Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ข้อมูลปี 2567 พบว่า ‘เชียงราย’ ดื่มแอลกอฮอล์ ติดอันดับ 4

เชียงรายติดอันดับ 4 ประเทศไทย ผู้ดื่มสุราสูงสุดต่อแสนประชากร รณรงค์ 3 ต. สงกรานต์ 2568

เชียงใหม่, 9 เมษายน 2568 – จากข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดด้านการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย พบแนวโน้มที่น่ากังวลในช่วงก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ 2568 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีอุบัติเหตุและการสูญเสียจากการดื่มสุรามากเป็นพิเศษ สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงรายถูกจัดอยู่ใน ลำดับที่ 4 ของประเทศ ในจำนวนประชากรผู้ดื่มสุราต่อแสนคน โดยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สถานการณ์แอลกอฮอล์โลก-ไทย และผลกระทบที่ตามมา

จากรายงานสถานการณ์ระดับโลกโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ประชากรโลกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ย ร้อยละ 43 หรือคิดเป็น 6.4 ลิตรต่อคนต่อปี ขณะที่ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากการดื่มแอลกอฮอล์มากถึง 3 ล้านคนต่อปี หรือเฉลี่ยเสียชีวิต 1 คนในทุก ๆ 10 วินาที

ประเทศไทยเองก็เผชิญกับปัญหาดังกล่าวอย่างรุนแรง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ถือเป็นช่วงเสี่ยงที่สุดของปี ข้อมูลจากปี 2567 ระบุว่า มีอุบัติเหตุกว่า 20,000 ครั้ง และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 300 คน โดยพบว่าวันที่ 13 เมษายน เป็นวันที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด และสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจาก “ดื่มแล้วขับ

เชียงรายในภาพรวมของภาคเหนือ: ความน่ากังวลในเชิงพฤติกรรมและสุขภาพ

ในภาคเหนือมีโรงกลั่นสุราที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด 985 แห่ง โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 10 แห่ง จังหวัดเชียงรายเองถือว่าเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีความเข้มข้นของการบริโภคสุราสูงที่สุด โดยถูกจัดอยู่ใน อันดับที่ 4 ของประเทศ รองจากจังหวัดขอนแก่น ลำปาง และมหาสารคาม ส่วนจังหวัดพะเยาอยู่ในอันดับที่ 5

สำหรับจังหวัดเชียงราย สถิติชี้ว่ามีการบริโภคสุราสูงถึง 7.17 ลิตรต่อคนต่อปี และยังพบว่า นักดื่มหน้าใหม่มีอายุน้อยลงเรื่อย ๆ บางรายอยู่ในระดับประถมศึกษา โดยส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการได้รับสุราจากผู้ปกครองหรือคนในครอบครัว

สงกรานต์วิถีไทย สนุก ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์” 

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2568 ที่ลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเครือข่ายงดเหล้า และมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม จัดแถลงข่าว “สงกรานต์วิถีไทย สนุก ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์”  โดย นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า  งานประเพณีสงกรานต์ ถือเป็นวาระพิเศษของสังคมไทย เป็นกิจกรรมสำหรับครอบครัว หลายปีที่ผ่านมา คนไทยต้องเผชิญความสูญเสียจากอุบัติเหตุ การคุกคามทางเพศ การทะเลาะวิวาทและความรุนแรง จากพฤติกรรมเสี่ยงโดยเฉพาะในพื้นที่จัดงานเล่นน้ำที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่มีจุดเริ่มต้นของปัญหาส่วนหนึ่งมาจาก “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์”

ซึ่งข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562-2566 มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเฉลี่ยถึง 4,519 ราย ผลกระทบสำคัญคือ “เหยื่อจากผู้ดื่มแล้วขับ” มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นทุกปี เฉพาะเทศกาลสงกรานต์ 2567 มีเหยื่อจากผู้ดื่มแล้วขับมากถึง 207 ราย เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 ราย 

“จากการสำรวจข้อมูลโดยมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม ปี 2567 ครอบคลุม 18 จังหวัด มีกลุ่มตัวอย่าง 1,000 คน พบว่า ประชาชน 91.4% เห็นด้วยว่าการจัดงานสงกรานต์ปลอดเหล้าช่วยลดอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ 90%  เห็นด้วยว่าการจัดงานปลอดเหล้าช่วยลดปัญหาการทะเลาะวิวาท 87% เห็นว่าจัดงานไม่มีเหล้าจะช่วยลดพฤติกรรมลวนลามและการล่วงละเมิดทางเพศ ขณะที่ 75.2% ชอบงานสงกรานต์แบบปลอดเหล้ามากกว่างานที่มีเหล้า” นพ.พงศ์เทพ กล่าว 

ขอเชิญชวนให้ปรับค่านิยมและพฤติกรรมใน 6 เรื่อง

ด้านนายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม กล่าวว่า ความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เกิดจากค่านิยมและความเชื่อของสังคมที่เชื่อว่า การดื่มช่วยทำให้สนุก และช่วยทำให้สนิทสนมกันไว รวมถึงความเครียดจากการทำงานและสภาพสังคมทำให้เกิดการดื่มหนักในช่วงสงกรานต์เพราะต้องการปลดปล่อยความเครียด นอกจากนี้สังคมไทยเกิดอาการชินและยอมรับพฤติกรรมดื่มแล้วขับ ดังนั้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ สคล. มูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม และภาคีเครือข่ายขอเชิญชวนให้ปรับค่านิยมและพฤติกรรมใน 6 เรื่อง ได้แก่

  1. ดื่มไม่ขับ 
  2. ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ 
  3. ไม่ขาย ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงานสงกรานต์
  4. ให้ความสำคัญต่อความสนุกที่ยั่งยืนมากกว่าความสนุกชั่วคราว
  5. สนุกได้โดยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  6. สนิทได้โดยไม่พึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ หากทุกภาคส่วนร่วมกันควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเอาจริงจังกับมาตรการโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำปลอดภัย ปลอดเหล้าแล้ว สงกรานต์เป็นเทศกาลแห่งความสุขของครอบครัวอย่างแท้จริง

เชียงรายกับการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ

จังหวัดเชียงรายมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการลดอัตราการบริโภคสุรา โดยมีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานระดับอำเภอ ตำบล และชุมชน ตั้งแต่ระดับการเรียนรู้ในโรงเรียน การส่งเสริมการจัดงานปลอดเหล้าในช่วงเทศกาล ไปจนถึงการเชิญชวนร้านค้าเข้าร่วมเป็น “พื้นที่ปลอดแอลกอฮอล์

อย่างไรก็ตาม จากสถิติในปีที่ผ่านมา ยังพบว่าผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับสุราในพื้นที่จังหวัดเชียงรายยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่นชาย ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพของมาตรการเชิงป้องกัน และพัฒนาระบบติดตามพฤติกรรมดื่มสุราของกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่

การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และภาคเอกชน

นอกจากหน่วยงานรัฐแล้ว ภาคเอกชนและประชาชนในพื้นที่ก็มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์ในชุมชน เช่น งานสงกรานต์ปลอดเหล้า กิจกรรมกีฬาชุมชน หรือเวทีเยาวชนเพื่อเรียนรู้ผลกระทบของแอลกอฮอล์

ในปีนี้ จังหวัดเชียงรายยังเปิดเวทีให้หน่วยงานหรือบุคคลที่มีผลงานดีเด่นในการรณรงค์และควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลงานเข้ารับการคัดเลือกเพื่อรับรางวัลเกียรติยศ เนื่องในวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี 2568 ซึ่งถือเป็นอีกแรงจูงใจที่ช่วยสร้างเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานอย่างยั่งยื

สถิติที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าว

  • ประชากรโลก ดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ย 6.4 ลิตรต่อคนต่อปี (WHO, 2023)
  • ประเทศไทย มีประชากรดื่มแอลกอฮอล์เฉลี่ย 7.17 ลิตรต่อคนต่อปี (สำนักงานสถิติแห่งชาติ, 2566)
  • เชียงราย ติดอันดับ 4 ของประเทศ ในอัตราผู้ดื่มสุราต่อแสนประชากร (สำนักงานควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่, 2567)
  • โรงกลั่นสุราในภาคเหนือ มีจำนวน 985 แห่ง โดยจังหวัดเชียงรายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเดิม
  • อุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ปี 2567 ทั่วประเทศเกิดกว่า 20,000 ครั้ง เสียชีวิตมากกว่า 300 คน (ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน)
  • วันเสี่ยงสูงสุด คือวันที่ 13 เมษายน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสูงที่สุดในรอบสัปดาห์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติ
  • องค์การอนามัยโลก (WHO)
  • ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน
  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
  • เครือข่ายองค์กรงดเหล้า จังหวัดเชียงราย
  • ภาพโดย : KANJO Review
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

คาดไม่เกิน 10 ปี ละอ่อนเชียงรายดื่มเหล้าสถิติพุ่งขึ้นอันดับ 1 ของประเทศ

 

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 กลุ่มเยาวชน YSDN (Youth Strong & Development Network) ได้จัดเสวนาคืนข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ของเด็ก เยาวชนในจังหวัดเชียงราย และอีก 6 จังหวัด พร้อมยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ ต่อนายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และนายธีระ วัชรปราณี รองประธานฯ คนที่ 5 ที่วัดหัวฝาย ต.สันกลาง อ.พาน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา 

 

นายณัฐพงษ์ ไชยพงษ์ เจ้าหน้าที่โครงการ YSDN จังหวัดน่าน กล่าวว่า จากการสำรวจข้อมูลในกลุ่มอายุ 12-15 ปี จำนวน 10,078 ในอำเภอพาน อำเภอเทิง อำเภอเวียงชัย อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอโนนสัง อำเภอวังทอง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอบัวเชด และอำเภอกระนวน พบว่า เด็กไทยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้คุณภาพชีวิตเปราะบาง โดยพบว่า 62.75 % มีเพื่อนดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งคนที่มีผลต่อการดื่มครั้งแรกคือ เพื่อนและรุ่นพี่ รุ่นน้อง 56.53% สมาชิกในครอบครัว 31.43 %

 

ส่วนสถานที่ดื่มพบในงานบุญประเพณี 46.25 % งานวันเกิด 45.90% ดื่มช่วงรับประทานอาหารกับครอบครัว 19.10 % โดย 48.62 เคยซื้อจากร้านค้าต่างๆ ได้  ทั้งๆ ที่กฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ดังนั้น ผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการยังขาดความรับผิดชอบที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย และชี้ให้เห็นว่ายังไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างจริงจังโดยเฉพาะในระดับชุมชนได้

 

ด้าน นส.โสภี ดงปาลี กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้จากการดำเนินโครงการใน 5 อำเภอ ของจังหวัดเชียงรายสะท้อนว่า หากไม่มีมาตราการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า อาจจะทำให้สถิติการดื่มของจังหวัดเชียงรายสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศได้ เพราะสามารถหาซื้อได้ง่ายและราคาถูก สุราชุมชนก็มีการส่งเสริมให้ผลิตได้อย่างเสรี ซึ่งเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจังหวัดเชียงรายที่ร่วมเสวนารับปากว่ากวดขันให้เป็นไปตามกฎหมาย และพร้อมให้คำปรึกษากลุ่มเยาวชน หรือแจ้งเหตุใหมีการตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการขายให้เด็กเยาวชน รวมถึงการเข้มงวดการจัดงานดนตรี ประเพณีต่างๆ โดยการสนับสนุนจากธุรกิจรายใหญ่ มีศิลปินดารามาแสดง แต่ไม่มีการควบคุมไม่ให้เด็ก เยาวชนเข้าไปดื่มแอลกอฮอล์

ด้าน นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการแก้ไขกฎหมาย ทั้ง 42 คน มีความเห็นตรงกันในการปกป้องเด็กเยาวชน แต่ขณะนี้มีร่างกฎหมายถึง 5 ฉบับ ที่เสนอโดยรัฐบาล พรรคการเมือง และฝ่ายประชาชนที่เป็นผู้ประกอบการ และฝ่ายรณรงค์ ทำให้ต้องพยายามหาจุดร่วมกันจากทั้ง 5 ร่าง ซึ่งไม่ง่าย แต่ก็มีความก้าวหน้าไปมากแล้ว และคาดว่าอีก 2 เดือนน่าจะเสร็จ รวมทั้งตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการบังคับใช้กฎหมายด้วย  

 

สำหรับข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ประกอบด้วย

1. งดขาย งดดื่มแอลกอฮอล์ให้งานประเพณี งานกาชาด งานของดีประจำพื้นที่ งานที่มีมหรสพรื่นเริง ดนตรีการแสดง ซึ่งส่วนใหญ่จัดในสถานที่ราชการ สวนสาธารณะ สถานศึกษา วัด หรือพื้นที่สาธารณะ

2.ส่งเสริมค่านิยมในครอบครัว “ไม่ชวนให้เด็กดื่ม ไม่ดื่มให้เด็กเห็น”

3.ควบคุมการโฆษณาแฝงด้วยน้ำดื่ม โซดา มีกิจกรรมดนตรี Music หรือ Sexy Marketing ใช้ศิลปิน ดาราที่มีชื่อเสียงรวมทั้ง ควบคุมการโฆษณาในสื่อออนไลน์

4. ส่งเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชนให้ทั่วถึงทุกคน นอกจากในโรงเรียน เพื่อให้มีทักษะชีวิตในโลกยุคใหม่ได้ทันสมัย

5.ภาครัฐในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ต้องให้ความสำคัญในการสร้างเมืองที่เป็นมิตรและสร้างสรรค์สำหรับเด็กเยาวชน ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News