
เชียงของ vs นครพนม: เปรียบเทียบแนวทางพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวริมฝั่งโขง
นครพนม, 6 มีนาคม 2568 – จังหวัดเชียงของและนครพนมเป็นสองเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของไทย ทั้งสองเมืองมีโครงการพัฒนาที่โดดเด่น แต่มีแนวทางที่แตกต่างกันในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวตามแนวแม่น้ำโขงได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการค้าและการท่องเที่ยวอย่างเชียงของ จังหวัดเชียงราย และนครพนม ทั้งสองพื้นที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงและเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สามารถเชื่อมโยงการค้าและการลงทุนข้ามพรมแดนระหว่างไทย ลาว เมียนมา และจีน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทั้งสองพื้นที่จะมีลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่คล้ายกัน แต่แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่กลับมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
การพัฒนาการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของนครพนม
นครพนมเป็นจังหวัดที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีโครงการ Mekong River Eye และ ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ Maekhong River Eye ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเมืองให้กลายเป็น “Restination” หรือเมืองหลักแห่งการพักผ่อน การลงทุนในโครงการนี้มีมูลค่ารวมกว่า 54.5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเม็ดเงินที่สำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจในท้องถิ่น
รายละเอียดโครงการ Mekong River Eye นครพนม
- โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขง ซึ่งรวมถึงสวนสาธารณะและชิงช้าสวรรค์ยักษ์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
- ระยะเวลาดำเนินการ 300 วัน โดยมีกำหนดสิ้นสุดโครงการในวันที่ 15 ตุลาคม 2568
- การวางเป้าหมายเศรษฐกิจของนครพนม ให้มีอัตราการเติบโตของ GDP จังหวัดอยู่ที่ 7% ต่อปี และเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวจาก 5,000 ล้านบาทเป็น 8,700 ล้านบาทภายในปี 2571
- การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว จาก 2.5 ล้านคน เป็น 3.68 ล้านคน ภายในปี 2571
- กลยุทธ์ 5 สร้าง ได้แก่
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสีย
- การสร้างแบรนด์เมืองผ่านอัตลักษณ์ท้องถิ่น
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นภายใต้แนวคิด One Day One District (ODOD)
- การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่ระดับสากล
- การยกระดับกิจกรรมระดับจังหวัดเพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว
การพัฒนาเชียงของและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง
เชียงของเป็นอำเภอชายแดนที่มีศักยภาพในการเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษ ของภาคเหนือ โดยมีโครงการพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญหลายโครงการ เช่น โครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงของ และ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบขนส่งเชียงของ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 3,800 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมฝั่งโขง และ พื้นที่นันทนาการใหม่ริมแม่น้ำโขง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
รายละเอียดโครงการพัฒนาเชียงของ
- โครงการรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงของ มีระยะทาง 323.1 กิโลเมตร ผ่าน 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ลำปาง พะเยา และเชียงราย มีสถานีทั้งหมด 26 สถานี
- โครงการพัฒนาเขื่อนป้องกันตลิ่งริมฝั่งโขง และ พื้นที่นันทนาการ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจพิเศษเชียงของ
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับนักลงทุน เช่น ศูนย์โลจิสติกส์เชียงของ และ ศูนย์ซ่อมอากาศยาน MRO ของเชียงราย ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าและการท่องเที่ยวในพื้นที่
- เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจของเชียงของ โดยมุ่งเน้นการเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ และรองรับการขยายตัวของ ระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor)
การเปรียบเทียบระหว่างนครพนมและเชียงของ
ปัจจัย | นครพนม | เชียงของ |
ลักษณะพื้นที่ | เมืองริมแม่น้ำโขง เน้นการพัฒนาการท่องเที่ยวและนันทนาการ | เมืองชายแดน เน้นการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและโลจิสติกส์ |
โครงการสำคัญ | Mekong River Eye, ชิงช้าสวรรค์ Maekhong River Eye | รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงของ, ศูนย์โลจิสติกส์, เขตเศรษฐกิจพิเศษ |
เป้าหมายหลัก | ส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพักผ่อน | พัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าและโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน |
งบประมาณโครงการ | 54.5 ล้านบาท | มากกว่า 3,800 ล้านบาท |
จำนวนนักท่องเที่ยวเป้าหมาย | 3.68 ล้านคนภายในปี 2571 | มุ่งเน้นการเติบโตของภาคโลจิสติกส์และการค้า |
จากข้อมูลที่ได้รับ นครพนมและเชียงของมีแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ฝั่งหนึ่งมุ่งเน้นไปที่การท่องเที่ยวและการพัฒนาเมืองให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อน ขณะที่อีกฝั่งหนึ่งมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจข้ามพรมแดน
ข้อดีของการพัฒนานครพนม:
- ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นผ่านการท่องเที่ยว
- สร้างงานในภาคบริการและการท่องเที่ยว
- ดึงดูดนักลงทุนในภาคธุรกิจบริการ
ข้อเสียของการพัฒนานครพนม:
- อาจต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น
- ใช้งบประมาณที่สูงในการก่อสร้าง แต่ผลตอบแทนอาจไม่แน่นอน
ข้อดีของการพัฒนาเชียงของ:
- ส่งเสริมการค้าข้ามพรมแดน และช่วยให้ไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
- มีโอกาสในการเติบโตระยะยาวจากการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและอาเซียน
- โครงการโครงสร้างพื้นฐานช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจในท้องถิ่น
ข้อเสียของการพัฒนาเชียงของ:
- ต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนาและคืนทุน
- อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและที่อยู่อาศัยของประชาชน
บทสรุป
ทั้ง นครพนมและเชียงของ ต่างมีแนวทางพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวริมโขงที่แตกต่างกัน นครพนมเน้นการท่องเที่ยวเชิงนันทนาการและวัฒนธรรม ผ่านโครงการชิงช้าสวรรค์และการสร้างอัตลักษณ์เมือง ในขณะที่ เชียงของเน้นพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและโลจิสติกส์ เพื่อรองรับการค้าไทย-จีน
แม้ว่าทั้งสองโครงการจะมีข้อดีและข้อเสีย แต่สิ่งที่สำคัญคือ ความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการรักษาสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการในระยะยาว
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม / chiang khong tv / ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์