โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย: โอกาสใหม่ในการสร้างเศรษฐกิจภาคเหนือ
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 นาวาอากาศตรี สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ได้เปิดเผยถึงโครงการสำคัญในพื้นที่จังหวัดเชียงราย คือโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO – Maintenance, Repair, and Overhaul) ซึ่งเป็นโครงการร่วมกันระหว่างเชียงรายเอเวชั่นโฮลดิ้ง (CAH) และผู้ผลิตอากาศยานอันดับหนึ่งของจีน คือ AVIC (Aviation Industry Corporation of China) ปัจจุบัน AVIC อยู่ในอันดับที่สามของโลกในอุตสาหกรรมการบิน โดยโครงการนี้ตั้งเป้าหมายเป็นแหล่งซ่อมบำรุงอากาศยานที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียและสร้างงานกว่า 400 อัตราให้กับคนในพื้นที่
รับฟังความคิดเห็นประชาชนชาวเชียงราย
ซึ่งในวันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2567 เวลา 08.30 – 12.00 น. ทางโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) จะมีการให้ประชาชนชาวเชียงรายเข้ามาร่วมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 รายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จัดที่อาคารอเนทประสงค์ วัดป่าหวายขุมเงิน หมู่ที่ 15 บ้านป่ากุ๊ก ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สำหรับโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย สำหรับความคืบหน้าของโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน ที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายมีดังนี้
- แบบการก่อสร้างได้รับการรับรองจากสำนักงานการบินพบเรือนแห่งประเทศไทย “เรียบร้อย”
- พื้นที่ก่อสร้างได้รับการถมและบดอัด “เรียบร้อย” ดูจาก Google map จะเห็นพื้นที่สีขาวขนาดใหญ่ด้านทิศเหนือของท่าอากาศยาน
- รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะกรรมการกำกับโครงการ PPP ศูนย์ซ่อมอากาศยานที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย “เรียบร้อย”ในปี 2567
ที่ผ่านมานี้ และ การดำเนินการต่อไปก็คือ “การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ”ซึ่งจะทำประชาพิจารณ์ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้“
เป้าหมายของโครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน
นาวาอากาศตรีสมชนกกล่าวว่า โครงการนี้เป็นหนึ่งในโครงการยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือ โดยเฉพาะการสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานที่มีความสามารถในการรับซ่อมเครื่องบินทุกขนาดจากหลากหลายสายการบินทั่วโลก ซึ่งนอกจากจะเป็นโอกาสในการสร้างงานแล้ว ยังจะช่วยเสริมศักยภาพการขนส่งทางอากาศและการเติบโตของธุรกิจการบินในประเทศไทย
โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยานนี้จะตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 80 ไร่ในบริเวณทางทิศเหนือของสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย โดยมีการวางแผนก่อสร้างอาคารซ่อมบำรุงเครื่องบินขนาดใหญ่, อาคารสำนักงาน, ศูนย์ฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุง และอาคารที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ รวมถึงยังมีการสร้างโรงเก็บเครื่องบิน (Hangar) ที่สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้ เช่น โบอิ้ง 737 และแอร์บัส A320 ซึ่งเครื่องบินทั้งสองรุ่นนี้ถือเป็นเครื่องบินโดยสารหลักที่ใช้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การสร้างงานและเสริมศักยภาพช่างซ่อมบำรุง
การสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานในครั้งนี้คาดว่าจะสร้างงานในด้านเทคนิค เช่น ช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน, ช่างไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่แผนกวิศวกรรม รวมถึงตำแหน่งในด้านการวางแผนการซ่อมบำรุง คาดว่าจำนวนแรงงานที่ต้องการในขั้นต้นจะอยู่ที่ 400 คน โดยทางบริษัทเชียงรายเอเวชั่นโฮลดิ้งได้เตรียมโครงการฝึกอบรมช่างซ่อมบำรุงรุ่นใหม่ที่สามารถปฏิบัติงานในศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานแห่งนี้ได้ โดยผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรและใบอนุญาตที่ได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและสากล
นอกจากนี้ การสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานนี้ยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการซ่อมบำรุงเครื่องบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้กับช่างซ่อมบำรุงที่จบการศึกษาใหม่และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพให้ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะและประสบการณ์ในสาขางานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบิน
ศูนย์ซ่อมอากาศยานที่เกิดขึ้นจึงเป็นที่สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง
โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ
จะเป็นแหล่งผลิตทรัพยากรบุคคลในส่วนของช่างซ่อมบำรุงอากาศยานเพราะตามมาตรฐานการบินแล้ว ช่างซ่อมบำรุงอากาศยานจะต้องมีสถานที่ในการปฏิบัติงานเพื่อเก็บประสบการณ์ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสอบ License ช่างซ่อมบำรุงอากาศยานเพราะตามมาตรฐาน ICAO ที่กำหนดใน Annex 1 คนที่จะสอบใบอนุญาตช่างซ่อมบำรุงอากาศยานได้ต้อง
- จบหลักสูตรที่ CAA ของรัฐรับรองและทำงานเก็บประสบการณ์ 2 ปีจึงจะสอบบอนุญาตช่างซ่อมบำรุงอากาศยานได้
- ถ้าไม่จบหลักสูตรที่ CAA รัฐรับรอง ต้องทำงานเก็บประสบการณ์ 2 ปีจึงจะสอบบอนุญาตช่างซ่อมบำรุงอากาศยานได้
จากมาตรฐานจึงเห็นว่า ศูนย์ซ่อมอากาศยานจึงสำคัญมากในการพัฒนา สร้างบุคลากรด้านช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน ขณะที่ EASA ที่ทางไทยเดินตามก็จะมีรายละเอียดที่มากกว่าและไปในแนวเดียวกันคือ จบหลักสูตรที่ CAAT รับรองและต้องผ่านการทำงานเก็บประสบการณ์
ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและการพัฒนาเมืองอากาศยาน (Aerotropolis)
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองเชียงรายให้เป็นศูนย์กลางอากาศยาน (Aerotropolis) ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในการส่งเสริมอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ โดยศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานจะเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ผลิตอะไหล่เครื่องบิน, บริษัทโลจิสติกส์ และบริษัทบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากจะเสริมสร้างศักยภาพในการขนส่งอากาศของไทยแล้ว ยังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและภูมิภาคโดยรอบ
นอกจากนี้ การที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงรายตั้งอยู่ใกล้กับจีน ทำให้การขนส่งสินค้าและบริการระหว่างประเทศเป็นไปอย่างสะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) เช่น จีนตอนใต้, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจในระดับภูมิภาค
ข้อสรุป
โครงการศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย ไม่เพียงแต่สร้างงานและเพิ่มศักยภาพให้กับแรงงานในพื้นที่ แต่ยังเปิดโอกาสให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงอากาศยานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โครงการนี้ยังคาดว่าจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจเชิงบวกในระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาเมืองเชียงรายให้กลายเป็นเมืองอากาศยานที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์