Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

สมเด็จพระมหาธีราจารย์ลงพื้นที่เชียงราย มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน 2567 สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ และประธานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบกัปปิยภัณฑ์เพื่อให้กำลังใจแก่พระภิกษุสามเณร และประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอเทิง และ อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย

ในการนี้ พระธรรมวชิโรดม เจ้าคณะภาค 6 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยพระราชวิชิรคณี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย พระครูวรกิตติวิมล เจ้าคณะอำเภอขุนตาล นายอดิเรก ไลไธสง นายอำเภอขุนตาล นายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมพิธี ณ มณฑลพิธี วัดป่าข่า ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย

สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้มอบถุงยังชีพจำนวน 500 ชุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเทิง ณ บ้านเหล่า ตำบลตับเต่า โดยการมอบถุงยังชีพครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในพื้นที่

นอกจากนี้ คณะสงฆ์ พร้อมด้วยส่วนราชการยังได้มอบถุงยังชีพเพิ่มเติมอีก 500 ชุดแก่ประชาชนในพื้นที่ อำเภอขุนตาล ณ วัดป่าข่า ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยการมอบถุงยังชีพครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ยาก และเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้

พื้นที่อำเภอเทิง และ อำเภอขุนตาล เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุการณ์น้ำป่าหลากและน้ำท่วมในพื้นที่ได้สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้หลายครอบครัวต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ของสมเด็จพระมหาธีราจารย์และคณะสงฆ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การฟื้นฟูและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยการมอบถุงยังชีพและการให้กำลังใจนี้จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากให้กับชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากน้ำท่วม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

คาดการณ์ บ้านป่าข่า อ.ขุนตาล จมน้ำอยู่อีกประมาณ 1 เดือน

 

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 67 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ เดินทางจากท่าอากาศยานฝูงบิน 466 กองทัพอากาศ จ.น่าน ไปที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถยนต์ไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม อ.เทิง จ.เชียงราย และบ้านหล่ายงาว ม.1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย 


        โดยก่อนที่จะเดินทางลงพื้นที่ประสบภัย คณะของนายภูมิธรรม ได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนจาก นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ณ ห้องรับรองท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง หลังจากรับฟังรายงานแล้ว รองนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางด้วยรถยนต์ไปที่บ้านหนองบัว ม.5 ต.สันทรายงาม อ.เทิง และเดินทางต่อไปที่บ้านหล่ายงาว ม.1 ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น เพื่อพบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย


สำหรับสถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงราย ตอนนี้พื้นที่ทีมีปัญหาน้ำท่วมจะเป็นที่อำเภอขุนตาล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับมวลน้ำต่อจากอำเภอเทิง บวกกับมวลน้ำที่มาจากจังหวัดพะเยาไหลมาสมทบ จนทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำอิงล้นฝั่ง เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ 2 ตำบลคือตำบลต้าและตำบลป่าตาล ขณะทื่การให้ความช่วยเหลือนั้น จังหวัดเชียงรายระดมกำลังทั้งภาครัฐและเอกชนให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่  

โดยพื้นที่ บ้านป่าข่า ม.8 ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล จ.เชียงราย เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ประสบอุทกภัยจากน้ำอิงที่เอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่าครึ่งหมู่บ้าน วันนี้กองทัพบกได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน โดยนำเรือท้องแบนมาบรรทุกถุงยังชีพไปแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย และตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อแจกจ่ายให้ผู้เดือดร้อน

นายสอน เทพสมบัติ ผู้ใหญ่บ้านบ้านป่าข่า ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล กล่าวว่า ขณะนี้มวลน้ำก็ได้เข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยได้ประสานขอหน่วยงานจากทหาร หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 สำนักงานพัฒนาภาค3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นพค.35) นำเรือท้องแบนมาช่วยเหลือชาวบ้าน เพื่อส่งสิงของให้ชาวบ้านที่ยังจมน้ำ บางรายก็ออกมาได้ บ่งรายก็ออกมาไม่ได้ ตอนนี้ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐบาล ขอให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ทางหมู่บ้านได้รับความลำบากมาที่สุด มีบ้านเรือนที่จมน้ำ และออกบ้านได้ประมาณ 70 หลังคาเรือน ซึ่งบ้านป่าข่าเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำอิงที่มีต้นน้ำมาจาก กว๊านพะเยา ซึ่งคาดว่าหมู่บ้านจะจมน้ำอยู่แบบนี้ไปอีกประมาณ 1 เดือน ทางชาวบ้านก็ขอขอบคุณหน่วยงานต่าง งภาคเอกชนและราชการที่มาช่วยเหลือชาวบ้าน

พันตรี วัลลภ เสือโฮก หัวหน้าศูนย์บรรเทาสาธารณภัย พัฒนาสำนักงานพัฒนาภาค 3 กล่าวว่า ทางทหารหน่วยพัฒนา ได้มีการนำชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 2 ชุด เรือท้องแบน และรถครัวสนามเข้ามาช่วยเหลือประชาชน โดยตั้งครัวพระราชทานอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอเทิง เพื่อสนับสนุนอาหารให้กับผู้ประสบภัย โดยได้ประสานงานกับผู้ใหญ้บานในการช่วยเหลือ นำอาหารไปส่งให้กับชาวบ้านและรับผู้ที่จะออกจากหมู่บ้านออกมา ในการเคลื่อนย้าย ปัจจุบันมีการ้องขอ 2 พื้นที่คือ บ้านป่าข่า และบ้านต้า อ.ขุนตาล ซึ่งเป็นจุดที่มีประชาชนได้รับการเดือดร้อน และยังมีเรือท้องแบบอีก 2 ลำที่จะเข้ามาสนับสนุนการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย / Poom Pakpoom Wilai

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เชียงราย พบสัตว์ป่าคุ้มครองระดับโลก “เต่าปูลู” หลังพบเจอตัวที่ 2 ในรอบ 3 ปี นับเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของป่า

 

เชียงราย พบสัตว์ป่าคุ้มครองระดับโลก “เต่าปูลู” หลังพบเจอตัวที่ 2 ในรอบ 3 ปี นับเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของป่า

 
ปัจจุบัน “เต่าปูลู” จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ.2546 IUCN (2011) โดยมีสถานภาพการอนุรักษ์ (Conservation status) เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (EN – Endangered) การคุ้มครองตามอนุสัญญา CITES (2011) จัดอยู่ในบัญชี 2 (Appendix II)

เมื่อวันที่ 1 ตุลาตม 2566 ที่ผ่านมา  สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ร่วมกับทางอาจารย์ฉัตรพรรษ พงษ์เจริญ อาจารย์ภาควิชาวิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ลงพื้นที่ศึกษาแหล่งที่อยู่อาศัยเต่าปูลู หลังจากได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนบ้านงามเมือง หมู่ 11 ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย ว่ามีคนในชุมชนพบเจอตัวเต่าปูลูในลำห้วยแดงเมือง บริเวณน้ำตกถ้ำบึ่ง ห่างจากชุมชนไปประมาณ 800 เมตร ชาวบ้านเจอตัวเต่าปูลูในลำห้วยแดนเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยยาว มีลักษณะเป็นน้ำตก โขดหิน เป็นการพบตัวของเต่าปูลูในรอบ 10 ปีของชุมชนบ้านงามเมือง

 
 
 
นายท่องเที่ยว กองฟู ผู้ใหญ่บ้านงามเมือง หมู่11 ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า เต่าปูลูเจอโดยบังเอิญ พอดีลูกบ้านผมได้ขึ้นไปหาหอย ส่องหอยเหล็กจานตอนกลางคืน และที่ตรงน้ำตกถ้ำบึ่ง ส่องเจออยู่บนก้อนหินกำลังจะไต่ลงน้ำ พอลูกบ้านเจอก็โทรศัพท์มาหาผม ผมดีใจมากที่เจอเต่าปูลูที่ไม่เจอนานในรอบ 10 ปีแล้ว นี่คือตัวแรก ภัยคกคามเต่าปูลูส่วนมากจะเป็นคนนอกพื้นที่เข้ามาล่า คนในหมู่บ้านเรามีการห้ามและเชื่อฟังกัน คนต่างบ้านไม่รู้บ้านไหนบ้าง เมื่อ2-3เดือนก่อนชุดชรบ.หมู่บ้านก็ได้ขึ้นมาไล่ จับได้มา5-6 คน ตอนนั้นเรายังไม่ได้ติดป้ายประกาศตัวนี้ก็ได้อะลุ่มอะหล่วย ปล่อยเขาไปเสีย อีกครั้งก็แอบมาหาใกล้กับจุดที่เราเจอเต่าพอดีแต่จับไม่ได้ ลำห้วยนี้เราใช้ร่วมกันระหว่างบ้านแดนเมืองกับบ้านงามเมือง ที่จริงทั้ง2ชุมชนได้อนุรักษ์มานานมากแล้วเป็นป่าชุมชน ผมก็พึ่งมาสานต่อมาเป็นพ่อหลวงบ้านได้2ปีที่ผ่านมาเอง ป่าเรามีเต่าผึ้งด้วย แต่เต่าปูลูเจอในรอบ 10 ปี
 
 
“เต่าปูลู” Platysternon megacephalum หรือเต่าปากนกแก้ว(Big-headed Turtle) เป็นสัตว์น้ำจืด วงศ์ Platysternidae มีลักษณะพิเศษคือมีหัวขนาดใหญ่ กินเนื้อ กินปลา กุ้ง หอย สัตว์น้ำอื่นๆ รวมถึงผลไม้ป่าเป็นอาหาร กินเหยื่อโดยการฉกงับ เต่าปูลูมีเล็บแหลมคมมีความสามารถปีนป่ายขอนไม้ หรือโขดหินได้เก่ง หากินในเวลาตอนเย็นหรือกลางคืน ส่วนกลางวันจะหลบซ่อนตามซอกหิน ในฤดูหนาวจะจำศีลซ่อนตัวอยู่ตามหลืบหินหรือโพรงน้ำในลำห้วย 
 
เต่าปูลูเมื่อยังเล็ก กระดองจะมีลายสีเหลืองและสีน้ำตาล ส่วนตัวเต็มวัยสีเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาลเขียวมะกอก ผสมพันธุ์ในน้ำ วางไข่คราวละ 3–5 ฟอง ไข่เปลือกแข็งสีขาว รูปทรงกระบอกหัวท้ายรี ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร วางไข่ตามพงหญ้าริมฝั่งล้ำห้วยในช่วงฤดูแล้งประมาณเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน ไข่ฟักตัวออกลูกประมาณเดือนสิงหาคม
 
 
เต่าปูลูมีหัวขนาดใหญ่ ไม่สามารถหัวหดเข้ากระดองได้ เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว สามารถปีนต้นไม้และก้อนหินได้ ขาและเท้ามีขนาดใหญ่และแข็งแรงหดเข้ากระดองไม่ได้ ขาหน้าและขาหลังของเต่าปูลูมีเกล็ดหุ้มทั้งหมด ตั้งแต่โคนขามีเกล็ดขนาดใหญ่ ฝ่าเท้ามีเกล็ดขนาดเล็กลงมา นิ้วมีเกล็ดหุ้ม มีเล็บแหลมคม ขาหน้ามี 5 นิ้ว ขาหลังมี 4 นิ้ว มีเยื่อพังผืดเล็กน้อยยึดระหว่างนิ้วเกือบถึงโคนเล็บ หางมีขนาดใหญ่ บริเวณโคนหางและโคนขาหลังมีเดือยหนังแหลมยื่นออกมาจำนวนมาก
ทางสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตได้ทำการศึกษาแนวทางการอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยเต่าปูลู
 
 
โดยการมีส่วนร่วมของชุมชนลุ่มนิอิงตอนปลาย ช่วงปีพ.ศ. 2564-2565 ในพื้นที่ 6 ชุมชนในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำอิงตอนปลาย พบปัญหาภัยคุกคามคือการลักลอบจับเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อบ้าน และทางชุมชนได้มีแนวทางการอนุรักษ์เต่าปูลูโดยใช้มติประชาคมหมู่บ้าน ประกาศเขตพื้นที่ห้ามล่าเต่าปูลู ในชุมชนนำร่อง 3 ชุมชนได้แก่ ชุมชนบ้านร้องหัวฝาย หมู่ 12 บ้านพัฒนารุ่งเรือง หมู่ 18 ตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของและชุมชนบ้านงามเมือง หมูที่ 11 ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย
 
 
ด้านนายเกรียงไกร แจ้งสว่าง เจ้าหน้าที่ภาคสนาม สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตกล่าวว่า การเจอตัวเต่าปูลูที่บ้านงามเมือง เป็นการเจอตัวเต่าปูลูเป็นตัวที่ 2 ในช่วงเวลา 3ปี ตัวแรกเราเจอที่ลำห้วยป่าแดง ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 ใช้เวลา 14 เดือนกว่าจะเจอตัวเต่าปูลูอีกครั้ง ที่ผ่านมาทางสมาคมได้ร่วมกับชุมชนหาแนวทางการอนุรักษ์โดยการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนแก้ปัญหาภัยคุกคามเรื่องการล่าเพื่อส่งออก รวมถึงการศึกษาองค์ความรู้ท้องถิ่นรวมถึงการศึกษาร่วมกับนักวิชาการ ทั้งการศึกษาระบบนิเวศน์แหล่งที่อยู่อาศัย การติดตามเต่าจากการเก็บตัวอย่างน้ำหาสารพันธุ์กรรมจากธรรมชาติ eDNA จากการตรวจหา eDNA ก็มีการตรวจพบการมีอยู่ของเต่าปูลู แต่การเจอตัวเต่าในครั้งนี้เป็นการยืนยันว่าในป่าต้นน้ำลุ่มน้ำอิงตอนปลายยังมีเต่าปูลูอยู่
 
 
ดร.ฉัตรพรรษ พงษ์เจริญ อาจารย์ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ผมได้รับการติดต่อจากสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตเข้ามาศึกษาชีววิทยา habitat ของมันอยู่อย่างไร พื้นที่อาศัยเป็นแบบไหน วันนี้ก็โชคดีที่ชาวบ้านแจ้งมาว่าเจอเต่า ก็มาเก็บข้อมูลว่าพื้นที่ที่เจอเต่ามันเป็นอย่างไร เต่าปูลูมีความพิเศษคือมันเป็นเต่าน้ำ มีลักษณะพิเศษที่ต่างจากเต่าน้ำที่ทุกคนรู้จักคือกระดองค่อนข้างจะแบน ไม่เหมือนเต่าอื่นกระดองมันจะโค้งๆ ความแบนของมันเพื่อให้มันสามารถซ่อนตัวอยู่ใต้ซอกหินตามน้ำตกตามลำห้วย ลักษณะพิเศษอีกอย่างคือหัวใหญ่มากไม่สามารถหดหัวเข้ากระดอกได้ ปกติเราจะคุ้นชิ้นกับเต่าหดหัว หดขาเข้ากระดอง 
 
แต่เต่าปูลูทำไม่ได้สักอย่าง หัวใหญ่ขาใหญ่ หางยาว ดูน่ารัก หางที่ยาวมันช่วยในการปีนน้ำตกโดยเอาหางช่วยค้ำไว้ปีนน้ำตก เต่าปูลูกินสัตว์อื่นเป็นอาหารทั้งการล่าเองและกินซากตามลำห้วย เป็นดัชนีชี้วัด เป็นผู้รักษาสภาพลำน้ำไม่ให้เน่าเสียเพราะมันกินซากสัตว์ที่มันตายในน้ำ มีความสำคัญต่อระบบนิเวศอย่างหนึ่ง แต่ตอนนี้สถานการณ์เต่าปูลูน่าเป็นห่วงสถานที่อยู่ของมันถูกทำลายไปเยอะลำห้วยต่างๆ มีมลพิษ การกั้นลำห้วยลำน้ำนิ่งๆ เต่าปูลูมันชอบน้ำไหล เป็นแอ่ง เป็นวังที่น้ำไหล การไปเปลี่ยนสภาพลำห้วยทำให้พื้นที่อาศัยมันเปลี่ยนไป อีกอย่างคือการล่า เป็นปัญหาสำคัญมาก การล่าที่เอาเต่าออกไปจากพื้นที่ 
 

จริงๆแล้วประชากรในธรรมชาติก็มีไม่เยอะ การเอาตัวเต็มวัยที่สามารถแพร่พันธุ์ได้ออกจากพื้นที่ ล่าออกไปสุดท้ายก็ไม่เหลือตัวที่จะสืบพันธุ์ต่อ สถานภาพของมันในปัจจุบันก็เลยกลายเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทย ห้ามล่า ห้ามจับ ห้ามซื้อ ห้ามขาย ส่วนสถานภาพระดับโลก เป็นEN-endangered เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ทำให้เต่าปูลูมีความสำคัญในระดับประเทศและระดับโลกด้วย โดยส่วนตัวผมว่ามันน่ารักดี เลยชอบที่จะศึกษามัน

 
สำหรับ บ้านงามเมือง หมู่ 11 ตำบลยางฮอม อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย ได้ทำการประชาคมหมู่บ้าน กำหนดลำห้วยแดนเมืองทั้งสายเป็นเขตอนุรักษ์เต่าปูลู มีคณะกรรมการหมู่บ้านและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเป็นคณะทำงานในการสอดส่องดูแลตามลำห้วย หากมีการจับเต่าปูลูในลำห้วยจะมีการปรับ 20,000 บาท และส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นหมู่บ้านนำร่องประกาศเขตอนุรักษ์เต่าปูลู 1 ใน 3 ชุมชนลุ่มน้ำอิงตอนปลาย และทางสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตมีแนวทางการสร้างความร่วมมือขยายแนวทางการสร้างเขตอนุรักษ์เต่าปูลูไปยังชุมชนอื่นๆให้ครอบคลุมชุมชนในเขตป่าต้นน้ำที่สนใจในระยะต่อไป
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News