ชาวบ้านรวมตัวคัดค้าน พ.ร.ฎ. ป่าอนุรักษ์กว่า 5,000 คน ชุมนุมศาลากลางเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ‘สมัชชาชุมชนคนอยู่กับป่า’ (สชป.) พร้อมชาวบ้านกว่า 5,000 คนรวมตัวแสดงพลังคัดค้านการออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) โครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยยื่นหนังสือเรียกร้องต่อ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ผู้แทนนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 1.8 ล้านคนที่อาศัยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ
ประเด็นปัญหาและข้อเรียกร้อง
นายวิชิต เมธาอนันต์กุล ผู้แทน สชป. ระบุว่า พ.ร.ฎ. ดังกล่าวมีข้อบัญญัติหลายมาตราที่กระทบสิทธิชุมชน เช่น
- มาตรา 5: จำกัดการอยู่อาศัยในพื้นที่อนุรักษ์เพียง 20 ปี ขัดต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน
- มาตรา 10: กำหนดพื้นที่ใช้ประโยชน์ครัวเรือนละไม่เกิน 40 ไร่
- มาตรา 11: ผู้มีสิทธิต้องไม่มีที่ดินนอกเขตอุทยานฯ ส่งผลต่อครอบครัวที่มีที่ดินหลายแห่ง
ทั้งนี้ สชป. ได้เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการ 4 ประการ ได้แก่
- ยุติการประกาศใช้ พ.ร.ฎ. ทั้งสองฉบับ
- จัดตั้งคณะทำงานรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนในพื้นที่อนุรักษ์
- แก้ไข พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้อง โดยมีส่วนร่วมจากชุมชน
- ชะลอการประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 23 แห่ง
การเจรจาและผลสรุป
หลังการยื่นหนังสือ ผู้แทนรัฐบาล นำโดย ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เจรจากับแกนนำผู้ชุมนุม โดยมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ซึ่งรัฐบาลรับหลักการทั้ง 4 ข้อ และจะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต่อไป
สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ชี้แจงว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาที่ชาวบ้านเผชิญ และพร้อมปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน
ปฏิกิริยาหลังเจรจา
หลังจากเจรจาเสร็จสิ้น แกนนำ สชป. ได้อ่านแถลงการณ์ยืนยันเจตนารมณ์และแจกบันทึกข้อตกลงแก่ผู้ชุมนุม พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนในชุมชนติดตามและร่วมผลักดันการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง
จุดเริ่มต้นสำคัญ
การชุมนุมครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการขับเคลื่อนปัญหาสิทธิชุมชนในพื้นที่อนุรักษ์ โดยผู้แทน สชป. ได้เน้นย้ำให้ประชาชนร่วมมือกันต่อสู้เพื่อสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ.
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : lannernews