา นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะเป็นจำนวนมาก อีกทั้งผู้ที่มาบริจาคโลหิตจะได้รับของที่ระลึก ใบประกาศเกียรติคุณ และได้ลุ้นรับรางวัลพิเศษ จากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย รวมถึงลุ้นรับแก้วน้ำเก็บอุณหภูมิ แก้วน้ำมินิมอล ร่ม และอื่นๆอีกมาย จาก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงราย และไทย ฮอนด้า เชียงราย เพื่อเป็นการตอบแทนที่มีจิตอาสา ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งการบริจาคโลหิตถือเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ และยังเป็นการต่อชีวิตให้กับผู้อื่น โดยการบริจาคเลือดปกติ 1 ครั้งสามารถช่วยต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยได้ 3 คน ทำให้มีเลือดเพียงพอในการรักษาชีวิตของผู้ป่วยตลอดไป

ทั้งนี้ “โลหิต” หรือ “เลือด” เป็นสิ่งที่จำเป็นและมีความสำคัญในการใช้รักษาผู้ป่วย ในปัจจุบันยังไม่มีผู้ที่สามารถคิดค้นสิ่งใดมาใช้ทดแทนโลหิตได้ จึงจำเป็นต้องมีการรับบริจาคโลหิต เพื่อให้ได้มาซึ่งโลหิตสำหรับใช้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วย โดยการบริจาคโลหิตแต่ละครั้ง สามารถปั่นแยกเป็นส่วนประกอบโลหิตได้มากกว่า 3 ส่วน ช่วยชีวิตได้มากกว่า 3 ชีวิต และผลิตเป็นผลิตภัณฑ์โลหิตได้อีกมากมาย เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยด้วยโรคต่าง ๆ อาทิ เกล็ดเลือด นำไปรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ โรคไข้เลือดออก มะเร็งเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง นำไปรักษาผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ไขกระดูกฝ่อ ผู้ป่วยที่สูญเสียเลือดจากการ ผ่าตัดหัวใจ อุบัติเหตุ ตกเลือดจากการคลอดบุตร พลาสมา นำไปรักษาผู้ที่มีอาการช็อกจากการขาดน้ำ ผลิตเซรุ่มป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี และเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัข 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ฝึกปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นนักเรียน 6 สถานศึกษาที่จังหวัดเชียงราย

 
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 67 ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีเปิดการอบรม “ทำดี ทำง่าย ให้เลือด” ตามโครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนเยาวชนไทยให้โลหิต ประจำปีการศึกษา 2567 (ปีที่ 24) ณ ห้องดอยตุง 2 โรงแรมเดอะริเวอร์รี บายกะตะธานี อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยมีคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์จำกัด รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ผู้แทนโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และคณะครูอาจารย์จาก 6 สถานศึกษาในจังหวัดเชียงราย ส่งน้องๆ นักเรียน เข้าร่วมโครงการเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ส่งเสริมให้เยาวชนมีคุณธรรมและรู้จักการเป็น “ผู้ให้” มีจิตอาสา โดยเริ่มจากการเป็นผู้บริจาคโลหิต สนับสนุนให้เยาวชนมีบทบาทเป็นผู้นำในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การบริจาคโลหิต ส่งเสริมให้สถานศึกษาเป็นจุดศูนย์กลางในการบริจาคโลหิต เพื่อให้ได้รับปริมาณโลหิตบริจาคเต็มตามจำนวนที่คาดหวัง และเพื่อให้การจัดหาโลหิตของประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ต่อไป
 

         นายภาคภูมิ จักกะพาก ผู้ช่วยผู้อำนวยการธุรกิจสุกรภาคเหนือตอนบน บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การอบรม “ทำดี ทำง่าย ให้เลือด” ตามโครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนเยาวชนไทยให้โลหิต ประจำปีการศึกษา 2567 (ปีที่ 24) เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความเจริญเติบโตในการดำเนินธุรกิจ   ครบ 100 ปี โดยมีปฎิธานมุ่งมั่น สร้างความเจริญให้ประเทศไทย ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนและบริหารงานธุรกิจด้วยหลักคุณธรรมมาอย่างต่อเนื่องสำหรับความรับผิดชอบต่อสังคมนั้น เครือเจริญโภค-ภัณฑ์ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะงานบริการโลหิต ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษา พยาบาลให้ประชาชนหายจากการเจ็บป่วย ปลูกฝังเยาวชนที่เป็นต้นกล้าที่แข็งแรงให้มีความรู้ ความเข้าใจในงานบริการโลหิต เพื่อเป็นผู้บริจาคโลหิตต่อไปในอนาคต จึงได้จัดทำโครงการ เครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนเยาวชนไทยให้โลหิต ด้วยแนวคิด “ทำดี ทำง่าย ให้เลือด” ดำเนิน การมาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2543 จนถึงปัจจุบัน กว่า 24 ปี นับว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยได้รับความร่วมมือจากสถานศึกษาในระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษาและพณิชยการ ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งการอบรมครั้งนี้ โครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์สนับสนุนเยาวชนไทยให้โลหิต ประจำปีการศึกษา 2567 จังหวัดเชียงราย ในวันนี้ เป็นจังหวัดลำดับที่ 5 ต่อจาก จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น  และหนองคาย มีคุณครูและนักเรียนเข้ารับการอบรม จำนวน 155 คน จากสถานศึกษา จำนวน 6 แห่ง โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจาก เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่ และสถานศึกษาทุกแห่ง
 

       สำหรับช่วงการอบรม ได้จัดให้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริจาคเลือด คุณสมบัติ/การเตรียมตัวก่อน – หลังการบริจาคโลหิต กรุ๊ปเลือดจะต่างกัน แต่เลือดเราปลอดภัยนะ ระบบหมู่โลหิต การตรวจหมู่โลหิต และการตรวจคัดกรองโลหิต เลือด 1 ถุง เอาไปทำอะไรต่อ ส่วนประกอบของโลหิตและผลิตภัณฑ์โลหิต ให้เลือดแล้วภูมิใจสุดๆ ประโยชน์ของเลือดที่มีต่อผู้ป่วย และความภาคภูมิใจที่ได้รับจากการบริจาคโลหิต ชมวิดิทัศน์/บรรยาย/สาธิตการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) และการใช้เครื่องช็อคหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ฝึกปฎิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) การใช้เครื่องช็อคหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) อีกด้วย
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเปิดโครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงราย นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดโครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท จังหวัดเชียงราย โดยมีนางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย แพทย์หญิงอุไรวัลย์ ตินนังวัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ นายแพทย์ 8 จักษุแพทย์สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย มาให้คำแนะนำ ชี้แจงรูปแบบการดำเนินโครงการ ในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประกอบไปด้วย สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย แพทย์อาสาประจำตำบล อสม. ครู เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กว่า 700 คน

.
นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่ารู้สึกดีใจแทน ด้วยเด็กนักเรียนในชนบท อาจไม่รู้ว่าตนเองมีสายตาบกพร่อง ทำให้เด็กนักเรียนจำนวนมาก มองเห็นไม่ชัด ขาดแคลนร้านแว่นตาที่มีคุณภาพ จึงเป็นเหตุทำให้เด็กส่วนใหญ่ขาดประสิทธิภาพในการเรียนรู้ ด้อยโอกาสในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านความรู้ ความสามารถ รวมถึงการประกอบอาชีพในอนาคต
.
นางสุภาเพ็ญ ศิริมาตย์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยและนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าโครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท จังหวัดเชียงราย จะใช้รถตัดแว่นสายตาที่เป็นรถบัสใหญ่ ออกแบบภายในพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถประกอบแว่นสายตาบนรถได้ทันที และสามารถรับแว่นสายตาในวันเดียวกัน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ จำนวน 4,000 ราย เพื่อให้เด็กๆ มีความสามารถในการมองเห็นที่ชัดเจนขึ้น มีโอกาสในการเรียนรู้ พร้อมกับดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป สามารถช่วยเหลือตัวเอง และครอบครัวอีกด้วย
.
ด้านแพทย์หญิงอุไรวัลย์ ตินนังวัฒนะ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ นายแพทย์ 8 จักษุแพทย์สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้ให้คำแนะนำ อธิบายหน้าที่ให้แก่ผู้เข้าอบรมกว่า 700 คน เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติ จัดเตรียมเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์การตรวจวัดสายตา พร้อมสอนวิธีให้คำปรึกษาแก่เด็กนักเรียนในชนบท การตอบปัญหาและช่วยแก้ไข ตลอดจนการปฏิบัติตัวเมื่อสายตาเปลี่ยนแปลงไป
ทั้งนี้สภากาชาดไทย ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย โดยโครงการรถตัดแว่นสายตาเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อเด็กนักเรียนในชนบท ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 – 21 กรกฎาคม 2566 นี้ ติดตามรายละเอียดได้ที่ สภากาชาดไทย จังหวัดเชียงราย หรือติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย หมายเลขโทรศัพท์ 0-5371-2696

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เหล่ากาชาดจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News