
รายจ่ายเปิดเทอมปี 2568 ทะลุ 6.2 หมื่นล้านบาท สูงสุดรอบ 16 ปี สะท้อนภาพเศรษฐกิจยังเคลื่อนไหว แม้ผู้ปกครองกังวลผลกระทบ
เชียงราย, 8 พฤษภาคม 2568 – รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เผยผลสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้ปกครองในช่วงเปิดภาคเรียน พบว่าแม้เศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากภาวะการชะลอตัวระดับโลก แต่การใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงเปิดเทอมกลับสูงขึ้นแตะระดับ 62,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.80% ซึ่งนับว่าสูงสุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่เริ่มสำรวจปี 2553
แนวโน้มค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา สูงขึ้น แต่สะท้อนความสำคัญในใจผู้ปกครอง
จากผลสำรวจพบว่า ผู้ปกครองให้ความสำคัญกับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการวางแผนจัดซื้อสินค้าเกี่ยวกับการเรียนและอุปกรณ์การศึกษาก่อนเปิดภาคเรียน โดย
- ร้อยละ 78.6% วางแผนซื้อหนังสือเรียนใหม่ทั้งหมด
- ร้อยละ 42.7% ซื้ออุปกรณ์การเรียนใหม่บางส่วน
- ค่าเทอมเฉลี่ย 21,142 บาท
- ค่าชุดนักเรียน เพิ่มขึ้น 38.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
- ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยรวมต่อคนอยู่ที่ 26,039 บาท
ถึงแม้ว่าผู้ปกครองร้อยละ 45.6% มองว่าค่าใช้จ่ายในปีนี้ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ยังมีถึงร้อยละ 30.2% ที่รู้สึกว่าเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยสาเหตุหลักคือ ราคาสินค้าแพงขึ้น และ ปริมาณสิ่งของที่ซื้อเพิ่มขึ้น
วิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายด้านการศึกษา
รศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าวว่า แม้จะมีข้อกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ แต่จากการใช้จ่ายในช่วงเปิดภาคเรียนสะท้อนว่า เศรษฐกิจไทย “ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้” โดยไม่มีสัญญาณของภาวะซึมเศร้ารุนแรง การใช้จ่ายของผู้ปกครองไม่ได้ลดลงหรือระมัดระวังจนผิดปกติ ซึ่งอาจตีความได้ว่า
- ค่าใช้จ่ายทางการศึกษาเพิ่มขึ้นจริง
- ผู้ปกครองยังให้ความสำคัญกับการศึกษา
- ภาพรวมการบริโภคไม่ได้ชะลอลงถึงขั้นวิกฤต
นอกจากนี้ ยังระบุว่า ไม่พบสัญญาณชัดเจนของผลกระทบจาก สงครามการค้าโลก หรือการชะลอตัวจากตลาดแรงงานที่รุนแรงแต่อย่างใด
ผู้ปกครองยอมรับภาวะเศรษฐกิจมีผลต่อการศึกษา
แม้ภายนอกดูเหมือนเศรษฐกิจยังทรงตัวได้ แต่ผลสำรวจยังชี้ว่า มากกว่า 90% ของผู้ปกครองยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อการจัดสรรค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวรายได้น้อย ซึ่งต้องวางแผนและจำกัดการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ
ข้อกังวลของผู้ปกครอง นอกเหนือเรื่องเงิน ยังมีเรื่องอนาคตลูก
ผลสำรวจยังเปิดเผยถึงความกังวล 5 อันดับแรกของผู้ปกครองในช่วงเปิดภาคเรียน ได้แก่
- ความกังวลเรื่องการคบเพื่อนของลูกหลาน
- ความรุนแรงในโรงเรียน
- ความเสี่ยงไม่มีงานทำในอนาคต
- ความสามารถในการเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
- การสอบแข่งขันเพื่อศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
ข้อกังวลเหล่านี้สะท้อนว่า การศึกษาในยุคใหม่ไม่ใช่แค่เรื่องตำราเรียนหรือคะแนนสอบ แต่เกี่ยวพันกับคุณภาพชีวิต สภาพแวดล้อม และทักษะการใช้ชีวิตของนักเรียน
ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษายังเป็นปัญหาเรื้อรัง
รายงานระบุว่า มี ความเหลื่อมล้ำสูงระหว่างนักเรียนในเมืองและต่างจังหวัด โดยเฉพาะด้านโอกาสในการเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ เทคโนโลยี และครูผู้สอนคุณภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กนอกเมืองมีความเสี่ยงตกหล่นทางการศึกษาอย่างถาวร
ความสำคัญของ กยศ. ต่อโอกาสทางการศึกษา
ในการประเมินบทบาทของ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พบว่า
- 50.1% ของผู้ปกครองมองว่า กยศ. มีความสำคัญอย่างมาก
- มากกว่า 90% เห็นว่า กยศ. ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวในระดับปานกลางถึงมาก
นโยบายของรัฐด้านการศึกษา เช่น กยศ. ยังคงเป็นกลไกสำคัญในการกระจายโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ผู้ปกครองอยากให้รัฐบาลปรับปรุงด้านการศึกษา
จากผลสำรวจ พบว่าผู้ปกครองเสนอให้มีการปฏิรูป 6 ประเด็นหลัก ได้แก่
- ปรับปรุงระบบประเมินผลให้หลากหลาย ไม่ยึดคะแนนสอบเพียงอย่างเดียว
- ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้โรงเรียนทุกแห่งมีมาตรฐานเท่าเทียม
- สนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับเด็กขาดแคลน
- ยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่มาตรฐานสากล
- ปรับวิธีสอนให้ทันสมัย ดึงดูดนักเรียนมากขึ้น
- เพิ่มจำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เพียงพอ
มุมมองของผู้ประกอบการ เศรษฐกิจการศึกษายังไปต่อได้
ในแง่ของผู้ประกอบการ พบว่า
- ร้อยละ 38.2% เชื่อว่าบรรยากาศช่วงเปิดเทอมปีนี้ “คึกคักกว่าปีที่แล้ว”
- ร้อยละ 85% มีความเชื่อมั่นว่าระบบการศึกษาไทยจะสามารถยกระดับให้ทัดเทียมระดับนานาชาติได้ในอีก 10 ปี
- อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการระบุอุปสรรคสำคัญต่อการปฏิรูปการศึกษา คือ
- ความเข้าใจผิดของสังคมเกี่ยวกับแนวทางการปฏิรูป
- การเปลี่ยนนโยบายทางการศึกษาบ่อยครั้งตามการเมือง
บทวิเคราะห์และข้อเสนอเชิงนโยบาย
ผลการสำรวจสะท้อนภาพรวมที่ซับซ้อนของสถานการณ์การศึกษาในไทย กล่าวคือ
- เศรษฐกิจยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ก็ยังมีผลกระทบกับกลุ่มเปราะบาง
- ผู้ปกครองยังเห็นคุณค่าในการลงทุนด้านการศึกษา แม้ต้นทุนสูง
- ระบบการศึกษาไทยต้องปฏิรูปอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างมาตรฐานเดียวกัน
- การสนับสนุนจากรัฐ เช่น กยศ. ยังมีบทบาทสำคัญ และควรเพิ่มความยืดหยุ่นในการเข้าถึง
- ผู้ประกอบการเชื่อในอนาคตของการศึกษาไทย แต่ต้องการความต่อเนื่องในนโยบาย
สถิติสำคัญจากการสำรวจ (มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, พฤษภาคม 2568)
รายการ | ตัวเลขสำคัญ |
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเปิดเทอม | 26,039 บาท |
ค่าเทอมเฉลี่ย | 21,142 บาท |
เม็ดเงินสะพัดช่วงเปิดเทอม | 62,614 ล้านบาท |
ผู้ปกครองมองว่ามีผลกระทบจากเศรษฐกิจ | 90% |
ความสำคัญของ กยศ. (มองว่าสำคัญมาก) | 50.1% |
ความเชื่อมั่นระบบการศึกษาไทยพัฒนาได้ใน 10 ปี | 85% ผู้ประกอบการ |
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (สำรวจพฤษภาคม 2568)
- กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) www.studentloan.or.th
- สำนักงานสถิติแห่งชาติ
- สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
- โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม จังหวัดเชียงราย