Categories
AROUND CHIANG RAI

วุฒิสภาลงพื้นที่เชียงราย ช่วยเกษตรกรประสบภัย

วุฒิสภาลงพื้นที่เชียงราย ติดตามผลกระทบจากอุทกภัยและหนอนกระทู้

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 นายธวัช สุระบาล ประธานคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรและปศุสัตว์ และศึกษาแนวทางการฟื้นฟู โดยได้เยี่ยมชมศูนย์วิจัยและพัฒนาหมูดำดอยตุง ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและโรคระบาดในพื้นที่ตำบลเกาะช้าง

ติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจเกษตรกร

คณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาหมูดำดอยตุง เพื่อศึกษาแนวทางการเลี้ยงหมูดำดอยตุง ซึ่งเป็นพันธุ์หมูที่มีความแข็งแรงและสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี จากนั้นได้เดินทางไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำมันจากเมล็ดชา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง

สำรวจพื้นที่ประสบภัยและให้คำแนะนำ

คณะกรรมาธิการฯ ได้เดินทางไปยังพื้นที่ตำบลเกาะช้าง ซึ่งได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างหนัก โดยได้พบปะกับเกษตรกรเพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว พบว่าพื้นที่การเกษตรที่ติดแม่น้ำรวกได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง พืชผลทางการเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พืชสวนผลไม้ ได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลยังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้ขึ้นทะเบียน ทำให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือ

ปัญหาหนอนกระทู้ระบาดซ้ำเติมความเสียหาย

นอกจากปัญหาอุทกภัยแล้ว เกษตรกรในพื้นที่ยังประสบปัญหาหนอนกระทู้ระบาด ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรอย่างมาก

ข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ไข

คณะกรรมาธิการฯ ได้ให้ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา ดังนี้

  • สำรวจความเสียหายอย่างละเอียด: ดำเนินการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากทั้งอุทกภัยและโรคระบาดอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน
  • ช่วยเหลือเกษตรกร: ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเกษตรกรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน
  • ฟื้นฟูพื้นที่: ดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายตามแผนฟื้นฟูระยะสั้น กลาง และยาว
  • ป้องกันและแก้ไขปัญหาหนอนกระทู้: สนับสนุนให้เกษตรกรใช้ยาปราบศัตรูพืชอย่างถูกวิธีและปลอดภัย
  • บูรณาการความร่วมมือ: สนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ

บทสรุป

การลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการฯ ในครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความห่วงใยต่อปัญหาของเกษตรกร และเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและโรคระบาด

หมูดำดอยตุง: อัญมณีแห่งขุนเขา และ น้ำมันเมล็ดชา: สุดยอดแห่งธรรมชาติ

หมูดำดอยตุง: มรดกอันล้ำค่าจากดอยสูง

หมูดำดอยตุง ไม่ใช่แค่สุกรทั่วไป แต่เป็นสัตว์พื้นเมืองที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของชุมชนดอยตุงอย่างยิ่ง เป็นผลมาจากการนำหมูดำพันธุ์เหมยซานจากประเทศจีนมาผสมพันธุ์กับหมูพื้นเมือง จนได้สายพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะเด่นหลายประการ เช่น

  • ความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศที่หนาวเย็น เหมาะกับการเลี้ยงบนพื้นที่สูง
  • เนื้อมีคุณภาพสูง มีรสชาติอร่อย เนื้อแน่น มีไขมันแทรกพอดี
  • ให้ลูกดก ช่วยเพิ่มปริมาณปศุสัตว์ในชุมชน
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เลี้ยงด้วยอาหารจากธรรมชาติ ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ

การเลี้ยงหมูดำดอยตุง นั้นเน้นการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น เช่น พืชผลทางการเกษตรที่ปลูกในชุมชน ทำให้ลดต้นทุนการผลิตและส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน นอกจากนี้ การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหมูดำดอยตุง เช่น ไส้กรอกรมควัน แฮม ก็สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน

น้ำมันเมล็ดชา: เศรษฐกิจชุมชนและสุขภาพที่ดี

น้ำมันเมล็ดชา เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น

  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว
  • บำรุงเส้นผม ทำให้ผมแข็งแรงเงางาม
  • ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยลดคอเลสเตอรอล
  • มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

กระบวนการผลิตน้ำมันเมล็ดชา นั้นค่อนข้างซับซ้อนและต้องอาศัยความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วกระบวนการผลิตจะประกอบด้วยขั้นตอนหลักดังนี้

  1. การคัดเลือกเมล็ดชา เลือกเมล็ดชาที่แก่จัด มีคุณภาพดี
  2. การทำความสะอาดเมล็ดชา ขจัดสิ่งสกปรกและวัตถุแปลกปลอมออก
  3. การบดเมล็ดชา บดเมล็ดชาให้ละเอียดเพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสกับตัวทำละลาย
  4. การสกัดน้ำมัน ใช้ตัวทำละลาย เช่น น้ำมันพืชหรือสารเคมี เพื่อสกัดน้ำมันออกจากเมล็ดชา
  5. การกลั่นน้ำมัน กลั่นน้ำมันเพื่อขจัดตัวทำละลายและสิ่งเจือปนอื่นๆ
  6. การบรรจุ บรรจุน้ำมันใส่ภาชนะที่สะอาดและปิดสนิท

การผลิตน้ำมันเมล็ดชา นอกจากจะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์จากชาแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืนและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

‘เชียงราย’ เตรียมรับมือน้ำท่วม! วางแผนป้องกันภัยรอบด้าน

เชียงรายเร่งวางแผนรับมืออุทกภัย หลังฝนตกหนัก

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 จังหวัดเชียงรายได้จัดประชุมด่วนเพื่อวางแผนรับมือสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่มที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่หลายพื้นที่ประสบปัญหาฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย, ชลประทานจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ

ประเด็นสำคัญที่ถูกนำมาหารือในที่ประชุม ได้แก่:

  • สถานการณ์น้ำท่วมในอดีต: ที่ประชุมได้ทบทวนสถานการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงราย และอำเภอแม่สาย ในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2567 โดยวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสม ระดับน้ำในแม่น้ำสายสำคัญต่างๆ เช่น แม่น้ำกก แม่น้ำลาว แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง
  • การเตรียมความพร้อม: หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อาทิ การปรับปรุงระบบระบายน้ำ การสร้างอ่างเก็บน้ำ การสร้างเขื่อน และการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า
  • การมีส่วนร่วมของประชาชน: ที่ประชุมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัย รวมถึงการเตรียมความพร้อมของครัวเรือนในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

มาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่สำคัญ

  • มาตรการเชิงโครงสร้าง: การปรับปรุงสภาพลำน้ำ การใช้อ่างเก็บน้ำ เขื่อน และพนังกั้นน้ำ เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วม
  • มาตรการไม่ใช้โครงสร้าง: การจัดการใช้สอยที่ดิน การวางผังเมือง การควบคุมสิ่งปลูกสร้าง และการให้ความรู้แก่ประชาชน
  • การเฝ้าระวังและเตือนภัย: การติดตั้งระบบเฝ้าระวังน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทันท่วงที

เป้าหมายสูงสุดของการประชุมครั้งนี้คือ

การวางแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยอย่างครอบคลุม เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อให้จังหวัดเชียงรายสามารถรับมือกับสถานการณ์ภัยธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

สสจ.เชียงราย จัดตั้งศูนย์ฉุกเฉิน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

การประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขในสสจ.เชียงรายหลังพายุไต้ฝุ่น

สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลาย

สสจ.เชียงรายได้จัดการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข หลังจากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นระลอกแรก ยางิ และซูลิก คลี่คลายลงแล้ว โดยการประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ณ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ผ่านระบบการประชุมออนไลน์

ผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น

พายุไต้ฝุ่นที่ผ่านมาทำให้ประชาชนในพื้นที่เชียงรายได้รับผลกระทบมากถึงกว่า 63,491 ครัวเรือน เสียชีวิตทั้งหมด 19 ราย และบาดเจ็บกว่า 2,091 ราย นอกจากนี้ยังมีการเสียหายทางโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก

การจัดตั้งทีมปฏิบัติการฉุกเฉิน

ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินฯ ได้จัดตั้งทีมต่าง ๆ ได้แก่ ทีมแพทย์ฉุกเฉิน (MERT/miniMERT), ทีมปฐมพยาบาล, ทีมเยียวยาจิตใจ (MCATT), ทีมเฝ้าระวังและสอบสวนโรค (SRRT/CDCU), ทีมอนามัยสิ่งแวดล้อม (SEhRT) และทีมกู้ชีพ เพื่อให้การดูแลประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทีมงานได้ให้บริการกว่า 38,180 ครั้ง และแจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์จำเป็นกว่า 72,426 รายการ

การฟื้นฟูและการดูแลสุขภาพจิต

หลังจากสถานการณ์ฉุกเฉินคลี่คลายลง ศูนย์ฯ ได้เปลี่ยนภารกิจสู่การฟื้นฟูอย่างยั่งยืน โดยยังคงเฝ้าระวังโรคที่อาจเกิดขึ้นหลังน้ำลด เช่น โรคทางเดินหายใจ โรคฉี่หนู และโรคระบบทางเดินอาหาร รวมถึงการดูแลสุขภาพจิตของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

การสนับสนุนจากศูนย์ปฏิบัติการ

นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่าศูนย์ปฏิบัติการได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ตั้งแต่การเฝ้าระวังก่อนเกิดเหตุ จนถึงการดูแลและฟื้นฟูประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือจากประชาชนในการทำความสะอาดที่พักอาศัย กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และรักษาสุขอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในระยะยาว

สรุปสถานการณ์และการดำเนินงาน

ในการประชุมศูนย์ฯ ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มในจังหวัดเชียงราย โดยพบว่าพายุไต้ฝุ่นระลอกแรกได้เสียชีวิต 5 ราย พายุยางิ 13 ราย และพายุซูลิก 1 ราย รวมทั้งหมด 19 ราย นอกจากนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากพายุไต้ฝุ่นระลอกแรก 7 ราย ยางิ 2,067 ราย และซูลิก 17 ราย

การดูแลและฟื้นฟูชุมชน

ศูนย์ฯ ได้เน้นการฟื้นฟูชุมชนให้ประชาชนกลับมามีสุขภาพแข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยสนับสนุนการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมและการดูแลสุขภาพประชาชนอย่างต่อเนื่อง ความห่วงใยจากทีมสาธารณสุขจะยังคงอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกย่างก้าว

บทสรุป

การประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขในสสจ.เชียงรายเป็นการยืนยันถึงความพร้อมและความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินทางธรรมชาติ การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของทีมงานและหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและต่อเนื่อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ศปช. เคาะแผนเยียวยาเชียงรายรวบรัดให้เร็ว เพื่อเงินถึงมือประชาชน

 

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า จากการตั้งข้อสังเกตปริมาณฝนที่เกิดขึ้นไม่ได้มากกว่าที่ผ่านแต่เป็นการตกเฉพาะที่แบบซ้ำซาก ซึ่งน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (Climate Change) จึงมอบหมายให้กรมอุตุนิยมวิทยาไปศึกษาให้ถ่องแท้ ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจหลักที่ต้องชี้แจงและเตือนภัย เพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็น 2 ลักษณะผสมของฝนและดินโคลน ซึ่งสถานการณ์ตรงนี้แตกต่างจากที่อื่น เพราะเป็นน้ำผสมดินโคลน ดังนั้น เป็นน้ำที่อันตรายกว่าน้ำท่วมปกติ คล้ายกับภูเขาไฟระเบิดที่เป็นลาวาผสมน้ำไหลลงมา และเชื่อว่าอาจจะเกิดขึ้นได้อีก โดยมอบหมายให้กรมทรัพยากรธรณีไปศึกษาให้ครบถ้วน

การที่น้ำผสมโคลนที่ตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้การกำจัดและกู้ภัยเป็นไปได้ยาก ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ประเทศไทยพบเจอ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการกับเรื่องนี้ ส่วนฝ่ายกองทัพก็ต้องเข้ามาศึกษาตั้งแต่เบื้องต้นรวมทั้งจะแก้ปัญหาในอนาคตอย่างไร รวมถึงการจัดหาเครื่องมือที่เหมาะสมเข้าไปในพื้นที่ประสบภัย

โดยที่ประชุมเห็นชอบแผนการดำเนินงานการช่วยเหลือ/ฟื้นฟู เพื่อแก้ไขปัญหาดินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย ในพื้นที่อำเภอเมือง และในอำเภอแม่สาย ดังนี้

  • พื้นที่อำเภอเมือง แบ่งเขตการดำเนินงานในเขตเทศบาลนครเชียงราย จำนวน 745 หลัง และนอกเขตเทศบาล จำนวน 6,614 หลัง กำหนดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 29 กันยายน 2567
  • พื้นที่อำเภอแม่สาย แบ่งการดำเนินการเป็น 5 โซน กำหนดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วัน หรือประมาณวันที่ 20 ตุลาคม 2567

ส่วนปัญหาการเยียวยาที่มีกฎระเบียบและดำเนินการในภาวะปกติเป็นอุปสรรคนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแลว่าจะทำอย่างไรให้กระบวนการตรงนี้ให้ถูกกฎหมาย แต่รวบรัดให้เร็วที่สุด เพื่อให้เงินถึงมือประชาชน ให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง ซึ่งลักษณะน้ำท่วมแบบพิเศษนี้จะต้องมีการกำหนดค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้จัดตั้งคณะที่ปรึกษาผู้มีความเชี่ยวชาญ โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน และตน เป็นโฆษกประจำศูนย์ฯ เพื่อทำหน้าที่ชี้แจงสถานการณ์รายวันได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้สั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เชียงรายเพื่อกำกับดูและสถานการณ์ เนื่องจากนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายป่วย และใกล้เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ได้มอบหมายรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปรักษาราชการแทนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จะเดินทางลงพื้นที่ไปจังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามการช่วยเหลือประชาชน พร้อมประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น ผู้แทนภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อกำหนดทิศทาง และหาข้อสรุป เพื่อใช้เป็นแผนยุทธศาสตร์รับมือกับการเกิดอุทกภัย และวาตภัยของประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“ท่าน ว.วชิรเมธี” มอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ต.แม่ยาว

 

เมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน 2567 เวลา 15.00 น. นายอภิรักษ์ อินต๊ะวัง นายกเทศมนตรีตำบลแม่ยาว พร้อมทีมงาน ได้เดินทางนำถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง และเงินขวัญถุงจำนวน 500 บาทจากพระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) มอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมในหลายหมู่บ้าน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ประสบภัย ณ จุดแจกจ่ายที่โรงเรียนบ้านรวมมิตร โดยมีบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร บ้านแคววัวดำ บ้านผามูบ บ้านออบเสือแหวน บ้านอาเกอะ 1 บ้านอาเกอะ 2 บ้านสามเส้า บ้านอาดี่ บ้านหมอผี บ้านป่าแล บ้านจะสอป่า บ้านลอบือ บ้านห้วยสักกอง บ้านห้วยลุหลวง บ้านพนาสวรรค์ และบ้านใหม่พัฒนา เป็นพื้นที่ได้รับแจกจ่ายในครั้งนี้

นอกจากนี้ยังมีจุดแจกจ่ายถุงยังชีพอีกแห่งที่เทศบาลตำบลแม่ยาว ประกอบด้วย บ้านห้วยทรายขาว บ้านป่าอ้อใหม่ บ้านเกาะ บ้านป่าอ้อ และบ้านริมกก รวมทั้งหมด 1,500 ชุด ถุงยังชีพเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก ซึ่งส่งผลให้บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มและติดแม่น้ำ การแจกจ่ายถุงยังชีพช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและมอบกำลังใจให้แก่ประชาชนในยามที่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติ

นายอภิรักษ์ อินต๊ะวัง นายกเทศมนตรีตำบลแม่ยาว กล่าวถึงความสำคัญของการร่วมมือกันในช่วงเวลาวิกฤต พร้อมทั้งขอบคุณพระเมธีวชิโรดมที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ทั้งนี้ การช่วยเหลือในรูปแบบของถุงยังชีพ และเงินขวัญถุงช่วยให้ผู้ประสบภัยมีทรัพยากรเพียงพอในการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ในเบื้องต้น

นอกจากนี้ ทีมงานของเทศบาลตำบลแม่ยาวยังได้ประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเร่งดำเนินการทำความสะอาดพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมและให้การสนับสนุนเพิ่มเติมในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย การช่วยเหลือในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ยังเป็นการสร้างความสามัคคีในชุมชนและเตรียมพร้อมฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ในระยะยาว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลตำบลแม่ยาว

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ปศุสัตว์เชียงรายเร่งช่วยสัตว์เลี้ยงประสบภัยน้ำท่วม ให้การดูแลอย่างเต็มที่

 

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย นายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะสุนัขและแมวที่ถูกทิ้งไว้ในบ้านเนื่องจากเจ้าของไม่สามารถนำออกมาได้ หรือไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ทางกรมปศุสัตว์จึงได้ประสานกับคุณโรเจอร์ โลหน์นทน์ สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทยและองค์กรต่าง ๆ ในการจัดส่งทีมอาสาและผู้เชี่ยวชาญในการจับสัตว์อย่างปลอดภัย เพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ประสบปัญหาและนำไปฟื้นฟูสุขภาพที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวจนกว่าจะแข็งแรงและพร้อมกลับคืนสู่เจ้าของ

นายพืชผล น้อยนาฝาย ปศุสัตว์จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความร่วมมือจากหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ในการจัดเตรียมอุปกรณ์และทรัพยากรต่าง ๆ เช่น อาหารสุนัขและแมว รวมถึงเครื่องมือในการจับสัตว์เลี้ยงเพื่อให้แน่ใจว่าสัตว์ได้รับการดูแลที่ดี โดยในระยะนี้เจ้าของสัตว์สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทันทีหากพบว่าสัตว์เลี้ยงของตนถูกกักขังในพื้นที่น้ำท่วม ทางเจ้าหน้าที่พร้อมเข้าช่วยเหลือและนำสัตว์เลี้ยงออกมาอย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ ปัญหาที่พบมากในช่วงนี้คือมีการโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียจากบุคคลที่ไม่ใช่เจ้าของสัตว์ ทำให้การเข้าช่วยเหลือเกิดความล่าช้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของสัตว์โดยตรงได้ นายสัตวแพทย์บุญญกฤชขอความร่วมมือจากประชาชนที่โพสต์หรือเห็นสัตว์ติดค้างในบ้านให้ประสานกับเจ้าของสัตว์โดยตรง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ นายสัตวแพทย์บุญญกฤชได้กล่าวขอบคุณผู้มีจิตศรัทธาและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้บริจาคอาหารสัตว์และให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ โดยทางกรมปศุสัตว์จะดำเนินการช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงรายโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และจะดูแลสัตว์เลี้ยงจนกว่าสภาพร่างกายของสัตว์จะดีขึ้นและสามารถกลับคืนสู่เจ้าของได้อย่างปลอดภัย

สำหรับเจ้าของสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดเชียงรายได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-5371-1604 ทางทีมงานพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

สุดท้ายนี้ นายสัตวแพทย์บุญญกฤชยังเน้นย้ำว่า การช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ประสบภัยในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมทั้งขอให้เจ้าของสัตว์ที่ประสบอุทกภัยมั่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงของตนจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ผู้ว่าฯ ลงตรวจปฏิบัติการแพทย์ทหาร ฝูงบิน 416 เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 เวลา 14.30 น. นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางไปยังฝูงบิน 416 อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการลำเลียงอาหารและถุงยังชีพ รวมถึงทีมแพทย์ทหารที่เตรียมออกปฏิบัติภารกิจโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ในการส่งมอบอาหารและให้บริการทางการแพทย์แก่ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่เป้าหมายบ้านเทอดไทยและบ้านจะตี อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก ทำให้หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากเส้นทางคมนาคม ส่งผลให้การส่งอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ต้องอาศัยการขนส่งทางอากาศ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลในอำเภอแม่ฟ้าหลวง เช่น บ้านเทอดไทยและบ้านจะตี ที่ถูกน้ำป่าล้อมรอบจนไม่สามารถเดินทางเข้าถึงได้

ในระหว่างการลงพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้รับรายงานจากชุดปฏิบัติการทางอากาศว่าภารกิจการขนส่งอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์ในพื้นที่อำเภอแม่สายเมื่อวันที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความสำเร็จ โดยเฮลิคอปเตอร์ได้ลำเลียงอาหารไปถึงชาวบ้านที่ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม นอกจากนี้ ทีมแพทย์ทหารยังสามารถนำตัวผู้ป่วยจำนวน 3 ราย ซึ่งติดอยู่ในบ้านอันเป็นผลจากน้ำท่วมหนักออกจากพื้นที่น้ำท่วมมารักษาตัวในพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างปลอดภัย

สำหรับภารกิจในวันนี้ ทีมเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ได้เตรียมพร้อมลำเลียงอาหารและยารักษาโรคไปยังบ้านเทอดไทยและบ้านจะตี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ยังคงประสบปัญหาการขาดแคลนอาหารและการรักษาพยาบาล เนื่องจากเส้นทางคมนาคมถูกน้ำป่าตัดขาด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้

ทั้งนี้ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ห่างไกล พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในจังหวัดเชียงราย

จังหวัดเชียงรายยังคงติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด โดยได้เตรียมพร้อมรับมือกับการระบายน้ำและการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับประชาชนที่ต้องการขอความช่วยเหลือ สามารถติดต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

‘ดูโฮม’ ร่วมใจสู้ภัย น้ำท่วมเชียงราย มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย

 

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ดูโฮม” ศูนย์ค้าปลีกและค้าส่งวัสดุก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งบ้าน ได้ร่วมงานแถลงข่าวการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย โดยการส่งมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ดังกล่าว นำทีมโดย คุณพรธนเกียรติ ยอดแก้วเปีย ผู้จัดการดูโฮม สาขาเชียงราย และ คุณดาริกา เชี่ยววุฒิกุล ผู้จัดการ (อาวุโส) แผนกประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร เป็นตัวแทนในการมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคแก่ นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ณ ห้องจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

 

สถานการณ์น้ำท่วมเชียงรายกระทบหนัก ประชาชนขาดแคลนสิ่งของจำเป็น

จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงรายตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก บ้านเรือนของประชาชนถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิตเริ่มขาดแคลน ส่งผลให้ชุมชนในหลายพื้นที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ดูโฮม ในฐานะองค์กรที่มีความห่วงใยและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ได้รับทราบถึงความทุกข์ร้อนของพี่น้องชาวจังหวัดเชียงราย จึงได้จัดเตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น อาหารแห้ง น้ำดื่ม และเครื่องใช้พื้นฐาน เพื่อมอบให้แก่จังหวัดเชียงราย นำไปจัดสรรให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยหวังว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ

 

ดูโฮมมุ่งมั่นช่วยเหลือชุมชน ฟื้นฟูและบรรเทาความเดือดร้อน

นอกจากนี้ ดูโฮมยังได้เน้นย้ำถึงการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดที่สุด โดยเฉพาะการจัดสรรสิ่งของให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก เช่น การจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องใช้พื้นฐาน เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถดำรงชีวิตได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

ดูโฮมได้แสดงเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ด้วยความหวังว่าสิ่งของที่ได้มอบไปนั้นจะช่วยบรรเทาความทุกข์ร้อนให้แก่พี่น้องชาวเชียงราย และเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างรวดเร็ว

 

การร่วมมือของทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

นอกจากการส่งมอบสิ่งของช่วยเหลือจากดูโฮมแล้ว ทางจังหวัดเชียงรายยังได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยการระดมความช่วยเหลือทั้งในรูปแบบของเงินทุนและสิ่งของจำเป็น เพื่อให้ความช่วยเหลือถึงมือผู้ที่เดือดร้อนได้อย่างทั่วถึง

การช่วยเหลือในครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่ต้องการเห็นการฟื้นฟูและการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวเชียงราย ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการส่งมอบสิ่งของเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งกำลังใจและความหวังให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถกลับมายืนหยัดได้อย่างมั่นคง

 

ดูโฮม ยืนหยัดเคียงข้างชุมชน เสริมสร้างความแข็งแกร่งเพื่ออนาคต

ดูโฮมยังคงมุ่งมั่นที่จะอยู่เคียงข้างชุมชน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและฟื้นฟูชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ การส่งมอบสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน ซึ่งเป็นแนวทางที่ดูโฮมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI

ครม.ตั้งศูนย์อำนวยการอุทกภัย ใช้งบฯ ทดลองจ่าย 20 ล้านบาท

 

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งมีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยมองว่าน้ำท่วมเป็นปัญหาซ้ำซากเรื้อรังมานานจากหลายปัจจัย ทั้งการบริหารจัดการน้ำ การกักเก็บน้ำ การไม่มีที่รองรับน้ำในภาคเหนือ ทำให้มีปัญหาน้ำท่วมหนักทุกปี ต้องช่วยเหลือผู้ที่ลำบากทุกปี

โดยเฉพาะในปีนี้ (2567) มีมวลน้ำปริมาณมาก สถานการณ์ฝนตกมีความแตกต่างจากที่ผ่านมา มีภาวะฝนตกเป็นจุดๆ จากปัญหาโลกร้อน ซึ่งปัญหานี้นับวันจะยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงมีการวางแนวทางการบริหารจัดการ คือ

1.ต้องมีการบริหารจัดการไม่ให้สถานการณ์ลุกลามไปมากกว่านี้

2.การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนหลังน้ำลด

3.การแก้ปัญหาระยะยาว โดยบรรจุเรื่องการบริหารจัดการน้ำเป็นวาระแห่งชาติ ทั้งนี้ เมื่อมีคณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศก็จะบรรจุเรื่องนี้เป็นวาระเร่งด่วน เพื่อให้รองรับสถานการณ์ได้ทัน

รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้คาดการณ์สถานการณ์บางพื้นที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้ว แต่บางพื้นที่สถานการณ์น้ำท่วมยังหนักอยู่ เช่น จังหวัดสุโขทัย ซึ่งยอมรับว่าเป็นพื้นที่รองรับน้ำก่อนระบายสู่จังหวัดต่างๆ ถือว่าค่อนข้างหนัก คันกั้นน้ำไม่สามารถรับได้ จึงเกิดกรพังทลาย คันกั้นน้ำยังมีปัญหาการเวนคืนที่ดิน รักษาการนายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการแก้ไขในเรื่องดังกล่าว 

และนำมาสู่การตั้งศูนย์แก้ปัญหาให้มีเอกภาพ จึงตั้งเป็นศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัย มีอำนาจหน้าที่และการใช้งบประมาณที่ชัดเจน โดยมีนายภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธาน

ส่วนองค์ประกอบที่เหลือคือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งจะมีคำสั่งอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง โดยแบ่งภารกิจออกเป็น 2 ส่วน คือ 

1.การบริหารจัดการน้ำ การระบายน้ำ การแจ้งเตือน ให้ทราบข่าวว่าน้ำจะมาประมาณ ไหน ไม่ให้เกิดความตระหนก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คำนวณและยืนยันว่าจะไม่ถึงสถานการณ์ปี 2554 โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ จะเป็นผู้ดูแล 

2.การดูแลช่วยเหลือประชาชน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะเป็นหลักในการบูรณาการความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงาน

สำหรับงบประมาณที่ใช้จะใช้จากงบประมาณกลาง อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งบางจังหวัดมีการประกาศพื้นภัยพิบัติจะใช้งบทดลองจ่าย จำนวน 20 ล้านบาท หากไม่เพียงพอต้นสังกัดจะขอมาที่งบกลาง แต่เมื่อมีคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาแล้วการดำเนินการทุกอย่างจะต้องรวดเร็วตอบสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“หน้าที่มีทั้งการป้องกัน แก้ไข เยียวยา และฟื้นฟู ซึ่งต้องดูสถานการณ์ในรายจังหวัด เช่น จังหวัดน่านสถานการณ์น้ำท่วมผ่านไปแล้วจะเข้าสู่กระบวนการเยียวยาและฟื้นฟู ส่วนจังหวัดที่น้ำยังมาไม่ถึงจะป้องกันอย่างไร เช่น จังหวัดนครสวรรค์ หรือต่ำกว่านั้น ก็ต้องหามาตรการป้องกัน แก้ไขไม่ใช่ทำงานเชิงรับ” รองเลขาธิการนายกฯ กล่าว

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัย 

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
FEATURED NEWS

‘ธรรมนัส’ ลุย 3 จังหวัด ‘ลำปาง แพร่ สุโขทัย’

 
   ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำ พร้อมทั้งแจกถุงยังชีพแก่พี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัย ณ เทศบาลตำบลแม่ปุ อ.แม่พริก และบ้านต้นธง อ.เมือง จ.ลำปาง

        สำหรับจังหวัดลำปาง มีพื้นที่ 7,833,726 ไร่ เป็นพื้นที่เกษตรกรรม 1,036,512 ไร่ หรือร้อยละ 13.23 พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง สับปะรด ส้มเกลี้ยง และยางพารา ซึ่งในช่วง 27 – 30 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา เกิดในตกหนัก น้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่เกษตร จำนวน 8 อำเภอ 35 ตำบล 144 หมู่บ้าน ปัจจุบันมีการประการเขตภัยพิบัติ จำนวน 5 อำเภอ

        “สิ่งสำคัญที่ต้องกลับมาคิดคือการแปรรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ที่ต้องเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหา ทั้งในเรื่องภัยแล้งและน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ ได้มอบหมายกรมชลประทานจัดเตรียมเครื่องจักร-เครื่องมือ พร้อมเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือราษฎรแต่ละพื้นที่ และบูรณาร่วมกับส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมสั่งให้จัดทำแผนการดำเนินงานในแต่ละพื้นที่ และในภาพรวมของจังหวัด ตรงไหนที่สามารถเป็นพื้นที่กักเก็บน้ำได้ให้ดำเนินการทันที” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

         ทั้งนี้ ในปี 2567 กรมชลประทานมีแผนดำเนินการในการสร้างอ่างเก็บน้ำ จำนวน 2 แห่ง และแก้มลิ้ง 2 แห่ง เพื่อเก็บกักน้ำในพื้นที่ต้นน้ำและลุ่มน้ำสาขา อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือทางด้านการเกษตรและบรรเทาอุทกภัย
        นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและแจกถุงยังชีพ ณ อ่างเก็บน้ำแม่แย้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.แพร่ และประตูระบายน้ำ หาดสะพานจันทร์ จ.สุโขทัย ด้วย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News