เชียงรายยกระดับ “เมืองสุขภาพดี เมืองท่องเที่ยวคุณภาพ” เทศบาลนครฯ ลั่นฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 5,000 โดส-คัดกรองมะเร็งปากมดลูกฟรี รองรับไฮซีซัน พร้อมแผนสกัดระบาดเชิงรุกทั้งเมือง
เชียงราย, 23 ตุลาคม 2568 — ปลายฝนต้นหนาว กับโจทย์สุขภาพที่ต้องตัดสินใจเร็ว สายลมหนาวแรกพัดผ่านลุ่มน้ำกก ผู้คนเริ่มนึกถึงเทศกาลท่องเที่ยวปลายปี ร้านอาหารและโรงแรมทยอยเตรียมรับแขก ช่วงเวลาเดียวกัน สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ในภาคเหนือยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยประเทศ ตัวเลขสะสมของจังหวัดเชียงรายปี 2567 พุ่งแตะ 9,190 ราย สะท้อน “ภาระโรค” ที่กดดันระบบสุขภาพและเศรษฐกิจท้องถิ่นพร้อมกัน เทศบาลนครเชียงรายจึงขยับเชิงรุก เปิดแผนฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 5,000 โดสควบคู่คัดกรองมะเร็งปากมดลูกฟรี สร้างภูมิคุ้มกันสาธารณะก่อนนักท่องเที่ยวนับแสนเดินทางเข้าจังหวัด
ข่าวนี้ไม่ใช่เพียงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ แต่คือ “ยุทธศาสตร์เมือง” ที่ผสานสุขภาพกับท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน ตั้งกรอบคิดว่า สุขภาพที่ดีคือรากฐานของคุณภาพชีวิต และเป็นเงื่อนไขสำคัญของเศรษฐกิจบริการในเมืองท่องเที่ยว
ภาพรวมสถานการณ์ เชียงรายติดกลุ่มอัตราป่วยสูงของประเทศ สายพันธุ์หลักยังเป็น A/H1N1
ข้อมูลระบาดวิทยาจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ระบุจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ปี 2567 สะสม 9,190 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 797.17 ต่อประชากรแสนคน เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2568 เชียงรายถูกจัดเป็นจังหวัดอัตราป่วยสูงลำดับต้น ๆ ของประเทศ รองจากพะเยาและลำพูน แนวโน้มสอดคล้องกับภาพรวมภาคเหนือที่มีฤดูหนาวยาวนาน ทำให้การรวมกลุ่มในอาคารเพิ่มขึ้นและเอื้อต่อการแพร่เชื้อ
กรมควบคุมโรคชี้ว่า สายพันธุ์ที่พบมากในรอบปีคือไข้หวัดใหญ่ชนิด A/H1N1 (2009) ซึ่งรวมอยู่ในวัคซีนตามฤดูกาล แต่ประสิทธิผลต่อประชากรขึ้นกับ “ความครอบคลุม” ของการฉีดและพฤติกรรมป้องกันโรคในชุมชน หากครอบคลุมต่ำ วัคซีนย่อมปกป้องระดับชุมชนได้ไม่เต็มที่
ภาระโรคสูงกว่าค่าเฉลี่ย ต้องอธิบาย “ฐานประชากร” ให้ตรงกัน
จำนวนผู้ป่วย 9,190 รายทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงอัตราป่วยที่รายงาน เทศบาลนครฯ และ สสจ.เชียงราย จึงร่วมกันทบทวน “ตัวหาร” ที่ใช้คำนวณอัตราป่วย ต่อแสนประชากร เพื่อให้การสื่อสารต่อสาธารณะชัดเจน การระบุฐานประชากรอย่างโปร่งใสช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายจัดสรรวัคซีน ยาต้านไวรัส และบุคลากรได้ตรงจุด และยังทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเห็นภาพความเสี่ยงจริงในพื้นที่
เด็กเล็ก-วัยเรียนเป็นตัวขับการระบาด โรงเรียนจึงคือสนามปฏิบัติการสำคัญ
ข้อมูลระดับประเทศปี 2567 ชี้ว่า กลุ่มอายุ 0–4 ปี และ 5–14 ปี มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด สถานศึกษา สถานเลี้ยงเด็ก และกิจกรรมรวมกลุ่มจึงกลายเป็น “จุดขยายสัญญาณ” การแพร่เชื้อ เทศบาลนครฯ เตรียมใช้มาตรการ 3 ชั้นในเขตเมือง ได้แก่
- ปรับมาตรฐานสุขาภิบาลโรงเรียน เน้นล้างมือ สวมหน้ากากเมื่อป่วย และทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสถี่ขึ้น
- ระบบคัดกรองอาการรายวัน และนโยบายให้หยุดเรียนเมื่อมีไข้หรือไอ เพื่อหยุดวงจรการแพร่เชื้อ 3–7 วัน
- การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่กลุ่มเสี่ยงตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงบุคลากรด่านหน้าในภาคบริการ
เชียงรายคือเมืองชายแดน การเฝ้าระวังด่านควบคุมโรคต้องพร้อม
เชียงรายมีด่านแม่สาย เชียงแสน และสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 เชียงของ ซึ่งรองรับการเดินทางและขนส่งระหว่างประเทศอย่างคึกคัก เทศบาลนครฯ ประสานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและด่านควบคุมโรคติดต่อ เพื่อเฝ้าระวังเชิงรุก ตรวจจับคลัสเตอร์จากผู้เดินทาง และติดตามสายพันธุ์ที่หมุนเวียน หากพบสัญญาณผิดปกติ จะสื่อสารเตือนภัยอย่างตรงจุดแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสาธารณชนในเมือง
“วัคซีนความมั่นใจนักเดินทาง” ทำไม 5,000 โดสจึงสำคัญ
เทศบาลนครเชียงราย โดยนายกวันชัย จงสุทธานามณี วางกลยุทธ์ฉีดวัคซีน 5,000 โดสสำหรับกลุ่มเสี่ยงในเมือง โดยเน้นผู้ทำงานสัมผัสนักท่องเที่ยว เช่น พนักงานโรงแรม ร้านอาหาร คนขับรถรับจ้าง ไกด์ แม่ค้า และประชาชนทั่วไปในย่านท่องเที่ยว เหตุผลมี 4 ประการ
- ลดความรุนแรงของโรค วัคซีนช่วยลดโอกาสปอดบวมและการนอนโรงพยาบาล
- คงเสถียรภาพธุรกิจบริการ ลดการลาป่วยพร้อมกันจำนวนมากในไฮซีซัน
- สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว เมืองที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพดึงดูดนักเดินทางคุณภาพ
- เสริมระบบเตือนภัยชุมชน เมื่อประชาชนฉีดวัคซีนมากพอ สัญญาณผู้ป่วยรุนแรงจะลดลง ทำให้หน่วยงานมุ่งทรัพยากรไปยังจุดที่จำเป็นที่สุด
นอกจากนี้ เทศบาลยังจัดคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ฟรี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตสตรี และตอกย้ำว่า นโยบายสุขภาพเมืองต้องครอบคลุมโรคเรื้อรังและคัดกรองเชิงป้องกันควบคู่โรคระบาด
เสียงจากผู้นำท้องถิ่น “สุขภาพที่ดี คือรากฐานของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน”
นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวในพิธีเปิดว่า เทศบาลต้องทำมากกว่าการดูแลพื้นฐานเมือง เป้าหมายคือทำให้ชาวเมืองและผู้มาเยือน “รู้สึกปลอดภัย” เพราะความปลอดภัยด้านสุขภาพแปลงเป็นความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจได้ทันที มาตรการครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงงานสาธารณสุข แต่คือการคุ้มครองแบรนด์ “เชียงรายเมืองท่องเที่ยวคุณภาพ”
ด้านนายณรงค์ ลือชา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย เสริมว่า วัคซีนตามฤดูกาลช่วยลดความรุนแรงได้ชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง เด็กเล็ก และหญิงตั้งครรภ์ การมารับบริการให้ทันก่อนหน้าหนาว คือการปกป้องครอบครัวและลดภาระระบบสุขภาพในช่วงพีก
ขับเคลื่อนแบบ “หนึ่งเมือง หนึ่งแนวร่วม” รายชื่อหน่วยงานหลัก
การรณรงค์ครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของทั้งภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาชน
- เทศบาลนครเชียงราย (กองการแพทย์ และเครือข่าย อสส.)
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
- โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และเครือข่ายบริการปฐมภูมิ
- ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย
- สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองเชียงราย
- สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยว ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาในพื้นที่
โครงสร้างความร่วมมือแบบ “หนึ่งเมือง หนึ่งแนวร่วม” ทำให้การสื่อสารและการจัดคิวฉีดวัคซีนเชื่อมกับไทม์ไลน์ท่องเที่ยวได้อย่างลื่นไหล ลดคอขวด และกระจายบริการไปยังชุมชนสำคัญทั้งฝั่งตะวันออก-ตะวันตกของตัวเมือง
เชิงปฏิบัติการฉีดที่ไหน-อย่างไร-ใครได้ก่อน
เทศบาลกำหนด จุดฉีดเคลื่อนที่ ในตลาดท่องเที่ยว ถนนคนเดิน ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และศูนย์สุขภาพชุมชนในเขตเทศบาล จัดทีมพยาบาล-เวชปฏิบัติครอบครัว และหน่วยเวชศาสตร์ครอบครัวจากโรงพยาบาลเครือข่ายลงพื้นที่ในวันพีค โดยใช้ระบบจองคิวผ่านไลน์ออฟฟิเชียลเทศบาล พร้อมรับ “วอล์ก-อิน” สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ระบุไว้
กลุ่มเป้าหมายลำดับแรก ได้แก่ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค บุคลากรภาคบริการท่องเที่ยว เด็กเล็กตามดุลยพินิจของแพทย์ และหญิงตั้งครรภ์ ทั้งหมดต้องผ่านการประเมินความพร้อมเบื้องต้นและได้รับคำแนะนำการดูแลหลังฉีด
บทเรียนจากปีก่อนเมื่อ “สื่อสารความเสี่ยง” คือกุญแจ
รายงานผลการฉีดวัคซีนปี 2567 สะท้อนว่า บางกลุ่มยังปฏิเสธรับวัคซีนจากความเข้าใจคลาดเคลื่อน เทศบาลจึงปรับแผนสื่อสารใหม่ ใช้ อินโฟกราฟิกง่าย ๆ สรุปประโยชน์และผลข้างเคียงที่พบบ่อย พร้อมคลิปสั้นจากแพทย์โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ตอบคำถามยอดฮิต เช่น “ฉีดแล้วป่วยได้ไหม” “คนเป็นภูมิแพ้ฉีดได้หรือไม่” และ “เว้นระยะกับวัคซีนอื่นเท่าใด” นอกจากนี้ ยังเปิดสายด่วนให้คำปรึกษาก่อนตัดสินใจ เพื่อเพิ่มอัตรารับวัคซีนจริง
ควบคุมโรคแบบ “แพ็กเกจ” หน้ากาก-ล้างมือ-อากาศถ่ายเท-หยุดเมื่อป่วย
เทศบาลย้ำว่า วัคซีนไม่ใช่ “ยาวิเศษ” หากประชาชนละเลยมาตรการพื้นฐาน จึงเดินหน้ารณรงค์ “แพ็กเกจ 4 ข้อ” คือ สวมหน้ากากเมื่อป่วย ล้างมือบ่อย เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท และหยุดเรียนหรือหยุดงานเมื่อมีไข้ไอเจ็บคอ พร้อมแนะให้ใช้ ATK คัดกรองเมื่อเริ่มมีอาการ เพื่อแยกตัวได้เร็ว ลดโอกาสแพร่เชื้อในที่ทำงานและสถานศึกษา
มองผ่านเลนส์เศรษฐกิจเมืองค่าเสียโอกาสของการ “ป่วยพร้อมกัน”
ผู้ประกอบการโรงแรมและร้านอาหารในตัวเมืองสะท้อนตรงกันว่า ปลายปีคือช่วงทำรายได้หลัก หากพนักงานลาป่วยพร้อมกัน 10–20% การให้บริการสะดุดทันที ต้นทุนจ้างงานชั่วคราวสูงขึ้น และความพึงพอใจนักท่องเที่ยวลดลง มาตรการฉีดวัคซีนและคัดกรองเชิงรุกจึงช่วย “ล็อกเสถียรภาพ” การให้บริการ และปกป้องชื่อเสียงเมืองในช่วงที่ผู้คนจับจ่ายสูง
ความพร้อมของระบบรักษาโฟกัสการคัดกรองเร็ว-รักษาเร็ว
โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เตรียมคลินิกทางเดินหายใจช่วงพีก พร้อมแนวปฏิบัติการใช้ยาต้านไวรัสตามเกณฑ์แพทย์และระยะเวลาที่เหมาะสม ย้ำว่า ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงควรมาพบแพทย์เร็วเพื่อประเมินภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ นอกจากนี้ ระบบส่งต่อโรงพยาบาลชุมชน-ศูนย์สุขภาพชุมชนในเขตเทศบาลถูกตั้งค่าไว้ล่วงหน้า เพื่อรองรับกรณีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเฉียบพลัน
คัดกรองมะเร็งปากมดลูกฟรียกระดับคุณภาพชีวิตสตรีในเมือง
การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจัดควบคู่ในจุดฉีดวัคซีนหลายแห่ง เพื่อให้สตรีวัยทำงานเข้าถึงบริการได้สะดวก เทศบาลเน้นย้ำว่า มะเร็งปากมดลูก “ป้องกันและรักษาหายได้” หากตรวจพบเร็ว การผนวกบริการคัดกรองเข้ากับแผนวัคซีนจึงช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายของประชาชน และสะท้อนแนวทาง “เมืองสุขภาพดี” ที่มองสุขภาพแบบองค์รวม
จากข้อมูลสู่ยุทธศาสตร์ปีหน้าวัคซีน-ข้อมูล-ความร่วมมือ ต้องเดินพร้อมกัน
บทเรียนปี 2567 บอกเราว่า ภาระโรคสูงไม่ได้มาจากเชื้ออย่างเดียว แต่เกิดจากพฤติกรรม การเข้าถึงวัคซีน ความหนาวยาวนาน และการรวมกลุ่มในอาคารมากขึ้น เมืองจึงต้องยกระดับ 3 เรื่อง
- วัคซีน เพิ่มครอบคลุมในกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะเด็กเล็ก-วัยเรียน-ผู้สูงอายุ-ผู้มีโรคเรื้อรัง และแรงงานท่องเที่ยว
- ข้อมูล ปรับมาตรฐานฐานประชากรในการคำนวณอัตราป่วย ให้หน่วยงานและสาธารณชนใช้ตัวเลขชุดเดียวกัน
- ความร่วมมือ ร้อยเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน-ชุมชน ให้สื่อสารความเสี่ยงไปในทิศทางเดียว นำไปสู่การตัดสินใจที่รวดเร็วและมีวินัยร่วมกัน
เมืองท่องเที่ยวคุณภาพ เริ่มจากคนเมืองที่สุขภาพดี
การฉีดวัคซีน 5,000 โดสและคัดกรองมะเร็งปากมดลูกฟรี คือก้าวแรกในฤดูกาลนี้ แต่สาระสำคัญยิ่งกว่าคือ “วิธีคิด” ที่วางสุขภาพไว้เคียงข้างเศรษฐกิจ เทศบาลนครเชียงรายแสดงบทบาทเจ้าบ้านที่ดีด้วยมาตรการเชิงระบบ เชื่อมโรงเรียน โรงพยาบาล ตลาดท่องเที่ยว และด่านพรมแดนเข้าด้วยกัน เมื่อคนเมืองแข็งแรง นักท่องเที่ยวมั่นใจ และธุรกิจบริการเดินได้ต่อเนื่อง ภาพ “เชียงราย เมืองสุขภาพดี เมืองท่องเที่ยวคุณภาพ” ก็ไม่ใช่สโลแกน หากเป็นความจริงที่สัมผัสได้
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย (สสจ.เชียงราย)
- กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
- ศูนย์เฝ้าระวังทางระบาดวิทยา เขตสุขภาพที่ 1
- โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
- คู่มือสื่อสารความเสี่ยงไข้หวัดใหญ่ กรมควบคุมโรค
- สำนักทะเบียนกลาง/สถิติทางการจังหวัดเชียงราย
- เทศบาลนครเชียงราย
- ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 1/1 เชียงราย
- คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย
- สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองเชียงราย



























