Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

อบจ.เชียงราย ทุ่มงบ 36 ล้านบาทฟื้นชีพศาลากลางหลังแรกสู่พิพิธภัณฑ์ภาพเก่าเมือง

เชียงรายฟื้นชีพ “ศาลากลางหลังแรก” สู่หอพิพิธภัณฑ์ภาพเก่าเมือง—แผนอนุรักษ์อายุ 125 ปี เดินหน้าภายใต้งบกว่า 36.57–40 ล้านบาท

เชียงราย, 5 กันยายน 2568 – องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) เปิดฉากภารกิจอนุรักษ์อาคารศาลากลางจังหวัดเชียงราย “หลังแรก” บนถนนสิงหไคลอย่างเป็นทางการ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เปลี่ยนศูนย์อำนาจรัฐให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของประชาชน” เป้าหมายชัดเจนคือปรับโฉมเป็น หอพิพิธภัณฑ์ภาพเก่าเมืองเชียงราย” เพื่อรวบรวมภาพถ่ายประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต และความทรงจำร่วมของเมืองเหนือสุดของสยาม โครงการกำหนดกรอบงบประมาณรวมไม่เกิน 40 ล้านบาท โดยสัญญาหลักที่ประกาศในป้ายโครงการระบุวงเงิน 36,572,000 บาท ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ 6 สิงหาคม 2568 – 31 กรกฎาคม 2569 รวมราว 360 วัน ภายใต้การกำกับดูแลร่วมกันของหลายหน่วยงานด้านมรดกวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม

 “จากศูนย์อำนาจ” สู่ “ศูนย์กลางความทรงจำ”

บ่ายวันนี้ บริเวณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย อันเป็นที่ตั้งอาคารเก่าแก่ อบจ.เชียงรายจัดพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 เพื่อเริ่มต้นงานอนุรักษ์อย่างเป็นทางการ ภาพในพิธีสะท้อนอารมณ์ย้อนไปสู่วิถีการรวมศูนย์อำนาจของรัฐสยามเมื่อกว่าศตวรรษก่อน อาคารแห่งนี้เคยเป็น “หน้าตา” ของรัฐสมัยใหม่ในหัวเมืองล้านนา ก่อนบทบาทจะเลือนหายหลังการย้ายศูนย์ราชการ เมื่อโครงการอนุรักษ์เดินหน้า อดีต “ศูนย์อำนาจ” กำลังกลับมาในชุดใหม่—ศูนย์กลางความทรงจำของผู้คน ผ่านภัณฑารักษ์ที่ใช้ “ภาพถ่าย” เป็นภาษาเล่าเรื่อง

ทำไมต้องอาคารนี้คุณค่าทางสถาปัตยกรรมและการเมือง

อาคารศาลากลางหลังแรกของเชียงรายเริ่มสร้าง พ.ศ. 2440 และเปิดใช้อย่างเป็นทางการ พ.ศ. 2443 อยู่คู่เมืองมานานกว่าศตวรรษ ลักษณะเด่นคือ สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ก่ออิฐถือปูน สามชั้น ระบบโครงสร้าง กำแพงรับน้ำหนัก หนาครึ่งเมตร ฐานรากทำ “แพซุง” รับตัวอาคาร โครงพื้น–ตง–คานไม้สักทอง หลังคาทรงปั้นหยา รายละเอียดเหล่านี้สะท้อนทั้งภูมิปัญญาช่างพื้นถิ่นและอิทธิพลตะวันตกในย่านการค้า–การปกครองชายแดนเหนือยุคเปลี่ยนผ่าน

ทางการเมือง อาคารคือ สัญลักษณ์รัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ที่ขยายการปกครองเข้าสู่ล้านนา การมี “ศาลากลางถาวร” กลางย่านสิงหไคลไม่เพียงตอบโจทย์ราชการ หากยังสื่อสารความ “ศิวิไลซ์” ของรัฐสมัยใหม่ต่อชุมชนและชาวต่างชาติที่หลั่งไหลมาค้าขาย ในเวลาต่อมา เมื่อย้ายศูนย์ราชการออกนอกเมือง พ.ศ. 2512 อาคารถูกทิ้งร้าง ระยะหนึ่งจึงเกิดความพยายามฟื้นฟูให้กลับมาเป็นพื้นที่สาธารณะของเมือง

ไทม์ไลน์ย่อของอาคารสัญลักษณ์

  • 2440–2443: ก่อสร้าง–เปิดใช้งานศาลากลางจังหวัด
  • 2512: ย้ายศูนย์ราชการไปอาคารแห่งใหม่ นอกย่านเมืองเก่า
  • 2520: กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถาน
  • 2539: ฟื้นบทบาทเป็น หอวัฒนธรรมนิทัศน์เฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก
  • 2561: ปรับเป็น พิพิธภัณฑ์ภาพเจียงฮาย/หอพิพิธภัณฑ์ภาพเก่าเมืองเชียงราย ภายใต้ อบจ.
  • 2568–2569: แผนอนุรักษ์ครั้งใหญ่ ปรับโครงสร้าง–หลังคา–ระบบภายใน พร้อมออกแบบนิทรรศการถาวรใหม่

งบประมาณ–สัญญา–ผู้เกี่ยวข้อง กลไกกำกับความโปร่งใส

ข้อมูลบนป้ายโครงการระบุรายละเอียดสำคัญ ได้แก่

  • เลขที่สัญญา: 211/2568
  • วงเงินสัญญา: 36,572,000 บาท (กรอบภาพรวมโครงการไม่เกิน 40 ล้านบาท)
  • วันเริ่ม–สิ้นสุดสัญญา: 6 ส.ค. 2568 – 31 ก.ค. 2569
  • ผู้รับจ้าง: ห้างหุ้นส่วนจำกัด กนกลักษณ์ บิลดิ้ง โฮม
  • หน่วยงานร่วมดำเนินการ: จังหวัดเชียงราย, อบจ.เชียงราย, สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย

มี คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ จากหน่วยงานภาครัฐ–สถาบันการศึกษาร่วมกำกับคุณภาพและมาตรฐานงานอนุรักษ์ เพื่อให้การซ่อม–เสริม–ปรับใช้อยู่ภายใต้หลักวิชาชีพสถาปัตยกรรมอนุรักษ์ โดยยึดแนวทางของกรมศิลปากร ทั้งในส่วนวัสดุ เทคนิค และการคงร่องรอยประวัติศาสตร์เดิม

อนุรักษ์เชิงวิศวกรรมควบคู่ภัณฑารักษ์

แผนงานแบ่งเป็นสองแกนหลัก

1) งานกายภาพอาคาร

  • ซ่อม–เสริมโครงสร้างหลังคาไม้ และระบบถ่ายน้ำหนัก ให้ “กลับไปแข็งแรงอย่างเดิม” โดยไม่ทำลายองค์ประกอบประวัติศาสตร์
  • บูรณะผิวปูน–อิฐ การเปิดผนังตรวจสอบความชื้น และการรักษาโครงสร้าง กำแพงรับน้ำหนัก หนาเดิม
  • ปรับปรุงระบบไฟฟ้า–แสง–ลม–ความชื้น ให้เหมาะสมกับการเก็บรักษา ภาพถ่ายเก่า และเอกสารภาพ
  • จัดการระบบทางหนีไฟ–ความปลอดภัย สอดคล้องมาตรฐานพิพิธภัณฑ์สาธารณะ

2) งานเนื้อหาพิพิธภัณฑ์

  • ออกแบบนิทรรศการถาวร “เล่าเมืองด้วยภาพ” แบ่งตามธีมเวลา–พื้นที่–ผู้คน เช่น ย่านการค้าเชียงราย เมื่อร้อยปีก่อน, วิถีชาติพันธุ์, สายน้ำ–พรมแดน
  • ยกระดับคลังภาพสู่ ฐานข้อมูลดิจิทัล เพื่อการศึกษาค้นคว้าและเข้าถึงของสาธารณะ
  • กิจกรรมการเรียนรู้สำหรับโรงเรียน–ชุมชน เช่น เวิร์กช็อปสแกนภาพเก่า, คลีนิกอนุรักษ์ภาพถ่ายครอบครัว

แนวทางทั้งหมดสอดรับคอนเซ็ปต์ Adaptive Reuse หรือ “อนุรักษ์ด้วยการใช้ประโยชน์” ที่ทำให้อาคารเก่ามีชีวิตอยู่ได้จริงในเศรษฐกิจปัจจุบัน และเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมของเมือง

ทำไมภาพเก่าจึงสำคัญ

พิพิธภัณฑ์เลือก “ภาพถ่าย” เป็นภาษาหลัก เพราะภาพคือหลักฐานชั้นต้นที่เชื่อมประวัติศาสตร์มหภาคเข้ากับชีวิตประจำวัน ยิ่งในเชียงรายซึ่งเป็นเมืองพรมแดน ภาพตลาด ย่านการค้า เรือข้ามโขง โรงเรียนเก่า งานเทศกาล หรือภาพชนเผ่าในยุคต้นศตวรรษ ล้วนทำหน้าที่ “ขยายใจความ” เรื่องการอพยพ การค้า และการผสมผสานของผู้คนอย่างทรงพลัง การตีความผ่านภาพยังช่วยให้ผู้ชมรุ่นใหม่เข้าถึงประวัติศาสตร์ได้ง่ายขึ้น ลดระยะห่างระหว่าง “เอกสารราชการ” กับ “ชีวิตคนธรรมดา”

การเรียนรู้–เศรษฐกิจสร้างสรรค์–อัตลักษณ์เมือง

โครงการนี้ไม่ได้ตอบโจทย์เชิงวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังส่งผลทางเศรษฐกิจและสังคมเชิงรูปธรรม

  1. การเรียนรู้ตลอดชีวิต – โรงเรียนในเมือง–ชนบทสามารถใช้พิพิธภัณฑ์เป็น “ห้องเรียนภาคสนาม” เติมเต็มหลักสูตรท้องถิ่นศึกษา
  2. เศรษฐกิจสร้างสรรค์ – พิพิธภัณฑ์เชื่อมเครือข่ายแกลเลอรี คาเฟ่หนังสือ ร้านฟิล์ม–สแกนภาพ และทัวร์เดินเท้าทางประวัติศาสตร์ เกิดเศรษฐกิจท้องถิ่นสายยาว
  3. อัตลักษณ์เมือง – ความทรงจำร่วมถูก “จัดวาง” อย่างมีระบบ สื่อสารภาพลักษณ์ “เชียงรายเมืองศิลปะ” ที่พึ่งพาอดีตเพื่อออกแบบอนาคต
  4. การดูแลเมืองเก่า – การมีผู้คนใช้พื้นที่สม่ำเสมอช่วยเพิ่มความปลอดภัยและการเฝ้าระวังทางสังคม ย่นความเสี่ยงอาคารทรุดโทรมซ้ำ

บทเรียนจากงานอนุรักษ์ทั่วประเทศ

งานอนุรักษ์อาคารประวัติศาสตร์มักเผชิญความท้าทาย 3 ประการ

ด้านเทคนิค – โครงสร้างเดิมแบบกำแพงรับน้ำหนักต้องการวิธีซ่อมเฉพาะทาง หากซ่อมผิดขั้นตอนอาจกระทบเสถียรภาพทั้งหลัง ทางออกคือ สำรวจโครงสร้างอย่างละเอียด และให้วิศวกร–สถาปนิกอนุรักษ์กำกับในทุกจุดเสี่ยง

ด้านงบประมาณ–เวลา – งานซ่อมของเดิมมักพบ “สิ่งไม่คาดคิด” ระหว่างรื้อ ทางออกคือวาง เงินสำรองเผื่อความเสี่ยง และปรับแผนงานแบบเฟส–เปิดพื้นที่ที่เสร็จก่อนให้บริการได้

ด้านการสื่อสารสาธารณะ – ผู้คนคาดหวังสูงต่ออาคารสัญลักษณ์ หากสื่อสารไม่ต่อเนื่องจะเกิดความไม่เข้าใจ ทางออกคือ ป้ายความคืบหน้า–เพจอัพเดต รายเดือน และเปิดให้ชุมชนร่วมกิจกรรมเล็กๆ ระหว่างซ่อม

ป้ายโครงการระบุ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ และสถาบันการศึกษาร่วมกำกับงาน ถือเป็นกลไกสำคัญลดความเสี่ยงทั้งสามด้าน พร้อมยืนยันมาตรฐาน “ปลอดภัยไว้ก่อน (Safety First)” ติดเคียงป้ายหลักของโครงการ

มองภาพใหญ่เครือข่ายพิพิธภัณฑ์ของ อบจ.เชียงราย

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา อบจ.เชียงรายไม่ทำงานเชิงวัฒนธรรมแบบจุดเดียว แต่สร้างเครือข่ายแหล่งเรียนรู้หลายแห่งให้ “เสริมกัน” ได้แก่

  • หอพิพิธภัณฑ์ภาพเก่าเมืองเชียงราย (ศาลากลางหลังแรก) – เน้นภาพถ่ายประวัติศาสตร์และเรื่องเล่าชุมชน
  • ศูนย์วัฒนธรรมนิทัศน์และพิพิธภัณฑ์เมืองเชียงราย 750 ปี – เนื้อหาโครงเรื่องเมืองตั้งแต่ยุคพญามังราย
  • พิพิธภัณฑ์ภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองเชียงของ – เจาะพื้นที่ชายแดน–แม่น้ำโขง
  • เครือข่ายภาคเอกชน เช่น หอศิลป์ร่วมสมัย ในเขตเมืองและชานเมือง

โครงสร้างนี้ทำให้ “ภาพรวมเชียงราย” ชัดเจนขึ้น: เมืองศิลปะที่ร้อยอดีตเข้ากับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และกระจายการท่องเที่ยวจากตัวเมืองสู่ชายแดนอย่างสมดุล

โรดแมป 12 เดือน จากวันนี้ถึงวันเปิดบ้าน

  • ไตรมาส 4/2568: สำรวจ–ทดสอบวัสดุ, แบบอนุรักษ์รายละเอียด, ตั้งฐานข้อมูลภาพถ่ายและแผนภัณฑารักษ์
  • ไตรมาส 1/2569: รื้องานหลังคา–ซ่อมโครง, บูรณะผิวอิฐ–ปูน, เดินระบบไฟ–ปรับอากาศ
  • ไตรมาส 2/2569: ติดตั้งนิทรรศการถาวรระยะที่ 1, ทดลองแสง–อุณหภูมิ–ความชื้น
  • ก.ค. 2569: ทดสอบการใช้งานจริงแบบ Soft Opening, รับข้อเสนอแนะจากครู–ชุมชน–นักวิชาการ ก่อนเปิดเต็มรูปแบบ

เสียงจากเอกสารโครงการหลักคิดที่ชัดเจน

แม้ในพิธีเปิดงานจะไม่มีการแถลงคำพูดที่เป็นทางการเผยแพร่ต่อสื่อ แต่ “เนื้อหาในป้ายโครงการ” ให้ภาพชัดถึง หลักคิด 3 ประการ

  1. ความร่วมมือพหุภาคี – รัฐจังหวัด–ท้องถิ่น–หน่วยงานมรดก–มหาวิทยาลัย ทำงานร่วมกัน
  2. มาตรฐานความปลอดภัย – ยกระดับระบบอาคารให้รองรับการใช้งานสาธารณะยุคใหม่
  3. การอนุรักษ์บนฐานความรู้ – ใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์–สถาปัตยกรรมเป็นตัวนำ

ทั้งหมดนี้ทำให้โครงการไม่ใช่เพียง “ซ่อมของเก่า” แต่คือการ “จัดการความทรงจำของเมือง” อย่างมีระบบและตรวจสอบได้

เมื่อบ้านเก่าได้บทใหม่

โครงการอนุรักษ์ศาลากลางหลังแรกสะท้อนคำตอบของคำถามใหญ่—มรดกทางสถาปัตยกรรมจะอยู่รอดในเมืองร่วมสมัยได้อย่างไร คำตอบคือทำให้ “มีคนใช้ มีเรื่องเล่า และมีความหมายทางเศรษฐกิจ–สังคม” เมื่อพิพิธภัณฑ์ภาพเก่าเปิดบ้าน ภาพถ่ายในกรอบไม้สักจะไม่ใช่เพียงวัตถุจัดแสดง แต่คือ “บัตรเชิญ” ให้คนเชียงรายและผู้มาเยือนได้ทบทวนอดีต และร่วมกันออกแบบอนาคตของเมือง

แน่นอนว่า 12 เดือนข้างหน้าคือช่วงเวลาทดสอบ ทั้งเชิงเทคนิค งบประมาณ และการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่หากทุกชิ้นส่วนทำงานประสานกันดี ศาลากลาง 125 ปี หลังนี้จะกลายเป็น หอความทรงจำของเมือง ที่ยืนยง และเติมเต็มฉาก “เชียงรายเมืองศิลปะ” ให้ชัดกว่าที่เคย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • ป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ “ปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ภาพเชียงราย (ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก)” – ระบุเลขที่สัญญา 211/2568, วงเงินสัญญา 36,572,000 บาท, ระยะเวลา 6 ส.ค. 2568 – 31 ก.ค. 2569, รายชื่อหน่วยงานร่วมและผู้รับจ้าง, รายชื่อคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ (เอกสารภาพถ่าย ณ หน้างาน)
  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย)
  • กรมศิลปากร และสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย
  • เอกสารประวัติอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงราย (หลังเก่า
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

อบจ.เชียงราย เตรียมทีมดูแลอาคาร ที่ขึ้นเป็นโบราณสถานให้ทรงคุณค่า

เมื่อวันที่  30 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น.นายกฤศ โพธสุธน รองนายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานการประชุมพิจารณาแนวทางการหาแนวทางการประคองโครงสร้างอาคารไม่ให้เกิดความเสียหาย ณ อาคารศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน อบจ.เชียงราย โดยมี นายพรรษพล ขันแก้ว นายช่างศิลปกรรมอาวุโส สำนักศิลปากรที่ 7 ผศ.ดร.รัฐพล เกติยศ รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา เชียงราย นายศุภกฤต แสนอินเมือง ผอ.ส่วนวิศวกรรมการก่อสร้าง นายสันติชาติ ชัยภมรฤทธิ์ สถาปนิกชำนาญการพิเศษ และนางปัทมา สมประสงค์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ร่วมการประชุมฯ ในครั้งนี้ด้วย

 

ตามที่กรมศิลปากรแจ้งผลพิจารณาการขออนุญาตปรับปรุงช่อมแชมอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงราย และอนุญาตให้อบจ.เชียงราย ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารจังหวัดเชียงราย(หลังเดิม) ตามรูปแบบที่เสนอได้ โดยให้อยู่ในการกำกับดูแลการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ และต้องยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบได้ตลอดเวลา รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด อบจ.เชียงรายได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประจำปีงบประมาณ 2568 โครงการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว เชิงศิลปวัฒนธรรมเชิงนิเวศเชิงสุขภาพและบริเวณโดยรอบ กิจกรรมหลัก พัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว เชิงศิลป์วัฒนธรรม กิจกรรมย่อยปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก ซึ่งอยู่ในกระบวนการพิจารณา

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 อบจ.เชียงราย ได้ประสาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาเชียงราย ทำการสำรวจและวิเคราะห์โครงสร้างของอาคารในเบื้องต้น พบว่าส่วนของโครงสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก มีความชำรุดเสียหายเป็นอย่างมาก ไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน เนื่องจากพบการเคลื่อนตัวของโครงสร้างหลังคา มีรอยแยกพบการทรุดตัวของผนัง และบันได บริเวณ ชั้น 3 จำเป็นต้องมีการปรับปรุงซ่อมแชมประคองโครงสร้างอาคารอย่างเร่งด่วน ในระหว่างการรอการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อให้อาคารศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรกที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากร มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดเชียงราย มีความมั่นคงแข็งแรง จึงได้จัดการประชุมเพื่อร่วมกันหาแนวทางการประคองโครงสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรกระหว่างรอการอนุรักษ์ที่เหมาะสม เมื่อได้รูปแบบการประคองโครงสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก และจะได้นำเสนอกรมศิลปากรในการขออนุญาตการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารดังกล่าวต่อไป

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News