Categories
CULTURE

เสริมสิริมงคลทั่วไทย-ทั่วโลก สมเด็จพระสังฆราชประทานไฟพระฤกษ์ สวดมนต์ข้ามปี

 

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 เวลา 13.00 น. ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระบัญชาโปรดให้ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ ประทานไฟพระฤกษ์ให้แก่กระทรวงวัฒนธรรม โดยมี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นผู้เข้ารับการประทานไฟพระฤกษ์ให้กระทรวงวัฒนธรรมและถวายเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ สำหรับจุดในพิธีสวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทย ต้อนรับศักราชใหม่ 2567

 

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม ได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานไฟพระฤกษ์ให้แก่กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อจุดเทียนมงคลในพิธีสวดมนต์ข้ามปีในส่วนกลาง ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดอรุณราชวราราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และประทานกล่องไม้ขีดไฟประทับตราสมเด็จพระสังฆราช (ออป.) 

 

เพื่อมอบให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ นำไปประกอบพิธีจุดเทียนมงคลในกิจกรรมดังกล่าว สร้างขวัญกำลังใจแก่พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมในพิธี และเป็นสิริมงคลในการเข้าสู่ศักราชใหม่ โดยกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทย ต้อนรับศักราชใหม่ 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติธรรม สวดมนต์ต้อนรับปีใหม่และขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว 

 

ได้เริ่มต้นปีด้วยความเป็นสิริมงคลในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยการทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ในช่วงเทศกาลวันปีใหม่ อันมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เพราะถือเป็นกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้มาเที่ยวในประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย รวมทั้งกิจกรรมดังกล่าว ได้จัดขึ้นในจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศอาเซียน 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย  ตราด  ตาก  นครพนม นราธิวาส บึงกาฬ ยะลา  ระนอง  เลย  ศรีสะเกษ  สงขลา  สตูล สุรินทร์  หนองคาย  อุบลราชธานี  มุกดาหาร  และจังหวัดแม่ฮ่องสอน  ซึ่งจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างประเทศที่มีวัฒนธรรมร่วมกัน 

 

อีกทั้ง กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีฯ ยังเป็นการส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย Soft Power สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล Thailand Creative Content Agency (THACCA) ด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมในมิติศาสนา สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการและแรงงานในท้องถิ่น โดยส่งเสริมให้ประชาชนสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยดอกไม้ธูปเทียน และจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกจากร้านค้าชุมชนโดยรอบวัด ตลอดจนการเดินทางไปสวดมนต์ตามสถานที่จัดกิจกรรมทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมรายได้ให้กับผู้ประกอบการในการขายสินค้าและบริการต่าง ๆ ก่อให้เกิดรายได้ของประเทศในภาพรวมในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พุทธศักราช 2567

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในปีนี้จะเป็นกิจกรรมสำคัญที่ประชาชนจะได้ร่วมก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคล ลดความเสี่ยงจากอบายมุขและอุบัติเหตุในเทศกาลปีใหม่ ถือเป็นการทำบุญใหญ่ให้กับชีวิตทั้งทางกาย ทางจิตและทางปัญญา ส่งท้ายปีเก่าด้วยธรรมะ ต้อนรับปีใหม่ด้วยศีล เริ่มต้นชีวิตด้วยสิ่งที่เป็นสิริมงคลอันจะส่งผลให้ได้พบสิ่งที่เป็นมงคลตลอดทั้งปี รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยที่เป็นเมืองพระพุทธศาสนาและมีประเพณีวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่ควรค่าแก่การสืบทอดอย่างต่อเนื่องให้เกิดความเข้มแข็งอย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบไป

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงวัฒนธรรม

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
SOCIETY & POLITICS

‘เชียงราย’ ทำบุญตักบาตรถวายพระกุศล ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระสังฆราช

 

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2566 เวลา 07.30 น. ที่ บริเวณสวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมืองเชียงราย นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระกุศล ฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาน สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก 26 มิถุนายน 2566 โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธี ในการนี้ พระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย ประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระสงฆ์ สามเณร รวม 97 รูป ออกรับบิณฑบาตร

 

ทั้งนี้ หน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในจังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระรูปสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก พร้อมประดับตกแต่งสถานที่ประดับตราสัญลักษณ์ ธงตราสัญลักษณ์และประดับผ้าระบายสีเหลืองร่วมกับผ้าระบายสีขาว บริเวณอาคารสำนักงาน ระหว่างวันที่ 15-30 มิถุนายน 2566 อีกทั้งเชิญชวนบริษัท ห้างร้าน และประชาชนในจังหวัดประดับพระรูป บริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานและที่พักอาศัย ตั้งแต่วันที่ 15-30 มิถุนายน 2566 รวมทั้งประดับไฟบริเวณอาคารสำนักงานและที่พักอาศัยให้สวยงามในระยะเวลาตามความเหมาะสม
 
 
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระนามเดิม อัมพร ประสัตถพงศ์ ฉายา อมฺพโร ทรงเป็นบุตรคนโตในจำนวน บุตรธิดา 9 คน ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2470 ที่บ้านตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี และเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560 มีพระบรมราชโองการ โปรดสถาปนาให้สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรรมการมหาเถรสมาคม แม่กองงานพระธรรมทูต นายกสภามหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัยฯลฯ ดำรงตำแหน่งสกลมหาสังฆปริณายกพระองค์แรกในรัชกาลปัจจุบัน เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News