Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ศปช. ย้ำข่าวน้ำท่วมแม่สายซ้ำไม่จริง เตือนเฝ้าระวังฝนใต้

ศปช.ย้ำข่าวลือ “ฝนหนักต้นน้ำแม่สายอาจท่วมซ้ำ” ไม่จริง ยืนยันสภาพอากาศแห้งแล้ว

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปช.) ย้ำว่า ข่าวลือเรื่องฝนหนักต้นน้ำแม่สายจะทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำในพื้นที่นั้นไม่เป็นความจริง แม้ว่าจะมีฝนตกบ้างตามสภาพอากาศที่แปรปรวน แต่เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาวและปริมาณน้ำในลำน้ำต่าง ๆ อยู่ในระดับต่ำ จึงไม่ส่งผลกระทบหนัก นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนอากาศแปรปรวนในประเทศไทยตอนบนไปจนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยในภาคเหนืออาจมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส พร้อมเตือนประชาชนในพื้นที่ดูแลสุขภาพและระวังอัคคีภัยที่อาจเกิดจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง

ข่าวลือฝนตกหนักที่แม่สาย ยืนยันไม่มีผลกระทบน้ำท่วมซ้ำ

ข่าวลือที่ว่าลมฝ่ายตะวันตกจะทำให้เกิดฝนตกหนักในต้นน้ำของอำเภอแม่สาย และอาจทำให้เกิดน้ำท่วมซ้ำรอยนั้น กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า แม้ในช่วงนี้จะยังคงได้รับอิทธิพลจากลมตะวันตกอยู่บ้าง แต่มีลมตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามาปกคลุม ซึ่งไม่ก่อให้เกิดฝนหนักถึงขั้นน้ำท่วม การทดสอบแบบจำลองสภาพอากาศพบว่าโอกาสที่จะเกิดฝนตกหนักนั้นน้อยมากและไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในลุ่มน้ำต้นน้ำแม่สาย

ฝนตกหนักในภาคใต้ เฝ้าระวังดินถล่มและน้ำป่าใน 13 จังหวัด

ขณะที่สถานการณ์ในภาคใต้ยังคงต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักในหลายพื้นที่ เช่น จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และอื่น ๆ รวม 13 จังหวัด โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่พร้อมติดตั้งป้ายเตือนประชาชนที่สัญจรในเส้นทางที่มีความเสี่ยง

แผนช่วยเหลือและโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำ ศปช. ระบุว่า การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำหนดโอนเงินเยียวยาผ่านระบบพร้อมเพย์ในวันพุธที่ 6 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะครอบคลุมกว่า 3 หมื่นครัวเรือน รวมเป็นเงินช่วยเหลือที่ได้รับอนุมัติแล้ว 1,695,653,000 บาท

เตรียมรับมือภัยแล้งตั้งแต่เนิ่นๆ รัฐบาลเร่งแผนการจัดการน้ำ

ในด้านการรับมือกับภัยแล้ง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมเพื่อวางแผนการเตรียมพร้อมรับมือฤดูแล้งปี 2567/68 ในจังหวัดนครราชสีมา โดยรัฐบาลได้วาง 8 มาตรการเพื่อเฝ้าระวังและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น อาทิ การสำรวจแหล่งน้ำสำรอง การจัดการน้ำในอ่างลำตะคอง และการสร้างความเข้าใจกับประชาชนในการใช้น้ำอย่างมีคุณค่า

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR
Categories
ECONOMY SOCIETY & POLITICS

น้ำท่วมคลี่คลาย เหลือ 5 จังหวัด พร้อมเตรียมพื้นที่เกษตร

ศปช.รายงานสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย เหลือเพียง 5 จังหวัด

สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงในหลายพื้นที่

ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปช.) เปิดเผยว่าน้ำท่วมในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายลง เหลือเพียง 5 จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมหนักอยู่ในขณะนี้

พื้นที่ที่ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วม

จากข้อมูลล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รายงานว่าสถานการณ์น้ำท่วมจากฝนตกหนักช่วง 16 สิงหาคม – 17 ตุลาคม 2567 ยังคงมีน้ำท่วมในจังหวัดลำพูน พิษณุโลก สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรและลุ่มน้ำสำคัญ

การระบายน้ำทุ่งบางระกำเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตร

ศปช. ยืนยันว่า การระบายน้ำในทุ่งบางระกำกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพื้นที่เกษตรให้พร้อมสำหรับการเพาะปลูกในฤดูถัดไป กรมชลประทานได้ดำเนินการหน่วงน้ำไว้ในทุ่งบางระกำถึง 400 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยพื้นที่รองรับน้ำถึง 265,000 ไร่ และปัจจุบันยังเหลือพื้นที่รับน้ำอยู่ที่ 163,073 ไร่ หรือร้อยละ 61 ของพื้นที่ทั้งหมด

การกำจัดขยะในจังหวัดเชียงราย

การกำจัดขยะในพื้นที่เชียงรายมีความคืบหน้า โดยในอำเภอเมือง ขยะที่ตกค้างจากน้ำท่วมประมาณ 70,000 ตัน ได้รับการเก็บขนดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ในอำเภอแม่สาย ขยะตกค้าง 6,000 ตัน ก็ได้ถูกเก็บขนเรียบร้อยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีขยะที่ฝังโคลนอยู่ในชุมชนเหมืองแดง ถ้ำผาจม และหมู่บ้านปิยะพร ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการฟื้นฟู และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 21 ตุลาคมนี้

การเข้ามาช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศปช.ส่วนหน้า กล่าวว่าการบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยาทำได้ดีในปีนี้ โดยเฉพาะการหน่วงน้ำในทุ่งบางระกำที่ช่วยลดผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจสำคัญ

นอกจากนี้ นายจิรายุ ยังกล่าวถึงการติดตามและเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มจากฝนที่ตกหนักในช่วงวันที่ 17-18 ตุลาคม 2567 โดยกรมทรัพยากรธรณีได้ออกประกาศแจ้งเตือน 6 จังหวัด ได้แก่ ตราด จันทบุรี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ และน่าน พร้อมทั้งเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันทีเมื่อเกิดสถานการณ์

การฟื้นฟูพื้นที่และการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ

ศปช.ส่วนหน้าได้ลงพื้นที่ติดต่อกับประชาชนในบ้านสามกุลา บ้านแม่ปูนหลวง และบ้านหินลาดในอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวังกาญจนบุรี เพื่อประเมินความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก นายจิรายุกล่าวว่ามีความคืบหน้าการฟื้นฟูพื้นที่อย่างมาก โดยบ้านเรือนหลายหลังได้รับการซ่อมแซมจนเสร็จสิ้นแล้ว

ในอำเภอแม่สาย ศปช. ติดตามความคืบหน้าการฟื้นฟูโรงเรียนชุมชนบ้านไม้ลุงขนมิตรภาพที่ 169 ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันฟื้นฟู โดยจะมีการทำความสะอาดครั้งใหญ่ในวันที่ 21-22 ตุลาคม เพื่อส่งมอบพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ต่อไป

กำลังใจและการสนับสนุนจากศปช.

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ กล่าวว่า “ต้องขอบคุณพี่น้องชาวเกษตรกรในลุ่มบางระกำและทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการบริหารจัดการน้ำ ทำให้ปีนี้สามารถลดผลกระทบจากน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ศปช. ยังคงมุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างปลอดภัยและกลับมามีชีวิตที่ปกติโดยเร็ว

การเตรียมพร้อมสำหรับฤดูหน้า

ในช่วงที่น้ำกำลังลดลง ศปช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการเตรียมพื้นที่สำหรับฤดูเก็บเกี่ยวในปีหน้า เพื่อให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้อย่างต่อเนื่อง และลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติในอนาคต

การร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การฟื้นฟูและการจัดการน้ำท่วมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นายจิรายุจึงขอเรียกร้องให้ประชาชนร่วมมือกันรักษาความสะอาดและช่วยกันฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำท่วม เพื่อสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต

สรุปสถานการณ์และความคืบหน้า

ศปช. รายงานว่าน้ำท่วมในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายลง เหลือเพียง 5 จังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมหนัก ศปช. ยังคงเฝ้าติดตามและให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมามีชีวิตที่ปกติได้ในเร็ววัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดเชียงราย จัดการปัญหาหลังน้ำลด เร่งแผนฟื้นฟูครบทุกด้าน

 

วันที่ 28 กันยายน 2567 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม 2567 (ส่วนหน้า) จังหวัดเชียงราย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์และวางแผนฟื้นฟู พร้อมมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีนายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ และนางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมประชุมพร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย รับผิดชอบการบริหารจัดการเครื่องจักรกลและกำลังพลในศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมประสานงานหน่วยงานอื่นๆ ที่เข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่ โดยให้แบ่งพื้นที่และมอบภารกิจให้ชัดเจน เพื่อให้การฟื้นฟูและช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

แผนงานและมาตรการสำคัญที่ได้รับมอบหมาย:

  1. ด้านการประชาสัมพันธ์
    สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดได้รับมอบหมายให้สื่อสารผ่านทุกช่องทาง ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ สื่อออนไลน์ และสื่อท้องถิ่น เพื่อให้ข้อมูลถึงประชาชนในทุกกลุ่มทุกพื้นที่ และประชาชนสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว โดยประชาสัมพันธ์ช่องทางการติดต่อสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 (โทรฟรี) และศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ ที่หมายเลข 093-1311784 เพื่อขอรับความช่วยเหลือและข้อมูลเพิ่มเติมได้ตลอด 24 ชั่วโมง

  2. ด้านการจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม
    สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย ร่วมกับอำเภอเมืองเชียงราย เทศบาลนครเชียงราย และอำเภอแม่สาย จัดหาพื้นที่รองรับขยะมูลฝอยชั่วคราว เพื่อรองรับปริมาณขยะหลังน้ำลด โดยต้องคำนึงถึงความเสี่ยงด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม พร้อมควบคุมการจัดการขยะอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคในชุมชน

  3. ด้านการคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน
    กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้แขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1, 2 และแขวงทางหลวงชนบท รวมถึงสำนักงานเจ้าท่าส่วนภูมิภาคสาขาเชียงราย เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง ตลิ่งและคันกั้นน้ำ เพื่อจัดทำเอกสารขอรับการสนับสนุนงบประมาณ และดำเนินการซ่อมแซมเส้นทางที่ได้รับผลกระทบให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด

  4. ด้านการสาธารณสุข
    สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายได้รับมอบหมายให้ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเน้นการดูแลกลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงเป็นพิเศษ พร้อมออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เยียวยาจิตใจและสนับสนุนการปรับปรุงสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมภายในพื้นที่

  5. ด้านการระบายน้ำและการจัดการท่อระบายน้ำ
    เน้นการวางแผนแก้ไขปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน รวมถึงการกำจัดเศษขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และดินโคลนในท่อระบายน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ และป้องกันปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซ้อนในอนาคต โดยจัดตั้งทีมปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่ทุกจุดเพื่อเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน

  6. ความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอก
    ศูนย์บัญชาการฯ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอก อาทิ กรุงเทพมหานคร ส่งรถดูดโคลน จำนวน 4 คัน และบริษัท บีเอ็มเจ็ตเซอร์วิส จ.ระยอง เข้าร่วมดำเนินการในชุมชนป่าแดงและชุมชนเกาะทอง โดยการดำเนินงานจะเน้นการดูดตะกอนและสิ่งสกปรกในท่อระบายน้ำ เพื่อป้องกันการอุดตัน และเสริมสร้างสุขอนามัยในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

การประสานงานและการให้ความช่วยเหลือ
นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ย้ำถึงความสำคัญในการประสานงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการประสานเครื่องจักรกลและเครื่องมือจากหน่วยงานในพื้นที่และนอกพื้นที่เข้ามาร่วมช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกด้าน ไม่เพียงแค่โครงสร้างพื้นฐาน แต่รวมถึงสุขภาพและสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบ

มาตรการเร่งด่วนจากศูนย์บัญชาการฯ
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดเชียงรายได้กำหนดมาตรการเร่งด่วนตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การฟื้นฟูและการช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วที่สุด รวมถึงการจัดทำแผนระยะยาวในการเตรียมรับมือภัยพิบัติในอนาคต เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำซ้อน

สรุปเนื้อหา:
การประชุมติดตามสถานการณ์และฟื้นฟูหลังน้ำลดในจังหวัดเชียงราย โดยมีรองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในด้านประชาสัมพันธ์ การจัดการขยะ การคมนาคม การสาธารณสุข และการระบายน้ำ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News