Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

เลือกตั้ง อบจ. เชียงราย 2568 หลายสื่อคาดศึกสองบ้านใหญ่

สนามเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงรายเดือด! “นายกนก” คาดท้าชิงเก้าอี้อีกครั้ง

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 นางสาวอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “นายกนก” ได้แถลงการณ์ผ่านโพสต์โซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยระบุว่าเป็นวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ครบวาระ 4 ปี และกล่าวขอบคุณประชาชนชาวเชียงรายที่ไว้วางใจและสนับสนุนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

“นกขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงรายทุกคนที่ให้ความไว้วางใจกับนก นกอยากเห็นเชียงรายเป็นเมืองแห่งความสุขและความน่าอยู่” นายกนกกล่าว

การเลือกตั้งนายก อบจ. เชียงรายครั้งใหม่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 โดยสนามเลือกตั้งครั้งนี้คาดว่าจะร้อนแรงเมื่อมีความเคลื่อนไหวจากผู้สมัครหน้าเดิมและหน้าใหม่ที่พร้อมชิงชัย

นายกนก: นักการเมืองอิสระ ผู้ลงชิงชัยอีกครั้ง

นายกนกได้ประกาศชัดเจนว่าเธอจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งในฐานะ “อิสระ” โดยไม่สังกัดพรรคการเมืองใด แม้ว่าความสำเร็จในปี 2563 ที่ผ่านมาเธอสามารถเอาชนะคู่แข่งสำคัญจากพรรคเพื่อไทยด้วยคะแนน 239,622 คะแนน ทิ้งห่าง วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ผู้สมัครจากเพื่อไทยที่ได้คะแนน 211,956 คะแนน

ทีมงานของนายกนกยังคงได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) ส่วนใหญ่ในเชียงราย โดยมี สจ. ทั้งหมด 36 เขต ซึ่งหลายคนแสดงความพร้อมที่จะสนับสนุนเธอ

“สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” หวนคืนสนาม

คู่แข่งสำคัญที่ปรากฏตัวในสนามนี้คือ สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ภรรยาของ ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตนักการเมืองใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายก อบจ. เชียงรายมาก่อน และกลับมาลงสมัครอีกครั้งในนามพรรคเพื่อไทย

การผลักดันของบ้านใหญ่ติยะไพรัชเพื่อล้มแชมป์ตระกูลวันไชยธนวงศ์เกิดขึ้นจากการที่พรรคเพื่อไทยมองเห็นศักยภาพของสลักจฤฎดิ์และต้องการนำพรรคกลับมาครองเก้าอี้นายก อบจ. เชียงราย

บ้านใหญ่วันไชยธนวงศ์ vs บ้านใหญ่ติยะไพรัช

การเลือกตั้งครั้งนี้สะท้อนถึงการเผชิญหน้าระหว่างสองตระกูลการเมืองใหญ่ของเชียงราย โดย บ้านใหญ่วันไชยธนวงศ์ มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับพรรคภูมิใจไทย หลังจาก รังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ สมาชิกในตระกูลลาออกจากเพื่อไทยไปเข้าพรรคภูมิใจไทย และแม้ว่าจะแพ้การเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา แต่สายสัมพันธ์นี้ยังคงส่งผลต่อฐานคะแนนของนายกนก

ในขณะที่ บ้านใหญ่ติยะไพรัช พยายามส่งสลักจฤฎดิ์เข้ามาทวงคืนพื้นที่ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยมีคะแนนเสียงที่มั่นคงในจังหวัดเชียงราย

ปัจจัยสำคัญที่ชี้ชะตา

การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เพียงขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้สมัครแต่ละคน แต่ยังเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายประการ เช่น ฐานคะแนนในอดีต ความนิยมของพรรคการเมือง และการสนับสนุนจากทีม สจ. ในแต่ละเขต

  • คะแนนเสียงในอดีต:
    ปี 2555 สลักจฤฎดิ์ได้รับคะแนนเสียงสูงในฐานะผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย แต่ในปี 2563 นายกนกสามารถเอาชนะไปได้

  • ความนิยมของพรรคการเมือง:
    พรรคเพื่อไทยยังคงมีอิทธิพลสูงในพื้นที่เชียงราย ขณะที่นายกนกเน้นการเป็นผู้สมัครอิสระที่สร้างผลงานในช่วงดำรงตำแหน่งที่ผ่านมา

สมรภูมิการเมืองที่ดุเดือด

สนามเลือกตั้งนายก อบจ. เชียงรายในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสมรภูมิสำคัญที่น่าจับตามอง เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการต่อสู้ของสองตระกูลใหญ่ แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของภูมิทัศน์ทางการเมืองในจังหวัดเชียงราย

สรุปสถานการณ์

การเลือกตั้งนายก อบจ. เชียงราย ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ จะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของประชาชนในเชียงราย ระหว่าง “นายกนก” อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ กับ “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” สองผู้สมัครที่ต่างมีฐานเสียงและสนับสนุนที่แข็งแกร่ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR