Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

การประชุมวางแผนสร้างบ้านน็อคดาวน์เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมที่เชียงราย

การประชุมวางแผนสร้างบ้านน็อคดาวน์เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วมที่เชียงราย

ในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ ร้านกาแฟเรือนจำชั่วคราวดอยฮาง จังหวัดเชียงราย นายอภิรักษ์ อินต๊ะวัง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ยาว ปลัดเทศบาลตำบลแม่ยาว นายกเทศบาลตำบลดอยฮาง และปลัดเทศบาลตำบลดอยฮาง ได้เข้าร่วมการประชุมหารือเกี่ยวกับการสร้างบ้านน็อคดาวน์ ปรับภูมิทัศน์ และการซ่อมแซมพื้นที่เพื่อเตรียมการต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในการมอบบ้านน็อคดาวน์ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในตำบลฮาง ตำบลแม่ยาว ตำบลริมกก และชุมชนรอบเวียง

การสร้างบ้านน็อคดาวน์เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วม

การสร้างบ้านน็อคดาวน์ถือเป็นมาตรการสำคัญในการลดผลกระทบจากภัยน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ของเชียงราย บ้านน็อคดาวน์เป็นโครงสร้างที่สามารถติดตั้งได้รวดเร็วและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างรวดเร็วหลังเกิดภัยพิบัติ

ปรับภูมิทัศน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำท่วม

การปรับภูมิทัศน์เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่มีความสำคัญในการลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม การสร้างพื้นที่สีเขียว การจัดการระบบน้ำเสีย และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะช่วยให้พื้นที่มีความสามารถในการรองรับน้ำท่วมได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน

การซ่อมแซมและเตรียมการต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

การซ่อมแซมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ชุมชนสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจะมอบบ้านน็อคดาวน์ให้กับผู้ประสบภัยในโอกาสนี้ การเตรียมการต้อนรับอย่างเป็นทางการจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อแสดงถึงความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ

การวางแผนและการร่วมมือระหว่างเทศบาล

การประชุมครั้งนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางแผนและการร่วมมือระหว่างเทศบาลในพื้นที่ต่างๆ การแบ่งปันทรัพยากรและความรู้จะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต

ความสำคัญของการสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรต่างๆ

การสนับสนุนจากรัฐบาลและองค์กรต่างๆ เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินโครงการสร้างบ้านน็อคดาวน์และการปรับภูมิทัศน์ รัฐบาลมีบทบาทในการจัดสรรงบประมาณและนโยบายที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในขณะที่องค์กรต่างๆ สามารถให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและทรัพยากรที่จำเป็นต่อการดำเนินโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป

การประชุมหารือในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเชียงรายในการรับมือกับภัยน้ำท่วม การสร้างบ้านน็อคดาวน์และการปรับภูมิทัศน์เป็นมาตรการที่สามารถลดผลกระทบจากภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ การร่วมมือระหว่างเทศบาล รัฐบาล และองค์กรต่างๆ จะช่วยให้โครงการดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประสบภัยได้อย่างเต็มที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

จุฬาราชมนตรีมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย

จุฬาราชมนตรีมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เชียงราย: ความร่วมมือเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 วันอาทิตย์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ จุฬาราชมนตรีได้ลงพื้นที่เพื่อมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย โดยกิจกรรมนี้เกิดขึ้นเวลา ๑๓.๐๐ น. ณ ชุมชนมุสลิมกกโท้ง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย 

การมอบเงินช่วยเหลือเพื่อเยียวยาผู้ประสบภัย

ในวันอาทิตย์ที่กล่าวมา อาจารย์อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี พระไพศาลประชาทร วิ. เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ผู้บริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย ร่วมกันมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลนครเชียงราย

ความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้กล่าวต้อนรับการมอบเงินช่วยเหลือนี้ พร้อมด้วยประชาชนชาวไทยมุสลิมและชาวไทยพุทธที่มาร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ณ ชุมชนมุสลิมกกโท้ง

คำกล่าวของอาจารย์อรุณ บุญชม

อาจารย์อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ได้กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่จังหวัดเชียงรายประสบอุทกภัย ทางคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ออกประกาศเพื่อร่วมบริจาคเงินนำมามอบให้กับพี่น้องชาวเชียงรายที่ประสบภัย โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างทางศาสนาและเชื้อชาติ

การสนับสนุนจากพระมหากษัตริย์

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการอยู่ร่วมกันของทั้ง ๕ ศาสนา โดยไร้ซึ่งความขัดแย้งกัน พระมหากษัตริย์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกที่ดูแลทุกศาสนาและให้ความอนุเคราะห์อย่างเท่าเทียมกัน ทำให้บ้านเมืองของเราสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

การร่วมบริจาคจากพระไพศาลประชาทร วิ. เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง

พระไพศาลประชาทร วิ. เจ้าอาวาสวัดห้วยปลากั้ง ได้ร่วมสมทบเงินและสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อให้กำลังใจและเป็นการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากเหตุการณ์ดังกล่าว

การมีส่วนร่วมของหน่วยงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนางวนิดาพร ธิวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ข้าราชการและบุคลากรสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้เข้าร่วมการต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการดำเนินงานดังกล่าว

ผลกระทบของน้ำท่วมต่อชุมชนเชียงราย

น้ำท่วมเป็นภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายที่มีภูมิประเทศเป็นเขตหุบเขาและมีการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ การเกิดน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้หลายครัวเรือนต้องสูญเสียทรัพย์สินและที่อยู่อาศัย

การฟื้นฟูและช่วยเหลือหลังน้ำท่วม

การมอบเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถฟื้นฟูชีวิตได้เร็วขึ้น แต่ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนให้สามารถเผชิญกับภัยธรรมชาติในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น

บทบาทของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย

คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการประสานงานและจัดสรรทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกภาคส่วน การมีส่วนร่วมจากหลายองค์กรช่วยให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ต้องการ

การสนับสนุนจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

ผู้บริหารธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนทางการเงินและการจัดการทรัพยากร เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างราบรื่นและทันเวลา

ความสำคัญของความสามัคคีในชุมชน

การที่ชุมชนมุสลิมและชาวพุทธมาร่วมกันต้อนรับและให้การสนับสนุนกันแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความร่วมมือที่เข้มแข็งในสังคมไทย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสังคมที่มีความยั่งยืนและมั่นคง

การส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างศาสนา

การมีปฏิสัมพันธ์และการสนับสนุนกันระหว่างศาสนาต่างๆ ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและลดความขัดแย้ง ทำให้สังคมไทยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและมีความสุข

การตอบสนองของประชาชนในเหตุการณ์น้ำท่วม

ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างมาก หลายคนต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำรงชีวิตประจำวัน การมีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ มาช่วยเหลือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถกลับมามีชีวิตที่ดีขึ้นได้

การมีส่วนร่วมของชุมชนในการฟื้นฟู

ชุมชนมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและฟื้นฟูหลังน้ำท่วม การร่วมมือกันระหว่างประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

แผนการฟื้นฟูระยะยาวสำหรับจังหวัดเชียงราย

การฟื้นฟูหลังน้ำท่วมไม่เพียงแต่เน้นที่การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันที แต่ยังต้องมีแผนการฟื้นฟูระยะยาวเพื่อป้องกันและเตรียมความพร้อมสำหรับภัยธรรมชาติในอนาคต

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบเตือนภัย

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทนทานต่อภัยน้ำท่วมและการติดตั้งระบบเตือนภัยที่ทันสมัย เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สามารถรับมือกับภัยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเรียนรู้จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้

การวิเคราะห์และเรียนรู้จากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้สามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาระบบการจัดการภัยพิบัติให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

การประเมินผลการช่วยเหลือและการฟื้นฟู

การประเมินผลการช่วยเหลือและการฟื้นฟูเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจสอบประสิทธิภาพของการดำเนินงานและการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต

ความสำคัญของการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล องค์กรเอกชน หรือประชาชนทั่วไป เป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสังคมที่เข้มแข็งและสามารถเผชิญกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การส่งเสริมการมีส่วนร่วมขององค์กรต่างๆ

องค์กรต่างๆ ควรมีบทบาทในการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางการเงิน การจัดหาอาหารและเครื่องใช้ หรือการให้คำปรึกษาและการสนับสนุนด้านจิตใจ

สรุป

การมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เชียงรายโดยจุฬาราชมนตรีและคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือและความสามัคคีในสังคมไทย การสนับสนุนจากทุกภาคส่วนช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถฟื้นฟูชีวิตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาระบบการจัดการภัยพิบัติในอนาคต และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและประเทศชาติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

นายกเทศมนตรีเชียงรายฟื้นฟูท่องเที่ยวพร้อมจัดงานดอกไม้อย่างยิ่งใหญ่

นายกเทศมนตรีเชียงรายเสนอกลยุทธ์ฟื้นฟูการท่องเที่ยว พร้อมจัดงานดอกไม้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้เสนอแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง และปลัดกระทรวงนัทรียา ทวีวงศ์ ในการประชุมที่จัดขึ้นที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนัก

การประชุมร่วมกับรัฐมนตรีท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวเชียงราย

นายกเทศมนตรีเชียงรายและทีมงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมประชุมกับทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงผู้แทนเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ ชุมชนที่ได้รับผลกระทบมากถึง 52 ชุมชน มีบ้านเรือนประชาชนประสบภัยถึง 12,000 หลังคาเรือน และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งได้รับความเสียหายหนัก

แผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวและการจัดงานดอกไม้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

นายกเทศมนตรีเชียงรายได้เสนอแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายและเป็นระบบ ซึ่งรวมถึงการจัดงานลอยกระทงในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 และการจัดงาน “เชียงรายดอกไม้งาม” ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ถึงกุมภาพันธ์ 2568 งานดอกไม้นี้จะเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดที่เคยจัดมากว่า 20 ปี โดยจะจัดขึ้นที่หาดนครเชียงราย ภายใต้แนวคิด “ปิ๊กบ้านเฮา จาวเจียงฮาย” ซึ่งเน้นการใช้ดอกไม้ ม่านหมอก สายน้ำ และขุนเขาเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างบรรยากาศและดึงดูดนักท่องเที่ยว

การสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เสนอแผนฟื้นฟูที่มีกิจกรรมเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว “เหนือ…พร้อมเที่ยว” ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 และแคมเปญ “แอ่วเหนือ คนละครึ่ง” ซึ่งมอบส่วนลดสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว จำนวน 10,000 สิทธิ์ และวงเงิน 800 บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมการตลาดผ่าน influencer ระดับนานาชาติ เพื่อเพิ่มการรับรู้และดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังเชียงรายมากยิ่งขึ้น

การฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยวและการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

การฟื้นฟูพื้นที่ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการกลับมาเยือนเชียงรายอีกครั้ง โดยมีการดำเนินการฟื้นฟูทุกแห่งตามแผนที่รัฐบาลวางเอาไว้ รวมถึงการซ่อมแซมบ้านเรือนและสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมล้างฝุ่นและทำความสะอาดเพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์และเพิ่มความน่าสนใจให้กับสถานที่ท่องเที่ยว

การร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อความสำเร็จของแผนฟื้นฟู

นายกเทศมนตรีเชียงรายเน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการดำเนินแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว ซึ่งการสนับสนุนจากทั้งสองฝ่ายจะช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเชียงรายฟื้นตัวได้อย่างมั่นคงในอนาคต

สรุปและมองไปสู่อนาคตที่สดใสสำหรับการท่องเที่ยวเชียงราย

ด้วยการวางแผนฟื้นฟูที่ชัดเจนและการจัดงานที่ใหญ่กว่าเดิม นายกเทศมนตรีเชียงรายเชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงรายจะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต การฟื้นฟูการท่องเที่ยวไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังสร้างความภูมิใจให้กับประชาชนในพื้นที่และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเชียงรายในสายตานักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘ธีรรัตน์’ เยี่ยมผู้ประสบภัย อุทกภัยชุมชนสายลมจอย อ.แม่สาย

 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเยี่ยมผู้ประสบภัยอุทกภัยเชียงราย ฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะ

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 เวลา 11.00 น. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยชุมชนถ้ำผาจม ตำบลเวียงพางคำ และชุมชนสายลมจอย ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยมุ่งเน้นการติดตามความคืบหน้าในการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ประสบภัย

การเยี่ยมเยียนเพื่อติดตามการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและที่อยู่อาศัย

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ได้ร่วมลงพื้นที่เยี่ยมเยือนชุมชนถ้ำผาจมและชุมชนสายลมจอย เพื่อประเมินความคืบหน้าในการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและดินโคลนถล่ม

การมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้ประสบภัย

ระหว่างการเยี่ยมเยือน รัฐมนตรีช่วยได้มอบถุงยังชีพแก่ประชาชนจำนวนมาก เพื่อช่วยเหลือในการดำรงชีวิตในช่วงที่กำลังฟื้นฟู นอกจากนี้ยังมีการให้ความสำคัญในการรับฟังข้อมูลความต้องการของประชาชนทั้งด้านไฟฟ้า น้ำประปา และความต้องการให้ภาครัฐเยียวยาในด้านต่างๆ ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยทุกคน

การฟื้นฟูชุมชนถ้ำผาจมและสายลมจอย

ชุมชนถ้ำผาจมและชุมชนสายลมจอย เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัยและดินโคลนถล่ม ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำของอำเภอแม่สาย ขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และสภากาชาดไทย โดยมีการฟื้นฟูบ้านเรือนและนำดินโคลนออกจากบ้านเรือน รวมถึงการจัดหาสาธารณูปโภคเช่นไฟฟ้าและน้ำประปาให้กับประชาชน

 
การให้ความช่วยเหลือและกำลังใจจากภาครัฐและภาคเอกชน

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ได้มอบถุงยังชีพและให้กำลังใจแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติหน้าที่ฟื้นฟูชุมชนตลอดเส้นทาง การให้ความช่วยเหลือจากภาครัฐและภาคเอกชนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประสบภัยสามารถฟื้นตัวและกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อย่างรวดเร็ว

การรับฟังและตอบสนองความต้องการของประชาชน

ระหว่างการลงพื้นที่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้รับข้อมูลความต้องการจากประชาชนทั้งด้านไฟฟ้า น้ำประปา และการเยียวยาจากภาครัฐ รัฐมนตรีช่วยได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการตามความต้องการเหล่านี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ

การฟื้นฟูที่อยู่อาศัยและพื้นที่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง

การฟื้นฟูที่อยู่อาศัยและพื้นที่สาธารณะในชุมชนถ้ำผาจมและสายลมจอย ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ องค์กรช่วยเหลือ และชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้การฟื้นฟูเสร็จสมบูรณ์และสามารถกลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด

ความสำคัญของการฟื้นฟูหลังอุทกภัย

การฟื้นฟูหลังอุทกภัยเป็นสิ่งที่สำคัญไม่เพียงแต่ในด้านการฟื้นฟูสาธารณูปโภคและที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงให้กับชุมชนและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยการให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การมองไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นสำหรับชุมชนเชียงราย

ด้วยความร่วมมือกันของทุกฝ่าย ชุมชนถ้ำผาจมและสายลมจอยในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีแนวโน้มที่จะฟื้นฟูและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง การให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ตั้งโรงครัวจิตอาสา ช่วยผู้ประสบภัย น้ำท่วมที่แม่สาย จ.เชียงราย

ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 ตั้งโรงครัวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่แม่สาย จ.เชียงราย

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน ภาค 3 (ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3) ร่วมกับกองบัญชาการควบคุมบริหารสถานการณ์ จ.เชียงราย ภายใต้การนำของ พล.ต. บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน มณฑลทหารบกที่ 37 (มทบ.37) และผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.37 ได้จัดตั้งโรงครัวเพื่อประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

โรงครัวนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ตามแผนการฟื้นฟูของรัฐบาล โดยในแต่ละมื้อจะประกอบอาหารแจกจ่ายมากถึง 2,800 – 3,000 กล่องต่อมื้อ และจะดำเนินการแจกจ่ายจนกว่าภารกิจการฟื้นฟูจะแล้วเสร็จ โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ร.ท. ธวัช เขื่อนขันติ์ รักษาราชการพลาธิการ มทบ.37 เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดกำลังพลและรถครัวสนาม เพื่อทำหน้าที่ประกอบอาหารสำหรับแจกจ่าย โดยมีจิตอาสาร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันทีมงานได้ปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามแผนงานฟื้นฟูของรัฐบาล

ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์

การจัดตั้งโรงครัวครั้งนี้นอกจากจะช่วยให้ผู้ประสบภัยได้รับอาหารอย่างเพียงพอแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ของ อ.แม่สาย ซึ่งถูกน้ำท่วมและเกิดความเสียหายอย่างหนัก

แผนฟื้นฟูของรัฐบาล


การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ โดยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานจากส่วนกลางที่เน้นให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน ทั้งด้านที่อยู่อาศัย อาหาร และการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ประสบภัย

การดำเนินงานของ ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนและครบถ้วน โดยมีแผนที่จะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และพื้นที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

การปฏิบัติภารกิจนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าพื้นที่ต่าง ๆ จะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ พร้อมทั้งส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติน้ำท่วมในครั้งนี้

สรุป

ศอ.จอส.พระราชทาน ภาค 3 ตั้งโรงครัวประกอบอาหารช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยแจกจ่ายอาหาร 2,800 – 3,000 กล่องต่อมื้อให้กับกำลังพลและจิตอาสาที่ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟู ตามแผนของรัฐบาลในการบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบภัย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SPORT

เชียงรายจัดกิจกรรม เดิน-วิ่ง-ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ

เชียงราย เตรียมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง-ปั่น ป้องกันอัมพาต เฉลิมพระเกียรติ

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติ” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือและเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานกิจกรรมครั้งนี้

เตรียมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง-ปั่น เฉลิมพระเกียรติ วันที่ 2 พ.ย. 2567

กิจกรรมครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 ระยะทาง 5 กิโลเมตร โดยเริ่มต้นที่สวนตุงและโคม อำเภอเมืองเชียงราย และมีจุดปล่อยตัวและเข้าเส้นชัยบริเวณลานรำวงย้อนยุค สวนตุงและโคม โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 05:00 น. เป็นต้นไป การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสุขภาพ และการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ผ่านกิจกรรมการออกกำลังกายที่ง่ายต่อการปฏิบัติ เช่น การเดิน การวิ่ง และการปั่นจักรยาน นอกจากนี้ ยังเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนหันมาดูแลสุขภาพและมีความรู้ในการป้องกันโรคต่างๆ อย่างถูกต้อง

ผู้ร่วมกิจกรรมคึกคัก ยอดผู้สมัครกว่า 10,499 คน

กิจกรรมครั้งนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมแล้วจำนวน 10,499 คน และมีประชาชนที่ได้รับเสื้อวิ่งจำนวน 6,150 คน โดยผู้ที่ได้รับสิทธิ์สามารถติดต่อรับเสื้อได้ตามจุดบริการที่กำหนด ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอและโรงพยาบาลชุมชน ในวันที่ 30 ตุลาคม 2567 รวมถึงที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย แห่งที่ 1 (ดาวน์ทาวน์) ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2567 และที่สวนตุงและโคม เทศบาลนครเชียงราย ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 ก่อนเวลาเริ่มกิจกรรม

สำหรับประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียนรับเสื้อโครงการ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ด้วยการสวมใส่เสื้อเฉลิมพระเกียรติ หรือเสื้อสีเหลืองในรูปแบบใดก็ได้ตามความเหมาะสม เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและสร้างความตระหนักถึงการป้องกันโรคอัมพาตในครั้งนี้

 
เป้าหมายเพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันอัมพาต

นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวในที่ประชุมว่า การจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง-ปั่น ครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสุขภาพและการออกกำลังกายเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอัมพาต ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่พบมากในผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความรัก ความสามัคคีในชุมชน และแสดงถึงความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ในการดำเนินงานโครงการเฉลิมพระเกียรติที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

รายละเอียดเส้นทางและการอำนวยความสะดวก

ในการประชุมครั้งนี้ ยังมีการรายงานเส้นทางการจัดกิจกรรมและการเตรียมความพร้อมด้านการอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมงาน ทั้งการดูแลความปลอดภัย การจัดการจราจร และการตั้งจุดบริการต่างๆ ตลอดเส้นทาง เพื่อให้กิจกรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน

โครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10” ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีทั่วประเทศ โดยในปีนี้ จังหวัดเชียงรายได้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ และกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เชียงรายเร่งสูบน้ำท่วมขังชุมชนทวีรัตน์ หลังท่วมยาวกว่า 1 เดือน

 

อบจ.เชียงราย เร่งสูบน้ำช่วยชุมชนทวีรัตน์ หลังน้ำท่วมขังนานกว่า 1 เดือน

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะและบ้านเรือนประชาชนในชุมชนทวีรัตน์ อำเภอเมืองเชียงราย หลังเกิดเหตุน้ำท่วมขังยาวนานกว่า 1 เดือน ส่งผลกระทบกับชาวบ้านประมาณ 40 หลังคาเรือน ซึ่งมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ถึง 20 หลังคาเรือน คิดเป็นพื้นที่กว่า 3 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำท่วมขังประมาณ 1 เมตร

นายดำรงค์ศักดิ์ได้มอบหมายให้กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ประสานงานกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 15 จังหวัดเชียงราย เพื่อนำเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกลจำนวน 2 เครื่องเข้าดำเนินการสูบน้ำออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน คาดว่าจะสามารถสูบน้ำให้เสร็จสิ้นได้ภายใน 2 วัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และคืนสภาพพื้นที่ให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

น้ำท่วมขังในพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาลตำบลแม่ยาว

ชุมชนทวีรัตน์ ตั้งอยู่บริเวณหลังหมู่บ้านธนารักษ์ กองทัพบก ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างเขตเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาลตำบลแม่ยาว โดยมีบ้านเรือนจำนวน 26 ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังอย่างหนักกว่า 14 หลังคาเรือน ลึกตั้งแต่ 30 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร สาเหตุหลักมาจากพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นหนองน้ำเก่า และถูกปรับเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัย จึงมีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ทำให้มีน้ำท่วมขังบ่อยครั้งเมื่อฝนตกหนัก

เทศบาลนครเชียงรายได้พยายามแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดเล็กดำเนินการมาแล้ว 2 สัปดาห์ แต่ไม่สามารถสูบน้ำได้หมดเนื่องจากปริมาณน้ำมีจำนวนมาก จึงต้องขอความช่วยเหลือจาก ปภ. เขต 15 เชียงราย ในการนำเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกลเข้ามาเพิ่มเติม พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อทำทางลัดเข้าสู่พื้นที่น้ำท่วม เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าพื้นที่

เร่งปรับเส้นทาง และเตรียมฟื้นฟูหลังน้ำลด

ในการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง อบจ.เชียงราย เทศบาลนครเชียงราย เทศบาลตำบลแม่ยาว กำนันตำบลแม่ยาว ผู้นำชุมชน และฝ่ายปกครองจังหวัด ได้มีการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาและการเตรียมฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด โดยเบื้องต้นได้มอบหมายให้จัดเตรียมหินคลุกและทำการปรับเส้นทางลัดเข้าสู่พื้นที่น้ำท่วม เพื่อให้เครื่องสูบสามารถเข้าทำงานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

ในบ่ายวันเดียวกัน กองป้องกันฯ อบจ.เชียงราย และ ปภ. เขต 15 เชียงราย ได้ดำเนินการวางหินคลุกและปรับเส้นทางเสร็จสิ้น พร้อมทั้งเตรียมเริ่มปฏิบัติการสูบน้ำในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค. 2567) คาดว่าจะสามารถสูบน้ำให้แห้งได้ภายใน 2 วัน

ฟื้นฟูพื้นที่และทำความสะอาดหลังน้ำลด

หลังจากดำเนินการสูบน้ำให้แห้งแล้ว หน่วยงานต่าง ๆ เช่น อบจ.เชียงราย เทศบาลนครเชียงราย เทศบาลตำบลแม่ยาว จะนำเครื่องจักรเข้ามากำจัดโคลนและทำความสะอาดพื้นที่ พร้อมทั้งทางสำนักงานปกครองจังหวัดและมณฑลทหารบกที่ 37 จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ อส. และทหาร เข้าช่วยเหลือชาวบ้านในการล้างทำความสะอาดบ้านเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับเข้าพื้นที่พักอาศัยได้โดยเร็ว

เร่งประสานแก้ไขข้อพิพาทและอาณาเขตการปกครอง

นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังมีปัญหาในด้านการจัดการอาณาเขตปกครองระหว่างเทศบาลนครเชียงรายและเทศบาลตำบลแม่ยาว เนื่องจากพื้นที่ทวีรัตน์บางส่วนอยู่ในเขตของทั้งสองเทศบาล ซึ่งอาจส่งผลต่อการประสานงานในการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยจะมีการประสานงานเพื่อจัดทำแผนงานแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในอนาคต

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในชุมชนทวีรัตน์ พร้อมฟื้นฟูพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

จับร้านขายยาผิดกฎหมาย ยึดของกลางกว่า 15,000 ชิ้น

จับร้านขายยาผิดกฎหมายเชียงราย ยึดของกลาง 15,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ห้องประชุมกาสะลองคำ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย ทันตแพทย์ฉลองชัย สกลวสันต์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และ พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสถานประกอบการจำหน่ายยา เครื่องมือแพทย์ และผลิตภัณฑ์เสริมความงามผิดกฎหมาย โดยตรวจยึดของกลางได้กว่า 15,000 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 5 ล้านบาท

ตรวจยึดยาและผลิตภัณฑ์ความงามผิดกฎหมาย

นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายและสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่ามีสถานที่จำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ผิดกฎหมาย บริเวณถนนเวียงบูรพา หรือบายพาสฝั่งตะวันออก ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบภายในร้านพบยาควบคุมและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จำนวนมาก

ยาอันตรายและผลิตภัณฑ์เสริมความงามผิดกฎหมาย

ของกลางที่ยึดได้ในครั้งนี้ประกอบด้วยยาอันตรายที่ต้องมีการควบคุมตามกฎหมาย เช่น โบท็อกซ์ ยาชาไลโดเคน กลูต้าไธโอนสำหรับฉีด คอลลาเจนชนิดฉีด โซเดียมไฮยาลูโรเนตชนิดฉีด วิตามินชนิดฉีด ฟิลเลอร์ เส้นไหมร้อยหน้า และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิดที่ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย. และเครื่องมือแพทย์สำหรับใช้ในคลินิกความงามที่ต้องได้รับการควบคุมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

นายแพทย์วัชรพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาและผลิตภัณฑ์ที่ตรวจยึดได้บางรายการเป็นของที่ต้องใช้ในคลินิกเฉพาะทางเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปได้ การลักลอบจำหน่ายเช่นนี้จึงถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ทั้งนี้ขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการเลือกซื้อยาและผลิตภัณฑ์ความงาม ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เบาะแสจากประชาชนสู่การจับกุม

ด้าน พล.ต.ต.มานพ เสนากุล เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากได้รับเบาะแสจากประชาชนที่สังเกตเห็นความผิดปกติของการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ทั้งในรูปแบบการจำหน่ายหน้าร้านและการขายผ่านช่องทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมหลักฐานจนแน่ชัด ก่อนที่จะยื่นขอหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงราย เพื่อเข้าตรวจค้นและยึดของกลางทั้งหมด

จากการตรวจสอบพบว่าผู้ประกอบการได้เช่าสถานที่ดังกล่าวตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 และมีการเคลื่อนย้ายสถานที่เก็บสินค้าบ่อยครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ โดยสินค้าบางรายการนำเข้ามาจากต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย ก่อนนำมาจัดจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด พร้อมกับทำโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลการจับกุมไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป เช่น หมอกระเป๋า หรือผู้รับซื้อเพื่อนำไปขายต่อ

โทษหนัก จำคุก 5 ปี

สำหรับโทษของการจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงความผิดอื่นๆ ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ที่ระบุโทษปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือจำคุกสูงสุด 1 ปี ซึ่งในกรณีนี้ผู้ต้องหาจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกข้อหาและมีการขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ ต่อไป

นายแพทย์วัชรพงษ์กล่าวปิดท้ายว่า ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการเลือกซื้อยาและผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ควรตรวจสอบแหล่งที่มาว่าได้รับการรับรองจาก อย. และเลือกใช้บริการจากสถานประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งขอให้ผู้ประกอบการที่ยังจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมายอยู่ยุติการกระทำดังกล่าวทันที เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

เลื่อนจัดงาน ชา-กาแฟ เชียงราย 2024 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้จัดงาน

ทีเส็บเร่งฟื้นฟูอุตสาหกรรมไมซ์ หลังน้ำลด พร้อมดันงานอีเวนต์ปลายปี ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ (TCEB) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) ซึ่งประกอบด้วยการจัดประชุม งานแสดงสินค้า และอีเวนต์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย ได้ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนผ่านการจัดงานขนาดใหญ่หลายงานทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการจัด เทศกาลประจำจังหวัด ต่าง ๆ ที่ได้รับความสนใจจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริม ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของรัฐบาลไทย โดยการนำเสนอวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ผ่านการจัดงานต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ไมซ์ดันรายได้ท่องเที่ยวพุ่ง 3 เท่า

นายจิรุตถ์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่านักท่องเที่ยวปกติถึง 3 เท่าครึ่ง ซึ่งช่วยสร้างรายได้ให้แก่เศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยที่ผ่านมา ทีเส็บ ได้ร่วมมือกับ หอการค้าไทย และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในการส่งเสริมการจัดงานในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อลดความหนาแน่นของการจัดงานในเมืองใหญ่ และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เช่น การจัดงานเทศกาลประจำจังหวัด หรือการจัดนิทรรศการเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจของท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

“ขอนแก่นปลาร้าเฟสติวัล” จัดปลายปี เน้นอัตลักษณ์ท้องถิ่น

ในเดือนธันวาคมนี้ ทีเส็บเตรียมสนับสนุนการจัดงาน ขอนแก่นปลาร้าเฟสติวัล ซึ่งเป็นการนำเสนออัตลักษณ์ท้องถิ่น และวัฒนธรรมการทำปลาร้าในจังหวัดขอนแก่น โดยเน้นการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและผู้ประกอบการท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้และส่งเสริมภาพลักษณ์ของขอนแก่นในฐานะเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวจะเป็นต้นแบบของการจัดงานในรูปแบบ “ระเบิดจากภายใน” (Inside-Out) ซึ่งเป็นการผลักดันเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริม Soft Power ผ่านวัฒนธรรมท้องถิ่น

 
ฟื้นฟูพื้นที่จัดงานหลังน้ำลดในเชียงใหม่-เชียงราย

นายจิรุตถ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ ทีเส็บอยู่ระหว่างการวางแผนฟื้นฟูพื้นที่จัดงานในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยเฉพาะ เชียงใหม่ และ เชียงราย หลังจากระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดลง เช่น โรงแรมและสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ที่ต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่ (Big Cleaning Day) เนื่องจากได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ทั้งนี้ ทีเส็บจะเร่งฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้พร้อมสำหรับการจัดงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการจัดงานไมซ์และอีเวนต์มากที่สุด

“ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2567 (ต.ค.-ธ.ค.) เป็นช่วงเวลาสำคัญของการจัดงานไมซ์และอีเวนต์ในประเทศไทย เราจึงต้องเร่งฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับงานต่าง ๆ เช่น งาน ชา-กาแฟ ของจังหวัดเชียงราย ที่แม้สถานที่จัดงานจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากน้ำท่วม แต่เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้จัดงาน เราอาจต้องมีการเลื่อนการจัดงานไปอีกเล็กน้อย” นายจิรุตถ์ กล่าว

เตรียมบิดงานอีเวนต์ระดับโลกเข้าประเทศในปี 68

สำหรับปี 2568 ทีเส็บเตรียมดำเนินการเสนอแผนการจัดงานประชุมและอีเวนต์ระดับโลกในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้ามาจัดงานในไทยมากขึ้น ผ่านการเพิ่มสิทธิประโยชน์ และการสนับสนุนการจัดงานขนาดใหญ่ พร้อมทั้งฟื้นฟูภาพลักษณ์ของจังหวัดต่าง ๆ เช่น เชียงใหม่ และ เชียงราย ที่มีศักยภาพในการจัดงานระดับนานาชาติ และสามารถดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง

บทสรุป: “ไมซ์” กลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยหลังน้ำลด

การฟื้นฟูและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไมซ์จะเป็นกุญแจสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปี 2567 นี้ โดยเฉพาะการจัดงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เช่น เชียงใหม่ และเชียงราย ที่ทีเส็บกำลังเร่งฟื้นฟูเพื่อให้กลับมาพร้อมรับการจัดงานและดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ทั้งนี้ การฟื้นฟูและดึงดูดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งสนับสนุนภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการจัดงานประชุมและนิทรรศการในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : World Tea & Coffee Expo 2024

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

น้ำท่วมเชียงราย 9 ก.ย. – 9 ต.ค. 67 ยอดเงินกองทุน 9,670,321.42 บาท

 

ข้อมูลสะสมระหว่างวันที่ 9 ก.ย. – 9 ต.ค. 2567 รวมทั้งสิ้น 13 อำเภอ 64 ตำบล 581 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (52 ชุมชน) โดยราษฎรได้รับผลกระทบเบื้องต้น 56,587 ครัวเรือน เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 3 ราย บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ(เสียหายทั้งหลัง) 112 หลัง ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ ได้รับผลกระทบ 2 แห่ง ร้านค้า/สถานประกอบการ 92 แห่ง โรงงานอุตสาหกรรม 19 แห่ง พื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบ 18,587 ไร่ ปศุสัตว์ได้รับผลกระทบ 49,054 ตัว (ได้แก่ โค 1,110 ตัว กระบือ 176 ตัว สุกร 66 ตัว แพะ/แกะ 25 ตัว สัตว์ปีก 47,677 ตัว) สัตว์เลี้ยง 322 ตัว (ได้แก่ สุนัข 145 ตัว แมว 154 ตัว และอื่นๆ 23 ตัว) บ่อปลา 1,074.53 ไร่ ด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับผลกระทบ ได้แก่ โรงเรียน 42 แห่ง ถนน 42 จุด คอสะพาน 5 จุด และ รพ.สต. 1 แห่ง

 

รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งได้เตรียมการมาเป็นอย่างดีทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ พร้อมกำลังพลในการเข้าไปช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง หลายวัน ทำให้วันนี้ (9 ตุลาคม 2567) ได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่

 

โดยเฉพาะที่ ได้แก่ อ.เมืองเชียงราย อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.แม่จัน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย อ.ดอยหลวง อ.เทิง อ.เวียงแก่น อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย อ.เวียงชัย และอ.แม่ลาว เกิดน้ำท่วมหนักในรอบหลายปี อย่างไรก็ตาม นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจ และเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน หากประชาชนต้องการขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเหตุ แจ้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สายด่วน 1784

 

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย รายงานสถานที่เกิดเหตุ/ความเสียหาย/การให้ความช่วยเหลือ (เหตุต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. 67 และสถานการณ์ในวันนี้ (9 ต.ค. 67) ดังนี้

 

การให้ความช่วยเหลือ จังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ. 2567 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และจัดหาปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการดำรงชีพ ผ่านทางธนาคาร กรุงไทย สาขาเชียงราย เลขที่บัญชี 504-3-23-732-5 ชื่อบัญชี กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ. 2567 โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า ยอดเงินบริจาค ณ วันที่ 9 ต.ค. 67 เวลา 16.30 น. จำนวน 9,670,321.42 บาท

 

การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อ.แม่สาย แบ่งพื้นที่ดำเนินการเป็น 2 โซนหลัก 6 โซนย่อย โซนหัวฝาย-สายลมจอย/เกาะทราย/ไม้ลุงขน : กระทรวงกลาโหม โซนเหมืองแดง/เหมืองแดงใต้/ ปิยะพร : กระทรวงมหาดไทย

 

ศูนย์พังพิงที่ยังคงให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลแม่สาย จำนวน 87 ราย ศูนย์พักพิงวัดถ้ำผาจม 50 ราย ศูนย์พักพิงวัดเหมืองแดง 52 ราย รวมทั้งสิ้น 189 ราย

 

การดำเนินการปิดจุดรอยรั่ว ป้องกันการอุบัติซ้ำกรมการทหารช่าง เสริมความแข็งแรงของแนว Big Bag จำนวน 7 จุด ดำเนินการวางแนวชั้นที่ 1 จุดท่าเจ้ดาว จำนวน  40 เมตร (ผลการดำเนินการ 100%) ในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 10 ต.ค. 67) จะดำเนินการวางแนวชั้นที่ 2/ บ้านเหมืองแดงใต้ ซึ่งไม่มีแนว Big Bag แต่ใช้การบดอัดคันดินป้องกันน้ำท่วมทดแทน แผนดำเนินการระยะทาง 200 เมตร ดำเนินการได้ 150 เมตร (75%)

 

สำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา วางชีทไพล์ 120 ต้น การฟื้นฟูระบบจ่ายน้ำประปาแผนการซ่อมแซมระบบประปา 472 จุด ดำเนินการแล้วเสร็จ 409 จุด(87%)  จุดซ่อมคงค้าง 63 จุด (14%) (จุดสำรวจแล้วรอเข้าซ่อม 61 จุด, จุดซ่อมคงค้าง 2 จุด)

 

การจ่ายน้ำเข้าพื้นที่ กปภ. สาขาแม่สาย จ่ายน้ำเข้าพื้นที่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ห้าแยกตลาดพลอย อาคารอเนกประสงค์บ้านเกาะทราย (เฟส 1 ตามแผนการจ่ายน้ำทั้งหมด 3 เฟส) โดยได้ระดมเจ้าหน้าที่จาก กปก.ข.9 และ กปก.สาขาในสังกัดใกล้เคียง เข้าสำรวจ/ซ่อมแซมระบบประปาที่ชำรุด/เสียหาย ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถจ่ายน้ำได้อย่างต่อเนื่อง ภายในวันที่ 8 ต.ค. 67 ในส่วนของพื้นที่ในเฟส 2 (ถนนไม้ลุงขน ตลาดพลอย ตลาดไม้ลุงขน เหมืองแดง) และเฟส 3 (เกาะทราย ไม้ลุงขน ผามควาย) กปก. ได้ประสานหน่วยงานฟื้นฟูพื้นที่ เพื่อร่วมกันวางแผนเคลียร์พื้นที่ตามลำดับ และคาดว่าจะสามารถจ่ายน้ำได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ภายในวันที่ 14 ต.ค. 67

การจ่ายน้ำโดยรถบรรทุกน้ำ กปภ. จำนวน 6 คัน เติมถังน้ำวัดถ้ำผาจม/ถังบ้านอาข่า แจกจ่ายน้ำพื้นที่หยุดจ่ายน้ำชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน  ผามควาย ชุมชนภูผาคำ และห้าแยกตลาดพลอย เติมรถสุขาสาธารณะ ศูนย์พักพิงวัดพรหมวิหาร

 

กปภ. สาขาแม่สาย สนับสนุนน้ำให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ดังนี้ รถน้ำของ ป4.พัน.104 และพัน สห.31 รถน้ำของ ส.พัน4. เพื่อสนับสนุนให้แก่ชุมชนบริเวณศาลเจ้าพ่อคำแดง รถน้ำของ มทบ.33 เพื่อสนับสนุนให้แก่โรงเรียนไม้ลุงขนฯ รถน้ำของ ร.17 และ ร.17พัน.2 เพื่อสนับสนุนให้แก่ชุมชนไม้ลุงขน โซน 3D รถน้ำของ ป.4 พัน.7 กองพันพัฒนาที่ 3  พัน สร.4 พลร.4 เพื่อสนับสนุนให้แก่ชุมชนหัวฝาย-สายลมจอย

 

การฟื้นฟูระบบจ่ายไฟฟ้า

ค้างจ่ายไฟฟ้าจำนวน 258 หลังคาเรือน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาแม่สาย ประกาศแผนกำหนดการเข้าตรวจสอบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อต่อกลับการใช้ไฟ ในพื้นที่บ้านเกาะทราย ม.7, บ้านไม้ลุงขน ม.10 และบ้านเหมืองแดง ม.2 ทั้งนี้ ได้มีประกาศขอความร่วมผู้ใช้ไฟที่ประสงค์ต่อกลับการใช้ไฟในพื้นที่ดังกล่าว รอรับการตรวจสอบฯ ตามกำหนดการดังนี้  วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ถนนไม้ลุงขน ตลาดพลอยวันที่ 8 ตุลาคม 2567 เกาะทราย เกาะสวรรค์ ผามควาย วันที่ 9 ตุลาคม 2567 เหมืองแดง ซ.6 เหมืองแดง ซ.8 หน้าโรงเรียนไม้ลุงขนฯ

การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อ.เมืองเชียงราย

 

หมู่บ้านธนารักษ์ กองทัพบก ต.ริมกก อ.เมืองชร. : หน่วยรับผิดชอบ ได้แก่ มทบ.37 และกอ.รมน.จว.เชียงราย ภารกิจดูดโคลนถนนสายหลักภายในหมู่บ้าน 2 สาย นำขยะไปยังที่พักขยะ และฉีดน้ำรีดโคลนออกจากบ้าน รายละเอียดดังนี้ อาคารบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ 273 หลัง แสดงเจตนาให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการ 63 หลัง ดำเนินการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว 61 หลัง (97%) รอดำเนินดำเนินการ 2 หลัง (3%)

 

พื้นที่นอกเขตเทศบาลนครเชียงราย : หน่วยรับผิดชอบ ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

ตำบลแม่ยาวบ้านป่าอ้อใหม่ หมู่ที่ 5 ซอยทวีรัตน์ (พื้นที่คาบเกี่ยวกับชุมชนทวีรัตน์ เขตเทศบาลนครเชียงราย) ผลการดำเนินการความก้าวหน้า มีน้ำท่วมขังจำนวน 10 ครัวเรือน ระดับน้ำประมาณ 30 – 50 ซม.  ยังไม่สามารถเข้าดำเนินการได้ ตำบลดอยฮาง บ้านผาเสริฐพัฒนา หมู่ที่ 6 บริเวณบ่อน้ำพุร้อนผาเสริฐ ดำเนินการล้างอาคาร สระน้ำพุ กำจัดดินโคลนและปรับพื้นที่ ตำบลริมกก บ้านเมืองงิม หมู่ที่ 4 ภาพรวมผลการดำเนินการฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือน 95% (ที่เหลือหมู่บ้านดำเนินการเอง) อยู่ระหว่างซ่อมพนังกันน้ำ วางบิ๊กแบ็ค ทำทางชั่วคราว ต.รอบเวียง บ้านป่างิ้ว หมู่ที่ 4 (หาดเชียงราย) ภาพรวมผลการดำเนินการ 65% ขนย้ายดินดินโคลน เก็บขยะ ทำความสะอาดร้านค้า 32 หลัง บ้านที่อยู่อาศัย อบต.รอบเวียงได้เข้าดำเนินการฟื้นฟูเรียบร้อยแล้วคงค้างขยะบ้านเรือน ต.นางแล บ้านเด่น หมู่ที่ 5 ทำพนังกั้นน้ำ(พนังดิน) 1 จุด ผลดำเนินการ 100% ต.ห้วยชมภู ถ.บ้านจะคือ หมู่ที่10 เส้นทางไปบ้านแม่สลัก หมู่ที่ 9 อยู่ระหว่างปรับเกลี่ยดิน เปิดใช้เส้นทาง

 

การก่อสร้างบ้านน็อคดาวน์ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม กรณีบ้านถูกน้ำพักเสียหายทั้งหลัง ตามโครงการ “โครงการบ้านร่วมใจ” ในพื้นที่ตำบลแม่ยาว ตำบลริมกก และตำบลดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เป้าหมายรวม 31 หลัง ดำเนินการโดยเรือนจำกลางจังหวัดเชียงราย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 17 ต.ค. 67

 

การกำจัดเศษวัสดุ ขยะ และดินโคลนตามเส้นทาง จุดพักขยะจำนวน 7 จุด ปริมาณขยะ 45,783 ตัน

เทศบาลนครเชียงราย ดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชน ดังนี้ ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมเบื้องต้น ครอบครัวละ 2,500 บาท  มอบไปแล้ว 7,590 ครัวเรือน เป็นเงินทั้งสิ้น 18,975,000 บาท คงเหลืออีก 838 ครัวเรือน เยียวยาตาม มติ ครม. เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2567 มอบไปแล้ว 3,690 ครัวเรือน เป็นเงินทั้งสิ้น 18,450,000 บาท คงเหลืออีก 4,738 ครัวเรือน

 

การดำเนินการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย อ.เวียงป่าเป้า

เทศบาลตำบลป่างิ้ว พร้อมด้วยฝ่ายปกครองร่วมกันฟื้นฟูทำความสะอาดบ้านเรือนราษฎรและซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัย เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ดำเนินการแล้วเสร็จ 100%

องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโป่ง พร้อมด้วยฝ่ายปกครองร.17พัน.3 ภาคเอกชน และราษฎรในพื้นที่ ร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบบ้านห้วยหินลาด(หย่อมบ้านห้วยทรายขาว) หมู่ที่ 7 ต.บ้านโป่ง

 

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเวียงป่าเป้า ซ่อมแซมระบบจ่ายไฟให้กับครัวเรือนในพื้นที่

หย่อมบ้านห้วยไม้เดื่อ บ้านดงหล่ายหน้า หมู่ที่ 7 ต.เวียง และหย่อมบ้านห้วยทรายขาว บ้านห้วยหินลาด หมู่ที่ 7 ต.บ้านโป่ง ผลดำเนินการกู้ระบบไฟฟ้าประมาณ 95% คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 10 ต.ค.67)

 

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย

รถประกอบอาหารเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 67 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 8 ต.ค. 67) ประกอบอาหาร จำนวน 2 มื้อ รวมทั้งหมด 3,630 กล่อง ประกอบด้วยเมนู หมูผัดพริกไทยดำ ลาบหมู ผัดคะน้าหมูชิ้น  ผัดกระเพราหมูชิ้น ผัดพริกแกงหมูชิ้น ไก่กรอบผัดกระเทียม เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัยอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

 

ชมรมแม่บ้านมหาดไทย

“แม่บ้านมหาดไทยร่วมใจฟื้นฟูเชียงราย” จัดตั้งโรงครัว (ครัวแม่บ้านมหาดไทย) เพื่อผลิตอาหาร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่ม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ หอประชุมชั้นล่างอาคาร 7 วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 2 ต.ค. 67 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน (วันที่ 7 ต.ค. 67)

 

กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน ได้ส่งกำลังพล สมาชิก อส. จากส่วนกลาง และร้อย อส.จ. จาก 36 จังหวัด กองบังคับการจังหวัด จำนวนไม่น้อยกว่า 1,462 นาย ปฏิบัติภารกิจฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ประสบอุทกภัยและช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป จนกว่าจะสิ้นสุดภารกิจ รายละเอียดดังนี้

อ.แม่สาย จ่ายกำลังพล 850 นาย ดำเนินการในพื้นที่บ้านเหมืองแดงใต้ บ้านเหมืองแดง และหมู่บ้านปิยะพร เป้าหมาย 314 หลัง

อ.เมืองเชียงราย จ่ายกำลังพล 612 นาย ดำเนินการในพื้นที่ในเขตเทศบาลนครเชียงราย

นอกเขตเทศบาลนครเชียงราย (พื้นที่ตำบลแม่ยาว ดอยฮาง ริมกก รอบเวียง ห้วยชมภู และนางแล) และพื้นที่สาธารณะ

 

การสนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยด้านปฏิบัติการ (อุทกภัย) และกำลังพล ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ประจำวันที่ 9 ต.ค. 67 ดังนี้

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง  เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 15 เชียงราย นำหัวลากพร้อมหางลากจูงเครื่องจักรกล รถขุดตักไฮดรอลิคยกสูง รถตักล้อยางเอนกประสงค์ รถขุดล้อยางกู้ภัยปรับฐานล้อ รถตีนตะขาบ รถบรรทุเทท้าย 6 ล้อ 6 ตัน รถบรรทุกขนาดใหญ่ 6 ล้อ รถขุดตักไฮดรอลิค ทั้งชนิดแขนสั้น และแขนยาว ทำการขุดตักขนย้ายดินโคลน เศษวัสดุ สิ่งปรักหักพัง ออกจากบ้านเรือนราษฎรในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย และนำหินคลุกเททำทางเข้า-ออกพื้นที่ทิ้งเศษวัสดุ หมู่ที่ 10 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

 

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 8 กำแพงเพชร นำรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ขนาด 12,000 ลิตร และรถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง 10,000 ลิตร ร่วมกับ อส. ฉีดล้างทำความสะอาดบริเวณสวนสาธารณะเกาะลอย ตำบลเวียง และศูนย์ประชุมสินค้านานาชาติ GMS ตำบลริมกก อำเภอเมืองชร. จังหวัดเชียงราย

 

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 พิษณุโลก นำรถบรรทุกน้ำดับเพลิงขนาด 10,000 ลิตร จำนวน 2 คัน และรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ ขนาด 12,000 ลิตร จำนวน 1 คัน แจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนหมู่บ้านกิจโพธิ์ทอง/บ้านเมืองงิม ม.4 ต.ริมกก ,บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย ต.สันทราย อ.เมืองชร. จ.เชียงราย

 

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย สนับสนุนยานพาหนะและเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติภารกิจ ดังนี้

นำรถขุดตักไฮดรอลิค ปรับเส้นทางสัญจร ถนนในพื้นที่บ้านรวมมิตร หมู่ที่ 2 ต.แม่ยาว อ.เมืองชร. จ.เชียงราย

นำรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย บรรทุกผ้าห่ม จำนวน 20 กระสอบ 12 กล่อง จากศูนย์รับบริจาค ศปภ. เขต 15 เชียงราย นำส่งให้กาชาดจังหวัดเชียงราย เพื่อมอบให้ผู้ประสบภัยต่อไป

 

นำรถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิงขนาด 10,000 ลิตร ไปฉีดล้างทำความสะอาดในบริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

นำรถบรรทุกน้ำอเนกประสงค์ขนาด 12,000 ลิตรไปฉีดล้างทำความสะอาดบริเวณหน้าด่านพรมแดนแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย

 

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงราย บรรเทาความเดือดร้อนผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบภัยน้ำท่วม ตามมาตรการ “PEA บรรเทาความเดือดร้อนผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคะวันออกเฉียงเหนือ” ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 กันยายน 2567 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ที่อยู่ในพื้นที่ที่หน่วยงานราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย สำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม 2567 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับผู้ประสบภัย โดยมีรายละเอียด ดังนี้ไม่เรียกเก็บค่าไฟฟ้า เดือนกันยายน 2567 กรณีชำระแล้ว PEA จะดำเนินการคืนเงินโดยนำไปหักลดจากค่าไฟฟ้าเดือนถัด ๆ ไป ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 30 ก่อนคํานวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเดือนตุลาคม 2567

 

ศูนย์พักพิง ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ วันที่ 8 ต.ค. 67 รวมทั้งสิ้น 5 แห่ง

แบ่งตามขอบเขตการปกครอง ได้แก่ อ.แม่สาย 3 แห่ง/ อ.เวียงป่าเป้า 1 แห่ง/ วันที่ 2 ต.ค. 67 อ.เมืองเชียงราย 1 แห่ง

ศูนย์พักพิงฯ ที่มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการด้านการแพทย์ เยียวยาจิตใจ แจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์ ทั้งหมด 4 แห่งรายละเอียดดังนี้

 

อำเภอแม่สาย ที่ยังเปิดศูนย์ฯ ให้บริการที่พักพิงชั่วคราวอยู่ ณ ปัจจุบัน 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 173 คน (โดยเป็นศูนย์พักพิงฯ ที่มีทีมแพทย์และสาธารณสุขให้บริการ ทั้ง 3 แห่ง) ดังนี้ ศูนย์พักพิงเทศบาลตำบลแม่สาย* คงค้างจำนวน 87 ราย  ศูนย์พักพิงวัดเหมืองแดง* คงค้างจำนวน 50 ราย ศูนย์พักพิงวัดถ้ำผาจม* คงค้างจำนวน 36 ราย

อำเภอเวียงป่าเป้า ศูนย์พักพิง อบต.บ้านโป่ง จำนวน 1  แห่ง  คงค้างจำนวน 26 คน

อำเภอเมืองเชียงราย วันที่ 2 ต.ค. 67 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เปิดศูนย์อพยพ/พักพิง (ชั่วคราว) ณ อาคารเรียน 10 โรงเรียน อบจ. เชียงราย (ด้านหลังรูปปั้นบัวบาน ผามั่ง)

 

มูลนิธิสมาคมกู้ชีพกู้ภัย อาสาสมัคร จิตอาสาภาคประชาชน ร้านค้า/ผู้ประกอบการ สนับสนุนปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย ให้ที่พักพิงชั่วคราว มอบอาหารปรุงสำเร็จ และถุงยังชีพ

 

วิทยาลัยอาชีวศึกษาและโรงเรียนในเครือ ดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix It Center

ตั้งจุดบริการและจัดชุดเคลื่อนที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยจะช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงยานพาหนะที่เสียหาย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. เป็นต้นมา

 

ศูนย์ซ่อมสร้าง Fix it Center ถาวร ซ่อมฟรี เครื่องใช้ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ ที่เสียหายจากเหตุอุทกภัย จำนวน 3 แห่ง ดังนี้ ภายในวิทยาลัยเทคนิคเชียงราย อ.เมืองชร. วิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงราย อ.เมืองชร. จุดบริการบ้านเวียงกือนา หมู่ที่ 2 ต.ริมกก อ.เมืองชร.

 

ช่างซ่อมจิตอาสา ช่างซ่อมจิตอาสาจังหวัดสมุทรปราการ นำโดยช่างเต้ วัดด่าน ตั้งศูนย์ช่วยซ่อมจักรยานยนต์ที่โดนน้ำท่วม ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 3 – 15 ต.ค. 2567 ณ ศูนย์การเรียนรู้ อบจ.เชียงราย สี่แยกศูนย์ราชการ

 

นายอภิวัฒน์ เรืองโรจ และนายสุวิทย์ ขวัญแก้ว สองพี่น้องใจบุญ ที่ขับรถจักรยานยนต์มาจากกรุงเทพมหานครเพื่อช่วยซ่อมรถให้ชาวเชียงรายฟรี โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุอุทกภัย และตั้งใจอยู่ช่วยต่อจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ณ จุดรับซ่อมบริเวณหน้าศูนย์ยามาฮ่าสามแยกทางเข้าวัดฝั่งหมิ่น พิกัด : https://maps.app.goo.gl/fR3Y8Jt11D9BtMGVA

 

วันที่ 17 ก.ย. 67 ทภ.3 จัดตั้ง ศบภ.ทภ.3 ส่วนหน้า ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย เพื่ออำนวยการประสานงานการให้ความช่วยเหลือประชาชนของหน่วยทหารทุกหน่วย ในพื้นที่ อ.แม่สาย จนถึงปัจจุบัน

 

กองบัญชาการกองทัพไทย จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ณ โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย

 

อบจ.เชียงราย ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม  ด้านดำรงชีพ ดังนี้ ค่าใช้จ่ายด้านดำรงชีพ ได้แก่ค่าเครื่องนุ่งห่ม รายละไม่เกิน 1,100 บาท ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน 11,400 บาท ค่าเครื่องครัวและอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร เท่าที่จ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน 3,500 บาทค่าเครื่องนอน รายละไม่เกิน 1,000 บาท หลักฐานที่ต้องเตรียม ได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของเจ้าของบ้านที่ประสบภัย รูปภาพความเสียหาย กรณีผู้เช่า แนบเอกสารสัญญาเช่า การขอรับความช่วยเหลือ ผ่าน อบต. หรือ ทต. ที่ประสบภัย ในวันและเวลาราชการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.เชียงราย ฝ่ายสงเคราะห์ผู้ประสบภัย โทร. 053175329 หรือ 053175333 ต่อ 1402 ในวันและเวลาราชการ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 17 – 30 ก.ย. 2567 ขยายเวลาถึงวันที่ 15 ต.ค.67

 

การปฏิบัติงานฟื้นฟูบูรณะ และกู้คืนพื้นที่ของจิตอาสาราชทัณฑ์ (จอส.รท.) และเจ้าหน้าที่สังกัดกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ประจำวันที่ 8 ต.ค. 67

 

เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางเชียงรายและกำลังสนับสนุนจากเรือนจำ/ทัณฑสถาน เขต 5 (รจจ.ลำพูน, รจจ.พะเยา ,ทสบ.ลำปาง ,รจอ.แม่สะเรียง, รจก.ลำปางและ รจจ.ฝาง) จำนวน 16 นาย นำผู้ต้องขัง จำนวน 78 คน ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์(ในรูปแบบ CSR) บรรเทาภัยน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดเชียงราย ดังนี้ 

 

ภารกิจภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ปรับภูมิทัศน์ ขนย้ายสิ่งของ ล้างทำความสะอาดสิ่งของเปื้อนโคลน บ้านเรือนประชาชนหลังน้ำลด จำนวน  8 จุด ภารกิจดำเนินการก่อสร้างบ้านน็อคดาวน์ จำนวน 6 หลัง บ้านเมืองงิม หมู่ที่ 4 ต.ริมกก จำนวน 1 หลัง บ้านจะเด้อ หมู่ที่ 6 ต.ดอยฮาง จำนวน 1 หลัง บ้านรวมมิตร หมู่ที่ 2 ต.แม่ยาว  จำนวน 2 หลัง บ้านแควัวดำ หมู่ที่ 12 ต.แม่ยาว จำนวน 2 หลัง

 

ปฏิบัติการดูดโคลนเลนที่อุดตันบริเวณท่อระบายน้ำ ตามตรอก ถนน และจุดต่าง ๆ ที่กีดขวางทางระบายน้ำพื้นที่ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่ในเขตพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย ประจำวันที่ 9 ต.ค. 67 อบจ.สมุทรปราการ รถดูดโคลน 2 คัน ปฏิบัติงาน ต.แม่สาย อ.แม่สาย คันที่ 1 ปฏิบัติงานบริเวณโรงเรียนไม้ลุงขนฯ ต.แม่สาย อ.แม่สาย ปริมาณดินโคลนที่ดูดได้ 72 ลูกบาศก์เมตร คันที่ 2 ปฏิบัติงานบริเวณเหมืองแดงใต้ ซอย 5  ปริมาณดินโคลนที่ดูดได้ 2 ลูกบาศก์เมตร

เทศบาลตำบลบางปู ปฏิบัติงานบริเวณหมู่บ้านธนารักษ์ กองทัพบก เส้นเมนระยะทางที่ลอก 360 เมตร ขนาดท่อ 80 ซม. และ 60 ซม. ปริมาณดินโคลนที่ดูดได้ 80 ลูกบาศก์เมตร

 

เทศบาลตำบลบางเมือง ดูดโคลนเลน ซอย 8/1 แมนชั่น และซอย ซอย 8/2  จำนวน 9 รอบ รวม 72,000 ลิตร

ทีมจังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย ทม.ท่าโขลง และ ทม.ลาดสวาย ดำเนินการล้างถนน 5 วอย ระยะทาง 1,200 เมตร

ชุดปฏิบัติการดูดโคลนกรุงเทพมหานคร ปฏิบัติงานบริเวณโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย

ในวันที่ 9 ต.ค.67 เวลา 18.00 น. ดำเนินการจนกว่าจะแล้วเสร็จ

 

บริษัท วอชแอนด์โก Code Clean ให้บริการ ซัก อบ ผ้า น้ำยา ฟรี แก่ผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดให้บริการจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จำนวน 3 จุด ได้แก่ ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย หรือลานรัชกาลที่ 5 (ศาลากลางจังหวัดหลังแรก) ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 67 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบัน ณ สถานีดับเพลิงเทศบาลนครเชียงราย หน้าวัดดงหนองเป็ด ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 67 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบัน หน้ามูลนิธิสยามเชียงราย สำนักงานใหญ่ จุด 5 แยก พ่อขุนฯ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 67 เป็นต้นมา ถึงปัจจุบัน

 

งานบริการถ่ายบัตรประชาชน : กรมการปกครอง โดยส่วนบัตรประจำตัวประชาชน ศูนย์บริหารการทะเบียนภาค และอำเภอแม่สาย ขยายระยะเวลางานบริการถ่ายบัตรประชาชน จากเดิมตั้งแต่วันที่ 19 – 30 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 17.00 น. ขยายระยะเวลาออกไปตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ตุลาคม 2567 ในวันและเวลาราชการ ณ สำนักงานเทศบาลตำบลแม่สาย ชั้น 2 งานทะเบียนราษฎร์

 

วันที่ 9 ต.ค. 67 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พบปะให้กำลังใจมอบถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 80 ชุด และอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านเรือน แก่ เครือข่าย OTOP ที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมทั้งร่วมประกอบอาหารเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัย ทหาร และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนที่มาช่วยฟื้นฟูพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยมี นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมมอบฯ

 

วันที่ 8 – 9 ต.ค. 67 สภากาชาดไทย โดยสำนักงานยุวกาชาด และอาสาสมัครกาชาด จัดโครงการอาสาสมัครกาชาด อาสาสาด้วยใจร่วมฟื้นฟูภัยพิบัติ จังหวัดเชียงราย โดยมีอาสาสมัครกาชาด อาสายุวกาชาด คณะผู้บริหาร ครูในจังหวัดเชียงราย สกร.ระดับอำเภอจาก 18 อำเภอ กลุ่มไฟฟ้าจิตอาสา และสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดพะเยา กว่า 300 คน เข้าร่วม ณ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดเชียงราย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งได้เร่งฟื้นฟูพื้นที่การเรียนรู้ของชุมชน ขนย้ายสิ่งของ ล้างทำความสะอาด รวมถึงซ่อมระบบไฟฟ้า ณ อาคารศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเมืองเชียงราย เพื่อคืนพื้นที่การเรียนรู้ให้กับเด็กและเยาวชน ได้ทันช่วงเวลาที่จะเปิดภาคเรียน และประชาชนที่จะได้เข้ามาใช้บริการต่อไป

 

วันที่ 9 ต.ค. 67 นายธเนศ โกมลธง รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย คณะผู้บริหาร สท. พี่น้องชุมชนร่องเสือเต้น ชุมชนฝั่งหมิ่น ปลัดเทศบาลนครเชียงรายร่วมกับ พ.ต.ท. มณฑล พสิษฐ์มณฑล รองผกก.ฝอ.ภ.จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ตำรวจตระเวนชายแดนกองร้อย 327 กองร้อยอาสารักษาดินแดน จาก 37 จังหวัด ร่วมกันฟื้นฟูสวนสาธารณะริมกก(ชุมชนร่องเสือเต้น ชุมชนฝั่งหมิ่น ชุมชนป่าแดง) ระยะทาง 1.6 กม.

 

วันที่ 7 ต.ค. 67 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย รับมอบน้ำมันเครื่อง Shell Advance 4T Ax5  สำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะทุกรุ่น จำนวน 3,000 ลิตร  รวมมูลค่า 567,000 บาท จากบริษัท เติมสุขออยล์ จำกัด โดยคุณสาริกา มัลโฮตรา ตัวแทนของบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบอุทกภัยที่รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมในพื้นที่เมืองเชียงราย

วันที่ 9 ต.ค. 67 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เก็บขนวัสดุดินโคลน ฉีดล้างพื้นที่ ปรับปรุงภูมิทัศน์ ตัดแต่งกิ่งไม้ เก็บขนออกจากพื้นที่ และบำรุงรักษาต้นไม้ตามหลักรุกขวิทยา ณ สวนสาธารณะพรหมราช(สวนสุขภาพ) ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย พื้นที่ดำเนินการประมาณ 20 ไร่ อัตรากำลัง ทั้งสิ้น จำนวน 125 นาย ประกอบด้วย สบอ.15 ชร. จำนวน 60 นาย สจป.ที่ 2 เชียงราย จำนวน 40 นาย ทสจ.ชร. จำนวน 25 นาย ดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด 20 ไร่ (100%)

 

วันที่ 9 ต.ค. 67 เวลา 12.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน คณะผู้บริหาร คณะกรรมการเครือข่าย OTOP ระดับประเทศ  ลงพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งมอบกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน พร้อมพบปะพูดคุยให้กำลังใจ และเยี่ยมบ้านผู้ประสบภัย สนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ในการทำความสะอาดอาคารบ้านเรือน และมอบถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาทุกข์ผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนจากอุทกภัย และช่วยเหลือผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่

 

โรงครัวลุงอู๊ดอีจัน “เพจอีจัน” โรงครัวช่วยผู้ประสบภัย ทีมตอบโต้ภัยพิบัติ “มูลนิธิเพชรเกษม”

ตั้งโรงครัว ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย ตั้งตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. – 8 ต.ค. 67 เป็นระยะเวลา 29 วัน ผลิตข้าวกล่องประกอบเลี้ยงผู้ประสบภัย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและจิตอาสา จำนวนทั้งสิ้น  261,076 กล่อง

 

แนวโน้มสถานการณ์ คาดหมายลักษณะอากาศ (24 ชั่วโมงข้างหน้า) : บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังอ่อนลงแต่ยังคงทำให้ภาคเหนือตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า ในขณะที่มีลมฝ่ายตะวันออกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและจังหวัดเชียงรายฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางแห่ง รายละเอียดดังนี้ พื้นที่ฝนเล็กน้อย จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองเชียงราย/ แม่สรวย/ แม่ลาว/ เวียงป่าเป้า /เทิง และเวียงแก่น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News