Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เขื่อนแม่สรวยเข้ม เจ้าหน้าที่ตั้งด่าน รวบนักดื่ม 6 ราย เมาไม่ขับจับจริง

แม่สรวยตรวจเข้ม! เมาแล้วขับไม่รอด วันที่ 2 สงกรานต์ 2568 พบผู้กระทำผิด 6 ราย

อำเภอแม่สรวยเดินหน้าเชิงรุก บูรณาการทุกภาคส่วนตั้งด่านตรวจรอบเขื่อน คุมเข้มความปลอดภัยทางถนนในช่วงสงกรานต์

เชียงราย, 12 เมษายน 2568 – เวลา 16.00 น. นายปฤษฎางค์ สามัคคีนิชย์ นายอำเภอแม่สรวย และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอแม่สรวย ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง นำโดยปลัดอำเภอ พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) บูรณาการร่วมกับสถานีตำรวจภูธรแม่สรวย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สรวย และกำนันตำบลแม่สรวย จัดตั้งจุดตรวจบริเวณเขื่อนแม่สรวย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ เพื่อควบคุมการใช้รถใช้ถนนของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมา

ผลการดำเนินการเข้ม พบผู้กระทำผิดเมาแล้วขับจำนวน 6 ราย

จากการดำเนินการตรวจเข้มในวันที่สองของช่วงควบคุมเข้มสงกรานต์ 2568 เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจหลักบริเวณทางเข้าออกเขื่อนแม่สรวย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นในช่วงวันหยุด โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเล่นน้ำที่ “แพเปียก” และกิจกรรมสงกรานต์ริมน้ำ ส่งผลให้การตั้งจุดตรวจต้องมีความเข้มข้นและต่อเนื่องตลอดทั้งวัน

ผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายผู้ขับขี่ พบผู้กระทำผิดรวมทั้งสิ้น 6 ราย มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที โดยนำตัวผู้กระทำผิดส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่สรวย เพื่อดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ต่อไป

ดำเนินมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยง

การดำเนินการตรวจจับเมาแล้วขับครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในมาตรการเชิงรุกของอำเภอแม่สรวย ที่มีเป้าหมายเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีประชาชนเดินทางเข้าออกจำนวนมาก ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ใช้รถใช้ถนนตระหนักถึงความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

นายปฤษฎางค์ สามัคคีนิชย์ เปิดเผยว่า การตรวจเข้มในพื้นที่รอบเขื่อนแม่สรวยไม่เพียงแต่เพื่อบังคับใช้กฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความจริงจังของภาครัฐในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงเทศกาลสำคัญ พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกวันตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์

ศูนย์ปฏิบัติการฯ เผยแนวโน้มผู้ฝ่าฝืนยังคงพบต่อเนื่อง จำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมเข้ม

จากข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอแม่สรวย ระบุว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมาของเทศกาลสงกรานต์ มีผู้กระทำผิดในข้อหาเมาแล้วขับเฉพาะในพื้นที่เขื่อนแม่สรวยรวม 9 ราย เฉลี่ยวันละ 4.5 ราย ซึ่งยังถือเป็นตัวเลขที่สูง และบ่งชี้ถึงความจำเป็นที่ต้องดำเนินมาตรการควบคุมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาหลัง 15.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนมักเริ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นอกจากนี้ยังพบว่าผู้กระทำผิดส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 25–40 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มวัยทำงานที่มีอัตราการเดินทางท่องเที่ยวสูงในช่วงเทศกาล โดยมากใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะหลัก

ผสานความร่วมมือภาครัฐ-ท้องถิ่น-ชุมชน สร้างวินัยจราจรอย่างยั่งยืน

มาตรการที่อำเภอแม่สรวยดำเนินการในครั้งนี้ ไม่ได้หยุดอยู่เพียงการตรวจจับผู้กระทำผิดเท่านั้น แต่ยังเน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และอาสาสมัครในพื้นที่ ซึ่งร่วมมือกันในการรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ และแจ้งเตือนผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง

โดยเฉพาะการให้ความรู้ในระดับชุมชนเกี่ยวกับอันตรายของการขับขี่ยานพาหนะขณะมึนเมา การแจกใบปลิวให้ความรู้แก่ผู้มาเที่ยว รวมถึงการใช้เสียงตามสายประกาศเตือนในเขตหมู่บ้านล้อมรอบเขื่อน เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงในระดับรากหญ้า

เมาแล้วขับยังเป็นปัญหาเรื้อรัง ต้องบูรณาการหลายมิติ

จากการติดตามข้อมูลและรายงานจากหลายหน่วยงาน พบว่าปัญหาเมาแล้วขับยังคงเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนเดินทางและเฉลิมฉลองกันอย่างครึกครื้น แม้ว่าจะมีการดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่พฤติกรรมเสี่ยงของบางกลุ่มยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง

การดำเนินการของอำเภอแม่สรวยจึงนับเป็นต้นแบบของการดำเนินงานเชิงรุกในระดับอำเภอ ที่สามารถใช้ศักยภาพของภาครัฐและชุมชนท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การสร้างวินัยจราจร และลดสถิติอุบัติเหตุในระยะยาว

ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง และแหล่งอ้างอิง

  • รายงานจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนทั่วประเทศ 264 ราย โดยกว่า 38% ของอุบัติเหตุเกิดจากการดื่มแล้วขับ
  • จากสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2567 พบว่า อัตราการจับกุมผู้ขับขี่ที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่ากฎหมายกำหนดในช่วงสงกรานต์เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 12
  • สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รายงานว่า กลุ่มวัยทำงานอายุ 25–45 ปี เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนการดื่มแล้วขับสูงที่สุดในช่วงเทศกาล

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (www.ddc.moph.go.th)
  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (www.royalthaipolice.go.th)
  • คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (www.alcoholwatch.in.th)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

มติที่ประชุมปิดล่องแพ 30 เมษาฯ แม่สรวยน้ำน้อย แต่นั่งซุ้มต่อได้

ประกาศปิดล่องแพแม่สรวย 30 เม.ย. 68 – เพื่อสำรองน้ำเกษตร ชี้จำเป็นตามมติคณะกรรมการฯ ร่วมมือบริหารจัดการน้ำแบบมีส่วนร่วม

เชียงราย, 3 เมษายน 2568 — ตามที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ได้ประกาศ ยุติการล่องแพเปียกในอ่างเก็บน้ำแม่สรวยภายในวันที่ 30 เมษายน 2568 เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง และจำเป็นต้องเก็บกักน้ำไว้เพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง ภายใต้นโยบายการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน โดยเน้นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และองค์กรผู้ใช้น้ำ

การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นตามมติที่ประชุมเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 ภายใต้กรอบ ข้อตกลงความร่วมมือบริหารจัดการชลประทานแบบมีส่วนร่วม (MOU for JMC) ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ลาว ตำบลดงมะดะ อำเภอแม่ลาว โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบกิจการแพเปียก และตัวแทนเกษตรกรผู้ใช้น้ำเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

จำเป็นต้องสำรองน้ำ – ล่องแพได้ถึง 30 เม.ย. ก่อนลดปริมาณการปล่อยน้ำเหลือเพียง 1Q

นายวรวิทย์ สุวรรณจักร หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้มีการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่สรวยอยู่ที่ 5–6 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (Q) เพื่อให้สามารถล่องแพได้อย่างปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยจะสิ้นสุดกิจกรรมล่องแพในวันที่ 30 เมษายน 2568 หลังจากนั้นจะลดการปล่อยน้ำเหลือเพียง 1Q เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง

ถึงแม้จะมีคำถามจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ว่า หากมีฝนตกหรือพายุฤดูร้อนในเดือนเมษายนจะสามารถขยายเวลาได้หรือไม่ ทางชลประทานยังไม่ได้รับรายงานพยากรณ์อากาศที่ชัดเจนจากกรมอุตุนิยมวิทยา จึงยังคงยึดตามมติที่ประชุมไว้ก่อน

ยังเปิดให้นั่งซุ้มริมเขื่อน ชิมอาหารท้องถิ่นได้ถึง 15 พ.ค.

แม้ว่าจะไม่สามารถล่องแพได้หลังวันที่ 30 เมษายน แต่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ยังคงเปิดบริการ “ซุ้มริมน้ำ” สำหรับรับประทานอาหารและพักผ่อนริมอ่างเก็บน้ำต่อได้ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมในช่วงปลายฤดูร้อน

ข้อตกลง MOU for JMC – โมเดลบริหารน้ำโดยชุมชนมีส่วนร่วม

การดำเนินการครั้งนี้สอดคล้องกับนโยบายของกรมชลประทาน ที่ส่งเสริมรูปแบบการบริหารจัดการน้ำ Participatory Irrigation Management (PIM) โดยให้เกษตรกร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานปกครอง และผู้ใช้น้ำ มีส่วนร่วมในการกำหนดแผนบริหารและจัดสรรน้ำผ่าน คณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC)

พื้นที่ในลุ่มน้ำแม่ลาวตอนที่ 2 ประกอบด้วย

  • อ่างเก็บน้ำแม่สรวย
  • ฝายเจ้าวรการบัญชา
  • ฝายถ้ำวอก
  • ฝายสมบัติ

โดยแต่ละแห่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับเกษตรกรในอำเภอแม่สรวยและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งต้องอาศัยการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงฤดูแล้งของปี 2567/68 นี้

เสียงสะท้อนจากภาคเกษตรและการท่องเที่ยว

ฝ่ายเกษตรกรผู้ใช้น้ำ ระบุว่า เห็นด้วยกับมาตรการเก็บกักน้ำ เนื่องจากพื้นที่การเกษตรหลายแห่งในลุ่มน้ำแม่ลาว กำลังเข้าสู่ฤดูแล้ง และปริมาณน้ำในเขื่อนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของปีที่ผ่านมา หากไม่มีการบริหารน้ำอย่างเป็นระบบ จะส่งผลกระทบต่อพืชผลทางเศรษฐกิจ เช่น ข้าวโพด ข้าวนา และพืชผักสวนครัว ซึ่งเป็นรายได้หลักของชุมชน

ในขณะที่ผู้ประกอบการล่องแพและร้านอาหารริมเขื่อน ได้แสดงความกังวลว่า การปิดให้บริการล่องแพก่อนฤดูท่องเที่ยวจะสิ้นสุด ส่งผลกระทบต่อรายได้และแรงงานในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ถือเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญของแม่สรวย

ข้อมูลสถานการณ์น้ำล่าสุดในภาคเหนือ

จากรายงานของ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และกรมชลประทาน ประจำวันที่ 3 เมษายน 2568 พบว่า

  • อ่างเก็บน้ำแม่สรวยมี ปริมาณน้ำในอ่าง : 47.704 (65.350%) ของความจุ  73.000 ล้าน ลบ.ม.
  • คาดการณ์ว่าในช่วงเดือนเมษายนจะไม่มีฝนตกชุก
  • ปริมาณน้ำในลุ่มน้ำแม่ลาวรวมลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วกว่า 15%
  • ความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรเพิ่มขึ้นกว่า 10% เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น
  • พื้นที่การเกษตรในอำเภอแม่สรวยและแม่ลาวกว่า 6,200 ไร่ ต้องพึ่งพาน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่สรวยเป็นหลัก

(ที่มา: สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ, กรมชลประทาน, รายงานสถานการณ์น้ำประเทศไทย ประจำเดือนเมษายน 2568)

แนวทางและข้อเสนอแนะต่อการจัดการน้ำแบบสมดุล

ฝ่ายสนับสนุนมาตรการปิดล่องแพ เห็นว่าเป็นการดำเนินการที่จำเป็นและสมเหตุสมผล ภายใต้ข้อจำกัดของทรัพยากรน้ำที่มีอยู่ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของแนวทาง PIM ซึ่งเป็นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการบริหารทรัพยากรสาธารณะอย่างยั่งยืน

อีกมุมหนึ่ง ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวเสนอว่า รัฐควรมีมาตรการเยียวยา หรือจัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางเลือกในพื้นที่แทน เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป พร้อมทั้งเสนอให้ปรับเปลี่ยนกำหนดการเปิด–ปิดล่องแพตามสถานการณ์น้ำจริงรายสัปดาห์ โดยใช้เทคโนโลยีพยากรณ์น้ำมาเป็นตัวกำหนด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

‘ชัยธวัช’ ล่องแพเขื่อนแม่สรวย นำคณะก้าวไกล สาดน้ำเล่นสงกรานต์

 
เมื่อวันที่ เมื่อวันที่ 14 เมษายน นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค, นายกรุณพล เทียนสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรค ร่วมเทศกาลสงกรานต์ที่ จ.เชียงราย
 
โดยช่วงเช้าเยี่ยมชมอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบเวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อประจำท้องถิ่น นอกจากนี้มีสินค้าอื่นๆ เช่น ชาหวาน น้ำแร่ เสร็จแล้วเดินทางไปเขื่อนแม่สรวย อ.แม่สรวย ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินเท้าไปขึ้นแพเปียกเพื่อเล่นน้ำระหว่างทางมีประชาชนเข้ามาทักทาย ขอสาดน้ำประแป้งอย่างใกล้ชิดเป็นกันเอง ก่อนจะขึ้นแพและล่องไปตามลำน้ำ ได้รับการต้อนรับอย่างคึกคัก ประชาชนกระหน่ำสาดน้ำฉีดน้ำ สร้างความสนุกสนานอย่างมาก โดยหลังจากนี้ นายชัยธวัชและคณะจะเดินทางไปเล่นน้ำต่อที่ถนนสันโค้งน้อย อ.เมือง จ.เชียงราย.
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News