ความร่วมมือทางสภาพอากาศ: มลพิษทางอากาศเป็นโอกาสในการสานสัมพันธ์ระหว่างอินเดียและปากีสถาน
วิกฤตมลพิษที่เชื่อมสองประเทศคู่ปรับ
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 รายงานจากอัลจาซีราระบุว่ามลพิษทางอากาศที่รุนแรงในพื้นที่ทั้งสองด้านของชายแดนอินเดียและปากีสถานกำลังสร้างโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาวุธนิวเคลียร์อย่างอินเดียและปากีสถาน
การเริ่มต้นเจรจาผ่านวิกฤตมลพิษ
ในปากีสถาน นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐปัญจาบ นางสาวแมร์ยาม นาวาซ ได้แสดงความตั้งใจที่จะพบปะกับรัฐมนตรีของรัฐปัญจาบในอินเดียเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือกับวิกฤตมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในลาฮอร์และนิวเดลี ซึ่งติดอันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดในโลกในช่วงเวลาล่าสุด
ความสำคัญของการแก้ไขปัญหามลพิษแบบร่วมมือกัน
ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เสื่อมโทรมและค่ามลพิษที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองประเทศต่างเห็นพ้องว่าการร่วมมือกันเป็นเรื่องที่จำเป็นเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน รัฐบาลปากีสถานวางแผนที่จะจัดประชุมภูมิภาคเกี่ยวกับสภาพอากาศในลาฮอร์ก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาแบบร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้าน
ปัญหาจากฝุ่นละออง PM2.5 และสาเหตุที่มาจากทั้งสองประเทศ
ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ซึ่งมีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ถือเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจอย่างมากและแพร่กระจายจากทั้งการทำกิจกรรมของมนุษย์และธรรมชาติในทั้งสองประเทศ ด้วยอัตราค่าฝุ่นละอองที่สูงเกินระดับที่ปลอดภัย อากาศที่เสื่อมสภาพได้บั่นทอนคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างเห็นได้ชัด
การเผาหญ้าทางการเกษตร: ต้นเหตุสำคัญของมลพิษ
ในฤดูกาลปลูกพืชใหม่เกษตรกรในทั้งสองประเทศมักเผาซากพืชเพื่อเคลียร์พื้นที่ส่งผลให้เกิดควันและฝุ่นที่เป็นมลพิษในอากาศ แม้จะมีการวิจารณ์ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น การลดจำนวนการเผาเพื่อบรรเทามลพิษยังเป็นเรื่องที่ต้องการการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและประชาชน
การล็อกดาวน์เพื่อสีเขียว: มาตรการควบคุมมลพิษในลาฮอร์
เพื่อลดผลกระทบของมลพิษ รัฐบาลปากีสถานได้ประกาศ “ล็อกดาวน์สีเขียว” ในเมืองลาฮอร์ โดยมีการระงับกิจกรรมเชิงพาณิชย์และการก่อสร้างบางส่วน ทั้งนี้เพื่อลดการปล่อยมลพิษจากแหล่งที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองในอากาศ
การเคลื่อนย้ายมลพิษข้ามพรมแดน: ลมตะวันออกที่ส่งผลกระทบต่อปากีสถาน
ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน สภาพอากาศที่เย็นขึ้นและลมจากทิศตะวันออกมีแนวโน้มพัดพามลพิษจากอินเดียมาทางปากีสถาน ทำให้ลาฮอร์มีค่ามลพิษสูงขึ้นอีกครั้ง สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการจัดการมลพิษแบบข้ามพรมแดน
ความพยายามระดับภูมิภาคในการแก้ปัญหา
ปากีสถานและอินเดียได้ร่วมมือกับประเทศในเอเชียใต้ผ่าน “ปฏิญญามาเล” ที่มุ่งหวังสร้างกรอบการจัดการมลพิษระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการดำเนินการยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทาย การสร้างความเข้าใจและร่วมมือกันยังเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดมลพิษ
ทางออกที่ชัดเจน: การลงทุนเพื่อพลังงานสะอาดและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชาชน
ในท้ายที่สุด การลดมลพิษอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียใต้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทั้งในด้านพลังงานสะอาดและการจัดการของเสียจากการเกษตร ซึ่งต้องใช้การลงทุนมหาศาลและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชน
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : aljazeera / By Abid Hussain